Categories
TOP STORIES

นิด้าเผย โพลส่วนใหญ่ยังหนุน”พิธา” เป็นนายกฯ ส่วนคะแนนพรรค ‘ก้าวไกล’ ความนิยมนำโด่ง

 
 
24 ธันวาคม 2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาสปี 2566” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13-18 ธันวาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

 

                   จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 39.40 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ มีความเป็นผู้นำ เป็นคนรุ่นใหม่ วิสัยทัศน์ดี บุคลิกดี และเข้าถึงประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 22.35 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) เพราะ มีความรู้ความสามารถ ตรงไปตรงมา และชื่นชอบพรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 18.60 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 5.75 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบพรรคและนโยบายพรรคเพื่อไทย และชื่นชอบผลงานในอดีตของตระกูลชินวัตร อันดับ 5 ร้อยละ 2.40 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะ มีความรู้ความสามารถ มีความน่าเชื่อถือ ตรงไปตรงมา และมีความซื่อสัตย์สุจริต อันดับ 6 ร้อยละ 1.70 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ตรงไปตรงมา และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา อันดับ 7 ร้อยละ 1.65 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ มีประสบการณ์ด้านการบริหารประเทศ และต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ ร้อยละ 3.90 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นายชัยธวัช ตุลาธน (พรรคก้าวไกล) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนากล้า) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) นายเฉลิม อยู่บำรุง (พรรคเพื่อไทย) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) และ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ และร้อยละ 4.25 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

                  ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 44.05 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 2 ร้อยละ 24.05 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 16.10 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 3.60 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 5 ร้อยละ 3.20 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 6 ร้อยละ 1.75 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 7 ร้อยละ 1.45 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 1.85 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคไทยสร้างไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรคเสรีรวมไทย และร้อยละ 3.95 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

 

                 เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.60 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.55 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.95 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.45 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.75 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.70 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก ตัวอย่าง ร้อยละ 48.10 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.90 เป็นเพศหญิง

 

                 ตัวอย่าง ร้อยละ 12.90 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.80 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.95 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.65 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 23.70 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 96.10 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 3.20 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.70 นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอื่น ๆ

 

                 ตัวอย่าง ร้อยละ 33.25 สถานภาพโสด ร้อยละ 64.80 สมรส และร้อยละ 1.95 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 25.15 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.25 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 8.45 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 25.05 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 5.10 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

 

                ตัวอย่าง ร้อยละ 9.10 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 16.55 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 21.45 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.85 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 15.85 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.55 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 4.65 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

 

                ตัวอย่าง ร้อยละ 21.40 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 21.05 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 29.40 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 9.95 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 4.65 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 4.85 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.70 ไม่ระบุรายได้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
SOCIETY & POLITICS

นายกฯ ตามติดสถานการณ์น้ำ ห่วงน้ำท่วม ลำปาง แพร่ และอุบลฯ

 

  เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 เวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมศูนย์ปฎิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ถนนสามเสน กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสภาพอากาศ จากว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาและรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำ

ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ กล่าวรายงานสรุปสภาพอากาศว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพุดผ่านส่งผลให้ให้ภาคเหนือ และภาคอีสานได้รับผลกระทบจากน้ำฝน มีน้ำท่วมขัง และดินสไลด์บางพื้นที่ หลังจากนี ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมจนถึงวันที่ 7 ตุลาคม
 
น้ำฝนจะลดน้อยลง มวลอากาศเย็นเข้ามาแทนที่ และฝนกลับมาตกจำนวนมากอีกครั้ง ตั้งแต่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไป สำหรับข้อกังวลเรื่องพายุโคอินุ ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ
 
 
ทางด้านนายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวบรรยายสรุปสถานการณ์น้ําว่า ภาพรวมจากปริมาณฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2566 เป็นต้นมา ทําให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณ น้ําล้นตลิ่งและน้ําท่วมขังในพื้นที่ เช่น ลุ่มน้ําวัง มีพื้นที่ น้ําท่วมเนื่องจากปริมาณน้ําในแม่น้ําวังล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบกับจังหวัดลําปาง และจังหวัดตากบางส่วน ลุ่มน้ํา ยม-น่าน
 
 
จากปริมาณฝนที่ตกในเขตจังหวัดแพร่ ทําให้ปริมาณน้ําในแม่น้ํายมเพิ่มสูงขึ้น เริ่มมีผลกระทบกับ จังหวัดสุโขทัยบางส่วน ลุ่มน้ําเจ้าพระยา ปริมาณน้ําที่จังหวัดนครสวรรค์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ําในแม่น้ําปิงและแม่น้ําน่านยังคงสูงขึ้น ทําให้ต้องมีการบริหารจัดการน้ําและจัด จราจรน้ําในพื้นที่ลุ่มน้ําเจ้าพระยาตอนล่าง
 
 
โดยควบคุมปริมาณน้ําไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้มีผลกระทบ ต่อพื้นที่ท้ายน้ําน้อยที่สุด ในส่วนลุ่มน้ําชี-มูล พื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ําชีปริมาณน้ําเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่แม่น้ําชีตอนล่างยังคงมีน้ําล้นตลิ่งบริเวณจังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และจังหวัดยโสธร แต่มีแนวโน้ม ลดลง และในส่วนของลุ่มน้ํามูล มีน้ําท่วมบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากปริมาณน้ําล้นตลิ่งบริเวณสถานี M.7 อําเภอวารินชําราบ โดยปริมาณน้ําดังกล่าวจะไหลลงสู่แม่น้ําโขง ซึ่งปัจจุบันสามารถระบายน้ําได้อย่างต่อเนื่อง
 
 
ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ กล่าวรายงานสรุปสภาพอากาศว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพุดผ่านส่งผลให้ให้ภาคเหนือ และภาคอีสานได้รับผลกระทบจากน้ำฝน มีน้ำท่วมขัง และดินสไลด์บางพื้นที่ หลังจากนี ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมจนถึงวันที่ 7 ตุลาคมน้ำฝนจะลดน้อยลง มวลอากาศเย็นเข้ามาแทนที่ และฝนกลับมาตกจำนวนมากอีกครั้ง ตั้งแต่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไป สำหรับข้อกังวลเรื่องพายุโคอินุ ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ
 
 
ภายหลังรับฟังบรรยายสรุป นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ จากทุกหน่วยงาน ที่ ร่วมกันทำงานอย่างหนัก ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อติดตามสถานการณ์และดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
 
 
อย่างเต็มที่ ตนเองได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาตลอด และเป็นห่วงพี่น้องประชาชน วันนี้ต้องมาดูด้วยตัวเองที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำแห่งนี้ ทั้งเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำแบบ Real-time รับฟังข้อติดขัดในการปฏิบัติงาน เพื่อช่วยให้ท่านได้ทำงานอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพที่สุด ที่สำคัญก็อยากมาให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุมร่วมกันผ่านระบU Video conference เพื่อไม่เป็นการรบกวนหน้างานของท่านที่ทำงานหนักอยู่ในพื้นที่ โดยวันนี้มีสำนักงานชลประทานทั่วประเทศ กรมอุตุฯ และ ปภ. มาร่วมกันประเมินสถานการณ์น้ำและร่วมกันแก้ปัญหา เพื่อให้การทำงานคล่องตัวที่สุด ซึ่งเบื้องต้น จากที่ได้รับฟังรายงาน เป็นห่วงสถานการณ์ในจังหวัดลำปาง แพร่ และอุบลฯ ที่ถึงแม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงบ้าง แต่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องดูแล ฟื้นฟูและซ่อมแชมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนอย่างเรงด่วน โดยเฉพาะ ณ ขณะนี้จังหวัดสุโขทัย น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะต้องรองรับมวลน้ำที่ไหลลงมาจากจังหวัดแพร่ ซึ่งไหลเข้าท่วมทั้งในพื้นที่เกษตรกรรมและตัวเมืองบางส่วนแล้ว
 
 
นายกรัฐมนตรีย้ำ เรื่องสำคัญที่ต้องหารือ คือการวางแผนรับมือกับมวลน้ำที่จะเข้ามาอีกระลอก ซึ่งจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปกว่าเดิม การประชุมวันนี้ขอให้ทุกท่านให้ความเห็นอย่างเต็มที่ ติดขัดอะไร
ขอให้พูดกันตรง ๆ เพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุดและทันสถานการณ์
 
นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5 ด้าน ประกอบด้วย 
 
1. สถานการณ์น้ำ ให้กรมชลประทานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดจราจรน้ำในลุ่มน้ำชี-มูล ลุ่มน้ำยม-น่าน และลุ่มน้ำเจ้าพระยา
2. ให้หน่วยงาน ได้แก่ จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ กรมชลประทาน ตรวจสอบความมั่นคงของพนังกั้นน้ำ สะพาน และอาคารชลประทาน ให้มีความมั่นคง และพร้อมใช้งานตลอด
ช่วงฤดูน้ำหลาก
3. การช่วยเหลือ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเช่น เร่งซ่อมแชมที่ อยู่อาศัย กำจัดขยะที่ มากับน้ำ และตามที่ประชาชนร้องขอ
โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการระดมสรรพกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพ
หน่วยงานท้องถิ่น
4. พยากรณ์อากาศ ให้กรมอุตุวิทยาติดตามสภาพอากาศ และแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแจ้งเตือนสภาพอากาศกับประชาชน เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด
5. และการแจ้งเตือน ให้กรมชลประทานร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในพื้นที่ให้ทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS VIDEO

“นายกเศรษฐา” เผยกระตุ้นเศรษฐกิจเชียงใหม่ เตรียมเพิ่มจำนวนประเทศที่ยกเว้นวีซ่า

 

วันนี้ (16 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ฯ และกลุ่มสตรีอำเภอดอยสะเก็ด ให้การต้อนรับ มอบดอกไม้และพวงมาลัย อย่างอบอุ่น

โดยนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของศูนย์ ด้านการแก้ไขปัญหาที่ดิน และการพัฒนาการปลูกพืชตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร จากนั้นได้นั่งรถรางเพื่อเยี่ยมชมพื้นที่และเส้นทางธรรมชาติของศูนย์ รวมถึงได้ร่วมกันปลูกต้นยางนา ปล่อยไก่ป่า เพื่อประโยชน์ทางนิเวศด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เปิดเผยว่า การบริหารจัดการน้ำของภาคเหนือ ยังคงน่าเป็นห่วงแต่เชื่อว่าจะมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค-บริโภค ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่นั้น หลังจากการประกาศยกเว้นวีซาให้กับนักท่องเที่ยวจีน พบว่ามีการบุ๊กกิ้งการเดินทางเพิ่มมากขึ้น และยังมีแผนเพิ่มจำนวนประเทศอื่นๆ ที่ยกเว้นวีซ่าเพิ่มเติมอีกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับไปยังตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้กวดขันด้านความปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกัน ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ทางรัฐบาลได้มีแผนจะเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเรื่องการเผาป่าเพื่อแก้ปัญหาแล้ว คาดว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติม ถึงการปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแต่ยืนยันว่าจะหาแนวทางการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

นายกฯ ลงพื้นที่เขื่อนแม่กวง อ.ดอยสะเก็ด ดันโครงการก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำ

 

วันนี้ (16 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี เดินทางไปรับฟังการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมติดตามลงพื้นที่ และมีพี่น้องชาวอำเภอดอยสะเก็ด รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

โดยอธิบดีกรมชลประทาน ได้รายงานข้อมูลถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ว่าแม้ช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูฝน แต่ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเหนือเขื่อนยังปริมาณมีน้อย และไม่เพียงพอที่จะไหลเข้าสู่แหล่งกักเก็บน้ำในเขื่อน โดยขณะนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อน 149 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุเขื่อน ขณะที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีความจุ 231 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 87 ของความจุเขื่อน

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำ แม่งัด-แม่กวง ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 78 คาดว่าจะแล้วเสร็จ ในปี 2570 สามารถผันน้ำมาเต็มได้ 160 ล้านลูกบาศ์กเมตร และสามารถบริหารจัดการน้ำให้เกษตรกรทำนาปรังและส่งน้ำไปยังนิคมอุตสาหกรรมได้ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน พร้อมรับจะผลักดันโครงการให้สำเร็จตามแผนที่กำหนดไว้ อีกทั้งได้กล่าวว่าจะมีการปล่อยพันธุ์ปลาที่เขื่อนแม่กวงเพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำและรักษาระบบนิเวศ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปพบกับสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนชาวอำเภอดอยสะเก็ดและอำเภอใกล้เคียงที่เข้ามาให้การต้อนรับ เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ ต่อไป

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
VIDEO

เศรษฐา vs. รังสิมันต์’ โตๆ กันแล้ว อย่าด้อยค่ากัน

 

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 เป็นวันที่สอง 

นายเศรษฐา ลุกขึ้นชี้แจงว่า ฟังมาแล้ว 2 วันเต็ม  ฟังแล้วก็หดหู่ใจ แต่ต้องยอมรับ เพราะเป็นการด้อยค่าภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองด้วยกันเอง ทั้งที่เขายังไม่ได้เข้าบริหารราชการ ไม่ว่าจะเป็นทหารอันทรงเกียรติ ยืนยันว่าทุกสถาบัน ทุกหน่วยงานรัฐมีทั้งคนดีและไม่ดี

การที่เราเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการที่เราจะเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาที่สะสมหมักหมมกันมายาวนาน เป็นปัญหาใหญ่ เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน เป็นเรื่องของช่องว่างระหว่างกัน ซึ่งประเด็นที่ท่านยกมาอภิปรายเป็นเรื่องทหารและประชาชน ยืนยันว่าเป็นรัฐบาลของประชาชนภายใต้การนำของตน ตนใช้คำว่าพัฒนาก่อน เชื่อว่าความหมายใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์ออกมาอาจจะแตกต่างกันบ้างตามกาลที่เปลี่ยนไป ตามขีดจำกัด ตามผลลัพธ์ที่อยากเห็น สังคมเดินไปข้างหน้าได้ ลดความขัดแย้ง การใช้วาทกรรมที่มีการด้อยค่ากันในสภาอันทรงเกียรตินี้

“เมื่อสักครู่ฟังไปเห็นใบหน้ายิ้มแย้ม หัวเราะเยาะกันไปกับตัวอย่าง หลายอย่างอาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นตัวอย่างที่จริงบ้าง หรือต้องการการพิสูจน์ เข้าใจครับ แต่วิธีการนำเสนอ คำพูดต่างๆ แทนที่จะทำให้บรรยากาศในการทำงานร่วมกันในการเจรจา ในการพัฒนาสถาบันทหารควบคู่ไปกับการมีชีวิตที่ดีขึ้นกับพี่น้องประชาชนจะลำบากขึ้น ผมในฐานะผู้นำรัฐบาลมีความเป็นห่วงจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นการบังคับกันไม่ได้เรื่องการใช้วาทกรรมด้อยค่ากัน

“ขอเวลาหน่อยครับ วันนี้เพิ่งเข้ามาทำงาน ไม่อยากได้ยินการด้อยค่าของกันและกัน เตือนกันนิดนึง โตๆ กันแล้ว เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เข้าใจครับ ตระหนักดีครับ” นายเศรษฐากล่าว

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประท้วงว่านายกรัฐมนตรีใช้ข้อความเสียดสี ด้วยความเคารพ หากเราโตๆ กันแล้วท่านเป็นนายกรัฐมนตรีกรุณาอย่าใช้ข้อความเสียดสีกันเลย เราอภิปรายด้วยเหตุผล ฉะนั้น หากท่านรู้สึกว่าพวกเราเสียดสีท่าน สิ่งที่ท่านต้องทำสิ่งแรกคืออย่าเสียดสีกลับ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES

ผบ.ตร.​ พบ​ “เศรษฐา” รายงานเหตุ “ผกก.ทางหลวง”​ ยิงตัวเองดับคาบ้านพัก

 

11 กันยายน 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์​ กิตติประภัสร์​ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังการเข้ารายงานต่อนายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายก​รัฐมนตรี​ ความคืบหน้าคดีพ.ต.ต.ศิวกร​ สายบัว​ สว.กก. 2 บก.ทล ถูกยิงเสียชีวิตภายในงานเลี้ยงกำนันนก​ รวมถึงกรณีพ.ต.อ.วชิรา​ ยาวไทยสงค์​ ผู้กำกับ 2 บก.ทล. 1 ใน 25 นายตำรวจที่อยู่ภายในงานเลี้ยงยิงตัวตายภายในบ้านพักเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาว่า​ นายกรัฐมนตรี เรียกเข้ามาให้รายงานความคืบหน้าในคดีที่พ.ต.อ.วชิรา ปลิดชีพ​ตัวเองที่บ้าน

โดยกำชับให้ดูคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาในทุกมิติ เช่นเดียวกับคดียิงตำรวจทางหลวง ซึ่งขณะนี้กองบังคับการปราบปรามกำลังดำเนินการอยู่ โดยได้มีการสอบสวนตำรวจทั้ง 25 นายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และออกหมายจับไปแล้ว 6 นาย โดยเป็นตำรวจในพื้นที่ 2 นายและเป็นตำรวจทางหลวงอีก 4 นาย รวมถึงมีคำสั่งให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับชั้น ออกจากราชการไว้ก่อน โดยได้มีการรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังคงเน้นย้ำให้ทำคดีทั้งสองเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาในทุกมิติ และให้ความเป็นธรรมใครผิดก็ว่าไปตามผิดใครถูกก็ว่าไปตามถูก

เมื่อถามถึงกรณีที่พ.ต.อ.วชิรา ปลิดชีพตัวเองหรือ​เป็นฆ่าการตัดตอนหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์​ ระบุว่า​ ประเด็นดังกล่าวขอเวลาตรวจสอบก่อน โดยขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุแล้ว​ จะมีการจัดเก็บพยานหลักฐานใดที่เกิดเหตุทั้งหมด และเชื่อว่าอีกไม่นานความจริงจะกระจ่าง​ ส่วนข้อมูลแวดล้อมเพียงพอหรือไม่ ขณะนี้อย่าเพิ่งด่วนสรุป​ เพราะขอให้ตรวจสอบ จากพยานแวดล้อม​ และนิติวิทยาศาสตร์​ รวมไปถึงเรื่องอาวุธปืนให้มีความชัดเจนก่อน​

เมื่อถามถึงพ.ต.อ.วชิรา ปลิวชีพตัวเองเกิดจากสาเหตุที่พา พ.ต.ต.ศิวกร ไปยังเกิดเหตุจนเสียชีวิตใช่หรือไม่​ ผบ.ตร.​ ระบุว่า​ ขณะนี้ยังไม่อยากฟันธง ขอให้ทุกอย่าง เกิดความชัดเจนจากพนักงานสอบสวน หรือผู้รวบรวมพยานในที่เกิดเหตุก่อน​

ส่วนแนวทางการป้องกันไม่ให้ตำรวจในที่เกิดเหตุอีก 24 รายที่เหลือก่อเหตุการณ์ซ้ำรอย พ.ต.อ.วชิรา ได้อย่างไร​ เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่าอาจเป็นการฆ่าตัดตอน​ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์​ กล่าวว่า​ ขออย่าเพิ่งไปด่วนสรุปว่าเป็นการฆ่าตัดตอนหรือค่าตัวตายขอเวลาพิสูจน์อีกนิด

ส่วนกังวลหรือไม่อาจมีความสูญเสียมากกว่านี้ เนื่องจากมีการเชื่อมโยงไปยังนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์​ กล่าวว่า​ เรื่องนี้เป็นความคิดของแต่ละคนตนยังไม่อยากพูด และยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น แต่ขอดูในวันนี้ก่อนว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไร อาทิ​ เครียดจนฆ่าตัวตายหรือฆ่าตัดตอน​ แต่ถึงอย่างไรยังไม่ขอฟันธง ขอเวลาตรวจสอบก่อน

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.อ.วชิรา ปลิดชีพตัวเองจะทำให้รูปคดีเสียหรือไม่ ผบ.ตร.​กล่าวว่า​ คงไม่กระทบอะไร​ แต่ขอเวลาตรวจสอบก่อน และเชื่อว่าภายในวันนี้อีกไม่กี่ชั่วโมงจะได้ความชัดเจนมากขึ้น​ ส่วนการคุ้มครองพยานหลักฐานที่เหลือก็จะให้ผู้บังคับบัญชาในแต่ละระดับชั้นไปตรวจสอบว่าเขามีความต้องการหรือมีความเครียดหรือไม่

ส่วนกระแสข่าวก่อนที่พ.ต.อ.วชิรา จะปลิดชีพ ได้มีการเปรยในกลุ่มไลน์นักเรียนร่วมรุ่นนายร้อยตำรวจว่าจะฆ่าตัวตาย​ ผบ. ตร.​ กล่าวว่า​ เรื่องนี้ตนขอไปหาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News