Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ธนาคารที่ดินเชียงราย หนุนเกษตรกร ยกระดับวิสาหกิจชุมชน

ธนาคารที่ดิน” ลงพื้นที่เชียงราย หนุนเกษตรกร ยกระดับวิสาหกิจชุมชน

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 นายศรัณยสันฑ์ วีรกุลสุนทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) นำโดยนายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันฯ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานของ “ธนาคารที่ดิน” และพบปะเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยส่วนราชการในพื้นที่ร่วมต้อนรับ

ตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา

ทีมงานได้เข้าตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีเกษตรกรจำนวน 64 ครัวเรือน บนพื้นที่ทั้งหมด 84 ไร่ ที่นี่ถือเป็นชุมชนต้นแบบในการพัฒนาที่ดินและการดำเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นายศรัณยสันฑ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและยินดีที่ได้เห็นความสำเร็จของโครงการดังกล่าว ซึ่งได้ช่วยเหลือเกษตรกรและขยายโอกาสในการพัฒนาพื้นที่เพื่อความยั่งยืน

โมเดลแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน

นายศรัณยสันฑ์ ระบุว่า การบริหารจัดการที่ดินในรูปแบบการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนที่ธนาคารที่ดินดำเนินการ ถือเป็นโมเดลสำคัญที่สามารถนำไปปรับใช้ในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้มีสิทธิในที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล โดยเน้นการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

ขยายผลและสร้างความยั่งยืน

นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารที่ดินมุ่งมั่นขยายโครงการให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ เพื่อกระจายการถือครองที่ดินอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร และส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่สนับสนุนและผลักดันให้โครงการเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ

การสนับสนุนจากทุกภาคส่วน

การดำเนินงานในพื้นที่เชียงรายได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน รวมถึงการบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน โดยเน้นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์เกษตร ยกระดับสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการตลาด และเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้าถึงทรัพยากรอย่างเท่าเทียม

ฝากถึงทุกหน่วยงาน

นายศรัณยสันฑ์ ทิ้งท้ายว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และขอฝากทุกหน่วยงานช่วยกันสนับสนุนธนาคารที่ดิน เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของการแก้ไขปัญหาและสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในพื้นที่ชนบท.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

Chiangrai Good & Food Security สร้างความมั่นคงอาหารชุมชน

เชียงรายจัดกิจกรรม “Chiangrai Good & Food Security” ต้นแบบความมั่นคงทางอาหารตามแนวพระราชดำริ

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย (พช.เชียงราย) ร่วมกับ แม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย และ แม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรม “Chiangrai Good & Food Security” เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารตามแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ในงานครั้งนี้ นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย ได้นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย 7 หน่วยงานร่วมจัดกิจกรรม โดยเน้นการสร้างต้นแบบที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางอาหารในชุมชน

น้อมนำแนวพระราชดำริสู่การปฏิบัติจริง

กิจกรรมในครั้งนี้ได้แสดงถึงการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า สู่การปฏิบัติจริงผ่านโครงการ “KICK OFF ผู้นำต้องทำก่อน” โดยเริ่มต้นจากการปลูกผักสวนครัว ผักพื้นถิ่น พืชสมุนไพร และไม้ผลอย่างน้อย 30 ชนิด เพื่อต่อยอดเป็นต้นแบบให้ประชาชนในจังหวัดเชียงรายได้เรียนรู้และนำไปใช้ในครัวเรือน

เป้าหมายเพื่อความมั่นคงทางอาหารและการพึ่งพาตนเอง

กิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ และสถานการณ์โรคระบาด ตลอดจนส่งเสริมความรักและความสามัคคีในชุมชน

นอกจากนี้ การดำเนินการยังสอดคล้องกับกรอบแนวคิด “ปรับเปลี่ยนดี ชีวีมีสุข (Change for 5G)” ของกระทรวงมหาดไทย ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2563 โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืน ยุติความหิวโหย และสร้างชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานราชการและประชาชนในจังหวัดเชียงราย โดยมีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการพึ่งพาตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง

เยี่ยมชมโครงการตำรวจพันธุ์ดี และมอบเมล็ดพันธุ์

ภายหลังจากกิจกรรม ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัด คณะผู้จัดงานได้เดินทางไปยัง โครงการตำรวจพันธุ์ดี สนามยิงปืน นปพ. บ้านหัวดอย ตำบลท่าสาย อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อมอบเมล็ดพันธุ์และกล้าผัก พร้อมร่วมปลูกผักสวนครัวในพื้นที่

กิจกรรมดังกล่าวได้รับการนำทีมโดย แพทย์หญิงทรงพร เสนากูล ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ซึ่งแสดงถึงความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

จุดเริ่มต้นของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

กิจกรรม “Chiangrai Good & Food Security” ครั้งนี้เป็นตัวอย่างของการบูรณาการความร่วมมือในระดับจังหวัด โดยไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหาร แต่ยังส่งเสริมความสามัคคีในชุมชน และช่วยให้ประชาชนในเชียงรายเห็นถึงคุณค่าของการพึ่งพาตนเองและการดูแลสิ่งแวดล้อม

ข้อมูลสำคัญของกิจกรรม

  • เป้าหมาย: ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและการพึ่งพาตนเอง
  • พื้นที่ดำเนินการ: จังหวัดเชียงราย
  • แนวทางการปฏิบัติ: การปลูกผักสวนครัว ผักพื้นถิ่น พืชสมุนไพร และไม้ผล

กิจกรรมนี้สะท้อนถึงพระราชดำริในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และสร้างความพร้อมสำหรับอนาคตอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มทบ.37 “ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 จัดกิจกรรม “ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลา 15.30 น. ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน (ศอ.จอส.) มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) จัดกิจกรรม “ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567

โดยมี พล.ต. บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้อำนวยการ ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.ธาราทิพย์ วงษ์บรรณะ ประธานสมาคมแม่บ้าน ทบ. สาขา มทบ.37 นำกำลังพลจิตอาสาพระราชทานจาก มทบ.37, โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช, หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร (นฝ.นศท.) มทบ.37, ผศ.ช.ร., คณะครู และนักเรียนจากโรงเรียนอนุบาลกองทัพบกอุปถัมภ์บริบูรณ์ธนวัฒน์ ร่วมกันดำเนินกิจกรรม ณ ศูนย์การเรียนรู้โครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายเม็งรายมหาราช

น้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

กิจกรรมในครั้งนี้น้อมนำ ศาสตร์พระราชา และหลักการ เกษตรทฤษฎีใหม่ มาใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่การเกษตร โดยจัดทำ แปลงนาสาธิต สำหรับให้ความรู้แก่กำลังพล นักเรียน ส่วนราชการ และประชาชนทั่วไป ภายใต้แนวคิด “เรียนรู้จากผืนนา ในศาสตร์พระราชา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”

ในกิจกรรม “ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” ผู้ร่วมงานได้ร่วมกันปลูกข้าวในแปลงนาสาธิตที่จัดเตรียมไว้ เพื่อสานต่อความตั้งใจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรกรรมและความพอเพียง

สร้างความร่วมมือหลากหลายภาคส่วน

กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน ครูและนักเรียน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ โดยเน้นย้ำความสำคัญของการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาเกษตรกรรม

สืบสานพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9

พล.ต. บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน กล่าวในพิธีว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นการสืบสานพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมุ่งมั่นพัฒนาประเทศบนพื้นฐานของความพอเพียงและการพึ่งพาตนเอง พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังเห็นถึงความสำคัญของการเกษตร

กิจกรรมดังกล่าวยังมุ่งหวังให้ผู้ร่วมงานทุกคนตระหนักถึงคุณค่าของการทำการเกษตรและการพึ่งพาตนเอง และพร้อมที่จะน้อมนำแนวทางที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนและประเทศชาติ

ทั้งนี้ ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 ขอเชิญชวนประชาชนและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ณ ศูนย์การเรียนรู้โครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายเม็งรายมหาราช เพื่อร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและสานต่อพระราชปณิธานในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายมอบโค-กระบือกว่า 1,600 ตัว สร้างอาชีพยั่งยืนให้เกษตรกร

จังหวัดเชียงรายจัดพิธีมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือกว่า 1,600 ตัว มูลค่ากว่า 55 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่ลาว ตำบลป่าก่อดำ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ได้มีการจัดพิธีมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายรุ่งโรจน์ ตันวุฒิ นายอำเภอแม่ลาว เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย กล่าวรายงาน และผู้แทนจากหน่วยงานราชการ หัวหน้าส่วนราชการ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ และประชาชนในพื้นที่ร่วมงานอย่างคับคั่ง

ความสำคัญของโครงการมอบกรรมสิทธิ์โค-กระบือ

พิธีดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ซึ่งริเริ่มโดย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 โดยกรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานหลักที่รับสนองพระราชดำริ โครงการนี้มุ่งช่วยเหลือเกษตรกรให้มีโค-กระบือไว้ใช้แรงงานในไร่นา และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร

สำหรับในปีนี้ จังหวัดเชียงรายได้มอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือจำนวน 1,642 ตัว โดยแบ่งเป็นโคจำนวน 1,173 ตัว และกระบือจำนวน 469 ตัว รวมมูลค่ากว่า 55,217,750 บาท

รายละเอียดและเป้าหมายของโครงการ

การดำเนินงานครั้งนี้มุ่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขโครงการเป็นกรณีพิเศษ ได้แก่ เกษตรกรที่ส่งคืนลูกตัวแรกให้กับโครงการ และอยู่ในสัญญามาไม่น้อยกว่า 3 ปี จำนวน 796 ราย โดยโค-กระบือที่ได้รับมอบกรรมสิทธิ์ในครั้งนี้ จะถูกนำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ เช่น

  • ใช้แรงงานในไร่นา
  • การผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากมูลสัตว์
  • การทำแก๊สชีวภาพ
  • การอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น

ผลสำเร็จและการต่อยอดโครงการ

จากการดำเนินงานที่ผ่านมา โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ได้ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงรายมากกว่า 6,000 ราย โดยปัจจุบันยังมีเกษตรกรในความดูแลของโครงการกว่า 2,000 ราย โครงการนี้ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกร แต่ยังส่งเสริมการใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงควบคู่กับการบูรณาการการทำงานในพื้นที่ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนเกษตรกร

แนวทางการดำเนินงานในอนาคต

กรมปศุสัตว์ยังคงมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับชุมชน ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเพื่อบริหารจัดการโครงการให้มีความยั่งยืน โดยเน้นการใช้ทรัพยากรในพื้นที่อย่างคุ้มค่า พร้อมสนับสนุนกิจกรรมที่เสริมสร้างรายได้ เช่น การขายปุ๋ยจากมูลสัตว์ และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโค-กระบือ

สรุป

การมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อเกษตรกรไทย และสะท้อนถึงความสำคัญของโครงการธนาคารโค-กระบือ ที่ช่วยส่งเสริมการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน และพัฒนาชุมชนให้มีความมั่นคงในทุกมิติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

กองทัพบกหนุนเพาะเลี้ยง ‘ผำ’ พืชโปรตีนสูง ตอบโจทย์เศรษฐกิจพอเพียง

ทหารพันธุ์ดีค่ายสุรศักดิ์มนตรี ผลิต “ผำ” โปรตีนสูง ตอบโจทย์เศรษฐกิจพอเพียง

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 พลตรีวิชาญ ศรีภัทรางกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้เปิดเผยถึงโครงการทหารพันธุ์ดีค่ายสุรศักดิ์มนตรี จังหวัดลำปาง ซึ่งดำเนินการผลิต “ผำ” หรือที่รู้จักในชื่อไข่น้ำ พืชโปรตีนสูง เพื่อเป็นแหล่งอาหารคุณภาพและสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียงในระดับชุมชน โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ และกองทัพภาคที่ 3 โดยมีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเป็นองค์ประธานในการริเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2559

เป้าหมายโครงการเพื่อชุมชนเข้มแข็ง

โครงการทหารพันธุ์ดี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการทหารและทหารกองประจำการที่สนใจด้านการเกษตร ได้เรียนรู้กระบวนการผลิตอาหารที่ปลอดภัย รวมถึงการปลูกผัก การปศุสัตว์ และการประมง นอกจากจะเป็นแหล่งอาหารสำรองในกรณีเกิดภัยพิบัติแล้ว ยังส่งเสริมการผลิตเมล็ดพันธุ์สะสมไว้พระราชทานแก่ราษฎรทั่วไป และช่วยลดปัญหาหนี้สินของกำลังพลในระยะยาว

ในปีนี้ ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ได้เพิ่มความหลากหลายด้วยการเพาะเลี้ยง “ผำ” พืชน้ำโปรตีนสูงที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ซึ่งพบได้ยากในพืชชนิดอื่น “ผำ” มีการเจริญเติบโตเร็วและเพาะเลี้ยงง่ายในระบบปิดด้วยปุ๋ยน้ำไฮโดรโปนิกส์ โครงการนี้ยังส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อเพิ่มความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

“ผำ” พืชโปรตีนสูง เพื่อความยั่งยืน

“ผำ” หรือไข่น้ำ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Wolffia ถูกนำมาใช้เป็นแหล่งโปรตีนทดแทนในอาหารเนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเพาะเลี้ยง “ผำ” ในระบบปิดช่วยให้ได้ผลผลิตที่สะอาดและปลอดภัย นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ เช่น สมูทตี้ผำ ผำอบแห้ง หรือผำในซอสปรุงรส ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด

กองทัพพร้อมช่วยเหลือประชาชน

พลตรีวิชาญ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมในการสนับสนุนประชาชนในทุกด้าน โดยเฉพาะการสร้างแหล่งอาหารและเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วยการสนับสนุนยุทโธปกรณ์ กำลังพล และความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ

สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยง “ผำ” สามารถติดต่อโครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 095-4511343

โครงการนี้ไม่เพียงตอบโจทย์การพึ่งพาตนเอง แต่ยังเสริมสร้างความยั่งยืนและความมั่นคงในชุมชนอย่างแท้จริง นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News