
ครม. เห็นชอบแคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” เชียงรายพร้อมหรือยัง ถ้าต้องเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ
เชียงราย, 6 พฤษภาคม 2568 – คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแนวทางความร่วมมือในการจัดแคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 39 ล้านคน และสร้างรายได้ถึง 3.4 ล้านล้านบาท จังหวัดเชียงรายได้รับการกำหนดให้เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวหลักของแคมเปญนี้ ด้วยศักยภาพด้านวัฒนธรรม ธรรมชาติ และการค้าชายแดน
ความท้าทายของการท่องเที่ยวไทยและโอกาสของเชียงราย
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจไทย โดยในปี 2566 การท่องเที่ยวสร้างรายได้กว่า 2.5 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น อุทกภัยในปี 2567 ที่สร้างความเสียหายแก่โครงสร้างพื้นฐานในหลายจังหวัด รวมถึงเชียงราย ได้สร้างความท้าทายต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ความเสียหายจากน้ำท่วมและดินสไลด์ในเชียงรายทำให้ถนนและสะพานหลายแห่งไม่สามารถใช้งานได้ ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวและการค้าชายแดนที่ด่านแม่สาย
ถึงกระนั้น ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายและโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังพัฒนา รัฐบาลจึงริเริ่มแคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวให้เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเน้นเมืองรองที่มีศักยภาพสูง เช่น เชียงราย ซึ่งมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ดอยตุงและสามเหลี่ยมทองคำ และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เช่น วัดร่องขุ่นและพิพิธภัณฑ์บ้านดำ
รายละเอียดแคมเปญและการบูรณาการ
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ณ โถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางความร่วมมือจัดแคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) โดยมอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนดำเนินการตามแนวทางที่กำหนด เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มรายได้และพยุงเศรษฐกิจท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า แคมเปญนี้มุ่งเน้นการบูรณาการพันธมิตรทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยสู่ระดับสากล โดยแบ่งแนวทางการดำเนินงานออกเป็น 11 ด้าน
แล้วจังหวัดเชียงรายสามารถทำอะไรได้บ้างใน 11 ข้อของแคมเปญ
- ด้านสายการบิน สนับสนุนสายการบินในประเทศด้วยการลดค่าธรรมเนียม เพิ่มเที่ยวบินในช่วงเทศกาล และขยายเส้นทางสู่เมืองรอง เช่น เชียงราย เพื่อลดความแออัดในเมืองหลัก เชียงรายสามารถผลักดันให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินสู่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล เช่น งานลอยกระทงหรือปีใหม่ และพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน API เพื่อให้ข้อมูลเที่ยวบินเข้าถึงนักท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้นร่วมมือกับสายการบิน low-cost เพื่อจัดโปรโมชั่นตั๋วราคาพิเศษสำหรับเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงราย
- ด้านโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และบริษัททัวร์ยกระดับมาตรฐานโรงแรมและโฮมสเตย์ ร่วมมือกับแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงที่พักรายย่อย ส่งเสริมโฮมสเตย์ในชุมชนท้องถิ่น เช่น ชุมชนชาวเขาดอยช้าง ให้ได้มาตรฐานโฮมสเตย์ไทย และร่วมมือกับแพลตฟอร์ม OTA เพื่อโปรโมทที่พักรายย่อยจัดแพ็คเกจท่องเที่ยวที่รวมโฮมสเตย์และร้านอาหารพื้นเมืองในอำเภอแม่สาย
- ด้านห้างสรรพสินค้าและร้านค้า มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยว พร้อมพัฒนาระบบคืนภาษีอัตโนมัติ ร้านค้าท้องถิ่นในเชียงราย เช่น ตลาดไนท์บาซาร์ สามารถมอบส่วนลดและของที่ระลึก เช่น ผ้าทอมือล้านนา แก่นักท่องเที่ยว และติดตั้งเครื่องคืนภาษีอัตโนมัติในห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัลเชียงรายจัดแคมเปญ “Chiang Rai Shopping Festival” ที่มอบส่วนลด 10-20% สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
- ด้าน OTAs (Online Travel Agency) จัดโปรโมชั่นแพ็คเกจท่องเที่ยวครอบคลุมเมืองรอง และส่งเสริมการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ร่วมมือกับ OTA เช่น Agoda หรือ Booking.com เพื่อจัดแพ็คเกจท่องเที่ยวที่ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวในเชียงราย เช่น สามเหลี่ยมทองคำและวัดร่องขุ่น พร้อมโปรโมชั่นส่วนลด สร้างแพ็คเกจ “Chiang Rai Cultural Journey” ที่รวมที่พัก ทัวร์วัด และอาหารพื้นเมือง
- ด้านระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ พัฒนาการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยว และจัดทำบัตร Amazing Pass สำหรับการเดินทางในกรุงเทพฯ พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถโดยสารท้องถิ่นหรือรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า เพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียงจัดทำบัตร “Chiang Rai Travel Pass” สำหรับการเดินทางไม่จำกัดใน 1 วัน
- ด้านความปลอดภัย: จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวครอบคลุม 77 จังหวัด และพัฒนาบริการ call center 1155 ให้เป็น one-stop service จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC) ในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น อำเภอแม่สาย และฝึกอบรมอาสาสมัครท่องเที่ยวให้เป็นเจ้าบ้านที่ดีเปิดศูนย์ TAC ที่สามเหลี่ยมทองคำ พร้อมล่ามภาษาจีนและอังกฤษ
- ด้านการตรวจลงตรา (Visa) ขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่าและพัฒนาระบบยื่นขอวีซ่าออนไลน์ สนับสนุนนโยบายยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเป้าหมาย เช่น จีนและอินเดีย และพัฒนาระบบยื่นวีซ่าออนไลน์สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด่านแม่สายจัดตั้งจุดให้ข้อมูลวีซ่าที่ด่านศุลกากรแม่สาย
- ด้าน Event จัดงานเทศกาลระดับสากล เช่น มหาสงกรานต์ และส่งเสริมการลงทุนในงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ จัดงานเทศกาลระดับนานาชาติ เช่น “Chiang Rai International Balloon Festival” หรือ “Chiang Rai Marathon” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจัดงานลอยโคมที่ถนนคนเดินเชียงราย พร้อมการแสดงวัฒนธรรมล้านนา
- ด้านแหล่งท่องเที่ยว ขยายเวลาเปิดแหล่งท่องเที่ยว เช่น อุทยานแห่งชาติ และจัดกิจกรรม Night at The Museum ขยายเวลาเปิดแหล่งท่องเที่ยว เช่น อุทยานแห่งชาติผาแต้ม และจัดกิจกรรม Night at The Museum ที่วัดร่องขุ่นหรือพิพิธภัณฑ์บ้านดำจัดงาน “Night at Wat Rong Khun” พร้อมการแสดงแสงสีและทัวร์ยามค่ำคืน
- ด้านประชาสัมพันธ์ ใช้สื่อเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมท่องเที่ยว ใช้สื่อดิจิทัล เช่น TikTok และ Instagram เพื่อโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวในเชียงราย และร่วมมือกับ influencer ท่องเที่ยวในการสร้างคอนเทนต์จัดแคมเปญ #ChiangRaiVibes เพื่อเชิญชวนให้แชร์ภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยว
- ด้านอื่น ๆ พัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว เช่น มัคคุเทศก์ที่พูดภาษาต่างประเทศ และจัดหา Tourism SIM สำหรับนักท่องเที่ยว ฝึกอบรมมัคคุเทศก์ให้พูดภาษาจีนและอังกฤษ และร่วมมือกับค่ายโทรศัพท์เพื่อจัดหา Tourism SIM สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเชียงรายจัดอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่นในอำเภอเชียงแสนให้พูดภาษาจีนสำหรับนักท่องเที่ยวจากจีน
แคมเปญนี้คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยว 39 ล้านคน และสร้างรายได้ 3.4 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ การกีฬา และภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล
การฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมของเชียงราย
จังหวัดเชียงรายเผชิญกับความท้าทายจากอุทกภัยในปี 2567 ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ถนนและสะพานในหลายพื้นที่ เช่น อำเภอแม่สายและอำเภอเชียงแสน ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการค้าชายแดน อย่างไรก็ตาม การอนุมัติงบประมาณ 2,049.69 ล้านบาทในปี 2568 เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานใน 17 จังหวัด รวมถึงเชียงราย ได้ช่วยแก้ไขปัญหานี้ โดยเน้นการซ่อมแซมเส้นทางสำคัญ เช่น ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 และทางหลวงชนบท
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” เชียงรายได้ดำเนินการหลายอย่าง ดังนี้:
- การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ซ่อมแซมถนนและสะพานที่เสียหาย เพื่อให้การสัญจรในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น สามเหลี่ยมทองคำและดอยตุง เป็นไปอย่างราบรื่น
- การพัฒนาการเข้าถึง เพิ่มเที่ยวบินสู่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง และพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะภายในจังหวัด
- การประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว ใช้สื่อดิจิทัลเพื่อโปรโมทวัดร่องขุ่น สามเหลี่ยมทองคำ และงานเทศกาลท้องถิ่น เช่น ประเพณีลอยกระทง
- การพัฒนาบุคลากร ฝึกอบรมมัคคุเทศก์และอาสาสมัครท่องเที่ยวให้สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศ เช่น จีนและอังกฤษ
ความท้าทายและโอกาสของเชียงราย
- โอกาสของเชียงราย
- การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคเหนือ: เชียงรายสามารถเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียง เช่น เชียงใหม่และพะเยา เพื่อสร้างเส้นทางท่องเที่ยวภาคเหนือ
- การค้าชายแดน การฟื้นฟูถนนที่ด่านแม่สายจะช่วยกระตุ้นการค้าขายและการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน
- การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและกีฬา การจัดงานเทศกาลและการแข่งขันกีฬาจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจวัฒนธรรมและกีฬา
- โครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน การลงทุนในถนนและระบบระบายน้ำจะช่วยลดความเสียหายจากภัยพิบัติในอนาคต
- ความท้าทายของเชียงราย
- โครงสร้างพื้นฐานที่ล่าช้า การก่อสร้างในพื้นที่ภูเขาอาจล่าช้า ส่งผลต่อการเตรียมความพร้อม
- การแข่งขันกับเมืองอื่น เชียงรายต้องแข่งขันกับเมืองหลักอย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต ซึ่งมีทรัพยากรมากกว่า
- ภัยพิบัติทางธรรมชาติ น้ำท่วมและดินสไลด์ในช่วงฤดูฝนอาจกระทบการท่องเที่ยว
- บุคลากรที่ขาดแคลน การขาดมัคคุเทศก์ที่พูดภาษาต่างประเทศอาจจำกัดการให้บริการ
ตำแหน่งของเชียงราย
เชียงรายมีศักยภาพเป็น เมืองรองที่มีการเติบโตสูง ในแคมเปญนี้ โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ธรรมชาติ และกีฬา ด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร เช่น สามเหลี่ยมทองคำและวัดร่องขุ่น เชียงรายสามารถสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างจากเมืองหลักได้
สถิติที่เกี่ยวข้องและแหล่งอ้างอิง
- จำนวนนักท่องเที่ยวในเชียงราย: ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยว 3.2 ล้านคน สร้างรายได้ 20,000 ล้านบาท (ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, 2566)
- ผลกระทบจากอุทกภัย: อุทกภัยในปี 2567 ทำให้ถนนในเชียงรายเสียหาย 10 แห่ง ส่งผลให้การท่องเที่ยวลดลง 20% ในบางช่วง (ที่มา: กรมทางหลวง, 2567)
- เป้าหมายของแคมเปญ: ดึงดูดนักท่องเที่ยว 39 ล้านคน สร้างรายได้ 3.4 ล้านล้านบาท (ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, 2568)
- การเติบโตของเมืองรอง: เมืองรองมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยว 15% ในปี 2566 (ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, 2566)
สรุป
แคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” เป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับการท่องเที่ยวไทย โดยเชียงรายสามารถใช้ศักยภาพด้านวัฒนธรรม ธรรมชาติ และการค้าชายแดน เพื่อเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ การนำแนวทางทั้ง 11 ข้อไปปรับใช้จะช่วยให้เชียงรายฟื้นตัวจากอุทกภัยและเติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะเมืองรองที่มีเอกลักษณ์
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2566). รายงานการท่องเที่ยวประจำปี.
- กรมทางหลวง. (2567). รายงานสถานการณ์อุทกภัยและความเสียหายโครงข่ายถนน.
- สำนักนายกรัฐมนตรี. (2568). มติคณะรัฐมนตรี, 6 พฤษภาคม 2568.
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2568). ข้อมูลแคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025”.