Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รับมืออุบัติเหตุ เชียงรายจัดซ้อมแผน 2 โรงพยาบาล เตรียมพร้อมช่วงเทศกาล

โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ เตรียมพร้อมรับมือช่วงเทศกาล

ซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ประจำปี 2568 สร้างความพร้อมระบบสาธารณสุขรับมือภัยพิบัติ

เชียงราย – วันที่ 4 เมษายน 2568 โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยกลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ได้จัดกิจกรรมฝึกปฏิบัติการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ประจำปี 2568 ณ หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 37 และโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานด้านความมั่นคง และองค์กรกู้ภัยในจังหวัดเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ด้านการจราจร สมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย และสมาคมแสงธรรมสาธารณกุศล เชียงราย ก็ได้จัดการฝึกซ้อมอุบัติเหตุหมู่ ณ บริเวณโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ซึ่งมีการเดินทางจำนวนมาก และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุหมู่สูงกว่าช่วงปกติ

เน้นซ้อมสถานการณ์จริง ให้บุคลากรเข้าใจบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน

กิจกรรมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทุกฝ่าย ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

โดยแบบจำลองเหตุการณ์ที่ใช้ในการฝึกซ้อมเป็นสถานการณ์จำลองอุบัติเหตุรถชนจำนวนหลายคัน มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนจริง ตั้งแต่การแจ้งเหตุ ประสานหน่วยสนับสนุน การเข้าถึงผู้ป่วย การลำเลียง และการรักษาเบื้องต้น ไปจนถึงการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ

ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

การฝึกซ้อมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน ได้แก่ โรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ ทีม ALS กู้ภัยจากเทศบาลนครเชียงราย ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 37 และตำรวจจราจรจาก สภ.เมืองเชียงราย นอกจากนี้ ยังมีการร่วมซ้อมของสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและสอดคล้องกับระบบการจัดการอุบัติเหตุหมู่ในระดับจังหวัด

สร้างความมั่นใจในการให้บริการประชาชนช่วงเทศกาล

ในช่วงเทศกาล เช่น สงกรานต์ ซึ่งประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย ความเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนท้องถนนจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การเตรียมความพร้อมในการรับมืออุบัติเหตุหมู่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้

แนวคิด “หนึ่งทีม หนึ่งระบบ” สู่การพัฒนาระบบสาธารณสุขเชิงรุก

การฝึกซ้อมครั้งนี้สะท้อนถึงแนวคิด “หนึ่งทีม หนึ่งระบบ” ที่เน้นให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถประสานงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มศักยภาพในการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน ณ จุดเกิดเหตุ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขในการส่งเสริมระบบการแพทย์ฉุกเฉินในระดับจังหวัด

ความเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง: ภาครัฐ-ภาคประชาชน

ฝ่ายภาครัฐ เห็นว่าการฝึกซ้อมดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่ภัยพิบัติและอุบัติเหตุมีความซับซ้อนมากขึ้น และต้องใช้การประสานงานข้ามหน่วยงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า จังหวัดพร้อมสนับสนุนทรัพยากรและงบประมาณเพื่อให้การรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินมีความรวดเร็วและแม่นยำ

ขณะเดียวกัน จากมุมมองของประชาชนบางกลุ่ม ยังมีความกังวลเรื่องความต่อเนื่องของการฝึกซ้อมในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในอำเภอห่างไกลที่อาจไม่ได้รับการฝึกอบรมในระดับเดียวกับตัวเมืองเชียงราย และมีข้อเสนอให้กระจายโอกาสการซ้อมและฝึกปฏิบัติไปยังโรงพยาบาลชุมชนมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้รับบริการที่มีคุณภาพเท่าเทียมกัน

ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาระบบรับมืออุบัติเหตุหมู่ในอนาคต

การฝึกซ้อมอุบัติเหตุหมู่ควรได้รับการจัดอย่างต่อเนื่องปีละหลายครั้ง และควรมีการประเมินผลหลังฝึกซ้อมทุกครั้ง เพื่อพัฒนาแนวทางการดำเนินงาน และแก้ไขข้อบกพร่องที่พบเจอ อีกทั้ง ควรมีการฝึกในรูปแบบข้ามจังหวัด เพื่อรองรับกรณีที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง

  • ในปี 2566 ประเทศไทยเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 19,000 ครั้ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพียงช่วงเดียว
  • จังหวัดเชียงรายเกิดอุบัติเหตุรวม 479 ครั้ง ในปี 2566 โดยมีผู้เสียชีวิต 56 ราย และบาดเจ็บ 562 ราย (ที่มา: ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน, กระทรวงคมนาคม)
  • อัตราการรอดชีวิตของผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหมู่จะเพิ่มขึ้น มากกว่า 50% หากได้รับการช่วยเหลือในช่วง ทองคำ” 1 ชั่วโมงแรก (Golden Hour) (ที่มา: กรมการแพทย์ฉุกเฉิน, กระทรวงสาธารณสุข)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กระทรวงคมนาคม
  • กรมการแพทย์ฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
  • โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
  • โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

สวนดุสิตโพลเผย เชียงใหม่-เชียงราย จุดหมายปีใหม่ยอดนิยม 2568

สวนดุสิตโพลเผยปีใหม่ 2568 คนไทยนิยมเที่ยว เชียงใหม่-เชียงราย ติดอันดับ

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจาก “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เกี่ยวกับเรื่อง “คนไทยกับของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล” โดยทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,246 คน ผ่านช่องทางออนไลน์และภาคสนาม ระหว่างวันที่ 3-6 ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงทิศทางและพฤติกรรมของคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

ประชาชนส่วนใหญ่มีแผนท่องเที่ยวปีใหม่

จากผลการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 56.02% โดยในกลุ่มนี้

  • เลือกเดินทาง ภายในประเทศถึง 90.26%
  • ขณะที่การเดินทางไป ต่างประเทศอยู่ที่ 9.74%
    อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนจำนวน 43.98% ที่ระบุว่าไม่มีแผนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว

5 จังหวัดยอดนิยมที่คนไทยอยากไปเที่ยวมากที่สุด

จากผลการสำรวจยังเผยถึงจังหวัดเป้าหมายของการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยอันดับจังหวัดยอดนิยมที่ประชาชนเลือกมากที่สุด ได้แก่

  1. เชียงใหม่ คิดเป็น 56.83% ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง เนื่องจากอากาศเย็นสบายและมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติจำนวนมาก
  2. เชียงราย คิดเป็น 49.05% จังหวัดที่โดดเด่นด้วยความงดงามของดอกไม้และภูเขา อีกทั้งยังมีเทศกาลดอกไม้ช่วงปลายปี
  3. กรุงเทพมหานคร คิดเป็น 38.10% ซึ่งเป็นศูนย์รวมของการจัดงานเทศกาลและกิจกรรมต่าง ๆ
  4. กาญจนบุรี คิดเป็น 37.30% จังหวัดที่มีความโดดเด่นด้านธรรมชาติและสถานที่ประวัติศาสตร์
  5. กระบี่ คิดเป็น 25.71% จังหวัดชายทะเลที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการท่องเที่ยวปีใหม่

ประชาชนคาดการณ์ว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีการใช้จ่ายเฉลี่ย 17,317.10 บาทต่อคน โดยแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามงบประมาณดังนี้

  • ไม่เกิน 5,000 บาท มากที่สุด คิดเป็น 46.94%
  • กลุ่มที่ใช้จ่ายมากกว่า 5,000 บาทขึ้นไป มีสัดส่วนที่ลดหลั่นกันไป

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายดังกล่าวครอบคลุมค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงการซื้อของฝากให้กับคนในครอบครัวและคนสนิท

ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้จากรัฐบาล

เมื่อสอบถามถึงของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้รับจากรัฐบาล อันดับต้น ๆ ได้แก่

  1. การแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม
  2. การช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟ และพลังงาน ซึ่งถือเป็นภาระสำคัญที่ประชาชนต้องแบกรับในปัจจุบัน
  3. มาตรการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ โดยเฉพาะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น

ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคมเป็น “หน้าที่ของรัฐบาล” ที่ควรให้ความสำคัญอย่างจริงจัง

สรุปภาพรวมเทศกาลปีใหม่

ผลการสำรวจจากสวนดุสิตโพลในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะจังหวัดยอดนิยมอย่าง เชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งมีเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม ขณะเดียวกัน ประชาชนยังต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลปีใหม่ผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น การแจกเงินและการลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค

การสำรวจในครั้งนี้จึงเป็นภาพสะท้อนความหวังของคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่ต้องการทั้งความสุขจากการเดินทางท่องเที่ยวและมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐในการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

ข้อมูลสำคัญโดยสรุป

  • 56.02% ของประชาชนวางแผนท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ
  • เชียงใหม่และเชียงราย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม
  • ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 17,317.10 บาทต่อคน โดยส่วนใหญ่ใช้งบไม่เกิน 5,000 บาท
  • ประชาชนต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนเศรษฐกิจผ่านการแจกเงินและมาตรการลดค่าใช้จ่าย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สวนดุสิตโพล

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News