Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

รพ.เชียงรายฯ เตรียมหาทุนซื้อเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล

 

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ห้องประชุมพวงแสด ชั้น3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย คณะทำงานกองทุนจัดซื้อเครื่องเอ็กซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล เพื่อโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีนายชำนาญ สรรพลิขิต จ่าจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการสำนักงานจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ผู้แทนโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย เข้าร่วมหารือในการจัดตั้งกองทุนเพื่อจัดซื้อเครื่องเอ็กซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 

 

โดยจังหวัดเชียงรายได้แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานกองทุนในการจัดซื้อเครื่องเอ็กซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอลเพื่อมอบให้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการคณะทำงาน และมอบอำนาจหน้าที่เพื่อให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

เนื่องด้วยจังหวัดเชียงรายร่วมกับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มีความประสงค์จัดซื้อเครื่องเอ็กซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ตลอดจนเพื่อเป็นการช่วยรักษาโรคหลอดเลือดสมองอุดตันระยะเฉียบพลันให้แก่ประชาชนชาวเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง 

 

โดยในที่ประชุมได้หารือในการจัดตั้งบัญชีเพื่อสมทบทุน ในนามบัญชี “กองทุนจัดซื้อเครื่องเอ็กซ์เรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล มอบให้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 “
ตลอดจนหารือด้านการจัดแถลงข่าวประชาสัมพันธ์และการจัดหาทุน เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงได้มีส่วนร่วมในการสมทบกองทุนฯในครั้งนี

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ประเพณีเจ็ดเป็งสรงน้ำพระธาตุเจ็ดยอด วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง ปี 2567

 
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน (ฝ่ายฆราวาส) ในพิธีสรงน้ำพระธาตุเจ็ดยอด ประเพณีเจ็ดเป็งสรงน้ำพระธาตุเจ็ดยอด ปี 2567 โดยมีพระเดชพระคุณพระพรหมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร ที่ปรึกเจ้าเจ้าคณะภาค 3 กทม. ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระเดชพระคุณพระราชปัญญาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดนางชี พระอารามหลวง กทม. พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา พระรัตนมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย พระครูขันติพลาธร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย พระครูกิตติพัฒนานุยุต ผศ.ดร. ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง ตลอดจนพระเถรานุเถระ ในจังหวัดเชียงราย และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมพิธี


โดยในพิธี ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ประธานสงฆ์ให้ศีล จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานฝ่ายฆราวาส เปิดกรวยสักการะเคารพเบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จากนั้นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ สวดเจริญพระพุทธมนต์ ประเพณีเจ็ดเป็งสรงน้ำพระธาตุเจ็ดยอด จากนั้นประธานสงฆ์นำคณะสงฆ์ประกอบพิธีสรงน้ำพระธาตุ เชิญน้ำสรงประทานใน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เพื่อสรงน้ำพระธาตุเจ็ดยอด และถวายเครื่องสักการะพระธาตุเจ็ดยอด ตามลำดับ


พระธาตุเจ็ดยอดเป็นพระธาตุที่เก่าแก่ เป็นพระธาตุที่มีรูปทรงที่สวยงามสูงจากฐานธรณีสูง 26.5 เมตรฐานจากพื้นถึงขอบลานข้างบน สูง 5 เมตร ด้านบนเป็นลานกว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร เจดีย์ประธาน 1 องค์ มีพระพุทธรูปใหญ่อยู่กับเจดีย์ 1 องค์ พระธาตุบริวารล้อมรอบเจดีย์ประธาน 6 องค์ ภายในองค์เจดีย์คล้ายคูหา มีพระพุทธรูป (พระนอน) 1 องค์ มีบันไดขึ้นไปบนลานชั้นบน 2 ด้าน บนลานด้านบนมีบ่อน้ำสี่เหลี่ยม 1 บ่อ ลึกประมาณ 10 เมตร บริเวณรอบฐานเจดีย์ชั้นล่าง มีพระพุทธรูปประดับ 7 องค์


วัดเจ็ดยอด เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ในอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรล้านนา หรือก่อนที่พญามังรายจะตั้งเมืองเชียงราย ต่อมาถูกทิ้งร้าง และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดเจ็ดยอดได้ถูกบูรณปฏิสังขรณ์พร้อมกับการเดินทางกลับไปสร้างเมืองของคนท้องถิ่นที่อาศัยในพระนครนำโดยพระเจ้ามโหตรประเทศ พระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งในขณะนั้นวัดและพระธาตุอยู่ในสภาพชำรุดผุผัง พระครูบาคันธะคนฺธวํโสจึงชักชวนชาวบ้านให้ช่วยกันบูรณะวัด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2386 เป็นต้นมา วัดเจ็ดยอดได้รับสถานะพระอารามหลวงในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2521
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

ไทยขยายรับตลาดโลกผลิต-ส่งออก อาหารสัตว์ เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ 3 แสนล้าน

 

เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้สั่งการให้หาโอกาสจากกรณีที่ราคาอาหารสัตว์โลกสูงขึ้น และคาดว่าจะทำให้แนวโน้มการส่งออกอาหารสัตว์ในปี 2567 เติบโตสูงขึ้น โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดำเนินการตามแนวทางของนายกฯในการควบคุมสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้านอาหารสัตว์ของไทย ให้มีคุณภาพได้มาตรฐานและความปลอดภัย ทั้งกลุ่มอาหารสัตว์เศรษฐกิจ อาหารสัตว์เลี้ยง ส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารให้ครบวงจร ครอบคลุมทุกกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมให้ได้ตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัย รองรับความต้องการของตลาดโลก คาดการณ์ว่าในปี 2567 แนวโน้มการส่งออกอาหารสัตว์สร้างมูลค่าการค้าถึง 3 แสนล้านบาท

 

นายชัย กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. พัฒนาศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาหารสัตว์ โดยเน้นกระบวนการผลิต (manufacturing process) การประกันคุณภาพของห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบ (quality assurance) การควบคุมคุณภาพ (quality control) พัฒนาห้องปฏิบัติการ และสร้างเครือข่ายทั่วประเทศ ตลอดจนยื่นขอรับรองการเป็นผู้ผลิตวัสดุอ้างอิงด้านอาหารสัตว์ (reference material producer) ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งรวมทั้ง การผลิตวัสดุอ้างอิงอาหารสัตว์ในประเทศ ช่วยลดต้นทุนในกระบวนการผลิต ประหยัดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าวัสดุอ้างอิงจากต่างประเทศ และสามารถเตรียมขยายการผลิตวัสดุอ้างอิงอื่น ให้ครอบคลุมกับความต้องการของภาคการผลิต เสริมสร้างศักยภาพในภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมบริการอาหารแห่งอนาคต ซึ่งจะรองรับความต้องการในตลาดโลก และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้วยการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน

 

“นายกฯตระหนักดีถึงการแสวงหาโอกาสจากทุกความท้าทาย ต่อยอดสินค้า และวัตถุดิบอาหารสัตว์ของไทยให้มีศักยภาพในตลาดโลก พร้อมชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาสินค้าและวัตถุดิบผ่านกระบวนการอย่างครอบคลุม รวมถึงรักษามาตรฐานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อขยายตลาดให้สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยให้มีคุณภาพ ราคาเหมาะสมครองใจผู้บริโภค ทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘วันชัย’ มอบถังเก็บน้ำ 2,000 ลิตร ช่วยบรรเทาในแต่ละชุมชนเชียงราย

 
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 ทางเทศบาลนครเชียงรายโพสต์แจ้ง “ภัยแล้ง” ภัยธรรมชาติที่เกิดจากการขาดแคลนน้ำก่อให้เกิดความแห้งแล้งและส่งผลกระทบต่อชุมชน เทศบาลนครเชียงรายโดย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ติดตามปัญหาภัยแล้ง ที่ส่งผลกระทบตามธรรมชาติตื้นเขิน ระดับน้ำลดลง ขาดน้ำสะอาดในการอุปโภค บริโภค
 
 
ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับเทศบาลนครเชียงราย ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น จึงได้บูรณาการเพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และลดผลกระทบอันเกิดจากสาเหตุสถานการณ์ภัยแล้งให้กับพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงราย
 
 
ทั้งนี้ นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ยังได้พบปะพูดคุยรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประธานชุมชน และพี่น้องชุมชนแต่ละชุมชน และมอบถังเก็บน้ำ 2,000 ลิตร พร้อมนำรถน้ำไปช่วยบรรเทาในแต่ละชุมชน ในการช่วยเหลือชุมชน ตลอดจนมุ่งหวังในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

วัฒนธรรมเชียงราย โชว์เหนือ คว้าโล่รางวัลชุมชนต้นแบบ 3 ปีติด

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2567 ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรมกระทรวงวัฒนธรรมจัดพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ 10 สุดยอด ชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดย  นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้นำชุมชน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วม ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม

 ทั้งนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางสุภาพรรณ  หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายพิสันต์  จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้ารับโล่รางวัลผู้สนับสนุนการขับเคลื่อนชุมชนฯ

 

ในการนี้ พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา และนายอานนท์  สมพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านสบคำ เข้ารับโล่รางวัล 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

 

ในโอกาสนี้ ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) ได้นำทุนทางวัฒนธรรมของชุมชนมาพัฒนาต่อยอดสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดคุณค่าและมูลค่าอย่างสร้างสรรค์ โดยร่วมจัดแสดงนิทรรศการ สาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และนำผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ ผ้าทอล้านนาลายอัตลักษณ์เชียงแสน และสมุนไพรวัดพระธาตุผาเงา มาร่วมจัดแสดงในงานดังกล่าวด้วย

 

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กำหนดจัดพิธีเปิดสุดยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) โดยได้รับเกียรติจาก นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม จะมาเป็นประธานในพิธีฯ ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณลานจอดรถ1 วัดพระธาตุผาเงา ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย กิจกรรมประกอบด้วย การแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน อาทิ การขับทุ้ม การตีกลองหลวง การเต้นบาสโลบ เป็นต้น การสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อาทิ วิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว การบายศรีสู่ขวัญ อาหารพื้นบ้าน ภูมิปัญญาของโรงเรียนสามวัยวัดพระธาตุผาเงา ฯลฯนิทรรศการของส่วนราชการ ชุมชนต่างๆ ชมและช้อปสินค้าทางวัฒนธรรม CPOT และสินค้าชุมชนในตลาดวัฒนธรรม “อิ่มบุญ ยลวิถีผาเงา” และลานวัฒนธรรมสร้างสุข

          จังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดเดียวที่ได้รับการคัดเลือกสุดยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบ “เที่ยวชุมชนยลวิถี” ติดต่อกัน 3 ปี คือ พ.ศ.2564 ชุมชนวัดท่าข้ามศรีดอนชัย อ.เชียงของ, พ.ศ.2565 ชุมชนบ้านเมืองรวง อ.เมืองเชียงราย และ พ.ศ.2566 ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา(บ้านสบคำ) อ.เชียงแสน

ความศักดิ์สิทธิ์ของวัดพระธาตุผาเงาตามความเชื่อของชาวบ้านนั้น เชื่อกันว่าหากใครเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วมาสักการบูชาที่วัดนี้ อาการป่วยก็จะทุเลาลงและหายในที่สุดอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

ตั้งอยู่บ้านสบคำ ตำบลเวียง สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่สำคัญในสมัยอาณาจักรโยนก เดิมชื่อว่า วัดสบคำ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ต่อมาถูกกระแสน้ำพัดพังทลายลงเกือบหมดวัดจึงได้สร้างวัดขึ้นมาใหม่ ปี พ.ศ. 2519 มีการปรับพื้นที่บริเวณวัดใหม่จึงมีการขุดพบพระพุทธรูป อายุระหว่าง 700-1,300 ปี จึงได้เรียกพระพุทธรูปว่า “หลวงพ่อผาเงา” คำว่า “ผาเงา” หมายถึง เงาของก้อนผาหรือก้อนหิน ซึ่งมีขนาดใหญ่ทรงคล้ายเจดีย์ เวลาพระอาทิตย์ส่องผ่านก้อนหินทำให้เกิดเงาขนาดใหญ่ ชาวบ้านจึงเรียกว่า “พระธาตุผาเงา”

 

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ – พระอุโบสถ เป็นอาคารไม้แกะสลักด้วยไม้สักทอง สถาปัตยกรรมแบบล้านช้างผสมผสานล้านนา ภายในประดิษฐาน พระเชียงแสนสิงห์ 1 เป็นพระประธาน มีพุทธลักษณะงดงาม มีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ – หอพระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์ ภายในมีอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชและพระฉายาลักษณ์ของราชวงศ์ รวมทั้งบุคคลสำคัญที่มาเยือนวัดพระธาตุผาเงา – วิหารหลวงพ่อผาเงา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา

 

ซึ่งถูกขุดพบเมื่อมีการปรับแต่งพื้นที่ของวัดมีพุทธลักษณะงดงาม จึงตั้งชื่อว่า “หลวงพ่อผาเงา” และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่จากเดิมที่ชื่อวัดสบคำ มาเป็นวัดพระธาตุผาเงา – พระธาตุผาเงา ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงา ก็คือเงาของก้อนหิน มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และสร้างร่มเงาได้ดีมาก – พระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ ตั้งอยู่บนยอดเขา เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่สร้างครอบองค์พระธาตุเจ็ดยอดที่เหลือแต่ซากฐาน สูง 5 เมตร ภายในยังมีฐานของพระธาตุเจ็ดยอดองค์เดิมและมีภาพเขียนฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวพระราชประวัติพระนางจามเทวี ด้านนอกสามารถเดินรอบได้ลักษณะคล้ายป้อมปราการ

 

สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงามได้โดยรอบ – สกายวอร์กผาเงา 3 แผ่นดิน ตั้งอยู่ใกล้กับพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ ห่างจากแม่น้ำโขงประมาณ 400 เมตร เป็นสะพานกระจกรูปแปดเหลี่ยม มีความสูง 25 เมตร ทางเข้าและออกเชื่อมต่อกับถนนรอบพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ เป็นทางเดินพื้นกระจกนิรภัยลามิเนตและโลหะ สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขงทั้งฝั่งไทย และบ้านดอนสะหวัน เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

 

มีบริการรถรับส่งบริเวณลานจอดรถหน้าพระอุโบสถ อัตราค่าเข้าชม สกายวอร์ก วัดพระธาตุผาเงา ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็กสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ไม่มีค่าใช้จ่าย จำกัดจำนวนผู้เข้าชมรอบละ 10

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ป.ป.ช. เชียงราย จัดประชุมเชิง ปฏิบัติการ ชมรมเยาวชน STRONG

 

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุม อาคารพลเอก สำเภา ชูศรี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงราย (นายกิตติศักดิ์ พิมสาร) มอบหมายให้ กลุ่มงานป้องกันการทุจริต นำโดยนายนั้ง แสงเพชรไพบูรณ์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่งานป้องกันฯ และ ชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดเชียงราย นำโดยนางวันดี ราชชมภู ประธานชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดเชียงราย และคณะกรรมการฯ ดำเนินกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการสมาชิกชมรมเยาวชน STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดเชียงราย โดยมีนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงร่วม 100 กว่าคนเข้าร่วมกิจกรรม

 

ทั้งนี้ นายนั้ง แสงเพชรไพบูรณ์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ได้กล่าวเปิดกิจกรรมและพูดถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม คือ เพื่อรณรงค์ป้องกันการทุจริต และสร้างจิตสำนึก รวมถึงการมีส่วนร่วมในการปลูกฝังค่านิยมให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เพื่อส่งเสริมสังคมไทยไร้การทุจริตอย่างยั่งยืน ซึ่ง ระบบการศึกษาจึงเป็นกลไกสำคัญ ในการบ่มเพาะจิตสำนึกของเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ แนวทางการพัฒนาและแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นที่สำคัญและยั่งยืนที่สุด คือปลูกและปลุกจิตสำนึกการเป็นพลเมืองที่ดี
 
 
มีวัฒนธรรมสุจริตในกลุ่มเด็กและเยาวชนทุกช่วงวัย มุ่งเน้นการปรับพฤติกรรมตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับอุดมศึกษา เพื่อปฏิรูปพลเมืองไทยในอนาคตให้มีความเป็นพลเมืองเต็มขั้น ประชาชนต้องมีความตื่นรู้ ไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉย ต่อการทุจริตทุกรูปแบบ อีกทั้งหน่วยงานทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันสร้างสังคมที่ไร้การทุจริต ตระหนักรู้ร่วมกันถึงปัญหาการทุจริต เพื่อสร้างค่านิยมสุจริต และขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ “ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต”
 
 
ด้านนางวันดี ราชชมภู ประธานชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดเชียงราย ได้บรรยายพิเศษ “บทบาทของภาคประซาซนกับการป้องกันการทุจริต” และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปลูกฝังค่านิยมในกลุ่มเด็กและเยาวชน เพื่อร่วมกันต่อต้านการทุจริต จึงมอบหมายให้นางสาวพรทิวา วงค์วิชัย นำทีมคณะกรรมการ ชมรม STRONG – จิตพอเพียงฯ จัดกิจกรรมกลุ่ม “การมีส่วนร่วม และบทบาทของเยาวชนต่อการป้องกันการทุจริต” โดยเน้นการสื่อสารที่สนุกสนาน พร้อมสอดแทรกเนื้อหาการสร้างความตระหนักรู้ ผลเสียความรุนแรงของการทุจริต รวมถึงสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ การมีจิตสาธารณะ และให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการต่อต้านทุจริต การคอร์รัปชัน ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ชมรม Strong – จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลนครเชียงราย ปรับภูมิทัศน์ สวนสาธารณะเกาะลอยเพิ่มพื้นที่สีเขียว

 

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 สวนสาธารณะเกาะลอยแห่งนี้ จัดตั้งในปี พ.ศ. 2538 บนความร่วมมือของพี่น้องชุมชนชาวเกาะลอย ที่ได้ประสานงานร่วมกับ ส.ส.รัตนา จงสุทธานามณี ในสมัยนั้น โดยขอให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดงบประมาณในการก่อสร้างร่วมกับเทศบาลนครเชียงรายโดย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย เพื่อให้พี่น้องชาวเชียงรายได้มีพื้นที่สีเขียวในการออกกำลังกาย และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

 

ปัจจุบัน นายกเทศมนตรีนครเชียงรายได้เข้ามาปรับภูมิทัศน์ภายในสวนสาธารณะเกาะลอย ซึ่งการก่อสร้างมากว่า 30 ปีทำให้มีการเสื่อมโทรมตามกาลเวลา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากศิลปิน “ พิชิต สิทธิวงค์ ” ศิลปินจากขัวศิลปะเชียงราย เข้ามาแต้มสีสันของช้าง และทาสีบริเวณโดยรอบสวนสาธารณะเกาะลอย เทศบาลนครเชียงราย ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ และขอให้พวกเราได้ช่วยกันดูแลบำรุงรักษามาช่วยกันทำเมืองเชียงรายให้น่าอยู่แบบยั่งยืน “นครเชียงราย นครแห่งความสุข”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

จังหวัดเชียงราย จัดพิธีปลงผมโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน

 

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 67 ที่ อุโบสถวัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีปลงผม ในโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีพระครูสุธีสุตสุนทร เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชน เข้าร่วมพิธี

 

ด้วยจังหวัดเชียงราย ได้จัดทำโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งได้ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในจังหวัด ร่วมกันจัดขึ้น โดยมีเด็กและเยาวชน เข้าร่วมโครงการจำนวน 74 คน เข้าบรรพชาระหว่างวันที่ 20 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2567 รวมจำนวน 17 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงราย ได้แสดงความจงรักภักดี ความกตัญญูกตเวที และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อีกทั้งได้รับความรู้ในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้เป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมและศีลธรรมอีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ENTERTAINMENT

สุดอลังการมหกรรมดนตรีเทิดพระเกียรติ ม.แม่ฟ้าหลวง

 

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผศ. ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นประธานเปิดงาน”มหกรรมดนตรีเทิดพระเกียรติ 69 พรรษา มหาจักรีสิรินธร” โดยมีนางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ นายกสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงผู้แทนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ และนักศึกษาเข้าร่วมอย่างคึกคัก

 

ผศ. ดร.มัชฌิมา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วน ทั้งจังหวัดเชียงราย มณฑลทหารบกที่ 37 สมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกฝ่าย จัดงานมหกรรมดนตรีเทิดพระเกียรติ 69 พรรษา มหาจักรีสิรินธร เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีต่อปวงชนชาวไทยและเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงอย่างหาที่สุดมิได้
 
 
โดยภายในงานได้นำบทเพลงอันทรงคุณค่าจำนวนกว่า 21 บทเพลง ซึ่งจะเริ่มต้นด้วย บทเพลงในองค์โหมโรง : นำเอาบทเพลงไทยโบราณและเพลงไทยที่ได้แต่งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำมาบรรเลงประโคมในองค์โหมโรงองค์ราษฎร์รวมใจรักษ์ : เป็นการนำเอาบทเพลงพระราชนิพนธ์ ของ ร.9 และเพลงพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเรียบเรียงใหม่พร้อมกับบทเพลงที่สื่อถึงชาวไทยเชื้อสายจีนที่อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร โดยมีสามาคมรักเสียงเพลงแม่สายเข้ามาร่วมแสดงในองค์นี้
 
องค์น้อมรําลึก : ในองค์นี้ได้ถ่ายทอดบทเพลงคิดถึงพ่อ ผ่านบทเพลงต่างๆ
องค์รวมไทยใจหนึ่งเดียว : ได้นำบทเพลงที่เกี่ยวกับความสมัครสามัคคีของคนไทยรวมถึงนำเอาเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน เพลงที่มีความหมายเป็นการเทิดพระเกียรติที่ทรงมีคุณูปการต่อชาติบ้านเมืองในด้านต่างๆ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
 
 
ปิดจบการแสดงด้วย บทเพลงเจ้าฟ้าของคนเดินดิน ขับร้องและบรรเลงโดย ชมรมดนตรีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง MFU Band ชมรมดนตรีไทย-พื้นเมือง และชมรมนาฏศิลป์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มณฑลทหารบกที่ 37 และนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงราย พร้อมแขกรับเชิญพิเศษที่มาร่วมสร้างความประทับใจภายในงานอีกด้วย
 
 
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้รับการสถาปนาขึ้นในรัชสมัยของในหลวง รัชกาลที่ 9 และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ยังได้น้อมนำแนวพระราชปณิธาน “ปลูกป่า สร้างคน” ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาประยุกต์ใช้ และได้น้อมนำแนวพระราชดำริในการปลูกป่าของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาเป็นหลักในการปฏิบัติตั้งแต่แรกเริ่ม นอกจากนี้มหาวิทยาลัย ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา มาใช้ในการทำงานร่วมกับชุมชนโดยรอบ เพื่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้รับพระเมตตาจากพระบรมวงศานุวงศ์ราชจักรีวงศ์เป็นล้นพ้นเสมอมา ทั้งในการเสด็จมาทรงประกอบพระราชกรณียกิจ พระกรณียกิจ และประทานพระราชวินิจฉัย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
 
 
โดยเฉพาะสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาต่อมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงอย่างยิ่ง โดยได้เสด็จพระราชดำเนินมายังมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงในโอกาสต่างๆ ตลอดมา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นประจำทุกปี
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ผบ.ทอ. ส่งชุดปฏิบัติการสนับสนุน บินดับไฟป่า เชียงใหม่-เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 21 เมษายน พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ สั่งการให้ชุดปฏิบัติการสนับสนุนการบินควบคุมไฟป่า กองทัพอากาศ (ส่วนหน้า) ซึ่งวางกำลังอยู่ที่กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนอากาศยาน เพื่อปฏิบัติภารกิจในการบินควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบด้วย

 

เครื่องบิน DA-42 ติดตั้งระบบ Video Downlink (VDL) สำหรับถ่ายทอดภาพสถานการณ์แบบ Real Time เพื่อบินลาดตระเวนค้นหาพื้นที่ไฟป่า เส้นทางบิน กองบิน 41 – อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย – อำเภอเชียงดาว – อำเภอเเม่แตง – อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ – กองบิน 41

 

เครื่องบิน BT-67 ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับบรรทุกน้ำและสารควบคุมไฟป่า เพื่อปฏิบัติภารกิจบินโปรยน้ำควบคุมไฟป่าบริเวณ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งเครื่องบิน BT-67 ในปี 2539 กองทัพอากาศ ได้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัท Basler Turbo Conversions LLC. ประเทศสหรัฐอเมริกา ดัดแปลงเครื่องบิน C-47 จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งกองทัพอากาศ ปลดประจำการแล้ว ให้เป็นเครื่องบินแบบ BT-67 (Basler Turbo-67) ราคาเครื่องละประมาณ 200  ล้านบาท BT-67 เป็นเครื่องยนต์เทอร์ โบพรอป Pratt & Whitney PT6-67R ให้กำลัง 1,424 แรงม้า จำนวน 2 เครื่อง เพดานบิน: 25, 000 ฟุต ความเร็วสูงสุด: 398 กม./ชม. มีการเปลี่ยนระบบเครื่องวัด ระบบสื่อสารไฟฟ้า เชื้อเพลิง ฐานล้อ ระบบไฮดรอลิก เบรกและยางเป็นแบบใหม่ที่ทันสมัย ยืดลำตัวส่วนหน้าออกไปอีก 1 เมตร เปลี่ยนพื้นบังคับจากผ้าใบเป็นเหล็กทั้งหมด ซึ่งได้มารตฐาน จาก FAA และกองทัพสหรัฐฯ

 

ทั้งนี้ กองทัพอากาศยังคงสนับสนุนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี เพื่อบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็ว

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News