Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ยกระดับบริการนวดเพื่อสุขภาพ ศูนย์ส่งเสริมอาชีพชุมชนเกาะทอง

 

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567 การเสริมสร้างสุขภาพชุมชนเขตเมืองสู่สุข 3 มิติ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่พี่น้องชาวจังหวัดเชียงรายในการสร้างรายได้ สร้างความมั่นคง นายวันชัย จงสุทธามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ขับเคลื่อน ยกระดับส่งเสริมให้ประชาชนที่ต้องการประกอบอาชีพและทักษะในการนวดเพื่อสุขภาพ โดยบูรณาการร่วมกับสำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดย อาจารย์ดร. แพทย์แผนไทยประยุกต์ จิตรลดา ปัญจากุล จัดอบรม หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.

.
โดยการอบรมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 20 คน โดยผู้เข้ารับการอบรมได้รับใบประกาศนียบัตรในการประกอบวิชาชีพการนวดเพื่อสุขภาพ โดยผู้เข้าร่วมการอบรมสามารถเป็นแกนนำในการร่วมพัฒนาขับเคลื่อนและเป็นผู้ช่วยแพทย์แผนไทยในงานศูนย์บริการบริการสาธารณสุขเทศบาลนครเชียงราย ทั้ง 4 แห่ง สำหรับให้บริการประชาชนในพื้นที่
.
ปัจจุบันเทศบาลเทศบาลนครเชียงราย ได้จัดตั้งอาคารนวดเพื่อสุขภาพ เทศบาลนครนครเชียงราย และศูนย์ส่งเสริมอาชีพชุมชนเกาะทอง เพื่อให้ผู้ผ่านการอบรมให้บริการนวดเพื่อสุขภาพ ประกอบอาชีพเป็นรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวการเพิ่มการเข้าถึงบริการนวดเพื่อสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว เปิดบริการวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17-00 น. โทร.083-762-6699
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย Kick Off โครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” 

 

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567 นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” ณ วัดป่ายางสบยาบ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีนายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอเชียงแสน กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยนางสุวาภรณ์ จิตต์พลีชีพ รองประธานแม่บ้านมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการอำเภอเชียงแสน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น คณะครูและนักเรียน และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธี

      ในการนี้ นางอำไพ บัวระดก พัฒนาการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นายปรีชา ปวงคำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการ โดยมีนางสุรีย์ศรี แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน พัฒนาการอำเภอและเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน จาก 18 อำเภอ ร่วมพิธี 

       สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานแนวพระราชดำริในการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประชาชน เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 2019 รวมทั้งใช้เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความรัก ความสามัคคีในหมู่ของประชาชน เกิดผลดีต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม  

     กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าว มาขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ร่วมกับประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด และภาคีเครือข่ายการพัฒนา ดำเนินโครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” เพื่อต่อยอดขยายผลการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งจังหวัดเชียงราย ได้พิจารณาคัดเลือกบ้านสบยาบ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน เป็นพื้นที่ดำเนินงาน 

        สำหรับกิจกรรมในวันนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย ได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเชียงแสน เทศบาลตำบลแม่เงิน และประชาชนบ้านสบยาบ ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” ดังนี้

1. กิจกรรม “ผู้นำต้นแบบตัวอย่างที่เห็นจริง” Kick off กิจกรรม โครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” โดยร่วมกันปลูกไม้ผลและปลูกผักสวนครัว ภายในบริเวณวัดป่ายางสบยาบและบริเวณ 2 ข้างทางของหมู่บ้าน

2. การมอบเมล็ดพันธุ์และกล้าพันธุ์ไม้ให้แก่ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา สถานศึกษาและตัวแทนครัวเรือน เพื่อนำไปขยายพันธุ์ผัก และต่อยอดไปสู่การจัดตั้งเป็นศูนย์แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ระดับตำบล 

3.กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน และจัดทำวีดิทัศน์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

สทนช. ติดตามสถานการณ์น้ำ ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องถึงเดือนกันยายน

 

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2567ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยนางพัชรวีร์ สุวรรณิก ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่รับฟังบรรยายผลการดำเนินการมาตรการฤดูฝน ปี 2567 พื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมีนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น เข้าร่วมประชุม และบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอแม่สาย ตลอดจนการบริหารจัดการน้ำ จากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

จากนั้นคณะฯ ได้ลงพื้นที่จำนวน 2 จุด ได้แก่สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 และบ้านป่าซางงามหมู่ที่ 6 ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการดำเนินการการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 

นางพัชรวีร์ สุวรรณิก ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า สืบเนื่องจากความห่วงใยจากรองนายกรัฐมนตรี ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ที่ได้มอบเป็นนโยบายให้กับทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ ได้เข้ามาดำเนินการดูแลในเรื่องของสถานการณ์ที่เป็นห่วง กังวลในเเรื่องของอุทกภัยตั้งแต่ภาคเหนือ ซึ่งคาดว่าจะประสพกับเรื่องของฝนที่ตกในช่วงเดือนกันยายนนี้ อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการบูรณาการเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมเตรียมในเรื่องของมวลน้ำให้สามารถระบายลงสู่น้ำโขงได้อย่างรวดเร็ว ไม่เป็นอุปสรรคในการที่จะดำรงชีพ  
สำหรับ สทนช.เป็นหน่วยงานในการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการคาดการณ์ฝน ในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ ในเรื่องของการดูแลมวลน้ำและมวลชน ร่วมกับกรมบรรเทาสารณภัยท้องที่ ท้องถิ่น และอำเภอ ซึ่งในพื้นที่ อ.แม่สาย เป็นจุดสำคัญจุดหนึ่ง ซึ่งถ้าเกิดปัญหาอุทกภัยแล้วก็จะก่อเกิดความเสียหาย ก็ควรที่จะต้องเร่งมีมาตรการให้บรรเทาให้กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในขณะนี้ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ทางหน่วยงานได้มีการติดตามประเมินในเรื่องของปริมาณน้ำฝน โดยเฉพาะในช่วงของ สิงหา ถึง กันยายน  โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงราย ภาคเหนือตอนบน ฝนจะตกสะสม และมากกว่าค่าเฉลี่ย จะเห็นได้ว่าขณะนี้ฝนเริ่มตกแล้ว  มีน้ำไหลหลากลงมา โดยเฉพาะแม่สายส่งผลให้น้ำเอ่อล้น 5 รอบแล้ว และ หลังจากนี้ไป ช่วงต้นเดือนกันยายนจนถึงวันที่ 15 กันยายน ฝนก็ยังจะตกซ้ำอยู่บริเวณภาคเหนือตอนบนเหมือนเดิม และทยอยตกตลอดเดือนสิงหาคม เพราะฉะนั้น สถานการณ์ต่อจากนี้ไปในเรื่องของน้ำหลากยังมีความเสี่ยงที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้อมูลปริมาณน้ำฝน จึงขอให้มีการติดตามเฝ้าระวังติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด สำหรับพี่น้องประชาชน เมื่อทราบข้อมูลแล้วอยากให้มีการส่งข่าวทางกลุ่มไลน์ กลุ่มเครือข่ายของพี่น้องประชาชนเพื่อให้รับทราบร่วมกัน ก็จะเป็นช่องทางหนึ่งและเป็นช่องทางที่ดีที่สุด ในการที่จะร่วมกันแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

น้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาคสภาสังคมสงเคราะห์ฯ 77 จังหวัด

 

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 67  ที่ โรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล ตำบลป้าอ้อตอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาคสภาสังคมสงเคราะห์ฯ 77 จังหวัด ประจำปี 2567 จัดโดย สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ จังหวัดเชียงราย  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม 2567 

          โดยมีนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงรายและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย  พร้อมด้วย สภาสังคมสงเคราะห์ฯ หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดเชียงราย สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย  สมาคมส่งเสริมวัฒนธรมหญิงจังหวัดเชียงราย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย  ตลอดจนเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี กิจกรรมประกอบด้วย การเลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียน  และมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค โดยเหล่ากาชาดจังหวัดและส่วนราชการต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงรายร่วมบริจาค


           ตามที่สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้น้อมเกล้าฯ รับพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดำเนินงานโครงการน้ำพระทัยพระราชทานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มาเป็นปี ที่ 26 สภาสังคมสงเคราะห์ฯ โดยปีนี้ร่วมกับจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดและชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  จัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานภูมิภาค สภาสังคมสงเคราะห์ฯ 77 จังหวัด ประจำปี 2567  เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม 2567

          สำหรับโรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล สังกัด สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ให้การศึกษาแก่ผู้ที่มีความบกพร่อง มีพื้นให้บริการรวม 3 จังหวัด คือจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยาและจังหวัดลำปาง และบางส่วนของจังหวัดเชียงใหม่คืออำเภอเชียงดาว ไชยปราการฝาง และแม่อาย ปัจจุบันมีนักเรียน 407 คน เป็นนักเรียนที่อยู่ประจำ 390 คน นักเรียนนักเรียนไปกลับ 17 คน มีคณะครู บุคลากรทางการศึกษา  154 คน จัดตั้งการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ENTERTAINMENT

เด็กเชียงราย สร้างชื่อเสียงในการ แข่งขันเต้นระดับโลกที่ประเทศอังกฤษ

 

[English below] เมื่อวันที่ 13-18 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ทีมเยาวชนจากประเทศไทย นำโดย ดร.นุ้ย-เกศริน เอกธวัชกุล พร้อมทีมบริหาร UDO Thailand Director of UDO Thailand นำโดย รณกฤต ไกรกิจราษฎร์ และ Jarvey ได้เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขัน UDO World Street Dance Championships 2024 ณ เมืองแบล็กพูล ประเทศอังกฤษ โดยในปีนี้ทีมเยาวชนไทยได้แสดงฝีมือจนคว้าแชมป์โลกกลับบ้านได้สำเร็จ

ในรายการ UDO World Street Dance Championships 2024 ที่จัดขึ้น ณ Winter Gardens เมืองแบล็กพูล ทีม Good Dance Good Mind (GDGM) จากประเทศไทยได้แสดงศักยภาพที่โดดเด่น จนคว้าแชมป์โลกในประเภท TEAM PERFORMANCE INTERMEDIATE (อายุไม่เกิน 12 ปี) มาได้ โดยนอกจากจะคว้าแชมป์โลกแล้ว ทีมยังได้รับรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในประเภทคู่ (DUO) อายุไม่เกิน 10 ปี โดยน้องเฟ้น และกัสจัง อีกทั้งยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในประเภทเดี่ยว (SOLO) อายุไม่เกิน 10 ปี จากน้องเฟ้น รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 6 ในประเภทเดี่ยว อายุไม่เกิน 10 ปี จากน้องกัสจัง และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 6 ในประเภทเดี่ยว อายุไม่เกิน 12 ปี จากน้องวิกิ

ดร.นุ้ย-เกศริน ผู้จัดการทีม GDGM ได้กล่าวว่า “นุ้ยขอขอบคุณผู้ปกครองและเด็กๆ ที่สู้และเต็มที่มาด้วยกัน ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่สนับสนุนและให้กำลังใจ ขอบคุณครูเดียร์ วรวุฒิ มูลสาร ที่เป็นครูและผู้ดูแลการฝึกซ้อมเด็กๆ ในทีม ขอบคุณทีมบริหาร UDO Thailand นำโดย รณกฤต ไกรกิจราษฎร์ และ Jarvey รวมถึงทุกทีมที่ไปร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ และขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่ได้รับรางวัลด้วย”

การแข่งขัน UDO World Street Dance Championships 2024 ในครั้งนี้ นอกจากจะมีทีม Good Dance Good Mind จากกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีทีม MYDA CREW จากจังหวัดเชียงรายที่สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ในประเภท TEAM PERFORMANCE Novice (O18) ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีทีมเข้าร่วมกว่า 20 ทีมจากทั่วโลก โดยสมาชิกในทีมประกอบด้วย นายศุภพิชญ์ กันยะธง, นาย นภัทร บุญประกอบ, นางสาววชิรญาณ์ นามวงค์, นางสาวศุภกานต์ ปัญญาพล และนายธนภูพรรณ วงค์อะทะชัย

ทีม MYDA CREW ยังสามารถคว้าแชมป์โลกในประเภท SOLO Over 18 Beginner โดยนาย นภัทร บุญประกอบ ซึ่งเป็นแชมป์โลกคนใหม่ในประเภทนี้ นอกจากนี้ นางสาว วชิรญาณ์ นามวงค์ ยังคว้าตำแหน่งรองแชมป์โลกในประเภทเดียวกันได้อีกด้วย ในขณะที่ นายธนภูพรรณ วงค์อะทะชัย ได้รับรางวัลอันดับ 5 และนางสาวศุภกานต์ ปัญญาพล ได้ติด Top 16 ของโลกในประเภทนี้อีกด้วย

ในประเภทการแข่งขัน DUO Over 18 Beginner ทีม MYDA CREW ยังทำผลงานได้ดี โดยคู่ของนาย นภัทร บุญประกอบ และนางสาว วชิรญาณ์ นามวงค์ ติดอันดับ Top 7-8 และคู่ของนางสาวศุภกานต์ ปัญญาพล กับนาย ธนภูพรรณ วงค์อะทะชัย ก็ติดอันดับ Top 7-8 ในการแข่งขันประเภทนี้

โค้ชที่ฝึกสอนและนำทีม MYDA CREW คือ นายสายเมฆ พึ่งอุดม และนางสาว ภัทรศยา มาลา โดยทั้งสองท่านได้ทุ่มเทเวลาและความรู้ในการฝึกสอนเยาวชนในทีม จนทำให้ทีม MYDA CREW สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดเชียงรายและประเทศไทยได้อย่างภาคภูมิ

การแข่งขัน UDO World Street Dance Championships 2024 ครั้งนี้ เป็นการแข่งขันที่ดุเดือดมากที่สุดงานหนึ่ง โดยมีทีมนักเต้นกว่า 300 ทีมจากหลากหลายประเทศเข้าร่วม แต่ละทีมได้แสดงสไตล์และท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทีม MYDA CREW จากเชียงราย ได้แสดงฝีมือที่น่าประทับใจจนทำให้ทั้งคณะกรรมการและผู้ชมต่างหลงใหลในความคิดสร้างสรรค์ ความสอดประสาน และพลังของพวกเขา

ความสำเร็จในการคว้ารางวัลครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสะท้อนถึงความสามารถของนักเต้นแต่ละคนเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงความทุ่มเทและความหลงใหลในการเต้นแนวสตรีทที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของพวกเขา

เส้นทางสู่การแข่งขันชิงแชมป์โลกเต็มไปด้วยการฝึกซ้อมที่เข้มข้น การแข่งขันในท้องถิ่น และการซ้อมหลายครั้ง แสดงให้เห็นถึงความสามารถรอบด้านของพวกเขาในฐานะผู้แสดง ความมุ่งมั่นของทีมในการสร้างความเป็นเลิศนั้นเห็นได้ชัดจากทุกท่วงท่าที่พวกเขาทำบนเวที

นอกจากความสำเร็จทางการเต้นแล้ว กิจกรรมนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีระดับโลกอีกด้วย

ในที่สุดแล้ว ความสำเร็จของทีมเยาวชนไทยในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศแล้ว ยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า หากมีความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราก็สามารถประส

 

**Thai Youth Team Triumphs at UDO World Street Dance Championships 2024**

From August 13 to 18, 2024, a youth team from Thailand, led by Dr. Nui-Kesarin Ektawatkul, with the support of UDO Thailand’s management team, Ronnakrit Kraikitrat and Jarvey Dela Paz traveled to Blackpool, England, to compete in the UDO World Street Dance Championships 2024. This year, the Thai youth team showcased their talent and skills, bringing home the prestigious world championship title.

The Good Dance Good Mind (GDGM) team from Thailand impressed the judges and audience at the Winter Gardens Hall in Blackpool, securing the world championship in the Team Performance Intermediate category (for ages under 12). In addition to the world title, the team won several other accolades. Notably, they secured the 1st runner-up position in the Duo category (for ages under 10), thanks to the performances of Fen and Gusjung. Fen also achieved a 2nd runner-up position in the Solo category (for ages under 10), while Gusjung was the 6th runner-up in the same category. Vicky, another team member, placed 6th in the Solo category for ages under 12.

Dr. Nui-Kesarin, the manager of GDGM, expressed her gratitude, saying, “I want to thank the parents and children for their dedication and hard work. My thanks also go to all the sponsors and supporters, to Coach Dear Worrawut Moonsarn, who trained and guided the children, and to the UDO Thailand management team, led by Ronnakit Kraikitrat and Jarvey Dela Paz. Congratulations to all the teams that participated and won awards.”

In addition to GDGM from Bangkok, another Thai team, MYDA CREW from Chiang Rai, also made their mark by securing the 2nd runner-up position in the Team Performance Novice category (Over 18). The team competed against over 20 teams worldwide. Members of MYDA CREW included Supapich Kanyathong, Napat Boonprakob, Wachiraya Namwong, Supakan Panyapon, and Thanapupan Wongatachai.

MYDA CREW also achieved remarkable success in individual categories. Napat Boonprakob emerged as the world champion in the Solo Over 18 Beginner category, while Wachiraya Namwong was the 1st runner-up. Thanapupan Wongatachai placed 5th, and Supakan Panyapon made it to the Top 16 globally. In the Duo Over 18 Beginner category, MYDA CREW’s pairs of Napat Boonprakob and Wachiraya Namwong, as well as Supakan Panyapon and Thanapupan Wongatachai, both ranked in the Top 7-8.

Coaches Saimake Puengudom and Pattarasaya Mala dedicated their time and expertise to training MYDA CREW, enabling the team to bring pride to Chiang Rai and Thailand.

The UDO World Street Dance Championships 2024 was one of the most fiercely contested events, with over 300 teams from various countries showcasing their unique dance styles and routines. MYDA CREW’s impressive performance captivated both the judges and the audience with their creativity, coordination, and energy.

These achievements reflect not only the dancers’ skills but also their unwavering passion and commitment to street dance. The journey to the world championship was marked by intense training, local competitions, and numerous rehearsals, highlighting their all-around capabilities as performers. The team’s dedication to excellence was evident in every move they made on stage.

Beyond the success in dance, this event serves as a platform to encourage youth to engage in constructive activities and brings global recognition to Thailand. Ultimately, the success of the Thai youth teams is a testament to the idea that with dedication and passion, one can achieve great success, no matter where they are in the world.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกเทศมนตรี-เลขานุการคลัง เยี่ยมอาสาช่วยน้ำท่วมเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2567 นายกเทศมนตรีนครเชียงรายและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสยามเชียงรายสำนักงานใหญ่ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย

จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย หลายภาคส่วนร่วมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งดำเนินการช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลดลง นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง มอบเงินสดผ่านมูลนิธิสยามเชียงราย สำนักงานใหญ่ ห้าแยกพ่อขุนเม็งราย พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสาสมัครในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย
 
ด้านในเขตเทศบาลนครเชียงราย นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย นำผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางเชียงรายมาช่วยบรรจุกระสอบทราย ซึ่งผู้ต้องขังมีโอกาสทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อีกทั้งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครเชียงราย ขุดลอกระบายน้ำในชุมชนสันตาลเหลือง และนำธงแดงไปติดตั้งจุดสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย สะพานพญาเม็งราย ชุมชนป่าแดง เพื่อเตือนระวังอันตรายจากระดับน้ำกก
 
ทางด้าน พ.จ.อ.ภูมิรพี ทวีกสิกรรม รองปลัดเทศบาลนครเชียงราย และกองการแพทย์เทศบาลนครเชียงราย นำถุงยังชีพช่วยเหลือครอบครัวอสม.นครเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำรอการระบาย เนื่องจากปริมาณน้ำฝนตกอย่างต่อเนื่อง
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

คาดการณ์ บ้านป่าข่า อ.ขุนตาล จมน้ำอยู่อีกประมาณ 1 เดือน

 

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานฝูงบิน 466 กองทัพอากาศ จ.น่าน ไปที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย และบ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 


        โดยก่อนที่จะเดินทางลงพื้นที่ประสบภัย คณะของนายภูมิธรรม ได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนจาก นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ ห้องรับรองท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง หลังจากรับฟังรายงานแล้ว รองนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง และเดินทางต่อไปที่บ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น เพื่อพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย


สำหรับสถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงราย ตอนนี้พื้นที่ทีมีปัญหาน้ำท่วมจะเป็นที่อำเภอขุนตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับมวลน้ำต่อจากอำเภอเทิง บวกกับมวลน้ำที่มาจากจังหวัดพะเยาไหลมาสมทบ จนทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำอิงล้นฝั่ง เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ 2 ตำบลคือตำบลต้าและตำบลป่าตาล ขณะทื่การให้ความช่วยเหลือนั้น จังหวัดเชียงรายระดมกำลังทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่  

โดยพื้นที่ บ้านป่าข่า ม.8 ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ประสบอุทกภัยจากน้ำอิงที่เอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่าครึ่งหมู่บ้าน วันนี้กองทัพบกได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน โดยนำเรือท้องแบนมาบรรทุกถุงยังชีพไปแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย และตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อแจกจ่ายให้ผู้เดือดร้อน

นายสอน เทพสมบัติ ผู้ใหญ่บ้านบ้านป่าข่า ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล กล่าวว่า ขณะนี้มวลน้ำก็ได้เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ประสานขอหน่วยงานจากทหาร หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 สำนักงานพัฒนาภาค3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.35) นำเรือท้องแบนมาช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อส่งสิงของให้ชาวบ้านที่ยังจมน้ำ บางรายก็ออกมาได้ บ่งรายก็ออกมาไม่ได้ ตอนนี้ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐบาล ขอให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ทางหมู่บ้านได้รับความลำบากมาที่สุด มีบ้านเรือนที่จมน้ำ และออกบ้านได้ประมาณ 70 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านป่าข่าเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำอิงที่มีต้นน้ำมาจาก กว๊านพะเยา ซึ่งคาดว่าหมู่บ้านจะจมน้ำอยู่แบบนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือน ทางชาวบ้านก็ขอขอบคุณหน่วยงานต่าง งภาคเอกชนและราชการที่มาช่วยเหลือชาวบ้าน

พันตรี วัลลภ เสือโฮก หัวหน้าศูนย์บรรเทาสาธารณภัย พัฒนาสำนักงานพัฒนาภาค 3 กล่าวว่า ทางทหารหน่วยพัฒนา ได้มีการนำชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 2 ชุด เรือท้องแบน และรถครัวสนามเข้ามาช่วยเหลือประชาชน โดยตั้งครัวพระราชทานอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอเทิง เพื่อสนับสนุนอาหารให้กับผู้ประสบภัย โดยได้ประสานงานกับผู้ใหญ้บานในการช่วยเหลือ นำอาหารไปส่งให้กับชาวบ้านและรับผู้ที่จะออกจากหมู่บ้านออกมา ในการเคลื่อนย้าย ปัจจุบันมีการ้องขอ 2 พื้นที่คือ บ้านป่าข่า และบ้านต้า อ.ขุนตาล ซึ่งเป็นจุดที่มีประชาชนได้รับการเดือดร้อน และยังมีเรือท้องแบบอีก 2 ลำที่จะเข้ามาสนับสนุนการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย / Poom Pakpoom Wilai

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

“สุดาวรรณ” ห่วงสถานการณ์น้ำท่วม ‘วัดเสาหิน’ โบราณสถาน จ.เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้ติดตามผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยของโบราณสถานในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด ซึ่งในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้รายงานว่ามีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และกลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานในพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ตั้งอยู่ ณ วัดสองแคว ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ มีมวลน้ำมาเร็ว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งระดม เคลื่อนย้ายของ และเครื่องประกอบเกียรติยศประกอบศพโดยทันที เพราะหากน้ำสูงกว่านี้สุ่มเสี่ยงต่อความเสียหาย ขณะนี้ได้มีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ ได้ออกประกาศ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์อุทกภัย การติดต่อขอรับพระราชทาน จากเดิม ณ ห้องงานประสานขอรับพระราชทานเพลิงศพ ศาลากลางจังหวัดแพร่ ทางทายาทของ ผู้วายชนม์ผู้ประสงค์ขอรับพระราชทาน สามารถติดต่อขอรับพระราชทานได้ที่ 1. ห้องประชุม เทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ 2. เบอร์โทรศัพท์ 065 523 4058 081 137 5191, 081 297 8396 , 086 911 4844 3.Facebook : กลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวต่อไปว่า ในการนี้เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธีในภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานของกลุ่ม พิธี การศพที่ได้รับพระราชทานและกลุ่มอํานวยการพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและต่อเนื่องโดยเฉพาะจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการ ณ์อุทกภัยและอยู่ระหว่างเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยจึงขอให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดดำเนินการ ดังนี้

1. ดําเนินการขนย้ายเครื่องเกียรติยศประกอบศพและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีการศพ ที่ได้รับพระราชทานไปเก็บรักษาไว้ในที่ที่ปลอดภัย 2. แ จ้ ง ประกาศชี้แจงรายละเอียดช่องทางการติดต่อขอพระราชทานเกี่ยวกับพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานและการปฏิบัติหน้าที่ ในภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานตามหมายรับสั่งในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยให้มีการประกาศชี้แจงรายละเอียดช่องทางที่สาม ารถติดต่อขอรับบริการให้เจ้าภาพ / ทายาทและประชาชนในพื้นที่ทราบ 3. จังหวัดที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธีติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวัง อุทกภัยที่อาจะเกิดขึ้นในพื้นที่และให้เตรียมพร้อมในการขนย้ายเครื่องเกียรติยศ ประกอบศพ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีการศพที่ได้ รับพร ะราชทาน 4.รายงานสถานการณ์อุทกภัยที่ได้รับผลกระทบและความต้องการในการขอรับ ความช่วยเหลือให้กองพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน สํานักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมทราบโดยด่วน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า ในส่วนกรมศิลปากรรายงานว่าจากกรณีฝนตกต่อเนื่องหลายวันในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดน้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง น้ำหลากท่วมทุ่งในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่าน พะเยาและเชียงราย ขณะนี้กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ได้ลงพื้นที่และประสานงานกับเครือข่ายอาสาสมัครในการดูแลมรดกศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่ดังกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับผลกระทบต่อโบราณสถานในพื้นที่ 3 จังหวัด ดังนี้ จังหวัดน่าน จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1.วัดหนองบัว อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ซึ่งมีโบราณสถานคือ วิหารที่ปรากฏภาพจิตรกรรมฝาผนังน้ำท่วมขึ้นถึงภายในวิหาร แต่ยังไม่ถึงภาพจิตรกรรมซึ่งสูงกว่าระดับน้ำท่วมประมาณ 50 ซม ดังนั้น ภาพจิตรกรรม จึงไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วม 2.วัดภูมินทร์ อำเภอ เมือง จังหวัดน่าน โบราณสถานคือวิหารจตุรมุขที่ปรากฏภาพจิตรกรรมฝาผนัง (ปู่ม่านย่าม่าน) ปัจจุบันน้ำยังท่วมไม่ถึงด้านบนวิหาร เนื่องจากอาคารนี้เป็นอาคารที่มีฐานสูงและบันไดสูงไปถึงพื้นด้านบนวิหารน้ำจึงท่วมเพียงบันไดเท่านั้น และ 3.พิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ปัจจุบันน้ำยังไม่ท่วมเข้ามาในพื้นที่เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณที่สูงที่สุดของเมืองน่าน เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดเวลาและให้นำรถยนต์เข้ามาจอดภายในได้ในช่วงนี้เพื่อบรรเทาความเสียหายของทรัพย์สินประชาชน

ขณะที่ จังหวัดพระเยามีโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบคือ เมืองโบราณเวียงลอ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำอิง น้ำจึงล้นฝั่งท่วมทั้งเมืองโบราณสถานจึงมีน้ำท่วมขังหลายแห่งแต่ไม่พบความเสียหายของตัวอาคาร ส่วนที่จังหวัดเชียงราย โบราณสถานที่ได้รับผลกระทบ คือวัดเสาหิน เป็น วิหารและเจดีย์ขนาดใหญ่ มีน้ำท่วมขังในพื้นที่รอบอาคารแต่ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายของตัวอาคาร

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวอีกว่า กรมศิลปากร ได้วางแนวทางการแก้ไขปัญหา ดังนี้ 1.ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 2.รับฟังข้อมูลจากอาสาสมัครฯ ของกรมศิลปากรที่อยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 3.หลังจากน้ำลดให้เข้าพื้นที่สำรวจตรวจสอบสภาพและความเสียหายโดยด่วน โดยเฉพาะงานศิลปกรรมที่ได้รับความเสียหายต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน 4.วางมาตรการลดความเสี่ยงของโบราณสถานในช่วงฤดูฝนนี้ หากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องครั้งต่อไป เช่น ปกป้องน้ำไม่ให้ท่วมเข้าไปในอาคารโบราณสถานอีก หรืออื่น ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และ 5.หากพบความเสียหายต่ออาคารโบราณสถานให้รีบแจ้งกรมศิลปากรเพื่อดำเนินการฉุกเฉินเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมในส่วนกระทรวงวัฒนธรรม รู้สึกเป็นห่วงและขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคน จึงได้ สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย โดยใช้สายด่วนวัฒนธรรม 1765 ในการรับแจ้งข้อมูลและรวบรวมข้อมูลหน่วยงานในสังกัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และกองพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน รวมไปถึงแหล่งโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย เพื่อสรุปข้อมูลสำหรับลงพื้นที่สำรวจและตรวจสอบสภาพความเสียหายหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย รวมถึงจัดทำแผนช่วยเหลือเบื้องต้น และบูรณะซ่อมแซมในอนาคตต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สทนช. ทำหนังสือด่วนประสานจีน ชะลอระบายน้ำเขื่อนลงแม่น้ำโขง

 

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 16.30 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ระบายน้ำอิงสู่น้ำโขง ณ สะพานบ้านเต๋น ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ติดตั้งเครื่องดันน้ำของโครงการชลประทานเชียงราย เพื่อดันน้ำจากแม่น้ำอิง ลงแม่น้ำโขง บริเวณปากอิง ต.ศรีดอนชัย ที่อยู่ห่างจากสะพานนี้ประมาณ 1 กม. โดยมีนายทวีชัย โค้วตระกูล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงราย และนายอุดม ปกป้องวรกุล นายอำเภอเชียงของ และผู้นำชุมชน ต.ศรีดอนชัย และต.สถานให้การต้อนรับ

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดไม่ได้อยู่เฉย ๆ ปล่อยให้น้ำเอ่อ แต่พยายามทำให้ลงแม่น้ำโขงเร็วที่สุดระยะทางจากพะเยากว่า 100 กม.เพื่อไม่ให้ประชาชนระหว่างทางเดือดร้อน ทั้งที่อำเภอเทิง อำเภอขุนตาล ที่เป็นทางผ่านของแม่น้ำอิง ซึ่งได้รับความเสียหายกันมาก ผสมกับเราเจอน้ำป่า ร่องกดอากาศต่ำพาดผ่าน สังเกตว่าทำไมตกอยู่แต่ที่เชียงราย เป็นเวลาเดือนกว่า ยังไม่ผ่านไปเลย แต่ยังอยู่ที่เชียงรายอยู่

“วันนี้ฝนยังตกเรื่อย ๆ น้ำจากจังหวัดอื่นก็มาสะสม ไหลมารวมกันที่บ้าน พื้นที่เกษตร ปศุสัตว์ประสบกันทั่วหน้า ภาพรวมที่ติดริมน้ำอิง ตั้งแต่เทิง ลงมาพญาเม็งราย และขุนตาล เชียงของ เป็นปลายทางน้ำอิงลงน้ำโขง ที่สังเกตว่าเป็นลานีญา เห็นว่าตกสะสมจึงวันที่ 23 ส.ค. รวม 600 กว่ามิลลิเมตรแล้ว เทียบกับเดือนสิงหาคมปี 2566 รวม 200 กว่ามิลลิเมตรเอง 3 เท่าของปีที่แล้ว ทั้งที่ไม่ครบเดือน อยากเตือนพี่น้องประชาชน เป็นประเด็นปัญหาที่ป้องกันแก้ไขด้วย”ผวจ.เชียงราย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีการเตรียมสร้างเขื่อนปากแบงกั้นแม่น้ำโขงซึ่งห่างจากชายแดนไทยเพียง 96 กม.ทำให้อนาคตยิ่งกลายเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์อีกหรือไม่ นายพุฒิพงศ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้รัฐบาลดูแล ทราบว่ารัฐบกาลกำลังเจรจาอันนี้เป็นเรื่องเหนือขอบเขตอำนาจหน้าที่ และรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจโดยได้เร่งเจรจากำลังทำอยู่ ส่วนตนมีหน้าที่รักษาพื้นที่ภาย ทำอย่างไรให้เราเดือดร้อนน้อยที่สุด และเร่งน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด “เรื่องนี้ผมไม่สามารถตอบได้ ต้องเป็นรัฐบาลและกระทรวงต่างประเทศ”

ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์ระดับน้ำล่าสุดในแม่น้ำโขงวัดที่อำเภอเชียงของ พบว่าปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งโดยวัดล่าสุดในช่วง 18.00 น.อยู่ที่ 10.30 เมตร

เย็นวันเดียวกัน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช. ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่มีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นอย่างใกล้ชิด

โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำโขงในหลายพื้นที่ของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

สทนช. จึงได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) ให้ดำเนินการเฝ้าระวัง ศึกษา วิเคราะห์ เพิ่มเติม โดยเฉพาะการวิเคราะห์แนวโน้ม คาดการณ์ วัน เวลา และปริมาณน้ำสูงสุด (Peak) และการสิ้นสุดของสถานการณ์ ณ สถานีต่าง ๆ ตามแนวแม่น้ำโขง 8 จังหวัดของประเทศไทย

โดยให้รายงานผลการดำเนินงานและมีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเสนอแนวทางและมาตรการให้ประเทศสมาชิกของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ได้แก่ ไทย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ได้ทราบและช่วยกันดำเนินการร่วมกันทุกฝ่าย

นอกจากนี้ยังขอให้ MRCS ประสานงานกับ สปป.ลาว เพื่อช่วยในการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง เพื่อบรรเทาผลกระทบและให้ระดับน้ำลดลงจากการล้นตลิ่งของแม่น้ำโขง พร้อมทั้งให้ประสานงานกับจีน เพื่อแจ้งสถานการณ์ในปัจจุบันของลุ่มน้ำโขงตอนล่าง เพื่อให้จีนชะลอการปล่อยน้ำและบริหารจัดการน้ำในเขื่อนแม่น้ำโขงตอนบน ตลอดจนติดตามสถานการณ์การให้ข้อมูลเพื่อประกอบการแจ้งเตือนและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนริมโขงให้มากที่สุด โดย สทนช. จะมีการติดตามสถานการณ์น้ำและประสานงานร่วมกับ MRCS อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขงให้ได้มากที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักข่าวชายขอบ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ภูมิธรรม ควง อนุทิน ลุยน้ำท่วมเชียงราย ไม่เจอตัวผู้ว่าฯ ไม่แน่ใจว่าติดภารกิจ

 

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย ทั้งนี้ นายภูมิธรรมและนายอนุทินพร้อมคณะได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ ณ ที่ว่าการอำเภอเทิง จากนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง เนื่องจากนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายไม่อยู่ในพื้นที่ จากนั้นคณะรองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยที่สถานีขนส่งอำเภอเทิง

นายภูมิธรรมกล่าวว่า การลงพื้นครั้งนี้ เนื่องจากทางรัฐบาลห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพราะน้ำมาเร็วและแรง ซึ่งรับทราบว่าในพื้นที่มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว 1 คน โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เองก็มีความห่วงใยประชาชน แต่ด้วยข้อกฎหมายที่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ก็ได้สั่งการให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนให้ช่วยดูแลพี่น้องประชาชนที่ลำบากอยู่ให้เร็วที่สุด ซึ่งก็น่าดีใจที่ตอนนี้น้ำหลากลดลง ด้วยปกติเชียงรายน้ำจะไหลลงแม่น้ำโขง แต่ขณะนี้ระดับแม่น้ำโขงสูงจึงมีน้ำรอระบาย จึงให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลประชาชน กระทรวงคมนาคมดูแลในส่วนว่ามีจุดใดกีดขวางทางน้ำหรือไม่ แต่ในภาพรวมแล้วสถานการณ์เบาบางลง เพียงแต่การระบายต้องใช้เวลา ฝากกับทางรองผู้ว่าฯไปด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ควรสรุปเป็นบทเรียน จะได้เตรียมการรองรับต่อไปเนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในช่วงมรสุม

“ตอนนี้ทางจังหวัดต้องเตรียมการทำงาน คุยกับรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านก็ได้สั่งการให้ทุกส่วนจัดตั้งศูนย์ดูแลเหตุการณ์อย่างเต็มที่ แต่ก็น่าเสียใจที่วันนี้มาแล้วไม่เจอตัวผู้ว่าฯ ไม่แน่ใจว่าติดภารกิจอะไร ภาวะแบบนี้ควรต้องลงมาดู มาอยู่กับประชาชนเพื่อจะได้เข้าใจปัญหา หาทางบรรเทาให้พี่น้องประชาชน แต่ถึงแม้ผู้ว่าฯไม่อยู่ ก็ขอให้หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ลงพื้นที่ดูแล ส่วนของเครื่องไม้เครื่องมือรัฐมนตรีมหาดไทยท่านก็สั่งการแล้ว ส่วนของอาหารก็มาจากหลายทาง มีโรงครัวพระราชทานเข้ามาหลายคัน เข้ามาดูแลเรื่องอาหารการกิน เอกชนก็เข้ามา หน่วยจิตอาสาเข้ามาช่วยกันแพคของ เป็นเวลาที่ได้พึ่งพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านทรงช่วยราษฎร ทางกระทรวงพาณิชย์เองวันนี้ปลัดมาลงพื้นที่ด้วย จะได้ดูและประสานสิ่งที่ยังขาดเข้ามาช่วยเหลือต่อไป” นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ในวันที่ 25 สิงหาคม จะเข้ามาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อีก โดยได้สั่งการให้สำนักนายกรัฐมนตรีเตรียมถุงยังชีพไว้แล้วอย่างน้อยน่าจะได้เข้ามา 5,000 ชุด และจะได้หารือการช่วยเหลือกับเพิ่มเติมกับทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป แต่ขอฝากพี่น้องประชาชนว่ารัฐบาลมีความห่วงเป็นใย และเรากังวลที่เห็นพี่น้องลำบากและพยายามทำงานเต็มที่เพื่อบรรเทาปัญหาของพี่น้องให้เร็วที่สุด

ด้านนายอนุทินกล่าวว่า การช่วยเหลือทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยได้สนับสนุนเครื่องจักรสาธารณภัย เช่นรถแบ๊กโฮ ขุดตัก เกลี่ยดินที่ถล่มลงมาในพื้นถนน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถสัญจรได้ และขอฝากให้ผู้ว่าฯรีบกลับมาเชียงรายด้วย คนเชียงรายรออยู่

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจใน จ.เชียงราย คณะของนายภูมิธรรมและนายอนุทิน ได้เดินทางไปจังหวัดน่านเพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยใน อ.เมืองน่าน และ อ.ภูเพียง 

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นอกจากการลงพื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือแล้ว นายอนุทินยังได้มอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อติดตามเหตุการณ์อุทกภัยและดินสไลด์ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยนายชาดา พร้อมคณะได้ลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุ ที่หมู่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต รับฟังรายงานสถานการณ์ในภาพรวม พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย จากนั้นร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสา ภาคประชาชนประมาณ 100 คน ดำเนินกิจกรรม Big Cleaning Day ปัดกวาด เคลียร์พื้นที่เกิดเหตุด้วย

“นายอนุทินให้ความสำคัญกับการติดตามเหตุการณ์ดินสไลด์ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีการกำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ดูแลความปลอดภัยประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ วันนี้จึงได้มอบหมายให้นายชาดาลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ล่าสุด พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News