Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เที่ยวเชียงรายสัมผัสธรรมชาติ 6 เส้นทางวิถีชุมชน คนกับป่า

พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างรายได้สู่ชุมชน

เชียงราย, 10 มีนาคม 2568 – นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการ 6 เส้นทางหมู่บ้านท่องเที่ยว “วิถีชุมชนคนกับป่า” ณ โรงเรียนปางมะกาดวิทยาคม ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย โดยมีนางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย, นายพงศ์ศักดิ์ เพชรคงแก้ว นายอำเภอเวียงป่าเป้า, นางสาวทัศนาภรณ์ จันทร์ดง พัฒนาการอำเภอเวียงป่าเป้า พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม

พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เชื่อมโยงคนกับธรรมชาติ

อำเภอเวียงป่าเป้าถือเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยมีหลายหมู่บ้านที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ บ้านขุนลาว บ้านห้วยคุณพระ บ้านปางมะกาด บ้านห้วยน้ำกืน บ้านห้วยมะเกลี้ยง และบ้านแม่หาง เส้นทางเหล่านี้มีจุดเด่นด้านการ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวิถีชุมชน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสธรรมชาติ เที่ยวป่าต้นน้ำ ชมน้ำตก ชิมชา กาแฟอินทรีย์ และเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น

การเปิดเส้นทาง “วิถีชุมชนคนกับป่า” เป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน และสร้างรายได้ให้แก่คนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังเป็นการกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน

6 เส้นทางหมู่บ้านท่องเที่ยว เชื่อมโยงธรรมชาติและวัฒนธรรม

1. หมู่บ้านปางมะกาด (หมู่ 8 ต.แม่เจดีย์)

  • สักการะพระธาตุปางมะกาด

  • เยี่ยมชมสวนชาและกาแฟ

  • เที่ยวน้ำตกเลาลี

  • ชมสวนดอกซิมมีเดียมและดอกนางลาว

  • ช้อปผลิตภัณฑ์ชุมชน: ชา กาแฟ น้ำผึ้งป่า

2. บ้านห้วยน้ำกืน (หมู่ 13 ต.แม่เจดีย์)

  • ไหว้พระเจ้าพ่อคูณสาม

  • ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ดอยป่า ดอยมด

  • ชมดอกซากุระและดอกกุหลาบพันปี

  • เยี่ยมชมสวนชาและกาแฟ

  • ช้อปผลิตภัณฑ์ชุมชน: ชา กาแฟ น้ำผึ้งป่า

3. บ้านขุนลาว (หมู่ 7 ต.แม่เจดีย์ใหม่)

  • ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ

  • เที่ยวน้ำตกขุนลาว

  • ชมสวนชาและกาแฟพันธุ์พิเศษ

  • เดินชมวิถีชีวิตชุมชน

  • ช้อปผลิตภัณฑ์ชุมชน: ชา กาแฟ สบู่กาแฟ น้ำพริกตาแดง

4. บ้านห้วยคุณพระ (หมู่ 12 ต.แม่เจดีย์ใหม่)

  • นมัสการพระที่อาราม

  • เดินชมวิถีชีวิตชุมชน

  • เยี่ยมชมสวนชาและกาแฟ

  • เช็คอินที่ “แผ่นดินหวิด”

  • ช้อปผลิตภัณฑ์ชุมชน: ชา กาแฟ น้ำผึ้งป่า

5. บ้านแม่หาง (หมู่ 7 ต.ป่างิ้ว)

  • เยี่ยมชมไร่ชาในชุมชน

  • เที่ยวน้ำตกห้วยต้นซ้อ

  • ไหว้พระขอพรที่วัดแม่หาง

  • ท่องเที่ยวดอยแปคมดาบ

  • ช้อปผลิตภัณฑ์ชุมชน: ชา กาแฟ น้ำผึ้งป่า

6. บ้านห้วยมะเกลี้ยง (หมู่ 8 ต.ป่างิ้ว)

  • ชมวิถีชีวิตชุมชนปกาเกอะญอ

  • นมัสการพระธาตุดุสิตาผาโง้ม

  • ไหว้พระเจ้าทันใจ

  • ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ

  • ช้อปผลิตภัณฑ์ชุมชน: ชา กาแฟ น้ำผึ้งป่า

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม

โครงการนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเชียงราย เพิ่มรายได้ให้ชุมชนกว่า 30% ภายในปีแรก และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น โดยข้อมูลจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2567) ระบุว่า เชียงรายมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละกว่า 2 ล้านคน และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม บางฝ่ายแสดงความกังวลว่าการพัฒนาการท่องเที่ยวอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหาขยะและการใช้ทรัพยากรที่เพิ่มขึ้น นักอนุรักษ์เสนอให้มีมาตรการควบคุมและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ธรรมชาติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2567) / รายงานการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ปี 2567 / ข้อมูลจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

‘เชียงราย’ ปี 67 เที่ยวสุดคุ้ม “ชาวต่างชาติ” พักนานเฉลี่ย 5.74 คืน

เชียงรายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทย สร้างรายได้ท่องเที่ยวกว่า 38,493 ล้านบาทในปี 2567

เชียงราย, 9 มีนาคม 2568 – รายงานข้อมูลจาก TAT Intelligence Center และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยให้เห็นว่า จังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศมาเลเซีย ฝรั่งเศส สเปน สหรัฐอเมริกา และอิตาลี ซึ่งเลือกพักในเชียงรายโดยเฉลี่ย 5.74 คืน ส่งผลให้จังหวัดมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 38,493 ล้านบาท ในปี 2567

เชียงราย: จุดหมายปลายทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

เชียงรายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจาก มาเลเซีย (12.67%) ฝรั่งเศส (11.69%) สเปน (8.93%) สหรัฐอเมริกา (6.65%) และอิตาลี (5.62%) ที่เลือกเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งในด้านของธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และความเงียบสงบที่เป็นเอกลักษณ์

รายงานระบุว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงรายมีระยะเวลาเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 5.74 คืน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นในภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ (5.56 คืน) และ ลำปาง (4.32 คืน)

 

พฤติกรรมนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ปี 2567

โครงการสำรวจเพื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ปี 2567 ได้ศึกษาค่าเฉลี่ยจำนวนคืนที่นักท่องเที่ยวแต่ละคนพำนักในจังหวัดต่างๆ โดยมีข้อมูลจาก TAT Intelligence Center พบว่า กรุงเทพมหานคร มีค่าเฉลี่ยพัก 5.52 คืน โดยตลาดนักท่องเที่ยวหลักมาจาก จีน (23.29%) อินเดีย (6.33%) เกาหลีใต้ (6.04%) มาเลเซีย (4.99%) และเวียดนาม (4.26%)

ในขณะที่ จังหวัดท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ มีค่าเฉลี่ยการพำนักดังนี้:

  1. ชลบุรี – ค่าเฉลี่ย 6.34 คืน (จีน 26.13%, อินเดีย 13.58%, รัสเซีย 13.38%, เกาหลีใต้ 5.65%, เวียดนาม 4.34%)
  2. ภูเก็ต – ค่าเฉลี่ย 5.72 คืน (จีน 22.59%, อินเดีย 9.08%, รัสเซีย 5.86%, สหราชอาณาจักร 4.71%, สหรัฐฯ 4.62%)
  3. กระบี่ – ค่าเฉลี่ย 3.11 คืน (จีน 13.59%, อินเดีย 10.16%, มาเลเซีย 7.79%, สหราชอาณาจักร 7.1%, ฝรั่งเศส 5.99%)
  4. สงขลา – ค่าเฉลี่ย 5.05 คืน (มาเลเซีย 94.34%, สิงคโปร์ 2.33%, อินโดนีเซีย 1.38%, จีน 0.5%, ลาว 0.14%)
  5. เชียงใหม่ – ค่าเฉลี่ย 5.56 คืน (จีน 13.59%, สหราชอาณาจักร 8.02%, สหรัฐฯ 8.00%, ฝรั่งเศส 6.88%, มาเลเซีย 6.62%)
  6. สุราษฎร์ธานี – ค่าเฉลี่ย 7.14 คืน (เยอรมนี 14.31%, สหราชอาณาจักร 11.35%, ฝรั่งเศส 8.8%, อิสราเอล 6.79%, ออสเตรเลีย 5.1%)
  7. พังงา – ค่าเฉลี่ย 2.70 คืน (จีน 13.19%, มาเลเซีย 10.6%, เยอรมนี 9.33%, ฝรั่งเศส 6.93%, เกาหลีใต้ 5.43%)
  8. เชียงราย – ค่าเฉลี่ย 5.74 คืน (มาเลเซีย 12.67%, ฝรั่งเศส 11.69%, สเปน 8.93%, สหรัฐฯ 6.65%, อิตาลี 5.62%)
  9. ประจวบคีรีขันธ์ – ค่าเฉลี่ย 6.11 คืน (สหราชอาณาจักร 9.2%, รัสเซีย 7.63%, ไต้หวัน 6.76%, จีน 6.15%, เยอรมนี 5.8%)

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เชียงรายเป็นที่นิยม

  1. ธรรมชาติและวัฒนธรรม
    • เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีภูมิประเทศสวยงาม โดดเด่นด้วยภูเขา ป่าไม้ และแม่น้ำโขง นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม เช่น วัดร่องขุ่น วัดร่องเสือเต้น และพระตำหนักดอยตุง ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
  2. การเดินทางสะดวกขึ้น
    • สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีเที่ยวบินตรงจากหลายประเทศ เช่น จีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งช่วยกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น
  3. แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเชิงอนุรักษ์
    • มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ อาทิ สปา ธรรมชาติบำบัด และโยคะ รวมถึงแนวคิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

สถิติท่องเที่ยวประเทศไทย ปี 2567

รายงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 35.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.27% จากปี 2566 สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.67 ล้านล้านบาท

10 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุดในปี 2567

  1. จีน 6,733,162 คน
  2. มาเลเซีย 4,952,078 คน
  3. อินเดีย 2,129,149 คน
  4. เกาหลีใต้ 1,868,945 คน
  5. รัสเซีย 1,745,327 คน
  6. ลาว 1,124,202 คน
  7. ไต้หวัน 1,089,910 คน
  8. ญี่ปุ่น 1,050,904 คน
  9. สหรัฐอเมริกา 1,030,733 คน
  10. สิงคโปร์ 1,009,640 คน

ด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ นักท่องเที่ยวไทยเที่ยวในประเทศ มีจำนวนรวม 198.69 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 7.02% จากปีก่อน สร้างรายได้ 950,000 ล้านบาท

เชียงราย: หนึ่งในจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด

เชียงรายเป็น หนึ่งใน 5 จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยสูงสุด โดยอยู่ในอันดับที่ 5 ด้วยรายได้ 38,493 ล้านบาท รองจาก กรุงเทพฯ (173,181 ล้านบาท) ชลบุรี (103,987 ล้านบาท) เชียงใหม่ (60,783 ล้านบาท) และประจวบคีรีขันธ์ (43,066 ล้านบาท)

ในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวในประเทศ มีจำนวนรวม 198.69 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 7.02% เทียบกับปีที่ผ่านมา สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศ 950,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.03%

5 อันดับจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปมากที่สุด:

  1. กรุงเทพมหานคร – 30.80 ล้านคน
  2. ชลบุรี – 15.51 ล้านคน
  3. กาญจนบุรี – 14.70 ล้านคน
  4. ประจวบคีรีขันธ์ – 10.83 ล้านคน
  5. เพชรบุรี – 10.72 ล้านคน

ข้อคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่าง

จากข้อมูลที่ได้รวบรวมมา มีข้อคิดเห็นจากสองมุมมองที่เกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวในเชียงราย ได้แก่:

  1. มุมมองเชิงบวก:
  • เชียงรายกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ
  • การเดินทางที่สะดวกขึ้นช่วยเพิ่มศักยภาพของจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคเหนือ
  • รายได้จากการท่องเที่ยวสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และสร้างอาชีพให้กับประชาชน
  1. มุมมองเชิงกังวล:
  • การเติบโตของนักท่องเที่ยวอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หากไม่มีมาตรการจัดการที่ดี
  • เชียงรายยังคงเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศจากไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดในสายตานักท่องเที่ยว
  • จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ค่าครองชีพในพื้นที่สูงขึ้น

ภาพรวของเชียงราย

เชียงรายยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวไทย โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรปและเอเชียที่เลือกเข้าพักเฉลี่ย 5.74 คืน ซึ่งสูงกว่าหลายจังหวัดในภาคเหนือ ข้อมูลจากปี 2567 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ก็ต้องมีการพัฒนามาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวในระยะยาว

สรุปภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย

เมื่อรวมรายได้จากทั้งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวในประเทศ ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 2.62 ล้านล้านบาท ในปี 2567 แม้ว่าจะยังต่ำกว่าเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ตั้งไว้ 3 ล้านล้านบาท แต่ถือเป็นแนวโน้มเชิงบวกที่แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19

ในอนาคต ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนและการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังเมืองรองจะเป็นกุญแจสำคัญ ในการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา / TAT Intelligence Center / โครงการสำรวจเพื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ปี 2567

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FOOD

Four Hands Dinner เชียงราย ร่วมสัมผัสไฟน์ไดนิ่งกับเชฟมิชลินสตาร์

สัมผัสประสบการณ์ Four Hands Dinner โดยเชฟมิชลินสตาร์ที่อนันตราสามเหลี่ยมทองคำ เชียงราย

อนันตราสามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท เชียงราย เชิญคุณร่วมเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษกับ Four Hands Dinner ที่ผสานเสน่ห์ของอาหารฝรั่งเศสระดับไฟน์ไดนิ่งเข้ากับเอกลักษณ์ของอาหารพื้นเมืองล้านนา นำเสนอโดยเชฟมิชลินสตาร์ชื่อดังระดับโลก

เชฟผู้สร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษ

ร่วมดื่มด่ำกับ 6 คอร์สเมนูที่รังสรรค์โดย เชฟอาร์โนด์ ดูนองด์ (Arnaud Dunand) เชฟเจ้าของร้าน Maison Dunand ที่คว้ารางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาวจาก The MICHELIN Guide Thailand ในปี 2023 และอดีตหัวหน้าเชฟร้าน Le Normandie ระดับมิชลิน 2 ดาว พร้อมด้วย เชฟพิสิษฐ์ จิโนพงค์ (เชฟจีโน่) เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟผู้มากประสบการณ์กว่า 30 ปี

เชฟอาร์โนด์ นำเสนอกลิ่นอายของแคว้น Savoie ประเทศฝรั่งเศส บ้านเกิดของเขา ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูงจากฝรั่งเศส ผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นเชียงราย ในขณะที่เชฟจีโน่จะเน้นการประยุกต์และยกระดับอาหารพื้นบ้านภาคเหนือ ให้เป็นเมนูระดับห้าดาว

รายละเอียดของงาน

  • วันจัดงาน: 24 มกราคม 2568
  • เวลา: 18.00 น.
  • สถานที่: ห้องอาหารแสมสาร โรงแรมอนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท เชียงราย
  • ราคา: 5,500++ บาทต่อท่าน (รวมไวน์แพร์ริ่ง)

เสน่ห์แห่งอาหาร 6 คอร์สระดับไฟน์ไดนิ่ง

ทุกเมนูถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์และความพิถีพิถันของอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย และอาหารล้านนาแบบประยุกต์ ให้คุณดื่มด่ำกับรสชาติที่กลมกล่อม พร้อมสัมผัสบรรยากาศริมแม่น้ำโขงในช่วงค่ำคืน

การสำรองที่นั่ง

หากคุณไม่อยากพลาดโอกาสพิเศษนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 053-784-084

สรุป

Four Hands Dinner ครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษที่รวมตัวเชฟระดับมิชลินสตาร์และเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟผู้เชี่ยวชาญ มอบประสบการณ์สุดพิเศษที่ผสานเสน่ห์อาหารฝรั่งเศสและล้านนาในบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟริมแม่น้ำโขง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อนันตราสามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

‘นครเชียงรายเกมส์’ กรีฑาสูงอายุ สร้างมิตรภาพและสุขภาพดี

จังหวัดเชียงรายเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศประเทศไทย ครั้งที่ 29 “นครเชียงรายเกมส์”

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ณ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศประเทศไทย ครั้งที่ 29 ประจำปี 2568 ภายใต้ชื่อ “นครเชียงรายเกมส์” โดยมีแนวคิด “สปิริต สร้างมิตรภาพในเกมส์กีฬา” พร้อมคำขวัญ “กอดเชียงรายสักครั้ง จะรักตลอดไป” ทั้งนี้ มีน้องกอดอุ่นเป็นสัญลักษณ์การแข่งขัน ซึ่งสะท้อนถึงความอบอุ่นและมิตรภาพที่เชียงรายพร้อมมอบให้ผู้เข้าร่วมงาน

การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างจังหวัดเชียงราย สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงราย และสำนักงานกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงราย โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย มีนักกีฬาทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมกว่า 2,000 คน

รายการแข่งขันและไฮไลต์สำคัญ

การแข่งขันจะแบ่งออกเป็นกีฬาประเภทลู่ 15 รายการ และกีฬาประเภทลาน 8 รายการ โดยแบ่งรุ่นอายุออกเป็น 15 รุ่น ตั้งแต่กลุ่มอายุ 35-39 ปี จนถึงกลุ่มอายุ 105-109 ปี โดยมีนักกีฬาที่อายุมากที่สุดในปีนี้มาจากจังหวัดระยอง อายุ 104 ปี และตัวแทนนักกรีฑาจังหวัดเชียงรายที่อายุมากที่สุด อายุ 97 ปี ถือเป็นไฮไลต์ที่สะท้อนถึงความแข็งแรงและสปิริตของนักกีฬาสูงอายุอย่างแท้จริง

การเตรียมความพร้อมในฐานะเจ้าภาพ

เพื่อให้การจัดการแข่งขันเป็นไปอย่างเรียบร้อย จังหวัดเชียงรายได้จัดประชุมคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เช่น การอำนวยความสะดวกด้านสถานที่ การต้อนรับนักกีฬาและผู้ติดตาม การดูแลความปลอดภัย และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมวัฒนธรรมล้านนาและการประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและนานาชาติ

กิจกรรมพิเศษ

การแข่งขัน “นครเชียงรายเกมส์” ครั้งนี้ยังมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม เช่น การแสดงศิลปะล้านนา การจัดตลาดนัดวัฒนธรรมที่รวบรวมสินค้า OTOP และของดีจากชุมชนในจังหวัดเชียงราย รวมถึงกิจกรรมเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดร่องขุ่น ดอยแม่สลอง และพิพิธภัณฑ์บ้านดำ เพื่อสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน

ส่งเสริมสุขภาพและมิตรภาพ

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันกรีฑาสูงอายุครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมสุขภาพกายและใจของผู้สูงวัย แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้สังคมเห็นถึงศักยภาพของผู้สูงอายุ อีกทั้งยังส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชนและนักกีฬาจากทั่วประเทศ

เป้าหมายของการแข่งขัน

“นครเชียงรายเกมส์” ไม่ได้มุ่งหวังเพียงการชิงชัยในสนามกีฬา แต่ยังเป็นเวทีที่สร้างความสามัคคีและกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและการดูแลตนเอง การจัดงานนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาศักยภาพด้านการกีฬาและการจัดงานระดับประเทศของจังหวัดเชียงราย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยั่งยืน

ปิดท้ายด้วยคำขวัญ

“กอดเชียงรายสักครั้ง จะรักตลอดไป” คำขวัญที่สะท้อนถึงความอบอุ่นของเมืองเชียงรายที่พร้อมต้อนรับนักกีฬาและผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลกอย่างเต็มที่.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเปิดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว มุ่งคุณภาพและความยั่งยืน

เชียงรายเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดปี มุ่งเน้นความยั่งยืนและคุณภาพ

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 เวลา 16.00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงราย ชั้น G Zone Grand Hall นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ภายใต้โครงการพัฒนากิจกรรมและการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ โดยมี นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการ สื่อมวลชน และประชาชนร่วมงานอย่างคึกคัก

กิจกรรมนี้จัดขึ้นโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการให้มีคุณภาพ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ อาทิ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวโดยชุมชน

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ กล่าวถึงจุดเด่นของจังหวัดเชียงรายว่า เชียงรายมีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 2 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ทำให้จังหวัดมีความหลากหลายทั้งด้านแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม และประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ล้านนา รวมถึงความหลากหลายของชาติพันธุ์ กิจกรรมเชิงสุขภาพที่รองรับทุกวัย และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม

กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 มกราคม 2568 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น

  • ลานนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว: ให้ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปี
  • บูธแสดงและจำหน่ายสินค้า: ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่สะท้อนอัตลักษณ์ของเชียงราย
  • กิจกรรม Workshop: สาธิตและให้ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์

ผู้ที่สนใจสามารถร่วมงานได้ ณ ชั้น G Zone Grand Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย

นายนรศักดิ์ กล่าวปิดท้ายว่า กิจกรรมนี้จะช่วยเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว พร้อมทั้งกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดเชียงราย และย้ำถึงความสำคัญของการดื่มด่ำธรรมชาติ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพทั้งกายและใจ

กิจกรรมดังกล่าวสะท้อนถึงความพร้อมของจังหวัดเชียงรายในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท พร้อมสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและยั่งยืนสำหรับผู้มาเยือน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายพัฒนาเว็บไซต์ท่องเที่ยวด้วย Big Data และ AI

เชียงรายจัดประชุมพัฒนาการท่องเที่ยวด้วย Big Data และเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น. ณ ห้องวิสต้าไพรเวท ชั้น 2 โรงแรมแกรนด์วิสต้า เชียงราย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ได้จัดการประชุมสำคัญเพื่อระดมความคิดเห็นในการออกแบบเว็บไซต์และฐานข้อมูลสำหรับโครงการ Chiang Rai Digital Tourism ซึ่งมุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยวของเชียงราย

การประชุมครั้งนี้มี นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม พร้อมทั้งมีนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism โดยมีผู้แทนส่วนราชการและเครือข่ายภาคเอกชนในจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

โครงสร้างหลักของเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism

ภายในงานนี้ คณะทำงานได้นำเสนอโครงสร้างหลักของเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เข้าใจถึงแนวคิดและการทำงานของเว็บไซต์ที่กำลังจะถูกพัฒนาขึ้น โดยเน้นไปที่การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อช่วยให้สามารถวิเคราะห์และติดตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้อย่างแม่นยำ

ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อสร้างเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์

กิจกรรมระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบแผนที่ (Google Map) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ทั้งในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และเส้นทางการเดินทางที่น่าสนใจ

การใช้ปัญญาประดิษฐ์และ Google Map เพื่อยกระดับเว็บไซต์ท่องเที่ยว

การประชุมยังได้พูดถึงความสำคัญของการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการทำงานของเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism ซึ่ง AI จะสามารถช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวตามความสนใจของนักท่องเที่ยวแต่ละคน โดยใช้ข้อมูลที่ได้จาก Big Data นอกจากนี้ยังมีการนำ Google Map มาใช้เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูลแผนที่และการเดินทาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถค้นหาตำแหน่งของแหล่งท่องเที่ยวได้ทันทีบนเว็บไซต์

สรุปประเด็นการระดมความคิดเห็นและตอบข้อซักถามจากผู้เข้าร่วม

ในช่วงสุดท้ายของการประชุม คณะทำงานได้สรุปประเด็นที่ได้จากการระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้งานระบบ AI และ Google Map ในการพัฒนาเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อให้การพัฒนาเว็บไซต์ดังกล่าวตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว

การประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่นและเป็นระบบ

การประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยมี นายจิรัฏฐ์ ยุทธ์ธนประวิช นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นตัวแทนจากนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มาร่วมให้ข้อเสนอแนะ และการจัดการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สะท้อนถึงความร่วมมือและการมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายให้ก้าวสู่ความทันสมัย

อนาคตการท่องเที่ยวเชียงรายกับ Chiang Rai Digital Tourism

การประชุมในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เชียงรายกลายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ทันสมัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ด้วยเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกในการวางแผนการท่องเที่ยว ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายเตรียมพร้อมงานลอยสะเปา ล่องนที สลียี่เป็ง ร่วมสืบสานประเพณีไทย

เทศบาลนครเชียงรายเตรียมพร้อมลอยสะเปาล่องนที สืบสานวัฒนธรรมยี่เป็ง

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เทศบาลนครเชียงรายได้จัดการประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับงานประเพณีลอยกระทง “ลอยสะเปา ล่องนที สลียี่เป็ง” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2567 ณ สวนสาธารณะริมน้ำกก หลังวัดฝั่งหมิ่น โดยมุ่งเน้นการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นเชียงราย ให้กับคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสเรียนรู้และร่วมอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามของภาคเหนือ

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย มอบหมายให้นายธเนศ โกมลธง รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วย พ.จ.อ. อัษฎางค์ วิเศษวงศ์ษา ปลัดเทศบาลนครเชียงราย น.ส.วรรณพัชร จินดาขัติ เลขานุการนายกเทศมนตรี นางอำไพ จันทร์เงิน ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เทศบาล ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมกับพี่น้องชุมชนฝั่งหมิ่น เพื่อให้การจัดงานครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีคุณภาพ สร้างความทรงจำที่ดีให้กับผู้ร่วมงาน

กิจกรรมไฮไลท์ในงานลอยสะเปา ล่องนที สลียี่เป็ง งานประเพณีครั้งนี้จะมีการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่สะท้อนถึงความงดงามของวัฒนธรรมท้องถิ่นเชียงราย เช่น

  • การประกวดกระทงใหญ่ ที่จะนำเสนองานฝีมือและการสร้างสรรค์ผลงานจากชุมชนต่าง ๆ
  • การแสดงศิลปวัฒนธรรม โดยมีการแสดงดนตรีพื้นบ้าน การรำยี่เป็งและการแสดงชุดพิเศษที่สื่อถึงความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมไทยล้านนา
  • การประกวดคลิปสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok ภายใต้แนวคิด “ฮีลใจ ฮีลความสุข” โดยผู้เข้าร่วมสามารถสร้างสรรค์คลิปที่เกี่ยวข้องกับงานลอยกระทงในลักษณะการส่งเสริมประเพณีและความสนุกสนานในรูปแบบที่คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงได้

การดูแลความปลอดภัยและสุขอนามัยในงาน เทศบาลนครเชียงรายให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้เข้าร่วมงานเป็นหลัก โดยมีการวางมาตรการควบคุมเพื่อให้ผู้ร่วมงานสามารถสนุกสนานได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ ซึ่งจะมีการตรวจสอบและควบคุมความปลอดภัยในการจัดงานบริเวณริมน้ำกก รวมถึงการควบคุมด้านการกำจัดขยะหลังการจัดงานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การจัดงานลอยกระทงในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสืบสานวัฒนธรรมของชาวเชียงรายแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้กับจังหวัดเชียงราย ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกจังหวัดได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและต้องการสัมผัสบรรยากาศดั้งเดิมของประเพณีลอยกระทงแบบเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

มหกรรมสีสันล้านนาตะวันออก เพิ่มช่องทางการค้าผู้ประกอบการ

แถลงข่าวการจัดงานมหกรรมสีสันล้านนาตะวันออก: เพิ่มช่องทางการค้าผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัว “งานแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (East-Northern Thailand & GMS Expo) หรือ มหกรรมสีสันล้านนาตะวันออก” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้โครงการบูรณาการการค้าและการลงทุนประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย, พะเยา, แพร่, น่าน) และเปิดโอกาสขยายช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น

กระทรวงพาณิชย์เน้นส่งเสริมผู้ประกอบการ

กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังเน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงพันธมิตรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการสร้างช่องทางการตลาดที่หลากหลาย และขยายการเข้าถึงตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับแนวคิด SDGs และ Soft Power เพื่อผลักดันเศรษฐกิจในระยะยาว

การจัดแสดงสินค้าเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้กำหนดการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าทั้งหมด 3 ครั้งในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดนอกภูมิภาค และส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

  • ครั้งที่ 1: วันที่ 30 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครศรีธรรมราช
  • ครั้งที่ 2: วันที่ 13 – 17 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค กรุงเทพมหานคร
  • ครั้งที่ 3: วันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2567 ณ บริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย

เป้าหมายและผลลัพธ์คาดหวัง

การจัดงานในครั้งนี้คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ไม่น้อยกว่า 18 ล้านบาท และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะที่อำเภอแม่สายซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุด

วิสัยทัศน์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน เรามุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางการตลาดให้กับสินค้าและบริการ

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการบูรณาการการค้าการลงทุนประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งจริง ๆ แล้วควรจะเริ่มตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องข้อระเบียบกฎหมายและการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้เริ่มดำเนินการล่าช้า โดยในปีนี้เรามุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจของกลุ่มตำบลที่มีศักยภาพและอัตลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกที่เป็นประตูสู่การค้าในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน เชื่อมโยงกับสถานีการค้าไทย-พม่าและภาคใต้

ทั้งนี้ กลุ่มตำบลเหล่านี้ยังมีมรดกทางศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีที่สามารถนำมาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าที่มีการบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เช่น ข้าว ข้าวโพด ชา กาแฟ ที่มีศักยภาพโดดเด่น

ในวิสัยทัศน์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน เรามุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางการตลาดให้กับสินค้าและบริการ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล สอดคล้องกับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเน้นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ

การจัดงานในครั้งนี้หวังว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายที่เผชิญกับปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา เราต้องการแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของเชียงรายพร้อมฟื้นตัว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการเยียวยาและจะกลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการและประชาชนในจังหวัดภาคเหนือตอนบนสอง และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้

ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พร้อมสำหรับช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึง

นางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย กล่าวเสริมในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีแถลงข่าวในวันนี้ และขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่สนับสนุนงบประมาณและความร่วมมือ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงเครือข่ายในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ที่ร่วมกันผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากที่จังหวัดเชียงรายได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา

ท่านรองผู้ว่าฯ ได้กล่าวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย แต่เราก็ไม่เคยย่อท้อ และพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ ปรับตัว และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พร้อมสำหรับช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ทั้งนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดนโยบายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยมีกิจกรรมหลายครั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เช่น การจัดแสดงสินค้าที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแคและบางกะปิ เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมสินค้าจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 สู่ตลาดในระดับประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ เราได้กำหนดกิจกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อำเภอแม่สาย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยจะมีการจัดงานแสดงสินค้าและส่งเสริมผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพของจังหวัดเชียงรายและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ที่พร้อมจะก้าวเดินไปข้างหน้า

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและร่วมมือกันในครั้งนี้

ผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ผลผลิตเหลือเพียง 200 กว่าตัน

นางศุภมิตร เต็งเผ่ พาณิชย์จังหวัดพะเยา กล่าวว่า ขอบคุณท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและผู้มีเกียรติทุกท่านที่เข้าร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้ สำหรับจังหวัดพะเยาแม้ว่าเราจะเป็นจังหวัดที่แยกออกจากเชียงรายตั้งแต่ปี 2520 แต่เรายังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด โดยสินค้าที่มีความโดดเด่นของพะเยาได้แก่ ข้าวหอมมะลิที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ รวมถึงลิ้นจี่แม่ใจที่ถือเป็นแรร์ไอเท็มเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ผลผลิตเหลือเพียง 200 กว่าตัน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากชุมชนที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ผ้าทอจากวิสาหกิจชุมชนแม่อิง ที่ใช้สีธรรมชาติและโนว์ฮาวจากประเทศญี่ปุ่น

ในด้านอาหารและเครื่องดื่ม พะเยามีปลานิลจากน้ำตกจ้ำปางที่มีความโดดเด่น และไวน์จากแม่นายไวเนอรี่ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการแข่งขันที่ลอนดอน ส่วนเครื่องใช้จากผักตบชวาและเซรามิกซึ่งเป็นการแปรรูปให้ร่วมสมัยก็ได้รับความนิยมในการออกงานที่โตเกียว

นอกจากนี้ พะเยายังมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ปลอดสารเคมี เหมาะสำหรับผู้สูงวัย โดยมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการพัฒนาสินค้าให้ทันสมัยและน่าสนใจ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนในวันนี้และขอฝากสินค้าจากจังหวัดพะเยาไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

แพร่พร้อมเป็นประตูสู่ล้านนาและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ

นายศุภสัณห์ ศิลป์ชูศรี พาณิชย์จังหวัดแพร่ กล่าวว่า กล่าวขอบคุณผู้ร่วมแถลงข่าวในวันนี้ พร้อมกล่าวถึงความพร้อมและความโดดเด่นของสินค้าจากจังหวัดแพร่ โดยเฉพาะสินค้าที่มีอัตลักษณ์และศักยภาพในการแข่งขัน เช่น หมูทุบเพ็ญนภาที่ผลิตด้วยเตาถ่าน ซึ่งเป็นแห่งเดียวในประเทศที่ยังคงใช้เตาถ่านแบบดั้งเดิม รวมถึงสุรากลั่นชุมชนจากตำบลสะเอียบ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาและพร้อมสู้กับสุราเหมาไถของจีน

นอกจากนี้ จังหวัดแพร่ยังมีสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เช่น ปลาปากกาซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของจังหวัด และไม้สักแพร่ซึ่งมีชื่อเสียงระดับประเทศ ผ้าทอจากชุมชนก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์ โดยสินค้าจีไอของจังหวัดแพร่ก็ได้รับการยืนยันต่ออายุแล้ว รวมถึงการผลักดันให้ “ส้มโอขาวน้ำขึ้นเมืองลอง” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอใหม่ของจังหวัด

นายศุภสัณห์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าจังหวัดแพร่พร้อมเป็นประตูสู่ล้านนาและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ โดยมีกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่างที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่ง เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่

ทิ้งท้ายด้วยการเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมชมสินค้าคุณภาพจากจังหวัดแพร่ ที่มีทั้งความหลากหลายและความร่วมสมัย เพื่อต่อยอดความสำเร็จของผู้ประกอบการในภาคเหนือตอนบน 2

สินค้าจากน่านมีเอกลักษณ์และสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น

นางทัศนีย์ กองแดง รักษาการแทนพาณิชย์จังหวัดน่าน กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดน่านในการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สินค้าจากน่านมีเอกลักษณ์และสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น เครื่องเงินที่มีเนื้อเงินบริสุทธิ์ 92.5% ขึ้นไป และผ้าทอลายน้ำไหลที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด รวมถึงผ้าลายใหม่ ๆ ที่ทันสมัย

จังหวัดน่านยังมีสินค้าที่โดดเด่น เช่น เกลือภูเขา ซึ่งเป็นสินค้าจีไอที่ได้รับการรับรอง นอกจากนี้ กาแฟจากน่านก็ได้รับรางวัลชนะเลิศหลายรางวัล และสินค้าจากการเกษตรแปรรูปอย่างมะไฟจีนก็กำลังจะยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นจีไอ

ทางจังหวัดยังส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรในโครงการ “อะโกรว์” ที่รวมผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปไว้ในที่เดียว ผู้บริโภคสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเลือกซื้อสินค้าได้ผ่านช่องทางออนไลน์

พร้อมรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว

นายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมแถลงข่าวและกล่าวถึงสถานการณ์หลังน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย ซึ่งตอนนี้การฟื้นฟูดำเนินไปเกือบสมบูรณ์แล้ว แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ การจัดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยโครงการนี้ถือว่ามาในเวลาที่เหมาะสม ช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

นายภาคภูมิกล่าวว่าการจัดโครงการนี้ไม่เพียงแต่รอรับนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นการทำตลาดเชิงรุก เพื่อให้สินค้าของจังหวัดเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคใต้และกรุงเทพฯ ซึ่งทางหอการค้าก็พร้อมประสานกับหอการค้าในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด

นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการกระจายข่าวว่าเชียงรายพร้อมรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว และเตรียมงานใหญ่ที่อำเภอแม่สายในวันที่ 1-5 ธันวาคม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

สรุปสาระสำคัญ

การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคว่าจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ภาคเหนือพร้อมกลับมาให้บริการด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News