Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สมาคม อบจ. ส่งถุงยังชีพ 3 แสนบาท ช่วยชาวแม่ต๋ำใต้ พญาเม็งราย หลังน้ำท่วม

สมาคม อบจ. แห่งประเทศไทย ส่งมอบน้ำใจสู่เชียงราย 300,000 บาท – ถุงยังชีพ บรรเทาวิกฤตอุทกภัย สะท้อนพลังท้องถิ่นเพื่อประชาชน

เชียงราย, 6 สิงหาคม 2568 – จากอุทกภัยสู่โอกาสในการรวมพลัง สร้างความเข้มแข็งระดับฐานราก จากเหตุการณ์อุทกภัยที่ถาโถมหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงรายในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ทำให้ชุมชนหลายแห่งต้องเผชิญกับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลแม่ต๋ำ อำเภอพญาเม็งราย ที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านสาธารณูปโภคและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

ภายใต้สถานการณ์วิกฤตดังกล่าว สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย หรือ สมาคม อบจ. แห่งประเทศไทย ได้แสดงบทบาทขององค์กรท้องถิ่นระดับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและเข้าถึง เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยมีการมอบถุงยังชีพและเงินสนับสนุนจำนวน 300,000 บาท ให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัย โดยมี นายชาตรี ศรีสันต์ ผู้อำนวยการสำนักงานสมาคมฯ พร้อมผู้บริหารสมาคมฯ ลงพื้นที่ด้วยตนเอง ณ หมู่ 9 ตำบลแม่ต๋ำ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความซาบซึ้งใจและความหวังที่กลับคืนสู่ชุมชน

ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” คำมั่นของเครือข่ายท้องถิ่นเพื่อคนไทยทุกคน

การให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า “น้ำใจของคนไทยไม่เคยเหือดแห้ง” และเมื่อภัยมา ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นจากทั่วประเทศก็จะเคลื่อนไหวในทันที

นายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย และนายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัด อบจ.เชียงราย ได้ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจากสมาคมฯ ด้วยความอบอุ่น พร้อมพาชมสภาพความเสียหายและจุดแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นแก่ประชาชนในพื้นที่

ประชาชนที่เข้ารับถุงยังชีพบางรายกล่าวทั้งน้ำตาว่า “แค่มีคนมาเห็นว่าพวกเราลำบาก ก็รู้สึกมีกำลังใจแล้ว” ขณะที่คำกล่าวจากผู้แทนสมาคมฯ ก็สะท้อนชัดเจนถึงเจตนารมณ์ “เราจะอยู่เคียงข้างประชาชน ไม่ว่าอยู่ห่างไกลเพียงใด”

เจาะโครงสร้างการช่วยเหลือ ตรงจุด ยืดหยุ่น และยั่งยืน

  1. ถุงยังชีพถึงมือในเวลาอันรวดเร็ว

ถุงยังชีพประกอบด้วยของจำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ชุดสุขอนามัย และอุปกรณ์เบื้องต้นที่สามารถช่วยประคับประคองชีวิตในช่วงเวลาวิกฤต ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความหิวโหย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความห่วงใยจากพี่น้องท้องถิ่นทั่วประเทศ

  1. เงินสนับสนุน 300,000 บาท ใช้ได้จริงในพื้นที่

เงินบริจาคจำนวน 300,000 บาท ไม่ได้ถูกโอนเข้ากลางหรือผ่านขั้นตอนราชการหลายชั้น แต่ส่งตรงถึง อบจ.เชียงราย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดประชาชนและเข้าใจสภาพปัญหาในพื้นที่อย่างแท้จริง ทำให้สามารถจัดสรรไปยังจุดที่เดือดร้อนที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมบ้านเรือน เสริมกำลังอาสาสมัคร หรือจัดหาอุปกรณ์ฟื้นฟูในพื้นที่ที่ถุงยังชีพไม่ครอบคลุม

พลังของการรวมตัวในระดับท้องถิ่น

กรณีนี้ถือเป็นแบบอย่างของความเข้มแข็งของเครือข่ายท้องถิ่นในการจัดการภัยพิบัติ โดยเฉพาะใน 3 มิติสำคัญ:

  1. ความคล่องตัวในการบริหารจัดการ

หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเข้าถึงประชาชนได้รวดเร็ว รู้จักภูมิประเทศ และเข้าใจปัญหาเชิงลึก ซึ่งต่างจากการช่วยเหลือจากส่วนกลางที่อาจต้องใช้เวลานาน

  1. การบูรณาการความร่วมมือข้ามจังหวัด

การที่สมาคม อบจ. แห่งประเทศไทย ส่งความช่วยเหลือถึงพื้นที่โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากภาครัฐกลาง เป็นภาพสะท้อนของความพร้อมในการจัดการภายใต้ระบบท้องถิ่นแบบมีประสิทธิภาพ

  1. เสริมความเชื่อมั่นให้ประชาชน

ในยามที่ผู้คนต้องเผชิญกับภัยพิบัติ ความรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้ถูกทอดทิ้ง คือพลังใจที่สำคัญ และเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ประชาชนลุกขึ้นฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

เมื่อท้องถิ่นเข้มแข็ง ประเทศก็มั่นคง

โครงสร้างการบริหารจัดการภัยพิบัติของประเทศที่ผ่านมา มักถูกวิจารณ์ว่าเน้นส่วนกลางมากเกินไป ขาดความยืดหยุ่นและไม่เข้าใจสภาพท้องถิ่นอย่างแท้จริง แต่เหตุการณ์ที่ตำบลแม่ต๋ำครั้งนี้พิสูจน์แล้วว่า ถ้าให้พลังกับท้องถิ่น พวกเขาสามารถจัดการวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แพ้หน่วยงานระดับชาติ

 “น้ำใจ” คือพลังฟื้นฟูที่ดีที่สุด

ในสถานการณ์ที่การฟื้นตัวจากภัยพิบัติต้องใช้เวลานาน การเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือการได้รับการเยียวยาจากใจคนไทยด้วยกันเอง และครั้งนี้ สมาคม อบจ. แห่งประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นว่า “องค์กรท้องถิ่น” คือกลไกที่ทรงพลังในการสนับสนุนชีวิตของประชาชน

การลงพื้นที่ของคณะผู้บริหาร อบจ.จากทั่วประเทศ ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูชีวิตชาวแม่ต๋ำ แต่ยังช่วยฟื้นศรัทธาในระบบท้องถิ่น สร้างภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่า “พวกเขาไม่ใช่แค่หน่วยงาน…แต่คือเพื่อนร่วมชะตากรรมของประชาชนในทุกเหตุการณ์”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย
  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
  • รายงานการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตำบลแม่ต๋ำ อ.พญาเม็งราย
  • บันทึกคำกล่าวผู้แทนประชาชนและผู้นำท้องถิ่น
  • ข้อมูลสนับสนุนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

ผู้ว่าฯ เชียงรายนำทัพเปิด Wellness Trail ครั้งแรก! ส่งเสริมสุขภาพและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าเชียงรายนำทัพเปิดเส้นทาง Wellness Trail ครั้งแรก ส่งเสริมสุขภาพและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

เชียงราย, 13 กรกฎาคม 2568 – ขณะที่ขบวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าเชียงราย พาเที่ยว เพื่อสุขภาพ” ครั้งที่ 1 สู่เส้นทางแห่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์และความหมายต่อชาวเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำคณะลงพื้นที่เพื่อเปิดตัวโครงการ Chiang Rai Wellness City 2025 อย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพควบคู่ไปกับการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ พญาเม็งราย ขุนตาล และเทิง

การเดินทางเพื่อสุขภาพและชุมชน

ในเวลา 08.00 น. คุ้มพญาเม็งรายกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ไม่เพียงแต่เน้นการดูแลสุขภาพ แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงวิถีชีวิตท้องถิ่นเข้ากับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน คณะผู้เข้าร่วม ซึ่งประกอบด้วยนางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย นายอำเภอทั้งสามพื้นที่ และหน่วยงานราชการ ได้รับการต้อนรับด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สะท้อนความงดงามของล้านนา ผู้มาเยือนยังได้สัมผัสผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เปี่ยมด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น แชมพูจากอัญชัน น้ำผึ้งจากบ้านสวนพอเพียง กล้วยอบธัญพืช และสมุนไพรพอกเข่า ซึ่งล้วนเป็นตัวอย่างของการนำทรัพยากรท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่ม

“เราต้องการให้เชียงรายเป็นมากกว่าแค่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว แต่เป็นเมืองที่มอบสุขภาพที่ดีและความยั่งยืนให้กับทั้งนักท่องเที่ยวและชุมชน” นายชรินทร์กล่าวขณะเดินชมบูธผลิตภัณฑ์ชุมชน

จากคุ้มพญาเม็งราย คณะเดินทางต่อไปยังบ้านทุ่งรุ่งอรุณ The Local Khuntan ในอำเภอขุนตาลเมื่อเวลา 10.00 น. ที่นี่ ชาวบ้านได้แบ่งปันเรื่องราวของการปลูกและแปรรูปโกโก้ ซึ่งกลายเป็นสินค้าภายใต้แบรนด์ “ARAMP อารัมภ์” ความสำเร็จของชุมชนนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอัตลักษณ์ท้องถิ่น แต่ยังเป็นตัวอย่างของการสร้างรายได้จากเกษตรแปรรูปที่ยั่งยืน

ในช่วงบ่าย คณะมุ่งหน้าสู่ไร่รื่นรมย์ อำเภอเทิง ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์และพลังงานสะอาด ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์การทำน้ำสมุนไพรออร์แกนิคและการเลี้ยงผึ้งอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรม DIY ที่สร้างความประทับใจและจุดประกายไอเดียให้ผู้มาเยือน

การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและความยั่งยืน

โครงการ Chiang Rai Wellness City 2025 เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2568 เป็น “ปีทองแห่งการท่องเที่ยว” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเมืองรองให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ เส้นทาง Wellness Trail ไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีผ่านการเดินทางและกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ แต่ยังช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์

“การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นแนวโน้มที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก และเชียงรายมีศักยภาพทั้งในด้านทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น” นายเสริฐ ไชยยานันตา กล่าว “เราต้องการให้ทุกคนที่มาเยือนได้รับทั้งความสุขและสุขภาพที่ดี พร้อมกับช่วยให้ชุมชนมีรายได้ที่ยั่งยืน”

ผลลัพธ์การก้าวสู่เมืองแห่งสุขภาพ

กิจกรรมในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทาง Wellness Trail ที่จะจัดต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2568 โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนผ่านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและบริการด้านการท่องเที่ยว จากข้อมูลย้อนหลัง ปี 2566 เชียงรายมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 46,773.91 ล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวกว่า 6.1 ล้านคน การเปิดตัวเส้นทาง Wellness Trail นี้คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ให้สูงกว่า 50,000 ล้านบาทในปี 2568 โดยเฉพาะเมื่อรวมกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การขยายพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสนามบินแม่ฟ้าหลวง

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญอยู่ที่การรักษาความยั่งยืนของทรัพยากรท้องถิ่นและการจัดการจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตชุมชน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การโปรโมทผ่านแพลตฟอร์ม OTA และการพัฒนาระบบจองท่องเที่ยวออนไลน์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง เช่น กลุ่มที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและประสบการณ์ท้องถิ่น

มองไปข้างหน้าเพื่อโอกาสและความยั่งยืน

การเปิดตัวเส้นทาง Wellness Trail เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับเชียงรายให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก โครงการนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์เทรนด์การท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับจังหวัดในฐานะเมืองที่ผสานสุขภาพ วัฒนธรรม และธรรมชาติได้อย่างลงตัว การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและชุมชน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เชียงรายก้าวสู่การเป็น Wellness City อย่างแท้จริง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย. (2566). รายงานสถิติการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ปี 2566.
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.). (2568). แผนปฏิรูปการท่องเที่ยว 5 ปี (2568-2573).
  • กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2568). นโยบายปีทองแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา 2568.
  • ไร่รื่นรมย์. (2568). รายงานกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ อำเภอเทิง.
  • บ้านทุ่งรุ่งอรุณ The Local Khuntan. (2568). ข้อมูลผลิตภัณฑ์โกโก้และการท่องเที่ยวชุมชน.
  • ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย. (2568). แผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสนามบิน.
  • สิงห์ปาร์คเชียงราย. (2568). รายละเอียดการจัดงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ 2568.
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเร่งช่วยน้ำท่วม เปิดศูนย์ PREDOS

เชียงรายเร่งส่งต่อความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่าหลาก แม่เปา อ.พญาเม็งราย
อบจ.เชียงราย ผนึกกำลังท้องถิ่นและภาคีเครือข่ายวางแผนรับมือภัยพิบัติอย่างยั่งยืน

เชียงราย, 4 กรกฎาคม 2568 – องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นำโดยนางอทิตธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วยนายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายก อบจ. ลงพื้นที่มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากในตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากฝนตกต่อเนื่องเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

พิธีส่งมอบสิ่งของจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอพญาเม็งราย โดยมีนายชูสวัสดิ์ สวัสดี นายอำเภอพญาเม็งราย ให้การต้อนรับ พร้อมนำเสนอภาพรวมของสถานการณ์และแนวทางการรับมือภัยพิบัติในพื้นที่

ชื่นชมการประสานงานฉับไว หนุนระบบเตือนภัยทันท่วงที

นายอำเภอพญาเม็งราย กล่าวว่า “จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราได้เตรียมวางแผนล่วงหน้าในทุกมิติ ทั้งการเตรียมกำลังพลและเครือข่ายหน่วยงานต่าง ๆ ที่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ โดยเฉพาะ อบจ.เชียงรายและมูลนิธิต่าง ๆ ที่เข้าพื้นที่รวดเร็วมากทันทีหลังเกิดเหตุเพียงไม่กี่นาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการตอบสนองเหตุฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ”

เขายังกล่าวถึงแผนฟื้นฟูหลังเกิดภัย อาทิ การสำรวจและเยียวยาความเสียหายในด้านชีวิตและความเป็นอยู่ เช่น เครื่องครัว เครื่องนอน รวมถึงบ้านเรือนและทรัพย์สินต่าง ๆ ตามระเบียบของกระทรวงการคลัง โดยมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและส่งเรื่องเพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ

เปิดนโยบายศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติ “PREDOS” รับมือภัยธรรมชาติระยะยาว

นางอทิตธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย กล่าวในพิธีว่า “เชียงรายเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและมีภูมิประเทศซับซ้อน การเกิดน้ำป่าไหลหลากจึงเป็นสิ่งที่ต้องรับมืออย่างต่อเนื่อง ดังนั้น อบจ. ได้จัดตั้ง ศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติ ‘PREDOS’ ซึ่งเป็นนโยบายหลักในการบริหารจัดการภัยพิบัติทั้งระบบ ตั้งแต่การเตรียมพื้นที่กักเก็บน้ำ แก้มลิง การสร้างระบบเตือนภัยร่วมกับ สสน. และการใช้ดาวเทียมของ GISTDA ในการเฝ้าระวังลุ่มน้ำต่าง ๆ”

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ อาทิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และมหาวิทยาลัยพะเยา เพื่อร่วมสำรวจและวางแผนพัฒนาระบบระบายน้ำ รวมถึงการจัดทำข้อมูลร่วมกันผ่านระบบศูนย์กลาง ซึ่งจะถูกส่งต่อถึงระดับอำเภอและท้องถิ่นเพื่อดำเนินการอย่างทันที

เร่งฟื้นฟูพื้นที่และเยียวยาสุขภาพประชาชน

อบจ.เชียงรายยังได้ส่งเครื่องจักรกลเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2568 เพื่อเร่งขุดลอก ล้างดินโคลน และฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งใช้เวลาดำเนินการต่อเนื่องถึง 6 วัน โดยหลังจากเสร็จสิ้นจะทยอยย้ายเครื่องมือไปช่วยเหลือพื้นที่อื่นที่ประสบภัยเช่นกัน

ในส่วนของสุขภาพ อบจ. ยังจัดทีมจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในสังกัด ลงพื้นที่ให้บริการด้านจิตวิทยา การดูแลสุขภาพ และการแจกจ่ายยาให้กับผู้ประสบภัยโดยตรง

ย้ำการทำงานแบบบูรณาการ-เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติอย่างครอบคลุม

นางอทิตธร ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เราจะไม่หยุดแค่การบรรเทาทุกข์เฉพาะหน้า แต่ยังวางแผนระบบฟื้นฟู เยียวยา และป้องกันภัยพิบัติในอนาคตให้ครอบคลุมทั้งน้ำท่วมและปัญหาอื่น ๆ เช่น PM2.5 โดยยกระดับศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติให้เป็นแบบ One Stop Service พร้อมดำเนินการร่วมกับกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ เช่น ปภ., ชลประทาน, เกษตร ฯลฯ เพื่อให้ประชาชนสามารถรับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที”

สถานการณ์ยังคงต้องติดตามใกล้ชิด – มีผู้สูญหายจากน้ำป่าหลาก

แม้การช่วยเหลือจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและครอบคลุม แต่จากรายงานของผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ ยังพบว่ามีผู้สูญหายจากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมค้นหายังคงปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องในการค้นหาร่างผู้สูญหาย ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของทุกภาคส่วนในช่วงเวลานี้

สรุปสถานการณ์ (ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2568)

  • พื้นที่ได้รับผลกระทบ: ตำบลแม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย
  • สาเหตุ: น้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนักต่อเนื่อง
  • การดำเนินการ: อบจ.เชียงรายส่งทีม เครื่องจักร สิ่งของช่วยเหลือ ลงพื้นที่ทันที
  • มาตรการระยะยาว: จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติแบบบูรณาการ (PREDOS)
  • ประเด็นที่ต้องเฝ้าระวัง: การค้นหาผู้สูญหาย และการฟื้นฟูระบบน้ำ-สุขภาพในชุมชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
  • ที่ว่าการอำเภอพญาเม็งราย
  • สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย
  • สำนักงานพัฒนาภาคพลเรือน อบจ.เชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News