- สำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย
- Nakorn Chiang Rai News
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ที่โรงแรมวังคำ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงรายนางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองเด็กใน โครงการพัฒนาระบบและขับเคลื่อนกลไกการปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำปี 2567 โดยมีนางสาวปฏิญญา คงอาวุธ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย นางสาวสิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย นายโสภณ แก้วล้อมทรัพย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย นำบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิศูนย์เพื่อน้องหญิง คณะกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย และผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 51 แห่ง เข้าร่วม
นางสาวปฏิญญา คงอาวุธ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ได้หาแนวทาง วิธีการในการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและส่งเสริมความประพฤติเด็กให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมาตรา 24 ได้กำหนดให้ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่คุ้มครอง สวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในเขตพื้นที่ ที่รับผิดชอบ
โดยมีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กในระดับชาติ และคณะกรรมการคุ้มครองเด็กในระดับจังหวัดเป็นกลไกในการประสานความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เพื่อให้การดำเนินงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก รวมทั้ง แก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชน จึงจำเป็นต้องส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดศูนย์ชุมชนคุ้มครองเด็กระดับตำบล โดยมีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กระดับตำบลเป็นกลไกขับเคลื่อนงานการคุ้มครองเด็ก ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในเขต พื้นที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ปราศจากการถูกกระทำความรุนแรง ถูกทอดทิ้ง ถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบหรือมีพฤติกรรม ไม่สมควรแก่วัย ทำให้เด็กอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัย เอื้ออำนวยให้เด็กและเยาวชนเจริญเติบโตมาเป็นประชากรที่มีคุณภาพในอนาคต
นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาเด็กและเยาวชนที่ตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการถูกกระทำความรุนแรง ถูกทอดทิ้ง ตกอยู่ในสภาพยากลำบาก ถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ หรือเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมอันไม่สมควรแก่วัย รวมไปถึงการขาดโอกาสในด้านต่างๆ ทางสังคมเป็นปัญหาอันดับต้นๆของประเทศ การปกป้องคุ้มครองและการให้ความช่วยเหลือแก่เด็กและเยาวชนจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ หากเด็กและเยาวชนไม่ได้รับการคุ้มครอง ดูแล และช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ
อาจส่งผลกระทบให้เด็กและเยาวชนตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อาจทำให้เด็กและเยาวชนเหล่านั้นตกเป็นผู้เสียหาย ผู้ถูกกระทำ หรือผู้เปราะบางทางสังคมได้ การแต่งตั้งคณะกรรมการคุ้มครองเด็กระดับตำบล (ศูนย์ชุมชนคุ้มครองเด็ก) จึงเป็นเสมือนกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานการคุ้มครองเด็กในระดับ พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถคุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็กและเยาวชนที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนในทุกรูปแบบ จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มอบป้าย “ศูนย์ชุมชนคุ้มครองเด็กในระดับตำบล” ให้กับผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 51 แห่ง
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมการประชุมจะได้รับฟังการบรรยายข้อมูลสำคัญในการพัฒนาศักยภาพ เพิ่มพูนทักษะ องค์ความรู้ให้มีความพร้อม และเท่าทัน ต่อสถานการณ์ปัญหาของเด็กและเยาวชนตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาเชิงประเด็นต่างๆ อันเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในเครือข่ายพื้นที่ของตนเอง อีกทั้งยีงเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายการคุ้มครองเด็กในระดับตำบลในการให้ความช่วยเหลือ และสงเคราะห์คุ้มครองพิทักษ์สิทธิเด็กในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างและบูรณาการกลไกการคุ้มครองเด็กในระดับตำบลในอนาคต
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย