Categories
FEATURED NEWS

“สพฐ.” จับมือ “มูลนิธิยุวพัฒน์” ลดเหลื่อมล้ำช่วยเด็กไทยรอบด้าน

 

เมื่อเร็วๆ นี้ มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) โครงการร้อยพลังการศึกษา เพื่อร่วมมือกันส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนรอบด้าน ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ลงนามโดยนางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กับ มูลนิธิยุวพัฒน์  ลงนามโดยนายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยผู้บริหาร และบุคลากรของทั้งสองหน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ มูลนิธิยุวพัฒน์ อาคารพรีเมียร์ คอร์เปอเรท ปาร์ค กรุงเทพฯ

เกี่ยวกับที่มาของบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ มูลนิธิยุวพัฒน์ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ที่ขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาและพัฒนาเยาวชนมานานกว่า 30 ปี ได้ตระหนักถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ว่า เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จึงได้สร้างการมีส่วนร่วมกับภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชนทั่วไป มาอย่างต่อเนื่อง ในการระดมทรัพยากรด้านต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการศึกษา กระทั่งพร้อมจะขยายผลสู่กลไกภาครัฐ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว  จากการร่วมกันสนับสนุน ติดตามผล ตลอดจนการกำกับดูแลร่วมกันให้ตรงตามเป้าหมาย และยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชนผู้บริจาคทรัพยากรด้านต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้นถึงผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จากความร่วมมือของสองภาคส่วนที่เป็นคู่สัญญาลงนามครั้งนี้

ทั้งนี้ สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระบุถึงเป้าหมายและขอบเขตความร่วมมือว่า เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในประเทศได้รับการสนับสนุนรอบด้าน โดยแต่ละด้านจะมีเครื่องมือภายใต้โครงการร้อยพลังการศึกษาเข้าไปดำเนินงานในโรงเรียนเป้าหมายสังกัดสพฐ.  ประกอบด้วย 1.ด้านโอกาสเข้าถึงการศึกษา ได้แก่ โครงการทุนการศึกษาและการประคับประครอง (มูลนิธิยุวพัฒน์)   2.ด้านคุณภาพการศึกษา ได้แก่ โครงการสื่อดิจิทัลวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (เลิร์น เอ็ดดูเคชัน) ,โครงการสื่อดิจิทัลวิชาภาษาอังกฤษ (วินเนอร์ อิงลิช) โครงการครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง (ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์) และโครงการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัย (ICAP) 3.ด้านทักษะชีวิตและคุณธรรม ได้แก่ โครงการแนะแนวรุ่นใหม่ (a-chieve)  โครงการดูแลนักเรียนผ่านการบูรณาการด้านจิตวิทยาสังคม (สพบ.และเครือข่าย) และโครงการโรงเรียนคุณธรรม (สถาบันพัฒนาโรงเรียนคุณธรรม มูลนิธิยุวพัฒน์)  4.ด้านภาวะโภชนาการ ได้แก่ โครงการฟู้ดฟอร์กู๊ด (มูลนิธิยุวพัฒน์)

สำหรับเครื่องมือทั้งหมดนี้ได้ผ่านการทดลองใช้และดำเนินการจริงในโรงเรียนเครือข่ายของมูลนิธิยุวพัฒน์มาก่อนหน้านี้เป็นจำนวนมากกว่า 1,000 โรงเรียน และมูลนิธิฯ ดำเนินงานด้านการศึกษาและพัฒนาเยาวชนมาเป็นระยะเวลานานกว่า 30 ปี พิสูจน์ได้ถึงประสิทธิผล โดยข้อมูล ณ ปี 2566 พบว่า มีจำนวนนักเรียนกว่า 300,000 คน ที่ได้รับประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้ นับได้ว่าเป็นนวัตกรรมด้านการศึกษาที่ริเริ่มและร่วมดำเนินการโดยหลายภาคส่วน ทั้งภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาครัฐ  จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการขยายผลสู่โรงเรียนต่างๆ ในสังกัดสพฐ..ให้สามารถเข้าถึงเด็กและเยาวชนจำนวนมากขึ้นไปอีก ขนานกันไปประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนเครื่องมือต่างๆเหล่านี้ได้มากขึ้นเช่นกัน

ที่ผ่านมา เครื่องมือทั้งหมดนี้ได้รับทุนสนับสนุนดำเนินงานจากหลากหลายที่มา โดยเฉพาะจากภาคประชาชน ดังนั้น มูลนิธิยุวพัฒน์ในฐานะองค์กรขับเคลื่อนจึงมีมาตรฐานความโปร่งใสในการดำเนินงานเช่นเดียวกับบริษัทมหาชน สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลนิธิยุวพัฒน์ https://www.yuvabadhanafoundation.org/th/home/ และโครงการร้อยพลังการศึกษาได้ที่  https://www.tcfe.or.th/

 

ใต้ภาพ

1 พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) โครงการร้อยพลังการศึกษา ระหว่าง สพฐ.และมูลนิธิยุวพัฒน์

2.พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) โครงการร้อยพลังการศึกษา ระหว่าง สพฐ.และมูลนิธิยุวพัฒน์

3 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ.และนายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิยุวพัฒน์ร่วมกันลงนาม

4 นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิยุวพัฒน์

5 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ.

6 สถาบันพัฒนาโรงเรียนคุณธรรม มูลนิธิยุวพัฒน์ 1ใน 9 เครื่องมือภายใต้โครงการร้อยพลังการศึกษา

7 โครงการฟู้ด ฟอร์ กู๊ด 1ใน 9 เครื่องมือภายใต้โครงการร้อยพลังการศึกษา

8.เครื่องมือในโครงการร้อยพลังการศึกษาที่ขยายผลกับโรงเรียนในสังกัดสพฐ.ตาม MOU นี้

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มูลนิธิยุวพัฒน์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
FEATURED NEWS NEWS

เปิดปฏิทินสอบรับสมัครสอบ แข่งขันครูผู้ช่วย ปี 66

เปิดปฏิทินสอบรับสมัครสอบ แข่งขันครูผู้ช่วย ปี 66

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อเวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 ..ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสพฐกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศวันรับสมัครสอบครูผู้ช่วย ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน 2566 เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ..กำหนด จึงได้กำหนดการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี .. 2566 ดังนี้

 

1. ประกาศรับสมัคร / ภายในวันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566

2. รับสมัคร / วันพุธที่ 31 พฤษภาคม – วันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2566 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)

3. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ ภาค  และ ภาค  / ภายในวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2566

4. ประเมินจากการสอบข้อเขียน

ภาค  ความรู้ความสามารถทั่วไป / วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2566

ภาค  มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ / วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน 2566

5. ประกาศรายชื่อผู้ผ่าน ภาค  และ ภาค  เพื่อมีสิทธิเข้ารับการประเมิน ภาค  / ภายในวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม2566

6. ประเมินจากการสัมภาษณ์ แฟ้มสะสมงาน และการนำเสนอที่แสดงถึงทักษะและศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ภาค  ความเหมาะสมกับตำแหน่ง วิชาชีพและการปฏิบัติงานในสถานศึกษา / ตามวันและเวลาที่ ...เขตพื้นที่การศึกษาหรือ ...สศศกำหนด (ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2566)

7. ประกาศผลการสอบแข่งขัน / ตามวันและเวลาที่ ...เขตพื้นที่การศึกษาหรือ ...สศศกำหนด (ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2566)

 

..ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.obec.go.th หรือโทร. 02 2885511 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลห่วงใยผู้สมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุ และแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตําแหน่งครูผู้ช่วย ให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่จะฉวยโอกาสหลอกลวงเรียกรับเงิน หรือผลประโยชน์โดยแอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้สอบผ่าน หรือเข้ารับการบรรจุในตำแหน่งครูผู้ช่วยได้  หากพบเห็นผู้ที่มีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบทันที หากพบมีการหลอกลวงจริงจะดำเนินคดีตามกฎหมายในทันที 

 

ที่สำคัญกระบวนการรับสมัครและจัดสอบครูผู้ช่วยต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม เพราะหากผู้สมัครเข้ามาสอบรับราชการด้วยวิธีการทุจริต ย่อมกระทบจรรยาบรรณวิชาชีพ อาจถูกตัดสิทธิสอบครูผู้ช่วยตลอดชีวิตและไม่มีสิทธิสอบเป็นข้าราชการได้อีก..ทิพานัน กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สพฐ

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE