Categories
NEWS UPDATE

ตั๋วเครื่องบินสงกรานต์ถูกลง สุริยะจัด 124 เที่ยวบิน ลด 30%

สุริยะ สั่งเพิ่มเที่ยวบิน 124 เที่ยว พร้อมลดค่าตั๋ว 30% แก้ปัญหาราคาตั๋วเครื่องบินแพงช่วงสงกรานต์

คมนาคมเร่งอำนวยความสะดวกประชาชน เตรียมระบบขนส่งรองรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568

ประเทศไทย, 13 มีนาคม 2568 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้มีการประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วง เทศกาลสงกรานต์ วันที่ 11-17 เมษายน 2568 โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาตั๋วเครื่องบินราคาสูงในช่วงที่มีความต้องการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก

สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาตั๋วโดยสารแพง กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาและหารือกับ 6 สายการบินหลักของไทย ได้แก่ การบินไทย, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์, ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท เพื่อเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 124 เที่ยวบิน และเพิ่มที่นั่งรวม 25,000 ที่นั่ง พร้อมทั้งกำหนด ลดราคาตั๋วเครื่องบินลง 30% จากราคาเพดาน สำหรับเที่ยวบินในประเทศที่ได้รับความนิยม

รายละเอียดเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นและมาตรการลดราคาค่าโดยสาร

เส้นทางบินที่มีการเพิ่มเที่ยวบินพิเศษและลดราคาค่าโดยสาร ได้แก่:

  • กรุงเทพฯ – เชียงใหม่
  • กรุงเทพฯ – เชียงราย
  • กรุงเทพฯ – ภูเก็ต
  • กรุงเทพฯ – กระบี่
  • กรุงเทพฯ – สมุย
  • กรุงเทพฯ – นครพนม
  • กรุงเทพฯ – อุดรธานี
  • กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี
  • กรุงเทพฯ – ขอนแก่น
  • กรุงเทพฯ – หาดใหญ่
  • กรุงเทพฯ – นครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ การจำหน่ายตั๋วเครื่องบินตามมาตรการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 11-20 มีนาคม 2568 ผ่านช่องทางจำหน่ายของแต่ละสายการบินโดยตรง เช่น เว็บไซต์, Call Center และเคาน์เตอร์ขายตั๋วที่สนามบิน

ไทยแอร์เอเชีย ขานรับมาตรการรัฐ ลดค่าตั๋ว 30% จองได้ 11-20 มีนาคม

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ทางสายการบินได้เพิ่มเที่ยวบินพิเศษใน 5 เส้นทางหลัก ได้แก่ ดอนเมือง – เชียงใหม่, ดอนเมือง – เชียงราย, ดอนเมือง – นครพนม, ดอนเมือง – อุดรธานี และดอนเมือง – อุบลราชธานี

“เพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ไทยแอร์เอเชียได้เพิ่มเที่ยวบินในบางเส้นทาง เช่น ดอนเมือง – เชียงใหม่ จาก 17 เป็น 18 เที่ยวบินต่อวัน และดอนเมือง – อุดรธานี จาก 5 เป็น 6 เที่ยวบินต่อวัน พร้อมทั้งลดราคาตั๋วเครื่องบิน 30% จากราคาเพดาน โดยสามารถจองตั๋วได้ตั้งแต่ วันที่ 11-20 มีนาคม 2568 ผ่านเว็บไซต์ www.airasia.com, แอปพลิเคชัน AirAsia MOVE และเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารที่สนามบินทั่วประเทศ

มาตรการรองรับการเดินทางช่วงสงกรานต์ 2568

  1. การเพิ่มเที่ยวรถไฟและรถโดยสาร
  • การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพิ่มขบวนรถพิเศษเสริม 5 เส้นทาง รวม 26 ขบวน ไป-กลับ ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่, อุบลราชธานี, อุดรธานี, ศิลาอาสน์ และยะลา คาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้ 758,024 คน-เที่ยว
  • บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เสริมรถโดยสารไม่ประจำทางอีก 1,000 คัน รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 100,000 คน
  1. การเปิดทดลองใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ฟรี
  • M6 (บางปะอิน – นครราชสีมา) ช่วงหินกอง – เลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 167 กิโลเมตร
  • M81 (บางใหญ่ – นครปฐม – กาญจนบุรี) ระยะทาง 96.41 กิโลเมตร
  1. การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ
  • ทางพิเศษบูรพาวิถีและกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) ยกเว้นค่าผ่านทางวันที่ 11 – 17 เมษายน
  • ทางพิเศษศรีรัช เฉลิมมหานคร และอุดรรัถยา ยกเว้นค่าผ่านทางวันที่ 11 – 15 เมษายน
  • มอเตอร์เวย์ M7 (กรุงเทพฯ– บ้านฉาง) และ M9 (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ) ยกเว้นค่าผ่านทางวันที่ 11 – 17 เมษายน
  1. มาตรการเพื่อความปลอดภัยการเดินทาง
  • กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำหนดว่า รถโดยสารไม่ประจำทางที่เดินทางเกิน 400 กิโลเมตร ต้องมีพนักงานขับรถ 2 คน หรือหยุดพักอย่างน้อย 30 นาทีทุก 4 ชั่วโมง
  • ห้ามรถบรรทุกขนส่งสินค้าเดินทางบนถนนบางสาย ระหว่างวันที่ 11 – 13 เมษายน และ 15 – 17 เมษายน
  • GPS ติดตามรถบรรทุก เพื่อลดความเร็วเกินกำหนดและป้องกันอุบัติเหตุ

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  • กระทรวงคมนาคม คาดการณ์ว่าช่วงสงกรานต์ มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะมากกว่า 1.2 ล้านคนต่อวัน
  • สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (2567) รายงานว่า ช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว ราคาเฉลี่ยตั๋วเครื่องบินเพิ่มขึ้นกว่า 40% ส่งผลให้ประชาชนร้องเรียนเป็นจำนวนมาก
  • กรมทางหลวง คาดว่าปริมาณจราจรในช่วงสงกรานต์ปีนี้จะเพิ่มขึ้น 15% จากปีที่แล้ว โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักกรุงเทพฯ – ภาคเหนือ และกรุงเทพฯ – ภาคอีสาน

สรุป

กระทรวงคมนาคมได้เร่งดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ด้วยการเพิ่มเที่ยวบิน 124 เที่ยว พร้อมลดค่าตั๋วเครื่องบิน 30% รวมถึงเสริมระบบขนส่งสาธารณะด้านรถไฟและรถโดยสาร ทั้งนี้ การเปิดให้ทดลองใช้มอเตอร์เวย์ฟรีและมาตรการควบคุมความปลอดภัยในการเดินทางคาดว่าจะช่วยลดปัญหาจราจรติดขัด และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงคมนาคม / สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย / การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) / กรมทางหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

สรงน้ำอนุสาวรีย์พญามังรายมหาราช พร้อมสระเกล้าดำหัวผู้ว่าฯ เชียงราย

 
เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 67  ณ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง อ.เมืองเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ, นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ , นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ และว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมพิธีถวายน้ำสงกรานต์พระเถรานุเถระ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ( ปี๋ใหม่เมือง ) ประจำปี 2567 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และทุกภาคส่วน ร่วมพิธีจำนวนมาก
 
 
ต่อจากนั้น ที่ลานอนุเสาวรีย์พญามังรายมหาราช นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประธานในพิธี พร้อมด้วย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย และรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำข้าราชการ ประชาชน ชาวจังหวัดเชียงราย ร่วมพิธีสรงน้ำอนุสาวรีย์พญามังรายมหาราช เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง ประจำปี 2567 
 
 
โดยจังหวัดเชียงรายได้จัดขบวนอัญเชิญเครื่องถวายสักการะสรงน้ำพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช จากทั้ง 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย ตลอดจนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้ร่วมจัดขบวนเครื่องสักการะ สืบสานประเพณีปี๋ใหม่เมือง โดยเคลื่อนขบวนจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ 2 เชียงราย ผ่านมาตามถนนสิงหไคล ไปยังหน้าพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช ห้าแยกพ่อขุน ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย เพื่อประกอบพิธีสรงน้ำพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช
 
 
โดยในพิธี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานกล่าวคำสูมาคารวะต่อพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช ก่อนจะถวายเครื่องสักการะ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด อำเภอ คหบดี กลุ่มพลังมวลชน และประชาชนทั่วไปร่วมถวายเครื่องสักการะฯ ตามลำดับอนุสาวรีย์พญามังราย มหาราช สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณของปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พญามังราย ผู้ที่ทรงรวบรวมบ้านเล็กเมืองให้เป็นปึกแผ่น จนเกิดเป็นอาณาจักรล้านนาไทยที่เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบัน
 
 
จากนั้นเวลา 15.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานราชการ นายอำเภอ คหบดี พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชน ร่วมพิธี กล่าวคำสูมาคารวะต่อ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงรายและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ (ปี๋ใหม่เมือง) ประจำปี 2567 อย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวให้พรเพื่อเป็นเป็นสิริมงคล เนื่องด้วยพิธีการดำหัวเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที เพื่อขอโทษขออภัยที่เคยล่วงเกินผู้ใหญ่ทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ต่อหน้าหรือลับหลัง รวมถึงเป็นการขอพรจากผู้อาวุโสเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองอีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

AIS เผย จ.เชียงใหม่ ใช้มือถือสูงสุด อันดับ 5 ช่วงสงกรานต์ ปี 2567

 

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2567 โดยจากการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานตั้งแต่วันที่ 12-15 เมษายน 2567 พบข้อมูลที่น่าสนใจอีกหลายประเด็น อาทิ

Top 10 จุดเล่นน้ำใช้อินเทอร์เน็ตฉ่ำที่สุด คือ 1. ถนนข้าวหลาม ชลบุรี 2. ป่าตอง ภูเก็ต 3. ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น 4. ประตูชุมพล นครราชสีมา 5. ถนนข้าวสุก อ่างทอง 6. ไอคอนสยาม กรุงเทพ 7. สยามสแควร์ กรุงเทพ 8. RCA กรุงเทพ 9. ถนนข้าวดอกข่า พังงา 10. ถนนข้าวสาร กรุงเทพ

 

 

ส่วนจังหวัดที่มีการใช้งานมือถือสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, นครราชสีมา, สมุทรปราการ และเชียงใหม่ โดยจังหวัดที่มีการใช้งานเน็ตบ้านสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ชลบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ ซึ่งมีอัตราการเติบโตของการใช้งานสูงขึ้นจากปีก่อน กว่า 15.78% แสดงให้เห็นว่ายังมีลูกค้าที่ใช้เวลาในช่วงวันหยุดยาวทำกิจกรรมร่วมกันภายในบ้านกับครอบครัว

 

ขณะที่จุดท่องเที่ยววันหยุดยาวที่มีการใช้งาน AIS Super Wifi สูงสุด คือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ด้านถนนสายหลักยอดฮิตในการเดินทางที่ใช้งานสูงสุด ได้แก่ ถนนเพชรเกษม, ถนนพหลโยธิน, ถนนสุขุมวิท และถนนมิตรภาพ ตามลำดับ ส่วนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่ถูกใช้งานสูงสุดผ่านมือถือ ได้แก่คือ Facebook, TikTok และ YouTube ตามลำดับ และบนเน็ตบ้าน ได้แก่ Facebook, TikTok และ YouTube เช่นกัน

 

สำหรับคอนเทนต์ที่ถูกรับชมมากที่สุดบน AIS PLAYBOX คือ หนังและซีรีย์ 24% รายการเกี่ยวกับเด็กและครอบครัว 10% โดยพบว่ารายการเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวถูกใช้เวลาในการรับชมนานกว่าหนังและซีรีย์ถึง 2 เท่า แสดงถึงพฤติกรรมการใช้งานของกลุ่มครอบครัวที่ใช้เวลาร่วมกันในช่วงวันหยุดยาว

 

ขณะที่อัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย (Inbound Roamer) เติบโตถึง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และอัตราการเติบโตของการแลกสิทธิเศษในช่วงสงกรานต์ เพิ่มขึ้น 15-30% ต่อวัน โดย Top 3 อันดับ สิทธิพิเศษที่ลูกค้าใช้คะแนน AIS 1 Points แลกมากที่สุด อันดับ 1 คูปองส่วนลดบิ๊กซี มูลค่า 100 บาท อันดับ 2 อุ่นใจซองกันน้ำ และอันดับ 3 แลกรับโค้ดชม WeTV VIP

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : AIS

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

6 วันสงกรานต์! ‘เชียงราย’ ติดอันดับ อุบัติเหตุ -เสียชีวิตสะสมสูงสุด

 
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เม.ย.2567 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ “ขับขี่อย่างปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 242 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 237 คน ผู้เสียชีวิต 32 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 37.60 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.97 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 21.07 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 84.90 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 83.47 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.32 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.23 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 00.01 – 01.00 น. ร้อยละ 11.16 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 20.07 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,756 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,331 คน
 
 
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ แพร่ (13 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ แพร่  (18 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่นและสุรินทร์ (จังหวัดละ 3 ราย)
 
 

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วัน ของการรณรงค์ (11 – 16 เม.ย. 67) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,811 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,837 คน ผู้เสียชีวิต รวม 243 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 9 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (71 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ แพร่ (68 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (15 ราย)

 

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางจุดหมายแล้ว แต่ยังมีบางส่วนอยู่ระหว่างเดินทางกลับ ศปถ.จึงได้กำชับจังหวัดดูแลความปลอดภัยและบริหารจัดการจราจรในเส้นทางสายหลัก เส้นทางเชื่อมต่อถนนสายหลักที่มุ่งสู่กรุงเทพฯ และถนนทางตรงที่มีระยะทางยาว เน้นคุมเข้มการขับรถเร็ว ป้องกันอุบัติเหตุจากการหลับใน และการใช้อุปกรณ์นิรภัยตลอดการเดินทาง รวมถึงเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง และจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงหกวันที่ผ่านมา พบว่า ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือจักรยานยนต์ คิดเป็นร้อยละ 84.90 เพื่อเป็นการลดความรุนแรงของการบาดเจ็บและความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากการใช้ยานพาหนะดังกล่าว ขอให้ประชาชนสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ รวมถึงปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด ขับขี่ด้วยความระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้ร่วมใช้เส้นทาง ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยและเสริมสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ขอให้จังหวัด หน่วยงาน และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมสร้างการรับรู้ผ่านการประชาสัมพันธ์เรื่องพฤติกรรมเสี่ยงหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด การดื่มแล้วขับการตัดหน้ากระชั้นชิด การใช้อุปกรณ์นิรภัย และวิธีการขับขี่ยานพาหนะที่ปลอดภัย รวมถึงการจัดทำใบอนุญาตขับขี่ตามที่กฎหมายกำหนด

 

ด้าน นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบว่า การขับรถเร็วยังคงเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานให้จังหวัดและกรุงเทพมหานครดำเนินการตามมาตรการต่างๆ อย่างเข้มข้น ทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยกวดขันพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด นอกจากนั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ยังคงติดค้างในสถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ท่าเทียบเรือ และสถานีรถไฟทุกแห่ง เพื่อให้สามารถเดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย

 

ขณะที่ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า จากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน พบว่า กลุ่มเด็กและเยาวชนมีอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการขับรถเร็ว การดื่มแล้วขับ การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย และรถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย ศปถ.จึงได้ประสานจังหวัดใช้มาตรการทางสังคมในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในเด็กและเยาวชนตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการดูแลและป้องปรามจากครอบครัว รวมถึงเตรียมสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 โดยตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 11 – 17 เม.ย.67 ผ่านกลไกสนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ เพื่อวิเคราะห์สาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่จะนำไปสู่การกำหนดมาตรการและกลยุทธ์ในการสร้างความปลอดภัยทางถนนทั้งในช่วงปกติและเทศกาลสำคัญให้สอดคล้องกับสถานการณ์และรูปแบบการเดินทางของประชาชนต่อไป

ซึ่งที่ห้องประชุมอู่หลง ศาลากลางจังหวัดเชียงราย พ.ต.อ. สิทธิชัย ไกรแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เป็นประธานประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 จังหวัดเชียงราย โดยได้สรุปผลการดำเนินงานฯ และรายงานข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ประจำวันที่ 16 เมษายน 2567 เกิดอุบัติเหตุในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 10 ครั้ง ในพื้นที่ อำเภอพาน 3 ครั้ง อำเภอพญาเม็งราย 2 ครั้ง อำเภอแม่สรวย อำเภอแม่สาย อำเภอแม่จัน อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอละ 1 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 3 ราย และมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ การขับรถเร็วเกินกำหนด ทัศนวิสัยไม่ดี ดื่มแล้วขับ และตัดหน้ากระชั้นชิดตามลำดับ

 

รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้เน้นย้ำถึงแนวทางมาตรการการดำเนินงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อควบคุมและลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดตามเขตติดต่ออำเภอเป็นส่วนมาก ขอให้เข้มงวดการใช้รถใช้ถนนในหมู่บ้าน ตรวจตราผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้ดำเนินการจัดตั้งด่านชุมชนในพื้นที่ จนสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนด ให้ครอบครัวคอยตักเตือนเมื่อมีการดื่มสังสรรค์ในครอบครัว คนขับต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา จ.เชียงราย เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 71 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 61 ราย เสียชีวิต 15 ราย อำเภอที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 21 ครั้ง และอำเภอที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ได้แก่ อำเภอแม่สาย จำนวน 3 ราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อบจ.เชียงราย ร่วมเปิดงานวัฒนธรรมสายใยชุมชน ต.สันทราย ปี 67

 
เมื่อวันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2567 เวลา 08.30 น. นางทรงศรี คมขำ รองนายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงานวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน ต.สันทราย ประจำปี 2567 โดยมีนายสมบูรณ์ ศรีเมืองแก้ว กำนัน ต.สันทราย กล่าวต้อนรับ นายมงคล สุภามณี นายกเทศมนตรี ต.สันทราย กล่าวรายงาน และมีนายวีระศักดิ์ มโนวรรณ รองนายกเทศมนตรี ต.สันทราย นายบุญเงิน อายุยืน รองนายกเทศมนตรี ต.สันทราย นางณัชชา ชัยวงค์ ประธานสภา ทต.สันทราย ส.ทต.สันทราย ผู้นำท้องถิ่น กลุ่มพัฒนาสตรี ชมรมผู้สูงอายุ และประชาชนในพื้นที่ ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย เข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้ ณ วัดสันทรายหลวง ม. 1 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย
 
 
และในเวลา 10.30 น. นายก นก นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ร่วมเป็นเกียรติมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ที่ได้รับรางวัล ผู้สูงอายุที่มีคุณค่า ต.สันทราย ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดีอายุ 70 ปีขึ้นไป ครอบครัวร่มเย็น 12 ครอบครัว คนดีศรีสันทราย ประจำปี 2567 และได้ร่วมพิธีรดน้ำดำหัวผู้แทนผู้สูงอายุทุกหมู่บ้านในพื้นที่ ต.สันทราย
ภายในงาน มีการเดินขบวนวัฒนธรรม ต.สันทราย นิทรรศการด้านวัฒนธรรม การเเสดงวัฒนธรรม อาทิ ซอพื้นเมือง เเละสล้อซอซึง การเเข่งขันลาบเมือง ประกวดตัดตุง การประกวดการประดิษฐ์บายศรีสู่ขวัญ การประกวดร้องเพลงผู้สูงอายุสันทราย การประกวดส้มตำลีลา เเละการจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ มากมาย สร้างความสมัครสมานสามัคคีระหว่าง องค์กร ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งนี้ยังสอดคล้องกับการส่งเสริมกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน และเศรษฐกิจของ จ.เชียงราย อีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS NEWS UPDATE

เปิดลิสต์ 10 อันดับสินค้าขายดี รับช่วงสงกรานต์ 67 จาก The 1 Insight

 
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ข้อมูลจาก The 1 Insight เผยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นในช่วงวันที่ 1-15 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่เป็นที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นในช่วงสงกรานต์ในทุก ๆ ปี ได้แก่
  • กระเป๋ากันน้ำ +260
  • พัดลม +250%
  • เครื่องปรับอากาศ +230%
  • เสื้อลายดอก +110%
  • น้ำแข็ง +70%
  • ไอศกรีม +60%
  • แป้งทาตัว +50%
  • ครีมกันแดด +40%
  • ยาดม +30%
  • น้ำยาเปลี่ยนสีผม +20%

ซึ่งจะเห็นได้ว่าสินค้าที่ยอดขายเติบโตได้ดี มีทั้งสินค้าจำเป็นในการช่วยดับร้อนในช่วงเดือนเมษายนที่อุณหภูมิสูงสุดในช่วงปี และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการฉลองเทศกาลสงกรานต์

รวมถึงทาง CRC VoiceShare ยังเผยผลสำรวจพฤติกรรมการเดินทางของผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์ พบว่าคนไทยกว่า 60% มีแผนที่จะเดินทางในประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนา โดยนิยมไปเที่ยวทะเลเป็นอันดับหนึ่ง จังหวัดยอดนิยมได้แก่ ชลบุรี ระยอง และภูเก็ต โดยส่วนใหญ่วางแผนเดินทางช่วงก่อนสงกรานต์จนถึงช่วงเทศกาลระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน และมักเดินทางในช่วงสงกรานต์เป็นประจำทุกปี

ในส่วนของค่าใช้จ่าย โดยรวมอยู่ระหว่างช่วง 9,000-18,000 บาท แบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1.ค่าเดินทาง 5,000-10,000 บาท โดยส่วนใหญ่ 72% เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 15% เดินทางโดยขนส่งสาธารณะ และ 13% เดินทางโดยเครื่องบิน 2.ค่าที่พัก 1,000-3,000 บาท 3.ค่ากิน-เที่ยว 3,000-5,000

ส่วนคนไทยอีก 30% ที่เลือกพำนักอยู่ที่อยู่อาศัยในจังหวัดเดิม มักมีกิจกรรมหลัก ๆ คือการใช้เวลากับครอบครัว เดินเล่นในห้างสรรพสินค้าเยี่ยมเยียนและรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมี 10% วางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยกว่าครึ่งตั้งเป้าไปประเทศญี่ปุ่น ตามมาด้วยประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย อาทิ จีน ไต้หวัน เวียดนาม

จากฐานข้อมูล The 1 ยังบ่งชี้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวในปี 2566 ซึ่งภาพรวมเติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึง 200% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอีกในปี 2567 นี้ โดย 3 ประเทศที่ใช้จ่ายสูงสุดได้แก่ จีน มาเลเซีย และรัสเซีย

โดยการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 10 เท่า ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีแนวโน้มเติบโตแตะระดับก่อนเหตุการณ์โควิด-19 เนื่องด้วยนโยบายวีซ่าฟรี ไทย-จีน ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ CRC VoiceShare ยังได้เผยผลสำรวจความเห็นผู้บริโภคในหัวข้อ “เมื่อนึกถึงสงกรานต์ คนแต่ละช่วงวัยนึกถึงอะไร” โดย Gen Z นึกถึง “การเล่นน้ำ” ด้วยความเป็นวัยรักสนุกที่เพิ่งพ้นผ่านช่วงวัยรุ่นมาไม่นาน Gen Y นึกถึง “วันหยุดเทศกาล”

สะท้อนความต้องการ Work-Life Balance เพื่อผ่อนคลายจากการทำงาน Gen X นึกถึง “วันขึ้นปีใหม่” เรียกได้ว่าเป็นโอกาสรวมญาติครั้งสำคัญแห่งปีสำหรับช่วงวัยที่ให้ความสำคัญกับการสร้างครอบครัวอบอุ่น ส่วน Baby Boomers นึกถึง “การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่” สะท้อนการให้คุณค่าของผู้สูงวัยต่อธรรมเนียมปฏิบัติของเทศกาลสงกรานต์

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : The 1 Insight

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS NEWS UPDATE

“ภูมิธรรม” สั่งการกรมการค้าภายใน ตามสินค้าช่วงสงกรานต์อย่างใกล้ชิด

 
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 ที่จะถึงนี้อย่างใกล้ชิด
 

โดยขอให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาสินค้าและบริการช่วงที่คนเดินทางออกต่างจังหวัด เพื่อกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องจนถึงวันที่ประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า และป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา

 

ทั้งนี้ ได้กำชับให้เน้นการตรวจสอบพื้นที่ ๆ มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก อาทิ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สนามบิน รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ และให้ตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงหรือปั๊มน้ำมัน โดยให้ตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายว่ามีปริมาณเต็มลิตรหรือไม่ เพื่อเป็นการดูแลประชาชนที่เดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งจะต้องเน้นในจังหวัดที่เป็นทางผ่านออกไปยังจังหวัดต่าง ๆ และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

สำหรับด้านราคาสินค้าและบริการ ให้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟทั่วประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ให้บริการรับฝากของ บริการรถเข็นสัมภาระ จะต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการให้ชัดเจน และหากมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากราคาหรือค่าบริการก็ต้องแสดงให้ชัดเจนด้วย

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ

 

หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธ การจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงพาณิชย์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัลเชียงราย ร่วมวัฒนธรรมจังหวัด “เปิดศักราชใหม่ ประเพณี ปี๋ใหม่เมือง” ชาวล้านนา

 

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 ณ ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย คุณสายัณห์ นักบุญ ผู้จัดการทั่วไป  พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร พนักงาน ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ร่วมเป็นหนึ่งในการเปิดงาน “เปิดศักราชใหม่ ประเพณี ปี๋ใหม่เมือง” ต้อนรับปีใหม่ของชาวล้านนา ร่วมกันสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามในช่วงเปลี่ยนศักราชใหม่ ประจำปี 2567 โดยมีคุณพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยคุณจักรภัทร แสนภูธร อุปนายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย

 

ในกิจกรรม “เปิดศักราชใหม่ประเพณี  ปี๋ใหม่เมือง”จัดขึ้นเพื่อให้ความสำคัญของประเพณีปี๋ใหม่เมือง โดยถือเป็นการเริ่ต้นศักราชใหม่ การร่วมมือกันอย่างศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงรายและ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย  ถือเป็นประเพณีที่ปรากฏในเดือนเมษายน หรือเดือน 7 เหนือ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนศักราชใหม่ การเอาเดือนเมษายนเป็นเดือนแรกของปีนั้น เพื่อทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ ดำหัว เล่นน้ำ และขอพรจากผู้ใหญ่ เป็นสิริมงคลในชีวิต ตามควมเชื่อของชาวเมืองล้านนาเรา

 

โดยภายในงานพบการแสดงเปิดศักราชใหม่เอาฤกษ์เอาชัยกับการแสดงตีกลองสะบัดชัย จำนวน 9 ชุด เปิดรับความเป็นศิริมงคล, การแสดงฟ้อนเล็บ และการแสดงมหาราชันล้านนา  ที่รวมเอาเยาวชนในจังหวัดเชียงราย ที่มีความรักในศิลปะการแสดงพื้นบ้าน มาแสดงภายในงานมากกว่า 50 ชีวิต อย่างสุดอลังการ

 

ซึ่งศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั่วไทย ยังมีการฉลองยิ่งใหญ่ Thailand’s Songkran Festival 2024ยืนหนึ่ง!! World’s Best Culturetainment  #เทศกาลมหาบันเทิงระดับโลกที่ทุกคนรอคอย ปีนี้ จัดยิ่งใหญ่ ครบทุกความมหาบันเทิง ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั่วประเทศ  

 

เทศกาลดนตรี & สาดน้ำมหาบันเทิง  #มันส์ที่สุดของที่สุด กับ 30 แลนด์มาร์ก World’s Best Water Fight Entertainment เทศกาลดนตรีและสาดน้ำมหาบันเทิง ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั่วไทยสถานที่ดังนี้

 

กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคกลาง

 เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล เวสต์เกต,  เซ็นทรัล ศาลายา, เซ็นทรัล วิลเลจ,  เซ็นทรัล เวสต์วิลล์, เซ็นทรัล มหาชัย, เซ็นทรัล อยุธยา และเซ็นทรัล นครสวรรค์ 

ภาคตะวันออก

เซ็นทรัล ชลบุรี, เซ็นทรัล พัทยา, เซ็นทรัล มารีนา, เซ็นทรัล ศรีราชา, เซ็นทรัล ระยอง, เซ็นทรัล จันทบุรี

ภาคเหนือ

เซ็นทรัล พิษณุโลก, เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, เซ็นทรัล เชียงใหม่, เซ็นทรัล เชียงราย และเซ็นทรัล ลำปาง

ภาคใต้

เซ็นทรัล นครศรี, เซ็นทรัล หาดใหญ่, เซ็นทรัล สมุย, เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี, เซ็นทรัล ภูเก็ต

ภาคอีสาน

 เซ็นทรัล โคราช, เซ็นทรัล ขอนแก่น, เซ็นทรัล อุบล, เซ็นทรัล อุดร

 

เทศกาล #ไทยมหาบันเทิง  ชมการแสดงโชว์เคสสุดพิเศษ “มรดกไทย” ได้รับการยกย่องจาก UNESCO อาทิ   โขน หุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ มโนราห์ และนวดไทย ต้นตำรับนวดวัดโพธิ์  และการแสดงวัฒนธรรมไทยที่หาดูได้ยากจากกระทรวงวัฒนธรรม ตลอดจน ขบวนสงกรานต์มหาบันเทิง กิจกรรมสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีในท้องถิ่น และส่งเสริมวัฒนธรรมไทยมากมาย

เทศกาล #สุขมหาบันเทิง กิจกรรมเสริมสิริมงคลรับปีใหม่ สรงน้ำสักการะขอพรพระพุทธรูปวัดดัง และพระประจำวันเกิด ครอบคลุมทั่วภูมิภาคไทย

เทศกาล #อร่อยมหาบันเทิง เที่ยวตลาดไทยในบรรยากาศเย็นสบาย ลิ้มลองอาหารไทยซิกเนเจอร์ อาหารไทยพื้นถิ่น และผลไม้ไทย

เทศกาล #แต่งชุดไทยมหาบันเทิง พบกับกิจกรรมรณรงค์การแต่งชุดไทย อนุรักษ์ผ้าไทย ผ้าถิ่น พร้อมชูอัตลักษณ์ท้องถิ่นสนับสนุนสินค้าไทย และกิจกรรมเวิร์กช้อปงานคราฟต์มากมาย

 

และเทศกาล #ช้อปมหาบันเทิง พบกับโปรโมชันสำหรับสมาชิก The 1, Central Life X  และ Tourist มากมาย พบกัน 2 เม.ย. 67 -21 เม.ย. 67 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั่วประเทศ

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

สงกรานต์ปลอดเหล้าช่วยเพิ่มความ ปลอดภัย 90.42% ลดอุบัติเหตุ 89.99%

 

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม จัดแถลงข่าว “สงกรานต์วิถีไทย สนุก ปลอดภัย ไร้ความรุนแรง” โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. สนับสนุนให้เจ้าภาพจัดงาน และเจ้าของสถานที่ในพื้นที่ต่างๆ จัดงานสงกรานต์และส่งเสริมให้มีพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า จากผลการสำรวจความคิดเห็นคนไทย 939 คน และต่างชาติ 400 คน ใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ ในช่วงสงกรานต์ปี 2566  พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติพอใจการจัดงานสงกรานต์ปลอดเหล้ามากถึง 88.90% ขณะที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการจัดสงกรานต์แบบปลอดเหล้า 75.83% เห็นด้วยจัดโซนนิ่งเล่นน้ำ 79.23% เห็นด้วยกับมาตรการควบคุมไม่ให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มในพื้นที่จัดงาน 77.74% เห็นด้วยที่เจ้าภาพจัดงานไม่รับสปอนเซอร์จากธุรกิจเหล้า-เบียร์ 73.16% เมื่อถามถึงประโยชน์ของการจัดงานแบบปลอดเหล้า พบว่า ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้เพิ่มมากขึ้น 90.42% สามารถลดอุบัติเหตุ 89.99% ลดการทะเลาะวิวาท 89.67% ลดการลวนลามล่วงละเมิดทางเพศ 85.20% และเห็นว่าการจัดงานแบบปลอดเหล้าไม่ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง 80.30% 

 

“จากบทเรียนที่ร่วมกันดำเนินงานมากว่า 15 ปี พิสูจน์แล้วว่า ยิ่งพื้นที่จัดงานพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์มีความปลอดภัยมากเท่าไร ยิ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะถนนตระกูลข้าวที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่พื้นที่ ปัจจุบันมีถนนเล่นน้ำตระกูลข้าวเกิดขึ้นทั่วประเทศมากกว่า 60 ถนนตระกูลข้าว และอีก 100 พื้นที่เล่นน้ำขนาดใหญ่กระจายทุกจังหวัดจังหวัด อาทิ ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น เป็นต้นแบบสงกรานต์ปลอดเหล้าของไทย ถนนข้าวทิพย์ จ.จันทบุรี มีจุดเด่นเป็นงานสงกรานต์กลางคืน ถนนข้าวแต๋น จ.น่าน ถนนข้าวสุก จ.อ่างทอง ถนนข้าวหอมมะลิ จ.ร้อยเอ็ด ถนนข้าวยำ จ.ปัตตานี ที่สำคัญการจัดงานสงกรานต์ปลอดเหล้าเป็นการควบคุมต้นทางของอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วไปขับรถ ซึ่งต้องช่วยกันรณรงค์สื่อสาร ‘ขับ ไม่ดื่ม…ดื่ม ไม่ขับ’ หากสังคมไทยร่วมมือกันอย่างจริงจัง จะลดปัญหาความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากน้ำเมาลดลงได้” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

 

นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า รัฐบาลประกาศจัดกิจกรรม “มหาสงกรานต์ World Songkran Festival” เพื่อเฉลิมฉลองที่ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ โดยกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 1-21 เม.ย. 2567 รวม 21 วัน สธ. ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พิจารณาจัดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลดีต่อด้านความปลอดภัย ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญของรัฐบาล ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้จัดงานต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลในพื้นที่ จัดให้มีแสงสว่างที่พอเพียง ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่คุมเข้มเรื่องการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณโดยรอบพื้นที่จัดงาน มีการสุ่มตรวจ เดินสำรวจ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด และดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการมึนเมาจนขาดสติ นำไปสู่การก่อเหตุความรุนแรง การล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งจะกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและมรดกทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศ

 

นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม กล่าวว่า เครือข่ายพลังสังคมร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนให้สงกรานต์วิถีไทย สนุก ปลอดภัย ไร้ความรุนแรง 5 ข้อ ดังนี้ 1.สืบสานรักษาคุณค่าวิถีวัฒนธรรมสงกรานต์ไทยให้ทั้งโลกได้เห็นคุณค่า ความหมายงานประเพณีสงกรานต์ ที่ไม่ใช่แค่สาดน้ำ แต่ยังมีเรื่องเข้าวัดทำบุญ การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ และการละเล่นแบบไทยตามวิถีแต่ละพื้นที่ 2.รักษามาตรฐานพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้าปลอดภัย จากที่เคยเป็นพื้นที่เสี่ยง กลายเป็นพื้นที่ Zoning เล่นน้ำปลอดภัย 3.ป้องกันความปลอดภัยและควบคุมไม่ให้เกิดความรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงเย็นค่ำและกลางคืน มีหน่วยเฉพาะกิจดูแลเป็นพิเศษ มีกล้อง CCTV คอยสอดส่อง และตรวจตราไม่ให้มีการดื่มการขายน้ำเมาในพื้นที่เล่นน้ำ 4.ขยายผลให้เกิดความปลอดภัยในพื้นที่เล่นน้ำของภาคเอกชนโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าที่จัดงานเน้นความปลอดภัยไม่ให้มีน้ำเมา ช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท ลดความสูญเสีย เพราะไม่เป็นแหล่งผลิตคนเมาลงถนน 5.สร้างค่านิยมให้การดื่มแล้วขับเป็นสิ่งที่สังคมรับไม่ได้ สังคมไทยทุกฝ่ายต้องใช้ทุกโอกาสในการช่วยกันสื่อสารเพื่อเปลี่ยนค่านิยมทางสังคม

 

“ภาคประชาสังคมในแต่ละพื้นที่มีบทบาทและเป็นพลังสำคัญขับเคลื่อนงานเทศกาลสงกรานต์ปลอดภัย ช่วยกระตุ้นให้เกิดนโยบายการจัดงานสงกรานต์ปลอดเหล้า เพราะเป็นต้นเหตุสำคัญที่นำไปสู่ปัญหาความรุนแรงและความสูญเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้าปลอดภัยนับพันแห่งทั่วประเทศ ที่แต่ละท้องถิ่นร่วมกันจัดงาน โดยมีมาตรการดูแลควบคุมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่เอกชน อาทิ สงกรานต์โนแอล ที่หน้าห้าง LimelightAvenue จ.ภูเก็ต  และปีนี้ได้รับความร่วมมือจากสามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ ร่วมจัดงานสงกรานต์ NO L ซึ่งจะเป็น LandMark สำคัญดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว รวมทั้งสงกรานต์ในกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ ทั้งไทยรามัญ และไทยทรงดำ ที่ได้ร่วมรณรงค์อย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด จนเกิดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการจัดพื้นที่เล่นน้ำ พื้นที่จัดงานสงกรานต์ ที่สนุก ปลอดภัย ไร้ความรุนแรง เป็นตัวอย่างที่ดีไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ”  ประธานมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม กล่าว

 

นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ จัดกิจกรรมสงกรานต์ทั่วประเทศและมีการจัดทำบทเพลงสงกรานต์ฉบับภาษาต่างประเทศแล้ว 4 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรับรู้อย่างกว้างขวาง โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไป ชม และดาวน์โหลดบทเพลงสงกรานต์ คลิป MV เพลงสงกรานต์ภาษาต่าง ๆ วีดิทัศน์องค์ความรู้ประเพณีสงกรานต์  ตำนานนางสงกรานต์  อินโฟกราฟิกเกี่ยวกับสงกรานต์ ได้ที่ www.culture.go.th และ www.youtube.com/@dcp5531/featured และในเครือข่ายของกระทรวงวัฒนธรรม

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

บอร์ดแอลกอฮอล์ฯบอร์ดแอลกอฮอล์ฯ เคาะแนวทางคุมเครื่องดื่มสงกรานต์ 2567

 
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครั้งที่ 2/2567 โดยมี นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค และกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยนพ.ชลน่านกล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมมีการพิจารณาเห็นชอบ 2 ประเด็นสำคัญ คือ 
 
 

1.แนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ตามที่กรมควบคุมโรค ร่วมกับภาคีเครือข่ายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสนอ ภายใต้แนวคิดรณรงค์ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” โดยบูรณาการร่วมกับแผนปฏิบัติการด้านควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2565-2570) เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 

เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ 2566 ที่ผ่านมา พบว่า ปัจจัยหลักยังมาจากการดื่มแล้วขับ โดยวันที่ 11 – 17 เมษายน 2566 มีผู้ดื่มแล้วขับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวม 4,340 ราย เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี 502 ราย และมักเกิดในถนนสายรองมากกว่าถนนสายหลัก 

 

ซึ่งในปีนี้รัฐบาลประกาศจัดกิจกรรม “มหาสงกรานต์ World Songkran Festival” ตั้งแต่วันที่ 1-21 เมษายน 2567 รวม 21 วัน จึงแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ช่วง คือ 

 

  • ช่วงเตรียมความพร้อมก่อนเทศกาล 1-10 เมษายน 
  • ช่วงเทศกาล 11-17 เมษายน 
  • หลังเทศกาล 18-21 เมษายน เน้นมาตรการพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยโดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พิจารณาจัดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์และขอให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด/กทม. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ร้านค้าและประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย 

 

โดยส่งเสริมให้นายอำเภอ นักรณรงค์ มีส่วนร่วมและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกประเภท (โปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม) ห้ามขายนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด คือ 11.00 – 14.00 น. และ 17.00 – 24.00 น. และห้ามจำหน่าย/ห้ามบริโภคในสถานที่ที่กฎหมายกำหนด 

 

รวมทั้งมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุทุกราย ด้วยการใช้เครื่องเป่าวัดทางลมหายใจ หากเป่าไม่ได้ให้ส่งเจาะเลือดตรวจที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี ที่มีแอลกอฮอล์เกินกำหนด คือ มากกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้สอบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่ายแอลกอฮอล์ด้วย 

 

นอกจากนี้ ให้เน้นมาตรการป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงในชุมชน เพื่อสกัดกั้นคนเมาออกมาสู่ท้องถนน โดยการตั้งด่านครอบครัวและด่านชุมชน และให้มีการคัดกรองพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ที่ถูกศาลสั่งคุมประพฤติฐานขับรถขณะเมาสุราทุกราย พร้อมส่งต่อผู้ถูกคุมประพฤติที่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาที่สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง โดยเบิกค่าใช้จ่ายตามสิทธิการรักษา

 

 

2.เห็นชอบร่างระเบียบและคำสั่ง 5 ฉบับ แบ่งเป็น 

 

1) ร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ 1 ฉบับ คือ การเลือกและการแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายฯ และร่างคำสั่งคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 4 ฉบับ ได้แก่ เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการร่างและแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย หรืออนุบัญญัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกฮอล์ พ.ศ. 2551, เรื่องแต่งตั้งอนุกรรมการพิจารณาการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ฯ, เรื่องแต่งตั้งอนุกรรมการด้านการบำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเรื่องแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูลประกอบการกำหนดกรอบระยะเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

 

ซึ่งเป็นไปตามที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 มีมติให้คณะทำงานไปทำการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดกรอบระยะเวลาในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทั่วไปอย่างรอบคอบ เพื่อดูความเป็นไปได้ในการขยายกำหนดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สนับสนุนกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ซึ่งแม้จะไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการศึกษาข้อมูล แต่เนื่องจากเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม คณะทำงานที่แต่งตั้งชุดนี้จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด โดยคำนึงถึงข้อมูลที่ครบถ้วน รอบด้าน

 

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News