Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

ทอท.ทุ่ม 5.7 พันล้านบาท ดันเชียงรายสู่ “มหานครการบิน” เพิ่มขีดรองรับ 6 ล้านคน

เชียงรายเร่งเครื่องสู่ “มหานครการบิน” ทอท.เดินหน้าแม่ฟ้าหลวงเฟส 1 เพิ่มขีดรองรับเป็น 6 ล้านคนภายใน 7 ปี

เชียงราย, 15 กันยายน 2568 — แผนพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ระยะที่ 1 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กำลังกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐกิจภาคเหนือตอนบน ทั้งในมิติการคมนาคม การท่องเที่ยว การค้า และการจ้างงาน ด้วยงบลงทุนประมาณ 5,700 ล้านบาท เพื่อยกระดับขีดความสามารถจาก 3 ล้านคน/ปี เป็น 6 ล้านคน/ปี ภายใน 7 ปี พร้อม “พิมพ์เขียว” โครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่ครอบคลุมงานเขตการบิน อาคารผู้โดยสาร และระบบสนับสนุนท่าอากาศยาน โดยยังยึดหลักการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) และสื่อสารอัตลักษณ์เชียงรายผ่านสถาปัตยกรรมร่วมสมัย

บริบทและสัญญาณการเติบโต จาก “เกตเวย์” สู่ “กลไกหลัก”

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ทำหน้าที่ “ประตูสู่ภาคเหนือ” และเชื่อมภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง—จีนตอนใต้มายาวนาน กระนั้น เพดานความจุ 3 ล้านคน/ปี เริ่มตึงตัวตามการฟื้นตัวของการบินหลังโควิดและมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของรัฐ ปีที่ผ่านมา สนามบินรองรับผู้โดยสารประมาณ 1.9 ล้านคน แม้ยังไม่ชนขีดจำกัด แต่แนวโน้ม “กลับมาและเติบโตต่อ” ชี้ชัดว่า หากไม่ขยายขีดความสามารถ โอกาสทางเศรษฐกิจจะ “ติดคอขวด” ในระยะสั้นถึงกลาง

น.ต.ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ระบุว่า สนามบินมีศักยภาพพร้อมต่อยอด ทั้งจากรางวัลด้านบริการ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และสุขาภิบาลระดับประเทศหลายปีซ้อน แต่สิ่งสำคัญคือการ “อัปเกรดให้สอดรับบทบาทใหม่” ในฐานะ กลไกหลัก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดและภูมิภาค ไม่ใช่เป็นเพียงจุดผ่าน (gateway) อีกต่อไป

ความจุ 6 ล้านคน/ปี และเสถียรภาพระบบสนามบิน

หัวใจของโครงการคือการยกระดับความจุเป็น 6 ล้านคน/ปี แบ่งเป็น ผู้โดยสารภายในประเทศ 5 ล้านคน และ ระหว่างประเทศ 1 ล้านคน พร้อมเพิ่มความเสถียรของระบบสนามบิน ตั้งแต่ทางขับ ลานจอด ระบบเชื้อเพลิง ไปจนถึงการไหลเวียนคน รถ และสัมภาระอย่างเป็นระบบ ทั้งหมดตั้งอยู่บนที่ดินสนามบิน กว่า 3,000 ไร่ ซึ่งเปิดช่องให้จัดสรรพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมการบินในอนาคต

เป้าหมาย 7 ปี จึงไม่ใช่เพียง “สร้างเทอร์มินัลใหม่” หากแต่เป็นการ “บูรณาการเมืองทั้งเมือง” ให้พร้อมรองรับอุปสงค์การเดินทาง การลงทุน และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวตามความจุสนามบิน

พิมพ์เขียว 3 กลุ่มงาน โครงสร้างพื้นฐานที่คิดแบบองค์รวม

1.งานเขตการบิน (Airside)

  • สำรวจและออกแบบ ทางขับขนานด้านทิศใต้
  • ปรับปรุง–ขยาย ลานจอดอากาศยานด้านทิศใต้
  • ติดตั้ง ระบบเติมน้ำมันทางท่อ เพิ่มประสิทธิภาพการหมุนเวียนเครื่อง
  • ออกแบบ ลานจอดอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น (GSE) รองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น

2.งานอาคารผู้โดยสารและอาคารสนับสนุน (Landside & Terminal)

  • ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ และ ปรับปรุงอาคารเดิม ให้ไหลลื่นเป็นหนึ่งเดียว
  • เพิ่ม หลุมจอดแบบประชิดอาคาร 9 หลุม ลดเวลารอคอยต่ออากาศยาน
  • ปรับปรุง อาคารจอดรถ ลานจอด และศูนย์ขนส่ง รองรับการเข้าถึงที่สะดวกขึ้น

3.งานระบบสนับสนุนท่าอากาศยาน (Airport Support Systems)

  • ปรับปรุง ถนนภายใน ระบบระบายน้ำ–บำบัดน้ำเสีย ระบบประปา และระบบไฟฟ้า
  • สำรวจ–ออกแบบ คลังสินค้าทดแทน และ อาคารซ่อมอุปกรณ์ภาคพื้น เพื่อความพร้อมเชิงปฏิบัติการ

สถาปัตยกรรม ผสานอัตลักษณ์เชียงรายผ่านแรงบันดาลใจ “ผ้าทอลายเชียงแสนหงส์ดำ—พระธาตุดอยตุง—เส้นโค้งไร่ชา” พร้อมแนวคิด Universal Design ตั้งแต่ลิฟต์ ทางลาด บันไดเลื่อน ห้องน้ำผู้สูงอายุ–ผู้พิการ เพื่อให้ “สนามบินสำหรับทุกคน” เกิดขึ้นจริง

ศูนย์ซ่อมอากาศยานแบบ Common Use ฟันเฟืองใหม่ของห่วงโซ่อุตสาหกรรม

ด้านเหนือของสนามบินคือพื้นที่ยุทธศาสตร์ของ ศูนย์ซ่อมอากาศยานแบบ Common Use ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ผ่านการประเมิน EIA แล้ว และสามารถรองรับเครื่องบิน รหัส C ได้ 8 ลำ พร้อมกัน โครงการนี้คาดว่าจะ จ้างงานตั้งแต่ 400 คนขึ้นไป ในระยะเริ่มต้น และต่อยอดสู่ทักษะขั้นสูงด้านวิศวกรรมการบิน โลจิสติกส์ และซัพพลายเชน—องค์ประกอบที่ไทยยังต้องการเพิ่มกำลังคนและมาตรฐาน

น.ต.ดร.สมชนก เน้นย้ำว่า เม็ดเงินลงทุนสนามบิน “ไม่ใช่ต้นทุนจม” แต่คือ “โครงสร้างพื้นฐานที่กระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ” ที่กระจายไปยังซับเซกเตอร์มากมาย ทั้งการท่องเที่ยว บริการขนส่ง โรงแรม–ที่พัก อาหาร–สินค้า OTOP ตลอดจนสถาบันการศึกษาที่จะพัฒนาหลักสูตรรองรับสายงานใหม่

มมอง “ROI เพื่อสังคม” กำไรที่เกินกว่าตัวเลขงบประมาณ

คำถามเรื่อง ROI ถูกหยิบยกในเวทีสาธารณะบ่อยครั้ง ผู้บริหารสนามบินตอบชัดว่า
“ROI เป็นเรื่องรอง เป้าหมายหลักคือการพัฒนาจังหวัดเชียงรายและภาคเหนือตอนบน”
การลงทุน 5,700 ล้านบาท จึงวัดผลได้มากกว่ารายได้สนามบิน ได้แก่

  • การเพิ่ม ผลิตภาพการเดินทาง และลดต้นทุนโลจิสติกส์ของพื้นที่
  • การขยาย โอกาสการค้า–การลงทุน และการเชื่อมต่อห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาค
  • การสร้าง โอกาสการจ้างงาน ทั้งระหว่างก่อสร้างและหลังเปิดใช้เต็มรูปแบบ
  • การยกระดับ คุณภาพชีวิต และ ความสามารถในการรองรับวิกฤต ของเมือง

เสียงจาก “เมือง” ถ้าคน 6 ล้านมา เมืองต้องพร้อมไปด้วย

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ชี้เป้าท้าทายสำคัญว่า
ถ้าคน 6 ล้านมาแล้ว เมืองไม่พร้อม สนามบินอาจพร้อม แต่เมืองไม่พร้อม ก็ไม่มีประโยชน์”
ดังนั้น 7 ปีจากนี้คือหน้าต่างเวลาในการ บูรณาการ รัฐ–เอกชน–ชุมชน–การศึกษา ให้เดินหน้าไปพร้อมสนามบิน

ตัวอย่าง ดีมานด์มหภาค ที่รออยู่ ได้แก่ การเป็นเจ้าภาพ Spartan World Championship ต่อเนื่อง 3 ปี คาดผู้เข้าร่วมหลักหมื่น ต้องการห้องพัก 20,000–30,000 ห้อง และเม็ดเงินหมุนเวียน ระดับพันล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าตลาด “นักท่องเที่ยวคุณภาพสูง” มีความเป็นไปได้สูง หากเมืองยกระดับความพร้อมทั้งที่พัก ระบบขนส่งในเมือง บริการท่องเที่ยว และมาตรฐานสิ่งแวดล้อม

ผู้ว่าฯ ยังชี้ให้ “สร้างภาพจำใหม่” ให้เชียงรายด้วยข้อมูลจริง เช่น การลดจุดความร้อน 84% ในปีที่ผ่านมา เพื่อให้การสื่อสารเมืองสะท้อนความจริงเชิงบวก และหนุนการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว–นักลงทุน

จากสนามบินดีเด่น สู่ศูนย์กลางโอกาส

เมื่อโครงการแล้วเสร็จ สนามบินจะ

  • รองรับผู้โดยสารรวม 6 ล้านคน/ปี (ในประเทศ 5 ล้าน ระหว่างประเทศ 1 ล้าน)
  • มี 9 หลุมจอดประชิดอาคาร และลานจอด–ทางขับที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม
  • ยกระดับ มาตรฐานความปลอดภัย–สิ่งแวดล้อม ตามกรอบสากล
  • เสริมพลังการแข่งขันของเชียงรายและไทยใน การบิน–ท่องเที่ยว–การค้า–การลงทุน

เหนือสิ่งอื่นใด คือการก่อรูป “ศูนย์กลางโอกาส” ที่คนท้องถิ่นเข้าถึงได้จริง ผ่านอาชีพและธุรกิจใหม่ ตั้งแต่ซัพพลายเชนการบิน โลจิสติกส์เย็น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ–ธรรมชาติ ไปจนถึงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เชื่อมอัตลักษณ์ล้านนากับตลาดโลก

โครงสร้างการมีส่วนร่วมการออกแบบที่เริ่มต้นจากประชาชน

ทอท. เปิดเวที สัมมนาประชาสัมพันธ์ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท วันที่ 15 กันยายน 2568 มีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน จากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ อปท. ภาคธุรกิจ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ซี.อาร์.เอ. ทำหน้าที่สำรวจ–ออกแบบ และรวบรวมข้อเสนอแนะเพื่อปรับแบบให้ “เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด” กับประชาชนและประเทศ

กลไกนี้สำคัญ เพราะทำให้โครงการสนามบิน “ไม่ใช่ของสนามบินฝ่ายเดียว” แต่เป็น ของจังหวัด ที่ทุกฝ่ายร่วมรับรู้–ร่วมกำหนด–ร่วมขับเคลื่อน

เวลา–ความพร้อมเมือง–ประสิทธิภาพการบูรณาการ

แม้มีแนวโน้มบวกชัดเจน แต่ความท้าทายเชิงนโยบายยังมี 3 มิติหลัก

  1. เวลาโครงการ 7 ปี
    ต้องมีวินัยด้านงบประมาณ–การจัดซื้อจัดจ้าง–การควบคุมงาน เพื่อปิดความเสี่ยง “ดีเลย์” ที่อาจกระทบความเชื่อมั่นและต้นทุนแฝงของเอกชน
  2. ความพร้อมของเมืองและห่วงโซ่บริการ
    ที่พัก ระบบขนส่งสาธารณะ–เชื่อมต่อสนามบิน ความเป็นระเบียบของโครงข่ายถนน–จุดรับส่ง รวมถึงมาตรฐานบริการภาคท่องเที่ยว ต้องยกระดับให้สอดรับดีมานด์ใหม่
  3. ประสิทธิภาพการบูรณาการข้อมูล–การสื่อสารสาธารณะ
    เมืองต้อง “เล่าเรื่องด้วยข้อมูลจริง” ต่อเนื่อง เช่น สถิติคุณภาพอากาศ ความคืบหน้าสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยการเดินทาง เพื่อเปลี่ยนภาพจำเดิมเป็นความเชื่อมั่นใหม่

การจัดการ 3 ประเด็นนี้อย่างเป็นระบบ จะทำให้ “สนามบินที่พร้อม” แปรเป็น “เมืองที่พร้อม” และทำให้เม็ดเงิน 5,700 ล้านบาท ส่งผลทวีคูณในเศรษฐกิจฐานราก

เมือง–สนามบิน ต้องโตไปด้วยกัน

น.ต.ดร.สมชนก สรุปทิศทางว่า “เราไม่ได้มอง ROI เป็นตัวตั้ง แต่ตั้งเข็มทิศที่คุณภาพชีวิตคนเชียงรายและภาคเหนือตอนบน” ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เน้นย้ำว่า “ถ้าคน 6 ล้านมา เมืองต้องพร้อม” นี่คือสารเดียวกันในสองมุม—ฝั่งสนามบินและฝั่งเมือง—ที่ชี้ว่าความสำเร็จของโครงการนี้วัดจาก การเติบโตเชิงคุณภาพของจังหวัด มากกว่าตัวเลขก่อสร้าง

ในภาพกว้าง โครงการแม่ฟ้าหลวงเฟส 1 จึงเป็น จิ๊กซอว์โครงสร้างพื้นฐาน ที่เปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ให้เชียงราย ตั้งแต่การเป็นฐานกิจกรรมกีฬานานาชาติ การยกระดับท่องเที่ยวคุณภาพ การก่อรูปคลัสเตอร์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ไปจนถึงการปั้นคนรุ่นใหม่ในสายอาชีพการบิน–บริการ—ทั้งหมดนี้คือ “กำไรส่วนรวม” ที่จะกลับมาหาประชาชน

บทสรุปเชิงนโยบาย

  • สนามบิน คือกลไกหลัก มิใช่เพียงเกตเวย์
  • โครงสร้างพื้นฐาน ต้องเดินคู่กับ ความพร้อมของเมือง
  • การมีส่วนร่วมสาธารณะ เป็นตัวประกันคุณภาพแบบและความยั่งยืน
  • การสื่อสารด้วยข้อมูลจริง จะสร้างภาพจำใหม่และแรงส่งการลงทุน
  • หาก “สนามบินที่พร้อม” พบกับ “เมืองที่พร้อม” เป้าหมาย 6 ล้านคน/ปี จะไม่ใช่เพียงตัวเลข แต่เป็น มหานครแห่งโอกาส ที่คนเชียงรายสัมผัสได้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News