Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงราย ประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์

 

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่วัดพระแก้ว พระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงราย ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนกระทรวง ทั้ง 20 กระทรวง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนชาวเชียงรายเข้าร่วมพิธี ซึ่งจัดพร้อมกันทั่วประเทศ 76 จังหวัด

 

โดยในพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มีพิธีการขั้นตอนดังนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย โดยมี พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ อาราธนาศีล จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เชิญใบพลู 7 ใบ ถวายประธานสงฆ์เจิมใบพลู และถวายแด่พระสงฆ์เถราจารย์ มีพระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์คาถาดับเทียนชัย พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ประโคมฆ้องชัย ดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ จากนั้นประธานฝ่ายสงฆ์พรมน้ำพระพุทธมนต์ที่ขันสาคร และมอบขันสาครให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แล้วกล่าวคาถาตักน้ำ
 
 
ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่เปิดห่อผ้าขันสาคร เปิดฝาขันสาคร เปิดฝาคนโท แล้วส่งมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อตักน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากขันสาครใส่จนถึงคอคนโทตามกำหนด หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และข้าราชการประเคนภัตตาหาร ถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 10 รูป ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกรวดน้ำรับพรเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีในช่วงเช้า และเวลา 12.00 น. เป็นพิธีบายศรีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ บัณฑิตประจำจุดโต๊ะบายศรี และเบิกแว่นเวียนเทียน และส่งแว่นเทียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อวักแว่นเทียนเข้าหาตัว 3 ครั้ง แล้วใช้มือขวาโบกควันออกไปยังคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นส่งต่อให้คนที่อยู่ทางซ้ายมือ เวียนไปจนครบ 3 รอบ เมื่อครบแล้วคนสุดท้ายจึงส่งให้บัณฑิตผู้ทำหน้าที่เบิกแว่นเทียนแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อันเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ลงจากแท่นพิธีเพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยผู้เข้าร่วมพิธีตั้งแถวรอส่งคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2567 จังหวัดเชียงราย จะได้เชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ไปเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย ต่อไป
 
 
สำหรับพิธีในส่วนกลางจะมีการจัดมหรสพสมโภช ในระหว่างวันที่ 11-15 กรกฎาคม 2567 ณ ท้องสนามหลวง ก่อนจะเชิญคนโทน้ำพุทธมนต์มาเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จากนั้นจะมีการเชิญน้ำพระพุทธมนต์ฯ จากวัดพระเชตุพนฯ ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยในช่วงเช้าของวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พิธีเวียนเทียนเนื่องในเทศกาล วันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.00 น. ณ วัดพระแก้ว พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พระครูสุธีสุตสุนทร ดร. เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง เป็นประธานในพิธีเวียนเทียน เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567

 

จัดโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ คณะสงฆ์วัดพระแก้ว พระอารามหลวง เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย การมีส่วนร่วมกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในมิติศาสนา บำเพ็ญบุญกุศล เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ ซึ่งมีพระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมกิจกรรม รวมจำนวน 800 รูป/คน                       

     

 

ในโอกาสมงคลนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางพรทิวา ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม พร้อมข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้ามาร่วมกิจกรรมฯ

 

 

ความสำคัญของวันมาฆบูชา คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง โอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า “ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อม ๆ กันถึง 4 ประการ อันได้แก่

 

  1. วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
  2. มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
  3. พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6
  4. พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ “เอหิภิกขุอุปสัมปทา”

     ดังนัเน เพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า “วันจาตุรงคสันนิบาต” หมายความว่า “การประชุมด้วยองค์ 4” นั่นเองทั้งนี้วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันพระธรรม ขณะที่วันวิสาขบูชาถือว่าเป็นวันพระพุทธ ส่วนวันอาสาฬหบูชา เป็นวันพระสงฆ์

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

พรทิวา ขันธมาลา, สุพจน์ ทนทาน : รายงาน 

สานุพงศ์ สันทราย : ภาพ

สุพจน์ ทนทาน อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News