Categories
CULTURE

หลอนปนฮา! “ผีขนลำปาง” หนึ่งเดียวในงานบุญแปดเป็ง

ขบวนผีขนลำปาง สืบสานประเพณีแปดเป็ง แจ้ซ้อน นักท่องเที่ยวแห่ชมคึกคัก

ประเพณีแปดเป็ง แจ้ซ้อน หนึ่งเดียวในลำปาง

ลำปาง, 11 พฤษภาคม 2568 – ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา หรือที่ชาวล้านนาเรียกว่า “วันแปดเป็ง” ณ วัดศรีหลวงแจ้ซ้อน ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ได้จัดงานประเพณีสำคัญประจำปี “สรงน้ำพระธาตุ ยกช่อฟ้า แปดเป็ง บุญบอกไฟ และขบวนผีขน” ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาวแจ้ซ้อน ที่สืบทอดวัฒนธรรมอันเก่าแก่มายาวนานกว่า 400 ปี จนกลายเป็นหนึ่งในประเพณีที่ได้รับความนิยมและความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ

พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ สรงน้ำพระธาตุแจ้ซ้อน

ตั้งแต่เช้าตรู่ บรรยากาศภายในวัดศรีหลวงแจ้ซ้อนเต็มไปด้วยศรัทธาของประชาชนชาวลำปางและจังหวัดใกล้เคียง ที่พร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองมาร่วมพิธีกรรมสรงน้ำพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเสริมสิริมงคลในชีวิต และอุทิศบุญกุศลแด่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ โดยพิธีนี้ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนแปด (เหนือ) ตามปฏิทินล้านนา

ภายในงานมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีบูชายกช่อฟ้าของพระอุโบสถ และพิธีจุดบั้งไฟหรือบุญบอกไฟ เพื่อถวายแด่ฟ้าดินและขอให้ฝนตกตามฤดูกาล ซึ่งเป็นความเชื่อที่ชาวล้านนาสืบทอดต่อกันมาช้านาน

ขบวนผีขน ไฮไลต์สำคัญสร้างสีสันในงาน

สิ่งที่ถือเป็นไฮไลต์ของงาน และได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก คือ “ขบวนผีขน” หรือ “ผีโขน” ซึ่งเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่ชาวแจ้ซ้อนภาคภูมิใจ โดยขบวนผีขนเริ่มต้นจากบริเวณวัดและเคลื่อนขบวนผ่านหมู่บ้าน สร้างความตื่นตาตื่นใจและเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก

ผีขนของชาวแจ้ซ้อนมีลักษณะเฉพาะตัว โดยผู้ร่วมขบวนจะแต่งกายด้วยชุดที่ทำจากเศษจีวรพระเก่าและวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ดอกไม้ รวมถึงเศษผ้าที่หาได้ตามท้องถิ่น ส่วนศีรษะผีขนจะทำจากตะกร้าสานไม้ไผ่ ห่อด้วยฝอยมะพร้าวและจีวรพระที่เก่าจนไม่สามารถใช้ได้แล้ว จากนั้นจะตกแต่งด้วยสีสันและรายละเอียดบนใบหน้าให้ดูน่ากลัวและขนลุก อีกทั้งยังมีการนำเส้นผมจริงหรือเส้นผมของผู้ที่เสียชีวิตแล้วมาติดไว้บนหัวผีขน สร้างความน่ากลัวสมจริง

ความเชื่อและการสืบทอดพิธีกรรมผีขน

ตามความเชื่อของชาวแจ้ซ้อน การเล่นผีขนนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เชื่อกันว่า หากผู้ใดในชาติปัจจุบันหน้าตาไม่ดี ไร้คนรัก หากได้มีโอกาสร่วมเล่นผีขนแล้ว ในชาติหน้าจะเกิดมาหน้าตาดี มีคนรักและชื่นชอบ

ในอดีต ก่อนจะเริ่มขบวน ผู้เล่นจะต้องนำชุดผีขนไปทำพิธีอัญเชิญวิญญาณในป่าช้า โดยมีการเตรียมหมาก 1 คำ พลู 1 ใบ กล้วย 1 ลูก และข้าว 1 ปั้น เพื่อให้ดวงวิญญาณผู้ตายเข้ามาสิงในชุดผีขน จากนั้นเมื่อได้ยินเสียงฆ้องกลอง ดวงวิญญาณที่เข้ามาในชุดผีขนจะเริ่มออกมาร่ายรำและหลอกล้อกับผู้ชมสร้างความสนุกสนานในขบวนแห่

เมื่อการเล่นเสร็จสิ้น ผู้เล่นจะต้องนำชุดผีขนไปแขวนทิ้งไว้ในป่าช้า และทำพิธีชำระร่างกายด้วยน้ำขมิ้นส้มป่อย เพื่อชำระสิ่งไม่ดีออกจากร่างกายตามความเชื่อโบราณ

การอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านสู่ยุคปัจจุบัน

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ประเพณีแปดเป็งและขบวนผีขนนั้นได้รับการอนุรักษ์และสืบทอดอย่างจริงจังจากรุ่นสู่รุ่นกว่า 400 ปี ทำให้ปัจจุบันกลายเป็นอัตลักษณ์สำคัญทางวัฒนธรรมที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดลำปางเป็นจำนวนมากในแต่ละปี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดลำปางอย่างยั่งยืน

บทวิเคราะห์และความสำคัญทางเศรษฐกิจ

ประเพณีดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการสืบทอดความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและการท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางได้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ส่งผลให้มีการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจภายในชุมชนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะร้านค้า โรงแรม และร้านอาหารในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาจังหวัดต่อไปในอนาคต

สถิติที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง ปี 2567 ระบุว่า งานประเพณีแปดเป็งและขบวนผีขน มีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานกว่า 15,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 20% และสร้างรายได้หมุนเวียนในชุมชนกว่า 12 ล้านบาท (ที่มา: รายงานสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง ประจำปี 2567)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : รายงานสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง ประจำปี 2567

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

แข่งขันกลองปู่จานครลำปางชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน ครั้งที่ 20

 

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 เวลา 18.30 น. ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันตีก๋องปู่จานครลำปางชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ 20 ประจำปี พ.ศ. 2567 ในงานสลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมือง นครลำปาง ประจำปี 2567 โดยมีนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวต้อนรับ นางกาญจนี อุดมกุลวณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการคลังปิโตรเลียม บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวให้การสนับสนุน

 

นางกรวรรณ สุ่มมาตย์ วัฒนธรรมจังหวัดลำปาง กล่าวรายงานฯ รศ.ดร.สุพรรณี ฉายะบุตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวลิปิการ์ กำลังชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางจิตรี จิวะสันติการ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง หัวหน้าส่วนราชการ วัฒนธรรมจังหวัด 16 จังหวัดภาคเหนือ ภาคเอกชน สภาวัฒนธรรมอำเภอ 13 อำเภอ และภาคีเครือข่ายวัฒนธรรม

 

การแข่งขันตีก๋องปู่จานครลำปาง บูรณาการความร่วมมือระหว่างสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง สมาคมก๋องปู่จาและศิลปะการแสดงพื้นบ้านนครลำปาง สภาวัฒนธรรม 13 อำเภอ เครือข่ายก๋องปู่จา 13 อำเภอ ร่วมกับบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตีก๋องปู่จานครลำปางในกลุ่มเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูประเพณีตีก๋องปู่จา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ดำรงอยู่สืบไป ณ ลานศาลหลักเมือง และสนามหน้าพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง (มิวเซียมลำปาง) อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

 

สำหรับผลการแข่งขันตีก๋องปู่จานครลำปาง ชิงถ้วยพระราชทานฯ ดังนี้

1.รางวัลชนะเลิศพร้อมถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท

  • อำเภอห้างฉัตร

2.รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 รางวัล 40,000 บาท

  • อำเภองาว

3.รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รางวัล 30,000 บาท

  • อำเภอเกาะคา

รางวัลชมเชย 10 รางวัล รางวัล 25,000บาท

  • อำเภอเมืองลำปาง
  • อำเภอแจ้ห่ม
  • อำเภอแม่พริก
  • อำเภอเสริมงาม
  • อำเภอสบปราบ
  • อำเภอวังเหนือ
  • อำเภอแม่ทะ
  • อำเภอเถิน
  • อำเภอเมืองปาน
  • อำเภอแม่เมาะ

รางวัลขวัญใจมหาชน รางวัลละ 5,000 บาท

  • อำเภอแจ้ห่ม

โดยจังหวัดลำปาง โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง ร่วมบูรณาการกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง บริษัท ปตท.น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน กำหนดจัดงานสลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมือง นครลำปาง ประจำปี พ.ศ. 2567 ระหว่างวันที่ 7 – 13 เมษายน 2567 โดยมีพิธีเปิดการแข่งขันกลองปู่จานครลำปางชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ 20 ในงานสลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมือง นครลำปาง ประจำปี พ.ศ. 2567 ในวันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2567 ณ ลานศาลหลักเมืองนครลำปาง และสนามหน้าพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง (มิวเซียมลำปาง) อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ ดังนี้

  1. กิจกรรมข่วงแก้วเวียงละกอน และถนนสายวัฒนธรรม
  2. ขบวนอัญเชิญรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
  3. การแข่งขันตีก๋องปู่จานครลำปางชิงถ้วยรางวัลพระราชทานฯ
  4. พิธีมอบรางวัลพระราชทานฯ และบันทึกภาพร่วมกัน
  5. การแสดงศิลปวัฒนธรรมของเด็กและเยาวชนจังหวัดลำปาง
  6. การจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม และผลิตภัณฑ์ชุมชน

ซึ่งนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และนายพร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมกิจกรรมฯ ดังกล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ชาวบ้านป่าตึงริมกก เชียงราย รับพระธุดงค์กว่า 80 รูป มุ่งหน้า อ.แม่จัน

 

วันที่ 28 ธันวาคม 2566 คณะพระสงฆ์-สามเณรกว่า 80 รูป จาริกธุดงค์โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดาปีที่10 ฝึกฝนอบรมเพื่อที่จะไปจาริกที่ประเทศ อินเดีย เนปาล ได้เดินทางมาถึงป่าตึงริมกก โดยมีพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอเมือง จ.เชียงราย ที่ทราบข่าวต่างยินดี พร้อมทั้งเตรียมข้าวสาร อาหารแห้งเพื่อนำมาถวายเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ได้สอบถามจากคณะพระสงฆ์ และสามเณรกว่า 80 รูป ที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดาปีที่ 10 ฝึกฝนอบรมเพื่อที่จะไปจาริกที่ประเทศ อินเดีย เนปาล โดยท่านได้เดินทางมาจากวัดเกาะวาลุการาม ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง เดินเท้าธุดงค์ผ่านเส้นทางต่างๆ มุ่งหน้าสู่วัดดอยเทพนิมิต ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงรายตั้งแต่วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2566 -วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2566 โดยมีพระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี และคณะศรัทธาผู้ติดตาม เดินทางร่วมกว่า 80 รูป

ซึ่งกำหนดการคณะพระสงฆ์-สามเณรกว่า 80 รูป ดังนี้

27 ธันวาคม 2566 เข้าพัก ป่าช้าหมู่5 บ้านป่าตึงริมกก ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย

28 ธันวาคม 2566 จุดที่พัก คือ วัดสุวรรณคีรี ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย

29 ธันวาคม 2566 จุดสุดท้ายวัดดอยเทพนิมิต ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย

โดยมีการทำวัตรเย็น และ ทำวัตรเช้า ผู้ใจบุญ สามารถไปร่วมใส่บาตรและถวายภัตตาหารได้เวลา 07.30 น. สามารถร่วมบุญได้ตามกำลังศรัทธา

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ชาวบ้าน ต.หนองหล่ม ร้องปศุสัตว์ลำปาง ฟาร์มทิ้งซากไก่ลงน้ำจนเน่า

เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจาก น.ส.ชีวกาณร์ คำสุทธะ ผญบ.บ้านแม่ยิ่ง หมู่ 4 ต.หนองหล่ม อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน พบน้ำในลำห้วยแม่ยิ่งมีสภาพเน่าเหม็น จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มไก่แห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ บ้านหลิ่งก้าน หมู่ 3 ต.หนองหล่ม พร้อมได้ประสานนายสำราญ สุนันต๊ะ ปศุสัตว์อำเภอห้างฉัตร นายสุริยา ตาสุวรรณ์ นายก อบต.หนองหล่ม นางกิตติยา นิ้วยะวงศ์ ปลัดอำเภอห้างฉัตร นายพัสกร ชุมภูทอง และ นายธนดล เคหะลูน ผช.ผญบ.บ้านแม่ยิ่ง เข้าร่วมการตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าว เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ มีนายนิคม ชาว อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ มีเป็นเจ้าของฟาร์ม

เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันแก้ไขปัญหาตามข้อร้องทุกข์/ร้องเรียนกรณีฟาร์มไก่เนื้อนำซากไก่ทิ้งลงลำห้วยแม่ยิ่ง และบ่อน้ำบริเวณฟาร์มเลี้ยงทำให้ส่งกลิ่นเหม็นและลำห้วยเกิดน้ำเน่าเสียไหลไปรวมกับลำน้ำแม่ไพรลงสู่ลำน้ำตุ๋ย และแม่น้ำวังตามลำดับผลการตรวจสอบผู้ประกอบการเลี้ยงไก่เนื้อ นายนิคม อายุยอมรับว่าได้นำซากไก่ตายทิ้งลงแหล่งน้ำจริง จึงมีความเห็นร่วมกันดำเนินการดังต่อไปนี้.

1. ส่งเรื่องเสนอให้ อบต.หนองหล่ม ยกเลิกใบอนุญาตกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ(อภ2)

2. นำเสนอกรมปศุสัตว์ให้ยก เลิก เพิกถอนมาตรฐานฟาร์ม และ

3. ให้ อบต.ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ. ห้างฉัตร ตาม พรบ. สาธารณสุข พ.ศ.2535 เนื่องจากมีการกระทำผิดที่ชัดเจนโดยทาง อบต.หนองหล่ม จะเดินทางร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตร ภายในวันที่ 9 ต.ค. 2566 นี้ เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป.

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ปศุสัตว์ อ.ห้างฉัตร

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News