อนุทินมอบรางวัลสำเภาทอง ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 42 ย้ำความสำคัญของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลสำเภาทองและรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัดสำเภาทอง ประจำปี 2567 ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 42 ซึ่งจัดโดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยในโอกาสนี้ นายอนุทินยังได้รับมอบสมุดปกขาวหอการค้าไทย ซึ่งรวบรวมข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะเร่งด่วน
เน้นย้ำบทบาทของกระทรวงมหาดไทยในการสนับสนุนเศรษฐกิจ
นายอนุทินกล่าวว่า แม้กระทรวงมหาดไทยจะไม่ได้ดูแลตัวเลขเศรษฐกิจโดยตรง แต่มีบทบาทสำคัญในฐานะ “เกตเวย์” หรือประตูสำคัญที่เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับจังหวัด โดยเน้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเอกชน ส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจ และอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจสามารถประกอบกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“แต่ละจังหวัดมีคลัสเตอร์เศรษฐกิจที่ต้องผลักดัน ขณะเดียวกันเราต้องการรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีบทบาทด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะ เพื่อดูแลและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างจริงจัง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ” นายอนุทินกล่าว
เป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ในปี 2568 หอการค้าไทยตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจเติบโตไม่ต่ำกว่า 3% โดยสมุดปกขาวหอการค้าไทยได้เสนอแนวทางเร่งด่วน 3 ด้าน ได้แก่
- การสร้างความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ
- การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs
- การวางยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
นายอนุทินกล่าวเสริมว่า ข้อเสนอในสมุดปกขาวเหล่านี้จะถูกนำมาบูรณาการร่วมกับแผนปฏิบัติงานของกระทรวงมหาดไทย เพื่อผลักดันให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รางวัลสำเภาทอง สะท้อนการพัฒนาจังหวัด
ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับรางวัลสำเภาทองในครั้งนี้ ได้รับการยอมรับในด้านการบริหารจัดการและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างโดดเด่น โดยรางวัลดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นเครื่องหมายของความสำเร็จในเชิงนโยบาย แต่ยังแสดงถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับจังหวัดและระดับประเทศ
สมุดปกขาว: พิมพ์เขียวสู่เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
สมุดปกขาวหอการค้าไทยฉบับปี 2567 ยังระบุถึงความสำคัญของการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ หอการค้าไทยยืนยันว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วนคือหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะยาว
การสนับสนุนจากภาครัฐ: จุดเปลี่ยนสำคัญ
นายอนุทินย้ำว่าการสนับสนุนจากภาครัฐไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยกระทรวงมหาดไทยพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกด้าน
งานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 42 ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นเวทีสำหรับการรับฟังข้อเสนอแนะและแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจแล้ว ยังสะท้อนถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและแข็งแกร่งในอนาคต
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงมหาดไทย