Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

“รังสิมันต์” ชี้เหมืองเมียนมาต้นตอ จี้รัฐบาลใช้การทูตและความมั่นคงแก้ไข

เชียงรายเร่งแก้ปัญหามลพิษแม่น้ำกก การประชุมระดับชาติเพื่อสุขภาพประชาชนและความมั่นคงลุ่มน้ำโขง

เชียงราย, 8 พฤษภาคม 2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาการปนเปื้อนสารพิษในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำสาขาในจังหวัดเชียงรายได้กลายเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจท้องถิ่น การประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ณ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ได้สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน การท่องเที่ยว และความมั่นคงของลุ่มน้ำโขงในระยะยาว

วิกฤตมลพิษจากชายแดนสู่ใจกลางชุมชน

แม่น้ำกกเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวเชียงราย ทั้งในด้านการเกษตร การประมง และการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การตรวจพบสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักอย่างสารหนู ในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาขาได้สร้างความกังวลให้กับประชาชนและหน่วยงานท้องถิ่น การสอบสวนเบื้องต้นระบุว่าต้นตอของปัญหามาจากการทำเหมืองทองที่ผิดกฎหมายในพื้นที่ฝั่งเมียนมา โดยเฉพาะในเขตรัฐฉานระหว่างเมืองยอนและเมืองสาด ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มว้า ปัญหานี้ไม่เพียงกระทบต่อคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะขยายวงไปถึงแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การประชุมเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นำโดยนายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ร่วมด้วยนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย การประปาส่วนภูมิภาค และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลและข้อเสนอเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาที่ครอบคลุมทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และการทูตระหว่างประเทศ

ต้นตอปัญหาและผลกระทบที่รุนแรง

นายรังสิมันต์ โรม เปิดเผยว่า สารพิษในแม่น้ำกกมีสาเหตุหลักจากการทำเหมืองทองที่ผิดกฎหมายกว่า 30 แห่งในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งกลุ่มว้ามีบทบาทสำคัญในการควบคุมพื้นที่ดังกล่าว การใช้สารเคมีในกระบวนการสกัดทองได้ปล่อยสารพิษ เช่น สารหนูและโลหะหนักอื่นๆ ลงสู่ลำน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำกก ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนในระบบนิเวศและกระทบต่อประชาชนที่พึ่งพาแหล่งน้ำนี้ในการดำรงชีวิต

ผลกระทบจากมลพิษนี้ครอบคลุมหลายมิติ:

  • สุขภาพประชาชน: การปนเปื้อนของสารหนูในน้ำอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น โรคผิวหนังและมะเร็ง ประชาชนในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำต่างรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้น้ำเพื่อการบริโภคและการเกษตร
  • การเกษตรและประมง: เกษตรกรและชาวประมงในจังหวัดเชียงรายเผชิญกับความสูญเสีย เนื่องจากน้ำที่ปนเปื้อนส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์น้ำ
  • การท่องเที่ยว: จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง อาจสูญเสียความน่าสนใจหากปัญหามลพิษในแม่น้ำกกไม่ได้รับการแก้ไข
  • ความมั่นคงของชาติ: การปนเปื้อนข้ามพรมแดนไม่เพียงเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของลุ่มน้ำโขง ซึ่งประเทศไทยมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างมาก

ในที่ประชุม นายรังสิมันต์เน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งในระดับท้องถิ่นและระหว่างประเทศ การเจรจากับทางการเมียนมาและกลุ่มว้ายังไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายผลักภาระความรับผิดชอบต่อกัน เขาเสนอว่ารัฐบาลไทยควรใช้ความสัมพันธ์ทางการทูต โดยเฉพาะกับประเทศจีน ซึ่งมีอิทธิพลต่อกลุ่มว้าในด้านการค้าและการลงทุน เพื่อกดดันให้มีการควบคุมการทำเหมืองที่ผิดกฎหมาย

มาตรการรับมือและแนวทางแก้ไข

จังหวัดเชียงรายได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อลดผลกระทบจากมลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาขา ดังนี้:

  1. การตรวจสอบแหล่งกำเนิดมลพิษ หน่วยงานท้องถิ่นได้ตรวจสอบการปล่อยน้ำเสียจากภาคอุตสาหกรรม ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และชุมชนเมือง เพื่อควบคุมแหล่งมลพิษภายในประเทศ
  2. การประชาสัมพันธ์เพื่อลดความตื่นตระหนก การประปาส่วนภูมิภาคและประปาหมู่บ้านยืนยันว่าน้ำประปามีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค พร้อมแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับระดับความเป็นพิษของสารหนูในน้ำ
  3. การเพิ่มความถี่ในการตรวจน้ำ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่จะตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย 2 ครั้งต่อเดือน เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
  4. การจัดตั้งคณะกรรมการลุ่มน้ำ คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในระดับลุ่มน้ำโขงเหนือจะประสานงานระหว่างหน่วยงานเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขในระยะยาว
  5. การศึกษาโครงสร้างฝายดักตะกอน มีการเสนอแนวคิดในการสร้างฝายดักตะกอนในแม่น้ำกก โดยแบ่งเป็นฝายชั่วคราว ฝายกึ่งถาวร และฝายถาวร เพื่อลดการสะสมของสารพิษและสนับสนุนการใช้น้ำในภาคการเกษตร

นายรังสิมันต์เสนอให้รัฐบาลตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจที่มีตัวแทนจากทุกภาคส่วน รวมถึงหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม ความมั่นคง และการทูต เพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งการเจรจาระหว่างประเทศและการจัดการภายในประเทศ เขายังเรียกร้องให้มีการใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์ เช่น การร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีผลประโยชน์ในภูมิภาค เพื่อกดดันกลุ่มว้าให้ยุติการทำเหมืองที่ผิดกฎหมาย

โอกาสและความท้าทายในการแก้ไขวิกฤต

ปัญหาการปนเปื้อนสารพิษในแม่น้ำกกสะท้อนถึงความซับซ้อนของปัญหาข้ามพรมแดน ซึ่งต้องการความร่วมมือในหลายระดับ การที่ต้นตอของปัญหาอยู่ในเมียนมา ซึ่งมีข้อจำกัดด้านการควบคุมอำนาจในพื้นที่รัฐฉาน ทำให้การเจรจาโดยตรงกับทางการเมียนมาไม่เพียงพอ การใช้ความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งมีอิทธิพลในภูมิภาค อาจเป็นทางออกที่เป็นไปได้ แต่ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี

ในระดับท้องถิ่น มาตรการที่จังหวัดเชียงรายดำเนินการ เช่น การตรวจสอบคุณภาพน้ำและการประชาสัมพันธ์ เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาในระยะยาวต้องอาศัยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ฝายดักตะกอน และระบบบำบัดน้ำ ซึ่งอาจต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก การระดมทุนจากรัฐบาลกลางหรือความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) หรือธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) อาจช่วยลดภาระงบประมาณของจังหวัด

โอกาสสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้คือการยกระดับความตระหนักรู้ในระดับภูมิภาคเกี่ยวกับความสำคัญของลุ่มน้ำโขง การที่ปัญหานี้มีศักยภาพที่จะกระทบต่อแม่น้ำโขงอาจกระตุ้นให้ประเทศสมาชิกในคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) เช่น ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา การสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคจะช่วยเพิ่มน้ำหนักในการกดดันให้มีการควบคุมการทำเหมืองในเมียนมา

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญคือการขาดความชัดเจนในการเจรจากับกลุ่มว้า ซึ่งมีอำนาจควบคุมพื้นที่รัฐฉานอย่างไม่เป็นทางการ การที่กลุ่มว้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาอื่นๆ เช่น ยาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้การเจรจาต้องครอบคลุมประเด็นที่หลากหลาย การจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการทูตและความมั่นคงจะช่วยให้การเจรจามีประสิทธิภาพมากขึ้น

สถิติที่เกี่ยวข้อง

เพื่อให้เห็นภาพรวมของปัญหาการปนเปื้อนสารพิษในแม่น้ำกกและบริบทที่เกี่ยวข้อง ต่อไปนี้คือสถิติที่สำคัญ:

  • จำนวนเหมืองทองที่ผิดกฎหมายในรัฐฉาน: มากกว่า 30 แห่ง
    ที่มา: รายงานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ, 2568
  • ความยาวของแม่น้ำกก: ประมาณ 130 กิโลเมตร
    ที่มา: สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, 2567
  • ประชากรที่พึ่งพาแม่น้ำกกในจังหวัดเชียงราย: ประมาณ 200,000 คน
    ที่มา: สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง, 2567
  • จำนวนนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย (2566): 2.5 ล้านคน (ในประเทศ 2.2 ล้านคน, ต่างประเทศ 0.3 ล้านคน)
    ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักงานเชียงราย, 2567
  • ปริมาณสารหนูที่ตรวจพบในแม่น้ำกก (2567): สูงกว่ามาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในบางพื้นที่
    ที่มา: สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่, 2567
  • พื้นที่เกษตรกรรมในลุ่มน้ำกก: ประมาณ 150,000 ไร่
    ที่มา: สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย, 2567

สถิติเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของแม่น้ำกกในฐานะทรัพยากรหลักของจังหวัดเชียงราย และความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารพิษอย่างเร่งด่วน การประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระดับภูมิภาค เพื่อปกป้องทั้งสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • รายงานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ, 2568
  • สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, 2567
  • สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง, 2567
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักงานเชียงราย, 2567
  • สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่, 2567
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สารหนูทะลักแม่น้ำกก “โรม” จี้รัฐบาลแก้เหมืองทองว้า

วิกฤตแม่น้ำกก สารพิษจากเหมืองทองคำฝั่งเมียนมาคุกคามความมั่นคงและสุขภาพคนไทย

สถานการณ์คุณภาพน้ำกกและแม่น้ำสายพบสารหนูเกินมาตรฐานหลายเท่า

สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยผลตรวจคุณภาพน้ำแม่น้ำกกและแม่น้ำฝาง ซึ่งเก็บตัวอย่างเมื่อวันที่ 21-24 เมษายน 2568 ครอบคลุม 15 จุดในเชียงรายและเชียงใหม่ โดยพบว่าน้ำมีความขุ่นผิดปกติและตรวจพบ “สารหนู” (Arsenic) เกินค่ามาตรฐานในหลายจุดอย่างน่าตกใจ

ตัวอย่างเช่นที่สะพานเฉลิมพระเกียรติ 1 อำเภอเมืองเชียงราย พบค่าสารหนู 0.012 mg/L และสูงสุดที่บ้านจะเด้อ ตำบลดอยฮาง ที่ระดับ 0.019 mg/L ซึ่งมากกว่าค่ามาตรฐาน 0.01 mg/L ถึงเกือบสองเท่า ขณะที่ในเขตอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ มีจุดหนึ่งที่มีค่าถึง 0.037 mg/L

ร่วมลงพื้นที่ ย้ำภัยเงียบที่ต้องเร่งจัดการ

พระอาจารย์มหานิคม มหาภินิกฺขมโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าตอน ให้สัมภาษณ์ว่า การปนเปื้อนของโลหะหนักในลำน้ำกกมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่ปริมาณน้ำน้อยลง สารพิษจึงเข้มข้นขึ้น ซึ่งกระทบทั้งการเกษตรและอาหารประจำวันของประชาชน โดยขอให้รัฐตรวจสอบสัตว์น้ำและพืชผลที่ใช้น้ำจากแม่น้ำกกอย่างเร่งด่วน

ในวันเดียวกัน รังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ได้เดินทางลงพื้นที่แม่อายและเชียงราย เพื่อติดตามปัญหาดังกล่าว พร้อมระบุว่าสารหนูและตะกั่วมีค่าที่น่าเป็นห่วงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ต้นตอปัญหาเหมืองทองผิดกฎหมายในเขตอิทธิพลของกลุ่มว้าในเมียนมา

ข้อมูลจากการตรวจสอบพบว่าแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำกกและสาย ไหลมาจากพื้นที่เขตอิทธิพลของกลุ่มว้า (UWSA) ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งมีเหมืองทองคำผิดกฎหมายกว่า 30 แห่ง ปล่อยตะกอนสารพิษลงแม่น้ำโดยไม่มีมาตรการควบคุม ส่งผลให้ประเทศไทยซึ่งอยู่ปลายน้ำรับผลกระทบเต็ม ๆ

นายโรมกล่าวว่า ปัญหานี้ไม่เพียงกระทบต่อคุณภาพน้ำ แต่ยังลุกลามไปถึงเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

หน่วยงานรัฐยืนยันไม่มีการทำเหมืองในเขตประเทศไทย

นางสลีลญา คำภาแก้ว นายอำเภอแม่อาย ชี้แจงว่า การตรวจสอบในพื้นที่แม่อายไม่พบกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโลหะหนัก พร้อมเน้นย้ำว่าอำเภอแม่อายไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหา การแก้ไขต้องทำในระดับประเทศ โดยปัจจุบันมีการแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดให้ชาวบ้านฟรีและเร่งตรวจสอบปลาและดินตะกอนเพิ่มเติม

ข้อเรียกร้องเร่งใช้การทูตและความร่วมมือระหว่างประเทศ

นายรังสิมันต์ โรม กล่าวอย่างหนักแน่นว่า แม้สถานการณ์ในเมียนมาจะซับซ้อนจากสงครามกลางเมือง แต่รัฐบาลไทยต้องแสดงความชัดเจน ใช้ช่องทางการทูต รวมถึงประเทศที่มีสัมพันธ์ดีกับกลุ่มว้า เพื่อกดดันให้ยุติกิจกรรมเหมืองทองที่เป็นต้นเหตุของปัญหา

“ถ้าไม่แก้วันนี้ ปัญหาจะลุกลามต่อเนื่อง คนไทยจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยอย่างปลอดภัย” นายโรมกล่าว

เหมืองทองฝั่งเมียนมาปล่อยตะกอนลงแม่น้ำกก

ผู้สื่อข่าวยังได้รับคลิปวิดีโอจากชาวบ้าน ซึ่งเผยให้เห็นภาพการระบายตะกอนจากเหมืองทองในเขตรัฐฉานลงสู่แม่น้ำกกอย่างชัดเจน ยืนยันถึงการดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายของเหมืองดังกล่าวที่ยังดำเนินอยู่

กมธ.มั่นคงฯ นัดถกแนวทางร่วมกับส่วนราชการในเชียงราย

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ มีกำหนดประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อสรุปสถานการณ์และหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน เน้นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานสิ่งแวดล้อม ความมั่นคง สาธารณสุข และการต่างประเทศ

วิกฤตนี้ไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่คือความมั่นคงระดับชาติ

กรณีสารหนูและตะกั่วในแม่น้ำกก ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อม แต่สะท้อนถึงปัญหาโครงสร้างความมั่นคงระหว่างประเทศ รัฐบาลต้องใช้ทั้งกลยุทธ์ระหว่างประเทศและการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อแก้ปัญหานี้

หากยังปล่อยให้กลุ่มอิทธิพลดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายข้ามพรมแดนต่อไปโดยไม่มีการควบคุม สถานการณ์จะยิ่งซับซ้อนและรุนแรงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สถิติและข้อมูลอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง

  • ค่าสารหนูในแม่น้ำกกสูงสุด: 0.037 mg/L (มาตรฐานไม่เกิน 0.01 mg/L)
  • ค่าสารตะกั่วในแม่น้ำกก: 0.076 mg/L (มาตรฐานไม่เกิน 0.05 mg/L)
  • เหมืองทองผิดกฎหมายในรัฐฉาน: กว่า 30 แห่ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • กรมควบคุมมลพิษ
  • สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 1
  • สส.ปั๋น – ชิตวัน ชินอนุวัฒน์
  • พรรคประชาชน
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
VIDEO

เศรษฐา vs. รังสิมันต์’ โตๆ กันแล้ว อย่าด้อยค่ากัน

 

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 เป็นวันที่สอง 

นายเศรษฐา ลุกขึ้นชี้แจงว่า ฟังมาแล้ว 2 วันเต็ม  ฟังแล้วก็หดหู่ใจ แต่ต้องยอมรับ เพราะเป็นการด้อยค่าภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองด้วยกันเอง ทั้งที่เขายังไม่ได้เข้าบริหารราชการ ไม่ว่าจะเป็นทหารอันทรงเกียรติ ยืนยันว่าทุกสถาบัน ทุกหน่วยงานรัฐมีทั้งคนดีและไม่ดี

การที่เราเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการที่เราจะเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาที่สะสมหมักหมมกันมายาวนาน เป็นปัญหาใหญ่ เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน เป็นเรื่องของช่องว่างระหว่างกัน ซึ่งประเด็นที่ท่านยกมาอภิปรายเป็นเรื่องทหารและประชาชน ยืนยันว่าเป็นรัฐบาลของประชาชนภายใต้การนำของตน ตนใช้คำว่าพัฒนาก่อน เชื่อว่าความหมายใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์ออกมาอาจจะแตกต่างกันบ้างตามกาลที่เปลี่ยนไป ตามขีดจำกัด ตามผลลัพธ์ที่อยากเห็น สังคมเดินไปข้างหน้าได้ ลดความขัดแย้ง การใช้วาทกรรมที่มีการด้อยค่ากันในสภาอันทรงเกียรตินี้

“เมื่อสักครู่ฟังไปเห็นใบหน้ายิ้มแย้ม หัวเราะเยาะกันไปกับตัวอย่าง หลายอย่างอาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นตัวอย่างที่จริงบ้าง หรือต้องการการพิสูจน์ เข้าใจครับ แต่วิธีการนำเสนอ คำพูดต่างๆ แทนที่จะทำให้บรรยากาศในการทำงานร่วมกันในการเจรจา ในการพัฒนาสถาบันทหารควบคู่ไปกับการมีชีวิตที่ดีขึ้นกับพี่น้องประชาชนจะลำบากขึ้น ผมในฐานะผู้นำรัฐบาลมีความเป็นห่วงจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นการบังคับกันไม่ได้เรื่องการใช้วาทกรรมด้อยค่ากัน

“ขอเวลาหน่อยครับ วันนี้เพิ่งเข้ามาทำงาน ไม่อยากได้ยินการด้อยค่าของกันและกัน เตือนกันนิดนึง โตๆ กันแล้ว เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เข้าใจครับ ตระหนักดีครับ” นายเศรษฐากล่าว

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประท้วงว่านายกรัฐมนตรีใช้ข้อความเสียดสี ด้วยความเคารพ หากเราโตๆ กันแล้วท่านเป็นนายกรัฐมนตรีกรุณาอย่าใช้ข้อความเสียดสีกันเลย เราอภิปรายด้วยเหตุผล ฉะนั้น หากท่านรู้สึกว่าพวกเราเสียดสีท่าน สิ่งที่ท่านต้องทำสิ่งแรกคืออย่าเสียดสีกลับ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News