Categories
AROUND CHIANG RAI HEALTH

“โฮงยาใกล้บ้าน Plus” สู่สุขภาพดี! อบจ.เชียงรายนำร่อง HPV DNA Test ทั่วจังหวัด

อบจ.เชียงราย Kick off! “โฮงยาใกล้บ้าน Plus” รุกตรวจ HPV DNA Test คัดกรองมะเร็งปากมดลูกสตรีเชียงราย หวังลดอัตราการเสียชีวิต

เชียงราย, 30 กรกฎาคม 2568 – อบจ.เชียงรายขับเคลื่อน “โฮงยาใกล้บ้าน Plus” ต้นแบบสุขภาพชุมชนสตรี ในโลกยุคใหม่ที่ความเท่าเทียมและการเข้าถึงบริการสุขภาพถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้ประกาศก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้หญิง ด้วยการเดินหน้าโครงการ “โฮงยาใกล้บ้าน Plus” ภายใต้นโยบาย “อยู่ที่ไหน ก็ใกล้หมอ” ผ่านการ Kick off กิจกรรมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV DNA Test ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงที่สุดในปัจจุบัน

กิจกรรม Kick off ดังกล่าวจัดขึ้นที่ห้องประชุมธรรมรับอรุณ อบจ.เชียงราย และผ่านระบบ Zoom Meeting เพื่อให้ครอบคลุมทั้ง 211 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั่วทั้งจังหวัด โดยมีนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมนายไพรัช มหาวงศนันท์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขกล่าวรายงาน ขณะที่หัวหน้าส่วนราชการ อสม. และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. กว่า 10,000 คน เข้าร่วมพิธีอย่างคึกคัก

HPV DNA Test ทางรอดใหม่ของสตรีเชียงราย

มะเร็งปากมดลูกยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของหญิงไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 30-59 ปี ที่ยังเข้าถึงการตรวจคัดกรองไม่ทั่วถึง โครงการนี้จึงมุ่งเป้าให้ผู้หญิงในกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจคัดกรองด้วย HPV DNA Test ซึ่งสามารถเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง ช่วยลดอุปสรรคทั้งเรื่องความเขินอาย การเดินทาง และลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ นับเป็นการพลิกโฉมระบบสาธารณสุขชุมชนในเชียงราย

นอกจากนี้ยังมีการอบรมโดยนางอภิษฎา สุวรรณ ศิวเสน นักเทคนิคการแพทย์ชำนาญการ จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่และจิตอาสา อสม. ให้สามารถนำความรู้ไปขยายผลในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ

การเข้าถึง-การป้องกัน-การดูแลต่อเนื่อง

อบจ.เชียงรายตั้งเป้าให้สตรีกลุ่มเป้าหมายทั่วทั้งจังหวัดเข้าถึงการตรวจคัดกรองอย่างครอบคลุม ภายใต้แนวคิด “ป้องกันก่อนเกิด ยิ่งเร็วยิ่งรอด” นอกจากตรวจแล้ว ยังเน้นการให้ข้อมูล การดูแลหลังการตรวจคัดกรอง ไปจนถึงการส่งต่อรักษาหากพบความผิดปกติ และที่สำคัญคือ การสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้หญิงไทยทุกคนเห็นความสำคัญของการตรวจและดูแลสุขภาพตนเองอย่างต่อเนื่อง

โครงการ “โฮงยาใกล้บ้าน Plus” ไม่ได้หยุดอยู่แค่กิจกรรมตรวจ แต่ยังขับเคลื่อนสู่การสร้างเครือข่ายสุขภาพท้องถิ่นที่แข็งแรง มี อสม. และ รพ.สต. ทำงานเชิงรุก ลงพื้นที่ ให้ความรู้ ชวนสตรีร่วมตรวจด้วยความเข้าใจ พร้อมกับสนับสนุนอุปกรณ์และการบริหารจัดการระบบข้อมูลที่แม่นยำและต่อเนื่อง

อบจ.เชียงราย – ผู้นำท้องถิ่นติดอาวุธสุขภาพสตรีไทยด้วยนวัตกรรมและเครือข่าย

การ Kick off ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วย HPV DNA Test สะท้อนให้เห็นว่าเชียงรายเป็นจังหวัดนำร่องในการยกระดับคุณภาพชีวิตสตรี ด้วยการวางนโยบายเชิงรุกที่เน้น “ป้องกันก่อนแก้ไข” ซึ่งตอบโจทย์การแก้ปัญหาสุขภาพเชิงระบบของผู้หญิงอย่างแท้จริง

ประเด็นเด่นที่สำคัญ:

  • ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรอง: HPV DNA Test คือมาตรฐานใหม่ของการคัดกรองโรค ช่วยตรวจพบไวรัสสายพันธุ์เสี่ยงก่อมะเร็งในระยะเริ่มต้น
  • สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของสุขภาพ: การให้สตรีสามารถเก็บตัวอย่างเอง ลดอุปสรรคด้านเวลา ความกลัว หรือข้อจำกัดด้านวัฒนธรรม ช่วยให้เข้าถึงมากขึ้น
  • ขับเคลื่อนโดยเครือข่ายท้องถิ่น: การผนึกกำลังของ อสม. รพ.สต. และผู้เชี่ยวชาญคือรากฐานของความยั่งยืน ไม่ใช่โครงการระยะสั้น
  • เน้นต่อเนื่องทุกขั้นตอน: ไม่หยุดแค่ตรวจ แต่ครอบคลุมถึงการติดตาม ส่งต่อ รักษา และเยียวยาแบบเบ็ดเสร็จ

ความท้าทายและข้อเสนอแนะ

แม้ความพร้อมของเชียงรายจะโดดเด่น แต่ความท้าทายคือการเข้าถึงกลุ่มหญิงเปราะบาง เช่น ผู้ด้อยโอกาสหรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล การสื่อสารแบบเข้าใจง่ายและเหมาะสมกับแต่ละชุมชน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณ-บุคลากร-ระบบสนับสนุน เพื่อให้โครงการดำเนินไปได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

สรุป:

โครงการ “โฮงยาใกล้บ้าน Plus” ของอบจ.เชียงราย คือแบบอย่างของการขับเคลื่อนงานสาธารณสุขที่ก้าวทันโลก ใช้เทคโนโลยี สร้างเครือข่าย และใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อลดการสูญเสียและยกระดับสุขภาพผู้หญิงไทยทั้งจังหวัดอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย
  • กองสาธารณสุข อบจ.เชียงราย
  • รายงานข่าวภาคสนามและข้อมูลสาธารณสุขจังหวัด
  • ข้อมูลสถานการณ์และสถิติจากสถาบันวิจัยมะเร็งปากมดลูกแห่งประเทศไทย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงรายผนึกกรมวิทย์ฯ หยุดมะเร็งปากมดลูก ด้วย HPV DNA Test

อบจ.เชียงรายเดินหน้ารณรงค์ “ฮ่วมแฮง ฮ่วมใจ๋ ดูแลแม่ญิงเจียงฮาย หยุดมะเร็งปากมดลูก” คิกออฟตรวจคัดกรองด้วยเทคโนโลยี HPV DNA Test สร้างสุขภาวะหญิงไทย

เชียงราย, 17 มิถุนายน 2568 – ในยุคที่ภัยสุขภาพสำหรับผู้หญิงยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของสังคมไทย “มะเร็งปากมดลูก” ถือเป็นโรคร้ายแรงที่พรากชีวิตหญิงไทยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แม้เทคโนโลยีทางการแพทย์จะรุดหน้าแต่ความตระหนักรู้และการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองยังไม่ครอบคลุมทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) จึงเดินหน้ายกระดับสุขภาพหญิงไทย ด้วยการเปิดตัวโครงการ “ฮ่วมแฮง ฮ่วมใจ๋ ดูแลแม่ญิงเจียงฮาย หยุดมะเร็งปากมดลูก” (FINDING HPV STOP CERVICAL CANCER) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

จุดเริ่มต้นความร่วมมือ รู้ก่อน รักษาก่อน ปลอดภัย

โครงการนี้เริ่มต้นด้วยความร่วมมือระหว่างอบจ.เชียงราย และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การนำของนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ที่ให้การต้อนรับนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมคณะ ในกิจกรรม Kick off พร้อมด้วยการอบรมเชิงปฏิบัติการแก่ทีมสาธารณสุขระดับพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการรณรงค์ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทั่วทั้งจังหวัดเชียงราย

จุดเด่นของกิจกรรมในครั้งนี้อยู่ที่การแนะนำวิธีตรวจคัดกรองด้วย HPV DNA Test เทคโนโลยีใหม่ที่มีความแม่นยำสูงกว่าการตรวจแบบเดิม (Pap Smear) สามารถตรวจจับเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูงทั้ง 14 สายพันธุ์ ที่เป็นต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูกได้อย่างชัดเจน และสามารถเก็บตัวอย่างด้วยตนเองที่บ้าน สะดวก ปลอดภัย และลดความเขินอายในการรับบริการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับผู้หญิงไทยอายุ 30-60 ปี ทุกสิทธิ์ประกันสุขภาพ รวมถึงหญิงที่มีอายุ 15-29 ปี ในกลุ่มเสี่ยงสูง

รณรงค์สร้างความมั่นใจ “เปลี่ยนความเขินอาย เป็นความมั่นใจ”

ภายในงานมีผู้เข้าร่วมกว่า 400 คน ทั้งเจ้าหน้าที่ อสม. และตัวแทนชุมชน โดยได้รับฟังข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งปากมดลูก อธิบายถึงแนวทาง “รู้เร็ว รักษาเร็ว โอกาสหายสูง” ยิ่งพบเร็ว โอกาสหายขาดยิ่งมาก และเน้นให้ผู้หญิงเปลี่ยนความกังวลใจ ความกลัว หรือความเขินอายในการตรวจ เป็นพลังใจในการดูแลสุขภาพตัวเอง โดยสโลแกนประจำโครงการ “เปลี่ยนความเขินอาย เป็นความมั่นใจ แม่นยำ ตรวจง่าย ได้ผลไว” ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น

นายก อบจ.เชียงราย ยังเชิญชวนสตรีในจังหวัด เข้ารับชุดตรวจ HPV DNA Test ได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน เพราะสามารถตรวจเพียงครั้งเดียว แต่ครอบคลุมถึง 14 สายพันธุ์หลัก ลดความยุ่งยากและไม่ต้องขึ้นขาหยั่งเหมือนในอดีต

ขยายผลเฝ้าระวังและป้องกัน สร้างต้นแบบ “อยู่ที่ไหนก็ใกล้หมอ”

การดำเนินโครงการครั้งนี้ไม่เพียงตอบโจทย์นโยบาย “อยู่ที่ไหนก็ใกล้หมอ (โฮงยาใกล้บ้าน Plus)” เท่านั้น แต่ยังเดินหน้าขยายบริการครอบคลุมทุกอำเภอในเชียงราย รวมถึงหมู่บ้านและชุมชนห่างไกล ผ่านเครือข่ายอสม.ที่ได้รับการอบรมอย่างเข้มข้น เพื่อให้สามารถให้ข้อมูล รณรงค์ และติดตามผลกลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญ กลไกการขับเคลื่อนนี้ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย และยังได้รับความร่วมมือจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่งทั่วประเทศ ที่ร่วมพัฒนารูปแบบคัดกรองเชิงรุกและวางระบบเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพอย่างเป็นระบบ

วิเคราะห์ผลลัพธ์และทิศทางอนาคต

การเปิดตัวโครงการในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทย ผ่านการรณรงค์เชิงรุกและขยายการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ปูรากฐานระบบเฝ้าระวังเชิงรุกอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังสร้างต้นแบบการดูแลสุขภาพที่สามารถนำไปขยายผลในระดับประเทศ

ความสำเร็จของโครงการในระยะยาวขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างภาครัฐ หน่วยบริการสุขภาพในท้องถิ่น เครือข่าย อสม. และความตื่นตัวของหญิงไทยในการดูแลสุขภาพตนเอง ยิ่งมีการขยายผลไปยังกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ห่างไกลมากเท่าใด โอกาสที่จะหยุดวงจรมะเร็งปากมดลูกในไทยก็ยิ่งใกล้ความจริงมากขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
  • สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
  • โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

ข่าวดี! ส่งท้ายปี หญิงไทยกว่า 1 ล้านคน ได้รับภูมิคุ้มกันมะเร็งปากมดลูก

 
 

วันที่ 9 ธันวาคม 2566 ข่าวดี! ส่งท้ายปี หญิงไทยกว่า 1 ล้านคน ได้รับภูมิคุ้มกันมะเร็งปากมดลูกเกินเป้าหมาย “หมอชลน่าน” มอบของขวัญปีใหม่คนไทยก่อนใคร ฉีดวัคซีน HPV เกิน 1 ล้านโดส ให้ผู้หญิงไทยอายุ 11-20 ปี ครบแล้ว เดินหน้าวางมาตรการสานต่อนโยบาย “มะเร็งครบวงจร” จัดหาวัคซีนเพิ่มเป็นเข็มที่ 2 ในอีก 6 เดือน ควบคู่กับการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงอายุ 30-60 ปี

 

           จากนโยบายมะเร็งครบวงจร ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้เป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Win ที่ต้องทำให้สำเร็จภายใน 100 วัน วันนี้ (9 ธันวาคม 2566) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศชัยชนะของหนึ่งในโครงการภายใต้นโยบายมะเร็งครบวงจรที่ประสบความสำเร็จล่วงหน้าไปแล้ว ก่อนที่จะครบ 100 วัน คือ การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ในผู้หญิงไทยอายุ 11-20 ปี โดยกล่าวว่า หลังจากเริ่ม kick-off การฉีดวัคซีน HPV 1 ล้านโดสภายใน 100 วัน ไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้ทุกจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานครจัดให้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีน HPV ให้กับนักเรียนหญิงกลุ่มเป้าหมายอายุ 11-20 ปีอย่างต่อเนื่อง และขยายการฉีดไปกลุ่มอายุเดียวกันที่อยู่นอกระบบโรงเรียนในเดือนธันวาคม ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ส่งผลให้วันนี้กระทรวงสาธารณสุขสามารถฉีดวัคซีนได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1 ล้านโดสแล้ว โดยตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2566 มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 1,036,891 โดส ถือเป็นความสำเร็จที่เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเร็วกว่ากำหนดที่คิดว่าจะทำให้สำเร็จ

 

          “เดิมเราคิดว่าจะพยายามฉีดวัคซีน HPV ให้ครบล้านโดสภายในสิ้นปี 2566 แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ทำให้เราประสบความสำเร็จเกินคาด วันนี้ผู้หญิงไทยอายุ 11-20 ปี มากกว่า 1 ล้านคน ได้รับการปกป้องจากมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากมะเร็งของผู้หญิงเป็นอันดับหนึ่งแล้ว อยากให้ทุกคนร่วมยินดีในความสำเร็จครั้งนี้ด้วยกัน และขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกหน่วยงานที่ช่วยกันจัดหาวัคซีน ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สภากาชาดไทย องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมควบคุมโรค” นพ.ชลน่าน กล่าว

 

           ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กนักเรียนหญิงอายุ 11-20 พร้อมกัน 1 ล้านคน เป็นจุดเริ่มต้นที่จะส่งผลดีไปในภายหน้าหลายสิบปี ทำให้ประชากรกลุ่มฉีดวัคซีนนี้มีโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกลดลงมากกว่า 10,000 ราย และหากกลุ่มเป้าหมายได้รับวัคซีน HPV เข็มที่ 2 โดยห่างจากเข็มที่ 1 อย่างน้อย 6 เดือน จะมีภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มเป้าหมายหญิง 11-20 ปีในประเทศไทยมีจำนวน 3.8 ล้านคน ได้รับวัคซีนในปีนี้รวมกับที่เคยได้วัคซีนมาแล้วในอดีตทั้งหมด 2.2 ล้านคน จึงเหลือกลุ่มเป้าหมายเพียง 1.6 ล้านคน ที่จะทยอยเข้ารับวัคซีนต่อ รวมถึงการจัดหาวัคซีนเพิ่มเป็นเข็มที่ 2 ในอีก 6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ จะมีการรณรงค์ให้ผู้หญิงอายุ 30-60 ปี เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกควบคู่กันไปด้วย เพื่อเป้าหมายสตรีไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัยจากมะเร็งปากมดลูก ตามนโยบายมะเร็งครบวงจรของกระทรวงสาธารณสุข

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News