Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ฟื้นฟูวัดฝั่งหมิ่นและสวนสาธารณะริมน้ำกก จัดลอยกระทงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงราย: ความก้าวหน้าและการสนับสนุนจากชุมชน

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงราย ได้ลงพื้นที่ติดตามความเสียหายจากน้ำท่วมที่วัดฝั่งหมิ่นและชุมชนฝั่งหมิ่น พวกเขาได้ร่วมมือกับพระครูขันติพลาธร เจ้าอาวาสวัดฝั่งหมิ่น และพี่น้องชุมชนในการสำรวจและประเมินความเสียหาย

การสำรวจและประเมินความเสียหายจากน้ำท่วม

ในวันที่ลงพื้นที่ นายวันชัย และทีมงานได้ทำการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างละเอียด พวกเขาได้รับข้อมูลความเสียหายจากพระครูขันติพลาธร และชุมชนฝั่งหมิ่น ซึ่งประกอบด้วยการเสียหายที่วัดฝั่งหมิ่นและบ้านเรือนในชุมชน พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ วัดฝั่งหมิ่นและชุมชนรอบข้าง

การฟื้นฟูวัดฝั่งหมิ่นและสวนสาธารณะริมน้ำกก

เทศบาลนครเชียงรายได้ดำเนินการฟื้นฟูวัดฝั่งหมิ่นและปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะริมน้ำกกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยและสวยงามสำหรับประชาชน การปรับภูมิทัศน์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่สาธารณะที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน

การจัดงานประเพณีลอยกระทงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม

นางอำไพ จันทร์เงิน ผอ.สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงราย ได้ประชุมปรึกษากับชุมชนฝั่งหมิ่นเพื่อเตรียมความพร้อมในการสืบสานประเพณี “ลอยสะเปา ล่องนที สะหลียี่เป็ง” ในวันลอยกระทงที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา การจัดงานนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และสร้างความสามัคคีในชุมชน

การมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์จากหอการค้าเชียงราย

นายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานหอการค้าเชียงราย ได้มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ชาวบ้านในชุมชนฝั่งหมิ่นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม สิ่งของที่แจกจ่ายได้แก่ ข้าวสาร หม้อหุงข้าว น้ำดื่ม และของใช้จำเป็นอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น ชาวบ้านได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและมีความสุขกับการสนับสนุนจากหอการค้า

การปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะริมน้ำกกอย่างต่อเนื่อง

ทางเทศบาลนครเชียงรายได้ดำเนินการปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะริมน้ำกกในชุมชนร่องเสือเต้น ฝั่งหมิ่น และป่าแดงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่นี้เป็นสถานที่ที่ชาวเชียงรายสามารถใช้ประโยชน์ได้ต่อไป การปรับภูมิทัศน์นี้รวมถึงการปลูกต้นไม้ การสร้างทางเดิน และการจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมสาธารณะ

การสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ ในการฟื้นฟูพื้นที่

การฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมในเชียงรายไม่ได้เป็นหน้าที่ของเทศบาลนครเชียงรายเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน เช่น หน่วยงานราชการ มูลนิธิ และภาคเอกชน การร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ความหวังและอนาคตของชุมชนฝั่งหมิ่น

การฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมในชุมชนฝั่งหมิ่นทำให้ชาวบ้านมีความหวังในการกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง พวกเขาสามารถกลับเข้าบ้านเรือนและดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง การจัดงานประเพณีลอยกระทงยังเป็นการสร้างความสามัคคีและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ชุมชนฝั่งหมิ่นจึงเริ่มต้นการเดินทางสู่การฟื้นฟูและพัฒนาอย่างยั่งยืน

บทสรุป

การฟื้นฟูน้ำท่วมในเชียงรายเป็นความพยายามร่วมกันของหลายภาคส่วน ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชาวบ้าน การสนับสนุนจากเทศบาลนครเชียงราย หน่วยงานราชการ และภาคเอกชนทำให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชุมชนฝั่งหมิ่นจึงสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีความสุขอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

อบจ.เชียงราย เร่งฟื้นฟูบ้านแม่ยาว สูบน้ำขังแก้ปัญหาเร่งด่วน

 

อบจ.เชียงราย เร่งฟื้นฟูหลังน้ำท่วมหมู่บ้านป่าอ้อใหม่ สูบน้ำขังแก้ปัญหาเร่งด่วน

วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้ นายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พันจ่าเอกทวีป เชี่ยวสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และบุคลากร อบจ.เชียงราย ลงพื้นที่ บ้านป่าอ้อใหม่ ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์และวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวยังคงมีน้ำท่วมขังยาวนานกว่า 1 เดือน หลังจากเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายหลายพื้นที่จะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ในบ้านป่าอ้อใหม่ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากไม่มีทางระบายน้ำออกจากพื้นที่

อบจ. เชียงราย นำเครื่องสูบน้ำใหญ่ 2 เครื่องเข้าพื้นที่

หลังจากได้รับแจ้งปัญหาจากผู้ใช้โซเชียลที่ใช้ชื่อว่า “แมรี่ จอย” ซึ่งได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ว่า “บ้านถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน จนถึงตอนนี้น้ำยังไม่แห้ง อยากให้หน่วยงานมาช่วยสูบน้ำออกให้หน่อยค่ะ” อบจ.เชียงรายได้ร่วมมือกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 2 เครื่อง เข้าไปติดตั้งในพื้นที่หมู่บ้านป่าอ้อใหม่ เพื่อเร่งทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่โดยใช้เวลาประมาณ 2 วันในการสูบน้ำท่วมขังที่ยังไม่มีทางระบายออกให้หมดไป

จังหวัดเชียงรายเร่งเสริมกำลังเคลียร์พื้นที่โคลนหลังสูบน้ำ

ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย (กอ.รมน.) ได้ประสานงานร่วมกับ อบจ.เชียงราย เพื่อนำรถขุดเข้ามาช่วยเคลียร์พื้นที่โคลนที่สะสมอยู่ในบริเวณบ้านเรือนและพื้นที่สาธารณะหลังการสูบน้ำเสร็จสิ้น เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมขังมาเป็นเวลานาน ทำให้โคลนและตะกอนดินสะสมหนาแน่นในหลายจุด ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขอนามัยและการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน

สภาพความเสียหายหนัก ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย

จากการสำรวจพื้นที่เบื้องต้นพบว่า บ้านเรือนกว่า 10 หลัง ในหมู่บ้านป่าอ้อใหม่ ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้ โดยบางหลังมีโครงสร้างที่เสียหายจากการกัดเซาะของน้ำ ต้องทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมและสวนผักของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและทรัพยากรในการดำรงชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ถนนภายในหมู่บ้านและเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านหลายจุดถูกน้ำกัดเซาะจนเกิดเป็นหลุมลึก ส่งผลให้การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก และยังไม่สามารถนำยานพาหนะขนาดใหญ่เข้าไปได้

 
อบจ.เชียงรายเตรียมแผนฟื้นฟูหลังน้ำลดอย่างเป็นระบบ

นายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน ที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงราย เปิดเผยว่า หลังจากการสูบน้ำออกจากพื้นที่แล้ว อบจ.เชียงรายได้วางแผนฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ โดยจะเริ่มจากการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย เช่น ถนน ทางเท้า และการปรับปรุงระบบระบายน้ำในหมู่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมซ้ำในอนาคต รวมถึงการพิจารณาสร้างแนวกำแพงกั้นน้ำเพิ่มเติมในจุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งเร่งสนับสนุนชาวบ้านในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านเรือน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถกลับมาพักอาศัยในบ้านของตนเองได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง

เรียกร้องภาครัฐสนับสนุนเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลแม่ยาวนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการสูบน้ำเพียงอย่างเดียว จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบระบายน้ำและพิจารณาการก่อสร้างคันกั้นน้ำเพิ่มเติม เนื่องจากตำบลแม่ยาวเป็นพื้นที่ราบต่ำที่ไม่มีทางระบายน้ำโดยตรงลงสู่แม่น้ำกก จึงต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนปรับโครงสร้างพื้นฐานและระบบการระบายน้ำใหม่อย่างเป็นระบบ เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน

บทสรุป: อบจ. เชียงรายเร่งสูบน้ำบ้านป่าอ้อใหม่ พร้อมวางแผนฟื้นฟู

การฟื้นฟูหมู่บ้านป่าอ้อใหม่ในครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย โดย อบจ.เชียงรายมีแผนที่จะทำงานร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบระบายน้ำและโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว เพื่อให้หมู่บ้านป่าอ้อใหม่และชุมชนใกล้เคียงสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอีกต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

โครงการน้องหมูเด้งปันน้ำใจ มอบที่นอนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย

 

เมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 11.30 น. องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำโดยนายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เดินทางมายังจังหวัดจังหวัดเชียงราย เพื่อมอบที่นอนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ “หมูเด้ง” ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์” ทั้งนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ให้ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในภาคเหนือ นำที่นอนมามอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 1 จำนวน 220  ชุด โดยมีรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล เป็นผู้รับมอบแทนนายกเทศมนตรีนครเชียงรายและคณะครูและนักเรียน ในพื้นที่ประสบภัย จำนวน 8 โรงเรียน เป็นผู้รับมอบ

ในพิธีมอบสิ่งของ นายณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย ได้เข้าร่วมเป็นตัวแทนในการรับมอบที่นอนทั้ง 220 ชุด จากองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ เพื่อนำไปแจกจ่ายต่อให้แก่นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยการช่วยเหลือครั้งนี้มุ่งหวังที่จะบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับครอบครัวที่สูญเสียทรัพย์สินและที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงราย

นายณรงค์ศักดิ์ ได้กล่าวในพิธีรับมอบว่า การสนับสนุนที่นอนจากองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยสูญเสียที่อยู่อาศัยและทรัพย์สิน รวมถึงที่นอนซึ่งจำเป็นสำหรับการพักผ่อนในแต่ละวัน การช่วยเหลือในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความลำบากทางด้านร่างกาย แต่ยังเป็นการส่งต่อกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยในการฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ นายณรงค์ศักดิ์ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของโครงการ “น้องหมูเด้ง ปันน้ำใจ” ว่า เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนและครอบครัวในชุมชนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด การส่งมอบที่นอนในครั้งนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองมีพื้นที่สำหรับการพักผ่อนที่ปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เผยว่า ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจทั้งภาครัฐและเอกชน และทุกภาคส่วนเข้าร่วมกิจกรรม ภายใต้ชื่อโครงการ “หมูเด้ง” ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์” กิจกรรมนี้ ไม่ได้เพียงแต่จะนำรายได้ไปช่วยเหลือสัตว์ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ เท่านั้น ยังเป็นเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ทำมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก องค์การสวนสัตว์ จะทยอยประกาศชื่อผู้ร่วมกิจกรรมเป็นระยะ

นายอรรถพรฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ พร้อมปฎิบัติตามแนวทาง ของ รมว ทส ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้นโยบายไว้ว่า “ข้าราชการ…ขับเคลื่อน ประชาชน…มีส่วนร่วม สื่อมวลชน…ช่วยกระจายข่าว สนุกกับทุกงานที่ทำ”

และมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนสังคมไทยทั้งในด้านการดูแลสัตว์และการช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยเร็ว ตามแนวนโยบาย การเป็นรัฐวิสาหกิจเพื่อสังคม

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ถูกทำลายอย่างหนัก รวมถึงโรงเรียนและชุมชนในเขตอำเภอเมืองและอำเภอแม่จัน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากน้ำป่าไหลหลากและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง การช่วยเหลือและสนับสนุนจากภาคเอกชนและหน่วยงานต่าง ๆ จึงมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูชุมชนและช่วยให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

สุดท้ายนี้ นายณรงค์ศักดิ์ได้กล่าวขอบคุณองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ และผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ พร้อมทั้งขอเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจอื่น ๆ ร่วมกันสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อื่น ๆ ของจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้ชาวบ้านสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขและผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย / องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ – ZPOT

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

ทอท. ชม สนามบินเชียงรายต้าน 72 ชั่วโมง ทีมเจ้าหน้าที่รับมือวิกฤตน้ำท่วมเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ได้สัมภาษณ์ นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เกี่ยวกับการบริหารจัดการสนามบินในช่วงวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ทั่วจังหวัดเชียงรายเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวมถึงพื้นที่รอบสนามบินแม่ฟ้าหลวงที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคมนาคมทางอากาศของจังหวัดและการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป

นาวาอากาศตรี สมชนก เปิดเผยว่า เมื่อเกิดสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ทีมงานของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงได้ดำเนินการตามแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาฉุกเฉินที่วางไว้ โดยได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่าสนามบินจะยังคงให้บริการได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ การจัดการน้ำรอบสนามบินได้มีการติดตั้งระบบระบายน้ำทั้งในเขตการบิน ทางวิ่ง และคลองระบายน้ำรอบท่าอากาศยาน เพื่อป้องกันน้ำท่วมที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของอากาศยาน

และวันที่ 12 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงที่สุด ระดับน้ำโดยรอบสนามบินเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทีมงานต้องเร่งประสานงานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อจัดหารถบริการขนส่งผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางเข้าออกสนามบินได้ รวมถึงจัดทีมช่วยเหลือผู้โดยสารที่ยังคงติดค้างอยู่ในสนามบิน โดยจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และพื้นที่พักพิงชั่วคราวให้กับผู้โดยสาร พร้อมกันนี้ยังมีการประสานงานกับสายการบินต่าง ๆ เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์และตารางบินที่ถูกปรับเปลี่ยนได้อย่างทันท่วงที

แม้ระดับน้ำจะท่วมถึงเขตการบินและบริเวณทางวิ่งของสนามบินในบางช่วง แต่ทีมงานสามารถควบคุมและลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงการวางแผนรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าที่ครอบคลุมทั้งการดูแลบ้านพักเจ้าหน้าที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำกก ซึ่งถือเป็นจุดเสี่ยงสำคัญ ทีมงานทุกคนต้องทำงานติดต่อกัน 72 ชั่วโมงโดยไม่มีการพักเบรกเพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้น้ำเข้าท่วมถึงอาคารผู้โดยสาร และสามารถทำให้สนามบินกลับมาเปิดให้บริการได้อย่างรวดเร็วหลังจากน้ำลด นาวาอากาศตรี สมชนก กล่าว

และนอกจากการจัดการในสนามบินแล้ว ทางท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงยังได้ส่งทีมจิตอาสาออกช่วยเหลือประชาชนในชุมชนรอบสนามบินและพื้นที่ประสบภัยในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทีมจิตอาสาได้ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม และอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมถึงการประสานงานเพื่อขนย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปยังที่ปลอดภัย

นาวาอากาศตรี สมชนก กล่าวเพิ่มเติมว่า การรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงได้เรียนรู้ถึงวิธีการจัดการวิกฤตอย่างรอบด้าน แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระดับความรุนแรงเช่นนี้ แต่ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน เจ้าหน้าที่บำรุงรักษา และหน่วยงานภายนอก ทำให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตมาได้อย่างปลอดภัย เขายังเน้นย้ำว่าทีมงานทุกคนทำงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละ เพื่อให้สนามบินกลับมาเปิดให้บริการได้อย่างเร็วที่สุดโดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยาน หลังจากสถานการณ์คลี่คลายจะมีการประชุมวางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรับมือกับปัญหาน้ำท่วมในอนาคต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย โดยจะมีการเสริมระบบระบายน้ำรอบสนามบิน รวมถึงการวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในเขตการบิน เพื่อให้สนามบินสามารถเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ

ทั้งนี้ นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ยังได้ฝากถึงนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการสนามบินแม่ฟ้าหลวงว่า สนามบินแม่ฟ้าหลวงยังคงพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบและมีความปลอดภัย ด้วยมาตรการป้องกันและแผนเผชิญเหตุที่ได้เตรียมไว้อย่างรอบคอบ และยืนยันว่าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงพร้อมต้อนรับผู้โดยสารทุกคนในช่วงฤดูท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง โดยจะดูแลทุกท่านด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุดเพื่อให้การเดินทางของทุกคนเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

 

นาวาอากาศตรี สมชนก กล่าวปิดท้ายว่า “แม้เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้จะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ แต่เราพร้อมปรับตัวและเรียนรู้เพื่อให้การบริหารจัดการสนามบินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทุกคน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงจะยังคงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางที่ปลอดภัยและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในอนาคตอย่างแน่นอน”

 

โดยพลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ ทอท.  หรือบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (บหาชน) หมายเลขที่ ทอท. 15942 /2567 ออกหนังสือเมื่อวันที่ 17 กันายน 2567 ขอชมเชย นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายและพนักงานในสังกัดทุกท่าน

จากสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงในพื้นที่จังหวัดเชียงราย รวมถึงเขตท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเซียงราย ในระดับวิกฤติ และปรากฎข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (พชร.) ได้มี การบริหารจัดการแก้ปัญหาสถานการณ์วิกฤติดังกล่าวตามขั้นตอน เพื่อลดระดับและบรรเทาความเสียหายลง และเมื่อสามารถรักษาระดับสถานการณ์ไว้ได้ ยังมีการจัดทีมจิตอาสา ออกให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบอุทกภัยจนสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะ เด็ก คนขรา ผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงผู้พิการ ในบริเวณชุมชนรอบท่าอากาศยาน รวมถึงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัด จนปรากฏภาพ เผยแพร่ทางสื่อมวลชนและสังคมออนไลน์โดยทั่วไป

การดำเนินการดังกล่าว นับว่าเป็นการบริหารสถานการณ์วิกฤติอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสร้างภาพลักษณ์และความสัมพันธ์อันดีแต่แก่ประชาชน ชุมชน รวมถึงสาธรณชนทั่วไปจนเป็นที่ประจักษ์ อันจะ นำมาซึ่งความร่วมมือจากประชาชน หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ในระดับพื้นที่และภูมิภาคเป็นอย่างยิ่งนั้น ในนามคณะผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ขอแสดงความชื่นชม นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการทำอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และพนักงานในสังกัดทุกท่าน ที่ได้ร่วมแก้ไขสถานการณ์ และเสียสละตนเองเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจนสถานการณ์คลี่คลาย เป็นที่ประทับใจและได้รับการชื่นชมจากสาธารณชนและสังคมทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง พร้อมถือโอกาสนี้ ส่งกำลังใจ และพร้อมสนับสนุนให้ทำนสามารถก้าวผ่านสถานการณ์วิกฤติครั้งนี้ให้ผ่านพันไปด้วยความเรียบร้อย

ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก อีกทั้งเดชะพระบารมี อันแผ่ไพศาลแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้โปรด ดลบันดาลคุ้มครองให้ท่านและพนักงาน ลูกจ้างทุกคน ปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย มีพลังกาย พลังใจ พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ให้บังเกิดสัมฤทธิ์ผลในสิ่งสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News