Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

‘เซ็นทรัล’ มอบสถานีเตือนภัยน้ำท่วม เชื่อมสัมพันธ์ไทย-เมียนมา

เซ็นทรัลมอบสถานีเตือนภัยน้ำท่วมให้เมียนมา พร้อมฟื้นฟูชุมชนแม่สาย

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 กลุ่มเซ็นทรัล ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อส่งมอบสถานีโทรมาตรอัตโนมัติสำหรับการเตือนภัยน้ำท่วมให้แก่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูและสนับสนุนการเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่แม่สายและท่าขี้เหล็ก

ในงานนี้มีตัวแทนสำคัญจากกลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ คุณสมกมล จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส คุณสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย คุณณรงค์ ประทินสุขอำไพ ผู้จัดการเขต ร้านซุปเปอร์สปอร์ต ภาคเหนือ และ คุณนราวิขญ์ วงค์ปิน ผู้จัดการฝ่ายขายสินค้าโรบินสัน สาขาเชียงราย ร่วมกับ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นประธานในพิธี

สนับสนุนการติดตั้งสถานีเตือนภัยน้ำหลาก

สถานีโทรมาตรอัตโนมัตินี้ถูกติดตั้งจำนวน 4 สถานี โดยแบ่งเป็นฝั่งเมียนมา 3 สถานี ได้แก่ บ้านโจตาดา บ้านดอยต่อคำ และสะพานอูทูนอ่อง ในเขตบ้านสบสาย และฝั่งไทย 1 สถานี ณ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1

พันโท ตั้น หล่าย วิน ผู้บังคับการกองบังคับการยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก เมียนมา กล่าวขอบคุณฝ่ายไทยในนามประชาชนเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคม 2567 โดยสถานีโทรมาตรจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแจ้งเตือนล่วงหน้าและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ฟื้นฟูชุมชน

นอกจากการสนับสนุนสถานีเตือนภัยแล้ว มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยังจัดกิจกรรม “คืนพื้นที่ คืนความสุขให้ประชาชน” มอบสิ่งของจำเป็น เช่น ผ้าห่ม 500 ผืน อุปกรณ์กีฬา 10 ชุด ชุดเครื่องครัว และผ้าขนหนู รวมมูลค่า 137,793 บาท เพื่อช่วยฟื้นฟูจิตใจชาวบ้านในชุมชนถ้ำผาจมและชุมชนตลาดสายลมจอย

ความร่วมมือเชิงพื้นที่เพื่อป้องกันภัย

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย กล่าวว่าการดำเนินโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในระดับภูมิภาค โดยสถานีโทรมาตรอัตโนมัติได้ถูกขยายไปยัง สปป.ลาว และเมียนมา ซึ่งจะช่วยแจ้งเตือนล่วงหน้าแก่ชุมชนเครือข่ายในพื้นที่เสี่ยงภัย

โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานหลายภาคส่วน เช่น กระทรวงมหาดไทย สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลจากสถานีโทรมาตรและส่งต่อไปยังชุมชนเพื่อการเตรียมพร้อม

ผลักดันมาตรการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน

การติดตั้งสถานีโทรมาตรในพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก เช่น บริเวณลำน้ำสาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดผลกระทบจากภัยพิบัติ พร้อมทั้งวางแผนสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น รถพยาบาลยกสูงและการจัดอบรมทีมกู้ภัยในอนาคต

ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและเมียนมา พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือระหว่างหน่วยงานในระดับท้องถิ่นและระดับชาติในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในภูมิภาคอย่างยั่งยืน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเปิดโครงการสานสัมพันธ์ ต้านยาเสพติด คืนคนดีสู่สังคม

โครงการ “สานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด” คืนคนดีสู่สังคม เชียงราย

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 เวลา 13.30 น. สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงราย จัดโครงการ “สานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด ให้โอกาสผู้กระทำผิด คืนคนดีสู่สังคม” รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ รังสินี รีสอร์ท ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ พร้อมด้วยผู้แทนส่วนราชการ, อาสาสมัครคุมประพฤติ, เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม, คณะวิทยากร และผู้ถูกคุมประพฤติในกลุ่มเสี่ยงปานกลาง จำนวน 40 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

การจัดโครงการครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญกับการ “ยกระดับระบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด” โดยมุ่งเน้นให้โอกาสแก่ผู้กระทำผิดในคดียาเสพติด ให้สามารถปรับปรุงพฤติกรรมและกลับมาใช้ชีวิตเป็นคนดีในสังคม สร้างคุณประโยชน์แก่ครอบครัวและชุมชน ตามแนวคิด “เปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง”

ทั้งนี้ กรมคุมประพฤติได้น้อมนำแนวทางจาก “โครงการกำลังใจ” ในพระดำริของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา มาประยุกต์ใช้ในการฟื้นฟูและเสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้ถูกคุมความประพฤติ โดยเฉพาะในคดียาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสังคมในหลายมิติ

ดอยฮาง Model: โมเดลสร้างสมดุลชีวิตกับสังคม

ภายในโครงการครั้งนี้ ได้นำกรอบแนวคิดจากศูนย์การเรียนรู้ดอยฮาง หรือ ดอยฮาง Model” มาปรับใช้ โดยเน้นกระบวนการฟื้นฟู 3 ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่:

  1. การปรับทุกข์-ผูกมิตร
    เป็นขั้นตอนแรกที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ภายในกลุ่มผู้เข้าอบรม เปิดโอกาสให้แต่ละคนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงสะท้อนความรู้สึกและความคิดของตนเอง
  2. การถอดรื้อ-สร้างใหม่
    ขั้นตอนนี้มุ่งเน้นการหาสาเหตุที่นำไปสู่การใช้ยาเสพติด สร้างความเข้าใจในปัญหา พร้อมทั้งเสริมสร้างแรงจูงใจ และพลังใจให้กับผู้เข้าร่วมอบรม เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น
  3. การดูแลต่อเนื่อง
    เป็นการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เช่น ครอบครัว ชุมชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยดูแลผู้ผ่านการอบรมให้มีความเข้มแข็งทางใจ ลดโอกาสการกลับไปใช้สารเสพติดซ้ำ และสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข

ความสำคัญของโครงการ

นายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างโอกาสให้ผู้กระทำผิดได้เรียนรู้ และปรับปรุงตนเอง ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ถูกคุมความประพฤติกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคมว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างจริงจัง และมีทิศทางที่ชัดเจน

ทางด้าน นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งและปัญหาสังคมในวงกว้าง ผู้ป่วยหรือผู้ถูกคุมความประพฤติหลายราย มักพบกับอุปสรรคในการใช้ชีวิตหลังพ้นโทษ การให้โอกาสและสร้างกำลังใจผ่านโครงการดังกล่าว จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ผลที่คาดหวังจากโครงการ

โครงการนี้คาดหวังว่าผู้เข้าอบรมทั้ง 40 คน จะได้รับแรงบันดาลใจ และมีความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ดีขึ้น ผ่านการเรียนรู้จากกระบวนการอบรมที่สร้างสมดุลระหว่างชีวิตและสังคม พร้อมทั้งได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากครอบครัว ชุมชน และเจ้าหน้าที่ภาครัฐ

นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นคณะสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และจิตอาสา จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกระบวนการฟื้นฟูผู้กระทำผิด และส่งเสริมให้เกิดการยอมรับจากครอบครัวและชุมชน

การจัดโครงการในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และเป็นแบบอย่างในการฟื้นฟูผู้กระทำผิดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสังคมที่ปลอดภัยและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

บทสรุป

การจัดโครงการ สานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด” ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการให้โอกาสและฟื้นฟูผู้กระทำผิดในคดียาเสพติด ให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมอย่างปกติสุข สร้างประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัว และชุมชน พร้อมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และสร้างสังคมที่สงบสุขในอนาคต

การดำเนินโครงการในครั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน แสดงถึงความร่วมมืออย่างจริงจังของจังหวัดเชียงราย ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย คืนรอยยิ้มชาวชุมชน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแม่สาย

ทวงคืนรอยยิ้มชาวแม่สาย อบจ.เชียงรายลงพื้นที่ฟื้นฟูหลังสาธารณภัย

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายอนุชา ยอดเชียงคำ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เขต 1 อำเภอแม่สาย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและบุคลากรของ อบจ.เชียงราย ได้ลงพื้นที่อำเภอแม่สาย เพื่อดำเนินการตามโครงการช่วยเหลือประชาชน เยียวยาและฟื้นฟูหลังเกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ ซึ่งเป็นการดำเนินงานครั้งที่ 4 ภายใต้เป้าหมายสำคัญในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัย

การลงพื้นที่ช่วยเหลือและฟื้นฟู

ในครั้งนี้ อบจ.เชียงราย ได้ลงพื้นที่ในตำบลแม่สาย ครอบคลุมหลายหมู่บ้าน ได้แก่

  • หมู่ 1 บ้านเหมืองแดงใต้
  • หมู่ 3 บ้านสันผักฮี้
  • หมู่ 4 บ้านเวียงหอม
  • หมู่ 5 บ้านสันมะนะ
  • หมู่ 6 บ้านป่ายางชุม
  • หมู่ 9 บ้านสันทราย
  • หมู่ 11 บ้านสันทรายใหม่

รวมจำนวนผู้ได้รับการช่วยเหลือกว่า 1,900 ราย โดยมีผู้นำท้องที่และผู้นำชุมชนในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

รายละเอียดการช่วยเหลือ

การมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ อบจ.เชียงราย ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อเยียวยาด้านการดำรงชีพ 4 รายการ ตามหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 ซึ่งประกอบด้วย:

  1. ค่าเครื่องนุ่งห่ม รายละไม่เกิน 1,100 บาท
  2. ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 11,400 บาท
  3. ค่าเครื่องครัวและอุปกรณ์ประกอบอาหาร เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 3,500 บาท
  4. ค่าเครื่องนอน รายละไม่เกิน 1,000 บาท

ความห่วงใยจากนายก อบจ.เชียงราย

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้กล่าวให้กำลังใจผู้ประสบภัยทุกคน พร้อมเน้นย้ำถึงความพร้อมของ อบจ.เชียงราย ในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม หากมีผู้ที่ประสบภัยแล้วยังไม่ได้รับการเยียวยาหรือรายชื่อตกหล่น สามารถแจ้งความจำนงได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือเทศบาลตำบลในพื้นที่ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นผู้ดำเนินการยื่นเรื่องให้คณะกรรมการจังหวัดเชียงรายพิจารณาอีกครั้ง

ฟื้นฟูความเป็นอยู่ด้วยพลังชุมชน

โครงการช่วยเหลือประชาชนครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้น แต่ยังส่งเสริมให้ประชาชนมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพและการประกอบอาชีพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในระยะยาว

อบจ.เชียงราย ยังคงยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้กลับมามีรอยยิ้มและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกครั้ง พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสร้างชุมชนที่มั่นคงและปลอดภัย

ประชาชนที่ได้รับผลกระทบและยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ สามารถติดต่อ อบจ.เชียงราย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ของตน เพื่อขอรับการเยียวยาเพิ่มเติมได้ตลอดระยะเวลาโครงการ.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ศิลปินเชียงรายจัดนิทรรศการ Red Mud, Green Shoots ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม

นิทรรศการ “Red mud, Green shoots” เชียงราย เปิดตัวผลงานศิลปะ 28 ศิลปินแม่ญิง สะท้อนความหวังท่ามกลางโคลนตม

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.00 น. ณ บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย จังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ Red mud, Green shoots (Resilience and regrowth) โดยกลุ่มศิลปิน Maeying Artists Collective ซึ่งประกอบด้วยศิลปินหญิง 28 คนจากเชียงรายและพื้นที่อื่นๆ นิทรรศการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสะท้อนความหวังและความเข้มแข็งของชุมชนที่เผชิญกับ อุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2567

แนวคิดและแรงบันดาลใจของนิทรรศการ

นิทรรศการ Red mud, Green shoots เกิดขึ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เชียงรายและพื้นที่ภาคเหนือในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2567 ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงทั้งต่อพื้นที่การเกษตร บ้านเรือน และธุรกิจในท้องถิ่น เมื่อน้ำลดลง พื้นที่หลายแห่งถูกปกคลุมไปด้วยโคลนสีแดง แต่ท่ามกลางความสูญเสีย กลับมี ความหวัง ที่ผลิบานขึ้นจากน้ำใจและการช่วยเหลือของผู้คน

ศิลปินหญิงจากกลุ่ม Maeying Artists Collective ได้นำเอาความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้พบเจอระหว่างเหตุการณ์น้ำท่วม มาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะหลากหลายเทคนิค ทั้งภาพวาด จิตรกรรม และสื่อผสม เพื่อถ่ายทอดความเข้มแข็งและการฟื้นฟูจิตใจของชุมชน

กิจกรรมและการแสดงผลงานศิลปะ

นิทรรศการจัดแสดงผลงานตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน ถึง 21 ธันวาคม 2567 เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ โดยมีผลงานกว่า 28 ชิ้นจากศิลปินหญิงที่มีชื่อเสียงของเชียงราย เช่น สมลักษณ์ ปันติบุญ และ สมพงษ์ สารทรัพย์ รวมถึงการเสวนาและการแสดงผลงานศิลปะเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ที่เข้าชมงาน

สะท้อนความหวังผ่านศิลปะ

ศิลปินผู้เข้าร่วมแสดงงานเล่าว่า การสร้างผลงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสะท้อนถึงเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง ความสามัคคี และการฟื้นฟูของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ศิลปินหญิงทั้ง 28 คนได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยพลังบวก เพื่อส่งต่อกำลังใจให้กับผู้ที่เผชิญความยากลำบาก

ส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมในท้องถิ่น

นิทรรศการครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงผลงานศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย โดยมีการเชิญชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเข้าชมงาน เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนและสนับสนุนการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย กล่าวว่า “นิทรรศการครั้งนี้เป็นการรวมพลังของชุมชนและศิลปินในการสร้างความหวังและกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย เราหวังว่าการจัดแสดงผลงานศิลปะในครั้งนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้กับทุกคน”

ข้อมูลเพิ่มเติม

นิทรรศการจัดขึ้น ณ บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย เชียงราย ผู้สนใจสามารถเข้าชมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณพจวรรณ พันธ์จินดา โทร. 084-115-0396

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. นิทรรศการนี้จัดขึ้นเพื่ออะไร?
    เพื่อสะท้อนความหวังและการฟื้นฟูจิตใจของชุมชนหลังเผชิญอุทกภัยที่เชียงราย

  2. สามารถเข้าชมงานได้เมื่อใด?
    ระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน – 21 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00-16.00 น. ยกเว้นวันจันทร์

  3. นิทรรศการนี้มีผลงานของศิลปินกี่ท่าน?
    มีผลงานจากศิลปินหญิงทั้งหมด 28 ท่าน

  4. มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมหรือไม่?
    ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

  5. นิทรรศการจัดขึ้นที่ไหน?
    บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย ถนนสิงหไคล อำเภอเมืองเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงรายช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ต.ริมกก 2,429 ราย

อบจ.เชียงรายเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังอุทกภัย

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้ดำเนินการโครงการช่วยเหลือประชาชน เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูหลังเกิดเหตุสาธารณภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนัก

อบจ.เชียงรายลงพื้นที่เยียวยาผู้ประสบภัย

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมคณะได้ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัย ณ อาคารคชสาร สนามกีฬากลาง อบจ.เชียงราย โดยมีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในตำบลริมกก จำนวน 2,429 ราย เข้าร่วมรับการช่วยเหลือ

การช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

การดำเนินการช่วยเหลือครั้งนี้ เป็นไปตามมติของคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนของ อบจ.เชียงราย ที่ได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อเยียวยาผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อาทิ ค่าเครื่องนุ่งห่ม ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ ค่าเครื่องครัว และค่าเครื่องนอน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นและช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

เป้าหมายเพื่อฟื้นฟูชีวิตผู้ประสบภัย

นายก อบจ.เชียงราย กล่าวว่า “เราเข้าใจดีว่าเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก อบจ.เชียงรายจึงเร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็วที่สุด”

แผนการช่วยเหลือในระยะยาว

นอกจากการมอบเงินช่วยเหลือแล้ว อบจ.เชียงรายยังได้วางแผนที่จะดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในระยะยาว โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ เพื่อบูรณาการการทำงานและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

ครอบคลุมพื้นที่ประสบภัยทั่วทั้งจังหวัด

สำหรับพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย อบจ.เชียงรายก็ได้เตรียมการที่จะลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยจะพิจารณาจากความรุนแรงของความเสียหายและความต้องการความช่วยเหลือของประชาชนในแต่ละพื้นที่

ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูชุมชน

การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยและความมุ่งมั่นของ อบจ.เชียงราย ในการดูแลพี่น้องประชาชน และเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยได้ฟื้นฟูชีวิตกลับมาให้ดีขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘เยาวชนเชียงราย’ รวมตัวกำจัดโคลน ทีมอาสาพร้อมฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด

น้อง ๆ ศูนย์เยาวชนอบจ.เชียงรายร่วมทำความสะอาดตลาดสายลมจอย อ.แม่สาย หลังน้ำลด

ในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 น้อง ๆ ศูนย์เยาวชนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้แสดงความร่วมแรงร่วมใจในการฟื้นฟูอำเภอแม่สาย หลังจากน้ำลดทำให้ตลาดสายลมจอยเต็มไปด้วยดินโคลน นี่เป็นความพยายามที่มุ่งหวังให้ชุมชนกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในอนาคตอันใกล้

ความร่วมมือระหว่างเยาวชนและทหารกองทัพเรือในการฟื้นฟูพื้นที่

การทำความสะอาดดินโคลนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการร่วมมือกันระหว่างน้อง ๆ ศูนย์เยาวชนและพี่ ๆ ทหารกองทัพเรือ ทำให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งสองฝ่ายได้ใช้ความสามารถและทรัพยากรที่มี เพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาสวยงามและใช้งานได้อีกครั้ง

การมีส่วนร่วมของนายอนุชา ยอดเชียงคำ ส.อบจ.เชียงราย ในกิจกรรมฟื้นฟู

นายอนุชา ยอดเชียงคำ ผู้เป็นตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย เขต 1 ได้เดินลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้าของกิจกรรมฟื้นฟู ทั้งนี้ การมีส่วนร่วมของผู้บริหารท้องถิ่นช่วยเสริมสร้างแรงจูงใจให้กับน้อง ๆ เยาวชนในการทำงานเพื่อสังคม

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำความสะอาดดินโคลนตลาดสายลมจอย

หลังจากการทำความสะอาดดินโคลนที่ครอบคลุมพื้นที่ตลาดสายลมจอย อำเภอแม่สาย กลุ่มเยาวชนและทหารได้ฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาสะอาดและน่าใช้งานอีกครั้ง ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้พื้นที่กลับมาสมบูรณ์ แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ ในการรับมือกับปัญหาสาธารณะ

ความสำคัญของการฟื้นฟูชุมชนหลังน้ำลด

การฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ชุมชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ การทำความสะอาดดินโคลนไม่เพียงแต่ช่วยให้พื้นที่สะอาดขึ้น แต่ยังเป็นการป้องกันการเกิดโรคระบาดและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการสะสมของน้ำและดินโคลน

 

การเตรียมความพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวในอนาคต

ด้วยการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาสดใส น้อง ๆ เยาวชนและทหารกองทัพเรือได้ช่วยเตรียมความพร้อมให้กับอำเภอแม่สายในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนและสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ การมีพื้นที่ที่สะอาดและปลอดภัยจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของชุมชนได้อย่างยั่งยืน

บทสรุป: ความสำเร็จจากความร่วมมือและจิตอาสา

ความสำเร็จในการฟื้นฟูดินโคลนตลาดสายลมจอย อำเภอแม่สาย เป็นผลมาจากความร่วมมือและจิตอาสาของน้อง ๆ ศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย ร่วมกับพี่ ๆ ทหารกองทัพเรือ และการสนับสนุนจากผู้บริหารท้องถิ่น การทำงานร่วมกันอย่างมีเป้าหมายและมุ่งมั่นนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ชุมชนกลับมาสู่สภาวะปกติ แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันเพื่อสังคมที่ดีขึ้นในอนาคต

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สสจ.เชียงราย จัดตั้งศูนย์ฉุกเฉิน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

การประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขในสสจ.เชียงรายหลังพายุไต้ฝุ่น

สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลาย

สสจ.เชียงรายได้จัดการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข หลังจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นระลอกแรก ยางิ และซูลิก คลี่คลายลงแล้ว โดยการประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ผ่านระบบการประชุมออนไลน์

ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น

พายุไต้ฝุ่นที่ผ่านมาทำให้ประชาชนในพื้นที่เชียงรายได้รับผลกระทบมากถึงกว่า 63,491 ครัวเรือน เสียชีวิตทั้งหมด 19 ราย และบาดเจ็บกว่า 2,091 ราย นอกจากนี้ยังมีการเสียหายทางโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก

การจัดตั้งทีมปฏิบัติการฉุกเฉิน

ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฯ ได้จัดตั้งทีมต่าง ๆ ได้แก่ ทีมแพทย์ฉุกเฉิน (MERT/miniMERT), ทีมปฐมพยาบาล, ทีมเยียวยาจิตใจ (MCATT), ทีมเฝ้าระวังและสอบสวนโรค (SRRT/CDCU), ทีมอนามัยสิ่งแวดล้อม (SEhRT) และทีมกู้ชีพ เพื่อให้การดูแลประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทีมงานได้ให้บริการกว่า 38,180 ครั้ง และแจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์จำเป็นกว่า 72,426 รายการ

การฟื้นฟูและการดูแลสุขภาพจิต

หลังจากสถานการณ์ฉุกเฉินคลี่คลายลง ศูนย์ฯ ได้เปลี่ยนภารกิจสู่การฟื้นฟูอย่างยั่งยืน โดยยังคงเฝ้าระวังโรคที่อาจเกิดขึ้นหลังน้ำลด เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคฉี่หนู และโรคระบบทางเดินอาหาร รวมถึงการดูแลสุขภาพจิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

การสนับสนุนจากศูนย์ปฏิบัติการ

นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าศูนย์ปฏิบัติการได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ตั้งแต่การเฝ้าระวังก่อนเกิดเหตุ จนถึงการดูแลและฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือจากประชาชนในการทำความสะอาดที่พักอาศัย กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และรักษาสุขอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในระยะยาว

สรุปสถานการณ์และการดำเนินงาน

ในการประชุมศูนย์ฯ ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในจังหวัดเชียงราย โดยพบว่าพายุไต้ฝุ่นระลอกแรกได้เสียชีวิต 5 ราย พายุยางิ 13 ราย และพายุซูลิก 1 ราย รวมทั้งหมด 19 ราย นอกจากนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากพายุไต้ฝุ่นระลอกแรก 7 ราย ยางิ 2,067 ราย และซูลิก 17 ราย

การดูแลและฟื้นฟูชุมชน

ศูนย์ฯ ได้เน้นการฟื้นฟูชุมชนให้ประชาชนกลับมามีสุขภาพแข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยสนับสนุนการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมและการดูแลสุขภาพประชาชนอย่างต่อเนื่อง ความห่วงใยจากทีมสาธารณสุขจะยังคงอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกย่างก้าว

บทสรุป

การประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขในสสจ.เชียงรายเป็นการยืนยันถึงความพร้อมและความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินทางธรรมชาติ การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของทีมงานและหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและต่อเนื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ผู้ว่าฯ เชียงราย เร่งฟื้นฟูชุมชนฮ่องลี่ พร้อมขนขยะวันละ 100 เที่ยว

 

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ปลัดจังหวัดเชียงราย และเจ้าหน้าที่จากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมชนฮ่องลี่ ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัยครั้งนี้ โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่ติดกับแม่น้ำกก ทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ประชาชนในหลายหลังคาเรือนยังคงได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง

ทั้งนี้ ประชาชนในชุมชนต้องเร่งทำความสะอาดพื้นที่บ้านของตนเอง โดยเฉพาะการล้างดินโคลนที่ทับถมอยู่ในตัวบ้าน ห้องนอน และบริเวณรอบ ๆ บ้าน สถานการณ์ในตอนนี้แม้ว่าน้ำจะลดลงแล้ว แต่ก็ยังคงมีการขนดินโคลนออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละวันจะมีการใช้รถบรรทุก 6 ล้อในการขนดินโคลนและเศษขยะออกไปจากชุมชนมากกว่า 100 เที่ยว

เศษไม้และขยะต่าง ๆ ที่ถูกพัดมากับน้ำท่วมจะถูกขนไปทิ้งที่ศูนย์กำจัดขยะของเทศบาลนครเชียงราย เพื่อให้กระบวนการฟื้นฟูดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เน้นย้ำว่า ทุกชุมชนและทุกจุดที่ได้รับผลกระทบต้องได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการจัดหาน้ำสะอาดเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ในชีวิตประจำวัน

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่สามารถประเมินค่าได้ชัดเจน เนื่องจากต้องรอการสำรวจเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ รัฐบาลและหน่วยงานในพื้นที่จะร่วมมือกันฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

การทำความสะอาดพื้นที่และขนย้ายดินโคลนยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่จิตอาสาและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมด้วย ในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครเชียงรายได้ระดมทรัพยากรและกำลังคนในการจัดการกับขยะและเศษซากที่ตกค้างอยู่ในชุมชน โดยการขนย้ายขยะเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำท่วม

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือของประชาชนและหน่วยงานท้องถิ่นจะเป็นสิ่งสำคัญในการเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาสู่สภาพปกติ และเน้นให้ความสำคัญกับการจัดการขยะที่ถูกพัดมากับน้ำท่วม รวมถึงการเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพที่จะเกิดขึ้นจากสภาพน้ำท่วมขังในบางพื้นที่

นอกจากนี้ หน่วยงานในพื้นที่ยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อสำรวจความเสียหายและจัดทำแผนฟื้นฟูในระยะยาว โดยเบื้องต้นจะเน้นไปที่การจัดหาน้ำสะอาดสำหรับใช้ในครัวเรือน และการจัดการกับปัญหาสุขภาพของประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการท่วมขังของน้ำ ในขณะเดียวกัน ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรจิตอาสา ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในชุมชนฮ่องลี่และพื้นที่ใกล้เคียง.

มาตรการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยประชาชนให้ฟื้นตัวจากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนงานที่เกี่ยวข้องจะคอยติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและทั่วถึงในทุกชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News