เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย กำหนดรายชื่อประเทศและดินแดนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงาน หรือการติดต่อธุรกิจระยะสั้น ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ
โดยประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้การส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ของนักธุรกิจและภาคการท่องเที่ยวถดถอย
เมื่อภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งการค้าการลงทุน เป็นกลไกหนึ่งที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของไทย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และส่งเสริมให้นักธุรกิจจากต่างประเทศซี่งมีศักยภาพด้านเศรษฐกิจในประเทศไทยสูง ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้นในการเดินทางเข้าราชอาณาจักรเพื่อการท่องเที่ยว ทำงาน หรือการติดต่อธุรกิจระยะสั้น
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 87/25657 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ ลงวันที่ 10 กรกฎาคม พุทธศักราช 2557 และมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้กำหนดรายชื่อประเทศและดินแดนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทน หนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินหกสิบวัน ดังนี้
- สาธารณรัฐแอลเบเนีย
- ราชรัฐอันดอรร์รา
- เครือรัฐออสเตรเลีย
- สาธารณรัฐออสเตรีย
- ราชอาณาจักรบาห์เรน
- ราชอาณาจักรเบลเยียม
- ราชอาณาจักรภูฏาน
- สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล
- บรูไนดารุสซาลาม
- สาธารณรัฐบัลแกเรีย
- ราชอาณาจักรกัมพูชา
- แคนาดา
- สาธารณรัฐประชาชนจีน (รวมทั้งฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน)
- สาธารณรัฐโคลอมเบีย
- สาธารณรัฐโครเอเชีย
- สาธารณรัฐคิวบา
- สาธารณรัฐไชปรัส
- สาธารณรัฐเช็ก
- ราชอาณาจักรเดนมาร์ก
- เครือรัฐดอมินีกา
- สาธารณรัฐโดมินิกัน
- สาธารณรัฐเอกวาดอร์
- สาธารณรัฐเอสโตเนีย
- สาธารณรัฐฟีจี
- สาธารณรัฐฟินแลนด์
- สาธารณรัฐฝรั่งเศส
- จอร์เจีย
- สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
- สาธารณรัฐกัวเตมาลา
- สาธารณรัฐเฮลเลนิก
- ฮังการี
- สาธารณรัฐไอซ์แลนด์
- สาธารณรัฐอินเดีย
- สาธารณรัฐอินโดนีเชีย
- ไอร์แลนด์
- รัฐอิสราเอล
- สาธารณรัฐอิตาลี
- จาเมกา
- ญี่ปุ่น
- ราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน
- สาธารณรัฐคาซัคสถาน
- สาธารณรัฐเกาหลี
- สาธารณรัฐคอซอวอ
- รัฐคูเวต
- สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
- สาธารณรัฐสัตเวีย
- ราชรัฐลิกเตนสไตน์
- สาธารณรัฐลิทัวเนีย
- ราชรัฐลักเชมเบิร์ก
- มาเลเซีย
- สาธารณรัฐมัลดีฟส์
- สาธารณรัฐมอลตา
- สาธารณรัฐมอริเชียส
- สหรัฐเม็กซิโก
- ราชรัฐโมนาโก
- มองโกเลีย
- ราชอาณาจักรโมร็อกโก
- ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
- นิวซีแลนด์
- ราชอาณาจักรนอร์เวย์
- รัฐสุลต่านโอมาน
- สาธารณรัฐปานามา
- รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี
- สาธารณรัฐเปรู
- สาธารณรัฐฟิลิปปีนส์
- สาธารณรัฐโปแลนด์
- สาธารณรัฐโปรตุเกส
- รัฐกาตาร์
- โรมาเนีย
- สหพันธรัฐรัสเซีย
- สาธารณรัฐซานมารีโน
- ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
- สาธารณรัฐสิงคโปร์
- สาธารณรัฐสโลวัก
- สาธารณรัฐสโลวีเนีย
- สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
- ราชอาณาจักรสเปน
- สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา
- ราชอาณาจักรสวีเดน
- สมาพันธรัฐสวิส
- ราชอาณาจักรตองกา
- สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก
- สาธารณรัฐตุรกี
- ยูเครน
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- สหราชอาณาจักร
- สหรัฐอเมริกา
- สาธารณรัฐโอเรียนทัลอุรุกวัย
- สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน
- สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
ข้อ 3 ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2 ซึ่งจะเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อทำงานหรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นตามที่กำหนดไว้ในประกาศกรมการจัดหางานว่าด้วยการกำหนดงานอันมีลักษณะจำเป็นหรือเร่งด่วนหรืองานเฉพาะกิจให้ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน
ข้อ 4 ในกรณีที่คนต่างด้าวประสงค์จะขออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปภายหลังจากที่ครบกำหนดเวลาอนุญาตตามประกาศนี้แล้ว ก่อนครบกำหนดเวลาอนุญาต ให้คนต่างด้าวดำเนินการยื่นขอขยายระยะเวลาอนุญาตตามที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองประทับตราขยายระยะเวลาอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรต่อไปได้อีกไม่เกิน 30 วัน