Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ส่งมอบหน้าที่ มทบ.37 ‘พล.ต.บุญญฤทธิ์’ ส่งต่อ ‘พล.ต.จักรวีร์’

มณฑลทหารบกที่ 37 จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการ ย้ำความต่อเนื่องของภารกิจเพื่อประชาชนและความมั่นคงของชาติ

พิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เชียงราย – วันที่ 4 เมษายน 2568 ณ กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) ได้จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการระหว่าง พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ซึ่งพ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 และพลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการคนใหม่ โดยมีพิธีการครบถ้วนตามแบบธรรมเนียมทหาร

พิธีเริ่มต้นด้วยการประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหน่วย ได้แก่ พระมหาจักรพรรดิธรรมราชา พระพุทธมารวิชัยไตรรัตนาธิคุณ และพระบรมราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช ณ ลานหน้าบก.มทบ.37 รวมถึงศาลพระภูมิเจ้าที่ ณ ดอยเจดีย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

พิธีมอบการบังคับบัญชาอย่างสมเกียรติ

ภายหลังพิธีสักการะ เป็นพิธีลงนามเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ ณ ห้องประชุมพญามังราย และพิธีมอบการบังคับบัญชาที่ลานหน้ากองบัญชาการ โดยมีนายทหารระดับสูง ข้าราชการ ลูกจ้าง และกำลังพลในสังกัดเข้าร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างสง่างาม แสดงถึงระเบียบวินัย ความสามัคคี และการเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่นของหน่วยทหาร

คำกล่าวอำลาอย่างอบอุ่นของผู้บัญชาการคนเดิม

พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ได้กล่าวแสดงความรู้สึกในการอำลาตำแหน่งว่า “เป็นเกียรติสูงสุดที่ได้มีโอกาสรับราชการในมณฑลทหารบกที่ 37 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง ทั้งกายและใจ เพื่อให้หน่วยมีศักยภาพสูงสุดในการปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง การสนับสนุนพัฒนาประเทศ หรือการเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ผมเชื่อมั่นว่าผู้บัญชาการคนใหม่จะนำพาหน่วยไปสู่ความก้าวหน้าที่ยิ่งกว่าเดิม”

ผบ.มทบ.37 คนใหม่มุ่งพัฒนาและรับมือบริบทความมั่นคงยุคใหม่

พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการคนใหม่ ได้แสดงเจตนารมณ์ในการรับหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น โดยระบุว่า จะสานต่อภารกิจของมณฑลทหารบกที่ 37 อย่างเต็มกำลัง พร้อมปรับบทบาทของหน่วยให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของบริบทด้านความมั่นคง และเน้นการพัฒนาศักยภาพกำลังพลทุกระดับ ให้สามารถปฏิบัติภารกิจทั้งในภาวะปกติและวิกฤตได้อย่างเข้มแข็ง มีความพร้อมในทุกด้าน

มณฑลทหารบกที่ 37 กับบทบาทสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือ

มทบ.37 เป็นหน่วยทหารในสังกัดกองทัพบก ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบในเขตจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสงบเรียบร้อย การสนับสนุนการปฏิบัติการร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครอง และองค์กรภาคประชาชน รวมถึงการเข้าช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดภัยธรรมชาติและสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ

ที่ผ่านมา มทบ.37 มีภารกิจสนับสนุนด้านการแพทย์ฉุกเฉิน การอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวมถึงการช่วยเหลือในสถานการณ์หมอกควันไฟป่าในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นปัญหาซ้ำซากในช่วงต้นปีของทุกปี

ความเห็นจากทั้งสองมุมมอง สะท้อนความคาดหวังที่แตกต่าง

จากฝั่ง ผู้สนับสนุนภารกิจทหาร เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บัญชาการเป็นสิ่งจำเป็นตามวาระ และควรมองเป็นโอกาสในการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติงานให้ทันยุคทันเหตุการณ์ โดยเฉพาะในยุคที่ภัยคุกคามมีความหลากหลายทั้งรูปแบบและเทคโนโลยี พร้อมทั้งเสนอให้ มทบ.37 เพิ่มความร่วมมือกับชุมชนในการแก้ไขปัญหาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

ขณะที่ ฝั่งภาคประชาชนบางส่วน มองว่า ควรมีการเปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ของหน่วยอย่างโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนเข้าใจบทบาทของทหารในยุคสมัยใหม่มากขึ้น และแนะนำให้หน่วยงานของกองทัพมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก เช่น การฝึกอาชีพให้กับประชาชน และการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ขาดแคลน

ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มบทบาทและความสัมพันธ์กับประชาชน

ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงเสนอว่า มณฑลทหารบกที่ 37 ควรขยายบทบาทสู่การเป็น “หน่วยทหารของประชาชนอย่างแท้จริง” โดยเน้นการพัฒนาเชิงรุก สร้างพันธมิตรกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม เพื่อเสริมความมั่นคงทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

การจัดอบรมเยาวชนเพื่อเสริมสร้างคุณธรรม ความมีวินัย และการปลูกฝังจิตสำนึกรักชาติควรได้รับการสนับสนุนต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงในกลุ่มเยาวชน แต่ยังเสริมสร้าง “กำลังสำรอง” ทางสังคมให้กับประเทศในระยะยาว

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  • ข้อมูลจากกองทัพบก ระบุว่า มีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพลประจำปี เฉลี่ย 500 ตำแหน่งต่อปี
  • จังหวัดเชียงราย มีหน่วยงานทหารประจำการ 7 หน่วยหลัก ซึ่งรวมถึง มณฑลทหารบกที่ 37 (ที่มา: ศูนย์ข้อมูลภูมิภาค กองทัพบก)
  • ผลสำรวจโดยสถาบันพระปกเกล้า ปี 2567 พบว่า ร้อยละ 76.2 ของประชาชน เห็นว่าทหารมีบทบาทในการพัฒนาชุมชนที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
  • อัตราความพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานของทหารในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน สูงถึง ร้อยละ 82.5 (ที่มา: ศูนย์วิจัยความคิดเห็นสาธารณะ ม.เชียงใหม่)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • กองทัพบก
  • ศูนย์ข้อมูลภูมิภาค กองทัพบก
  • สถาบันพระปกเกล้า
  • มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • มณฑลทหารบกที่ 37 จังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News