Categories
AROUND CHIANG RAI

เปิดป้ายสถานชีวาภิบาลวัดหัวฝาย เปิดป้ายสถานชีวาภิบาลวัดหัวฝาย

 

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 67 เวลา 14.00 น. ที่วัดหัวฝาย ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประกอบพิธีเปิดป้ายสถานชีวาภิบาลในชุมชนวัดหัวฝาย กุฏิชีวาภิบาลวัดหัวฝาย บ้านกลาง และชมรมคนพิการทางด้านการเคลื่อนไหวอำเภอพาน โดยได้รับเมตตาจาก พระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. เจ้าคณะตำบลสันกลาง เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ประธานเครือข่ายโรงเรียนผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ โดยมี นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน พร้อมด้วยนายอำเภอ ทุกอำเภอในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายศรีวรรณ วงค์จินา กำนันตำบลสันกลาง นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดเชียงราย พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และพี่น้องประชาชน ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนมีความตั้งใจที่เดินทางมาร่วมกับพี่น้องประชาชนทำพิธีเปิดป้ายสถานชีวาภิบาลในชุมชนวัดหัวฝาย กุฏิชีวาภิบาลวัดหัวฝาย บ้านกลาง และชมรมคนพิการทางด้านการเคลื่อนไหวอำเภอพาน ภายใต้ความเมตตาของ พระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. เจ้าคณะตำบลสันกลาง เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ผู้นำคณะสงฆ์ผู้มีเมตตาสงเคราะห์ญาติโยมทั้งในจังหวัดเชียงราย และทั่วประเทศ กระทั่งท่านได้รับอาราธนานิมนต์ให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะท่านได้แสดงเจตนารมณ์ด้วยการ “ลงมือทำ” เป็นผู้นำดูแลกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ ทั้งผู้พิการและผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ สอดคล้องตามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงมหาดไทยและมหาเถรสมาคม 3 โครงการสำคัญ คือ 1) บทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ร่วมกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม 2) โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ร่วมกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของ วัดและบ้าน ตามหลัก 5 ส. และ 3) โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5 ขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม” ร่วมกับสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เพื่อรณรงค์ให้คนมีศีลธรรม ไม่ได้เพียงแค่ศาสนาพุทธ แต่รวมไปถึงศาสนาคริสต์ อิสลาม และทุกศาสนา

“วันนี้เราได้รับเมตตาจากพระสงฆ์องค์เจ้า พระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. เจ้าคณะตำบลสันกลาง เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ได้ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการสงเคราะห์ญาติโยม ซึ่งสิ่งที่ท่านทำนั้นสอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของพวกเราชาวมหาดไทยในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ผู้นำของพื้นที่อำเภอ” คือ ท่านนายอำเภอทุกอำเภอ ต้องนำแนวทางนี้มาบูรณาการทำงานจับมือร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกอำเภอ ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลให้พี่น้องประชาชนมีความสุขที่เพิ่มมากขึ้น และขจัดปัดเป่าความทุกข์หรือปัญหาของชีวิตให้เบาบางลงจนหมดไป ซึ่งคำว่า บำบัดทุกข์ บำรุงสุข เป็นปณิธานและจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่พี่น้องทั้งผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น ต้องช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างยั่งยืน ดังเช่นเมื่อสักครู่ จากการตรวจเยี่ยมพบปะพูดคุยกับผู้สูงอายุที่บ้านกลาง ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในชุมชน ทำให้ได้ทราบข้อมูลว่า ป้าผู้มาพักไม่มีบ้านอยู่เพราะบ้านที่เคยอยู่ได้รับความเสียหาย โดยเมื่อกำนันตำบลสันกลางได้รับทราบข้อมูล จึงได้รับปากว่าจะช่วยซ่อมแซมบ้านให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน จึงขอขอบคุณท่านกำนัน และขอให้พวกเราชาวตำบลสันกลางได้ร่วมกับท่านกำนันช่วยกันดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมช่วยเหลือ เพื่อตำบลสันกลางของพวกเราได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ด้วยความรัก ความสามัคคี ความเมตตาการุญอาทรกันและกัน ดังที่วันนี้พวกเราทุกคนต่างมากันด้วยความสำนึกในบุญคุณของพระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. รวมทั้งขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ช่วยกันขยายผลสิ่งที่ดีนี้ไปยังทั่วทั้ง 231 หมู่บ้านของอำเภอพาน พร้อมทั้งช่วยกันชักชวนให้พื้นที่อื่น ๆ มาศึกษาดูงาน มาช่วยกันให้กำลังใจ ร่วมกันอนุโมทนา และดูแลให้สมาชิกของสถานชีวาภิบาลแห่งนี้ได้รับคำแนะนำที่ดีจากแพทย์ ให้ได้รับการดูแลจากอสม. ได้รับอาหารครบทุกหมู่ อยู่ในสถานที่ที่สะอาด สวยงาม รื่นรมย์ ด้วยความสุข” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งสำคัญที่พวกเราในฐานะผู้นำพื้นที่ ตลอดจนถึงผู้นำท้องที่ และท้องถิ่น ต้องช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชน นั่นคือ “สุขภาพพลานามัย” ด้วยการส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายในทุกวัน ค้นหาผู้นำการออกกำลังกายมาทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความเข้มแข็ง มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งการจะทำให้คนอำเภอพานทั้ง 100% ได้มีสุขภาพที่ดี ต้องทำอย่างน้อยที่สุด 3 เรื่อง คือ 1) เรื่องอาหาร ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริ บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง และทางนี้มีผลผู้คนรักกัน ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานไว้เป็นแนวทางในการ พึ่งพาตนเองด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ไว้ในบริเวณพื้นที่ว่างของบ้าน และริมถนนสาธารณะ หรือพื้นที่สาธารณะของชุมชน เพื่อที่สมาชิกในหมู่บ้าน/ชุมชน จะได้มีสุขภาพที่ดีจากการบริโภคพืชผักปลอดสารพิษเหล่านี้ และยังเป็นการส่งเสริมพลังความรักสามัคคี เพราะทุกคนจะได้ร่วมกันเอามื้อสามัคคี ได้ออกกำลังกายไปในตัว และยังจะได้มีพืชผลทางการเกษตรเหล่านี้แบ่งปันภายในหมู่บ้าน/ชุมชน 2) เรื่องการออกกำลังกาย ด้วยการต้องออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที บริเวณพื้นที่สาธารณะของหมู่บ้าน/ชุมชน หรือพื้นที่ว่างภายในบ้าน ซึ่งการออกกำลังกายมีหลายรูปแบบ โดยหากทุกคนทำอย่างต่อเนื่องก็จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และ 3) เรื่องการเอาใจใส่ดูแลสุขภาพพลานามัย ต้องระมัดระวังอย่าให้ตนเองเป็นคนประมาทที่ไม่รู้เรื่องการประพฤติปฏิบัติตัวว่า “กินอะไรที่จะส่งผลให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ” โดยเฉพาะโรคที่สำคัญ เมื่อเป็นแล้วเป็นเวรเป็นกรรม น่าสงสารที่สุด นั่นคือ “โรค Stroke หรือเส้นเลือดในสมองชำรุด รั่ว ซึมแตก หรือชื่อเป็นทางการว่า “โรคหลอดเลือดสมอง” โดยขอให้ท่านนายอำเภอได้เชิญชวนให้คนในอำเภอพาน และทุกอำเภอ สมัครเข้าร่วมโครงการเดินวิ่งปั่นแสงนำใจไทยทั้งชาติ ครบ 100% ซึ่งในวันจัดกิจกรรมนั้นก็สามารถใช้พื้นที่ถนนในพื้นที่อำเภอ/ตำบล/หมู่บ้าน จัดกิจกรรมพร้อมกับส่วนกลางได้

“อีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญถัดมา คือการดูแลสุขภาพอนามัยของเด็ก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา กระทั่งเป็นเด็กเล็ก เด็กโต ด้วยการส่งเสริมการดูแลสุขภาพอนามัยของแม่ เพื่อให้ทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารที่ถูกต้องตามหลักสาธารณสุข และเมื่อคลอดออกมาแล้วต้องมีคู่มือในการดูแลให้เด็กเล็กได้รับการบริโภคสารอาหารที่ครบถ้วน ขณะเดียวกันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดสถานที่สำหรับสันทนาการควบคู่การเรียนรู้ โดยสามารถบูรณาการร่วมกับมูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เพื่อให้มีพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเล็ก ได้ฝึกสมองและฝึกกล้ามเนื้อ ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรงสมบูรณ์ และเมื่อเด็กโตขึ้นก็ให้ได้รับการบริโภคอาหารครบทั้ง 5 หมู่ มีสถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ และพื้นที่ในการเรียนรู้ตามวัย ในท้ายที่สุดเด็กทุกคนต้องได้รับการเรียนหนังสือ หากพบเด็กที่พบปัญหาขาดแคลนทุนการศึกษา วัสดุอุปกรณ์ ทุกคนต้องช่วยกันเป็นจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ โดยไม่ต้องผ่านการฝึกอบรม ไม่ต้องมีเครื่องแบบ แต่ต้องมี “ใจและความประพฤติปฏิบัติ” ที่เป็น “จิตอาสา” เฉกเช่นสิ่งที่พระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. ทำ ถือเป็นจิตอาสาชั้นอ๋อง อันหมายความว่า เป็นจิตอาสาที่มีความโดดเด่น เพราะใจท่านมีความเมตตากรุณาอยากช่วยเหลือสงเคราะห์ศรัทธาญาติโยมทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ดังนั้น พวกเราคนหมู่บ้านเดียวกัน รู้จักมักคุ้นกันอยู่แล้ว ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลและนำข้อมูลข่าวสารไปยังผู้นำท้องที่ คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น คือ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายราชการ คือ ปลัดอำเภอ และข้าราชการผู้รับผิดชอบประจำตำบล ถึงนายอำเภอถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงผู้นำทางศาสนา คือ หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ เพราะข้อมูลหลายส่วนไปไม่ถึงฝ่ายราชการ จึงขอให้วิถีชีวิตเราตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เราจะไม่เพิกเฉยถ้าเกิดเจอปัญหาที่อยู่ในพื้นที่ ถ้าเราช่วยกันแก้ไขได้ในพื้นที่ เราก็จะช่วย ช่วยไม่ได้เพราะเกินกำลังเราก็จะบอก “ผู้นำ” ที่สามารถพึ่งพาได้ และสิ่งที่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เยาว์วัย คือ ต้องพาลูกหลานเข้าวัดเข้าวา ถ่ายทอดองค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรม การทำอาหาร การทำบุญใส่บาตร รู้จักไหว้พระก่อนนอน กราบพระรัตนตรัยทุกคืน ก่อนออกจากบ้านก็ต้องไหว้พ่อแม่ปู่ย่าตายาย กลับมาบ้านก็ต้องไหว้ ซึ่งจะส่งผลให้เขาเป็นเด็กที่มีความอ่อนหวาน เป็นเด็กเรียบร้อยเป็นคนดี แต่ที่สำคัญพ่อแม่ปู่ย่าตายายต้องเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันขยายผลทำความ ดี ด้วยหัวใจ ช่วยกันดูแลกลุ่มเปราะบาง ช่วยกันขยายผลโครงการชีวาบาล โรงเรียนผู้สูงอายุ ในการทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ผู้มีคุณูปการต่อครอบครัว ต่อสังคม ที่บั้นปลายมีความยากลำบากเพราะสุขภาพร่างกายและครอบครัวไม่เอื้ออำนวยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ช่วยกันทำให้สมกับคำว่า บ้านเมืองไทยของเราเป็นเมืองพุทธ ดังนั้น ความเมตตากรุณา การช่วยเหลือสงเคราะห์ที่ท่านพระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. ได้ดำเนินการอยู่ดีนี้ พี่น้องประชาชนทุกคนต้องช่วยกันสนับสนุน ทำให้เกิดขึ้นที่บ้าน ที่หมู่บ้าน และที่ตำบลของพวกเรา โดยมีนายอำเภอ กำนัน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยทำให้เกิดขึ้นเต็มพื้นที่ของอำเภอพาน เพื่อที่พวกเราทุกคนจะมีความสุขด้วยกัน จากการที่พวกเราช่วยกัน ทำความ ดี ด้วยหัวใจ เป็นกำลังสำคัญของการดูแลช่วยเหลือครอบครัว ชุมชน ตำบล หมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด และประเทศชาติมีความมั่นคง ทำให้พี่น้องประชาชนคนที่เป็นญาติมิตรและคนที่เรารู้จักและไม่รู้จักได้มีความสุขอย่างยั่งยืน เพื่อความสุขที่เรามีด้วยกันจะช่วยทำให้ประเทศชาติและสังคมของเรามีความมั่นคงอย่างแน่แท้ตลอดไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ประมงเชียงราย ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 700,072 ตัว เฉลิมพระเกียรติ

 

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 67 เวลา 09.30 น. ที่ หนองฮ่างสาธารณะประโยชน์ บ้านสันปง หมู่ที่ 5 ตำบลทานตะวัน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยหน่วยงานกรมประมงจังหวัดเชียงราย ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลทานตะวัน อำเภอพาน เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากร และเพิ่มพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ให้มีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยมี นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน นายณัฐรัฐ พรเดชอนันต์ ประมงจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน เข้าร่วมพิธี

นายณัฐรัฐ พรเดชอนันต์ ประมงจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หน่วยงานสังกัดกรมประมงพื้นที่จังหวัดเชียงรายร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลทานตะวัน จัดโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำฯ ขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาตะเพียนขาว ปลายี่สกเทศ ปลากาดำ จำนวน 200,000 ตัว ปลาบึก 72 ตัว และลูกปลาตะเพียนขาว อายุ 2 วัน 500,000 ตัว รวม 700,072 ตัว จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเชียงราย เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศล รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากร และเพิ่มผลผลิตพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ให้มีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
 
ภายในงาน มีการประกวดขบวนแห่หุ่นปลายักษ์ การแสดงจากแม่บ้านทั้ง 12 หมู่บ้านในตำบลทานตะวัน การแสดงจากเด็กเยาวชน บูธนิทรรศการให้ความรู้เรื่องพันธุ์ปลาจากหน่วยงานสังกัดกรมประมง ร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน การมอบประกาศนียบัตรให้แก่หมู่บ้านที่เข้าร่วมงาน และมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดขบวนแห่หุ่นปลายักษ์ พร้อมกันนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาลงสู่แหล่งน้ำหนองฮ่าง เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่แหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เคาะ 3 โครงการ งบประมาณ 111 ล้าน แก้ปัญหาแหล่งน้ำหนองฮ่าง อ.พาน

 

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 67 ที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองฮ่าง ต.ทานตะวัน อ.พาน จ.เชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และ และ น.ส.วิสาระดี เตชะธีระวัฒน์ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ ตำบลทานตะวัน อ.พาน จ. เชียงราย พบปะชาวบ้านพูดคุยประเด็นปัญหาการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองฮ่าง

 

เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีชาวบ้านในพื้นที่ให้การต้อนรับจำนวนมาก และมีนักเรียนจากโรงเรียนป่าแดงวิทยา ตีกลองสะบัดชัยเพื่อเป็นการต้อนรับนายกฯ พร้อมมอบภาพวาดให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบลายเซ็นต์ และ ขอให้เก็บไว้เป็นที่ระลึก

 

 

จากนั้น ประชาชนในพื้นที่ ต.ทานตะวัน อได้สะท้อนปัญหาในพื้นที่ ว่า 40 กว่าปีก่อน พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ทำมาหากินของปู่ย่าตายาย แต่เมื่อปี 2545 มีการขุดเกาะน้ำเป็น 3 เกาะ ทำให้ ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมากทั้งน้ำท่วมซ้ำซาก และน้ำแล้ง อีกทั้งไม่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เพราะน้ำตื้นเขิน วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่นายกฯ และคณะลงพื้นที่เพื่อที่จะได้ช่วยพัฒนาพื้นที่ เพราะปี 67 ได้งบ 10 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ ส่วนปี 68 ไม่มีงบ จึงอยากขอความเมตตาจากนายกฯ และคณะ ช่วยผลักดันงบประมาณให้ชาวบ้าน และขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ

 

ด้าน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาที่นี่ครั้งแรกในบรรยากาศที่สบายๆ วันนี้เรามาครบทั้งกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ และฝ่ายที่ดูแลเรื่องงบประมาณ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเรื่องของน้ำเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลให้ความมุ่งมั่นที่จะต้องดูแลให้ดีทุกพื้นที่ ซึ่งเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้งตนได้ส่งทีมงานลงมาคุยในพื้นที่ก่อนล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นเรื่องของการที่เราจะพัฒนาสนับสนุนเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภคบริโภค หรือการพัฒนาให้บริเวณนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเราจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของงบประมาณที่บอกว่ามีแค่ 10 ล้านบาท ส.ส.ในพื้นที่ก็ได้มีการมาพูดคุยกับตนหลายครั้งแล้ว เรื่องของงบประมาณเราเข้าใจว่า 10 ล้านบาท คงไม่เพียงพอ แต่เรามี 3 โครงการในพื้นที่จึงขอให้เติมศูนย์อีกตัวที่ไม่ใช่ 10 ล้านบาท แต่เป็น 110 ล้านบาท เราไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามจะทำให้ดีต่อไป

 

หลังจากนายกฯ พูดคุยกับชาวบ้านเสร็จ น.ส.วิสาระดี ได้เซอร์ไพรส์วันเกิดนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ซึ่งเป็นบิดาที่จะมีอายุครบ 68 ปีในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ค.) โดยได้มอบเค้กและ ขอถ่ายรูปกับนายกฯ จากนั้น นายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมบูธโอทอป ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้าทางการเกษตร ที่ชาวบ้านในพื้นที่นำมาแสดง และจำหน่าย ก่อนที่จะมอบพันธุ์ปลารับฟังบรรยายสรุปจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบกลางล่าสุดซึ่งจะทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์กว่า 20,000 ไร่ โดยใช้น้ำระบบท่อ จากนั้นนายกฯ ได้ปลูกต้นรวงผึ้ง ต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10 เพื่อเป็นที่ระลึกกับชาวบ้าน ต.ทานตะวัน ด้วย

 

ทั้งนี้ นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ได้กล่าวกับนายกฯ ด้วยว่า จากที่ฝ่ายค้านเคยพูดโจมตีนายกฯ ว่างบกลางไม่ได้ประโยชน์ อันนี้ล่ะครับท่านเพิ่งอนุมัติพี่น้องชาว อ.พาน ได้ประโยชน์ทันที ซึ่งมี 3 โครงการ เดือนนี้จะประกาศจัดซื้อจัดจ้าง

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย เปิดพื้นที่เยาวชน 3 อำเภอ First Love Festival 2024

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมเยาวชนสร้างสรรค์ สานสัมพันธ์สามอำเภอ Firt Love Festival 2024” ณ หอประชุมโรงเรียนพานพิทยาคม อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมด้วยนายทัศพงษ์ สุวรรณมงคล เลขานุการ นายก อบจ.เชียงราย โดยมี นายอนิรุทธ์ ต่อบวรรัตน์ ปลัดอาวุโสอำเภอพาน และนางษรวัศศ์ วงค์อารยกร รองผู้อำนวยการโรงเรียนพานพิทยาคม กล่าวต้อนรับ และมีนายณิชกุล อยู่เย็น รองประธานเยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย อำเภอพาน ในนามประธานคณะทำงานโครงการ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน และร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด

 

โดยกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อให้เด็กและเยาวชน อ.พาน อ.ป่าแดด และอ.แม่ลาว ได้แสดงศักยภาพของตนเองผ่านการแข่งขันดนตรี การแข่งขัน e-sport ให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ในการแข่งขัน รู้จักความสามัคคี รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ได้รับกำลังใจประสบการณ์จากการแข่งขันจากสนามและเวทีที่ได้จัดขึ้น มีพื้นที่สร้างสรรค์ในการหารายได้ผ่านการค้าขายในกาดละอ่อนที่จัดขึ้น มีพื้นที่สร้างสรรค์ในการออกแบบและจินตนาการ บูธ Workshop ภายในงานให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่มีโอกาสร่วมกิจกรรมที่สนุกสนาน ฮีลใจมีความสุข และเพลิดเพลินตลอดการแข่งขันกีฬา และรับชมการแข่งขันดนตรี อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาส ให้เยาวชน ได้เรียนรู้และรู้จักศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย ให้มากยิ่งขึ้น และสร้างเครือข่ายในอนาคต ให้เยาวชนได้พัฒนาขีดความสามารถของตนเองอีกขั้นหนึ่งต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เตรียมงบประมาณ 35 ล้าน ปี 68 สร้างถนนเข้าตลาด อ.พาน ตลาดหกแยก

 

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2567 09.00 น.ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลตำบลเมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย แขวงทางหลวงพะเยา ประกอบไปด้วย นายพูนศักดิ์ เมาะราษี ผอ.แขวงทางหลวงพะเยา,นายสมัย จันทัน รอง ผอ.ฝ่ายวิศวกรรม แขวงการทางพะเยา,นายวรวุฒิ ชำนาญชัย หัวหน้าหมวดแขวงทางหลวงแม่ใจ แขวงทางหลวงพะเยา,นายสุดเขต วิเศษ วิศวกรแขวงทางหลวงพะเยา พร้อมด้วยภาคส่วนท้องที่ท้องถิ่น เช่น นายวชิร ดวงแสงทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเมืองพาน,ผู้แทนจากนายวุฒิกร คำมา ฝ่ายอำเภอพาน,ผู้แทนจากส.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตอำเภอพาน และตัวแทนภาคประชาชนท้องที่ท้องถิ่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประมาณ 200 คน ร่วมกันทำประชาพิจารณ์โครงการปรับปรุงโครงสร้างทางหลวง บริเวณแยกบ้านดอย กม.889+000 ถึง กม.889+725

 

นายพูนสวัสดิ์ เมาะราษี ผอ.แขวงทางหลวงพะเยาเปิดเผยว่า แขวงทางหลวงพะเยาจะดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงทางแยกบ้านดอย ปรับปรุงผิดจราจรเป็นพื้นคอนกรีตเพคเม้นท์ หนา 25 เซนติเมตร ทั้งขาขึ้นและขาล่องบริเวณแยกบ้านดอย พร้อมติดตั้งเสาไฟแสงสว่าง ไฮแมส สูง 25 เมตร จำนวน 4 ต้น และปรับปรุงช่องทางซ้ายผ่านตลอดมีฉนวนกั้นช่วงขาขึ้นมุ่งหน้าไปจังหวัดเชียงราย ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท ดำเนินการ 180 วัน แล้วเสร็จ เดือน พ.ย.67  พร้อมทั้งเผย โครงการถนนบายพาสเข้าตลาดอำเภอพานบริเวณตลาดนัดคลองถมหกแยก ว่า จะใช้งบประมาณ 35 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2568 ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการสำรวจออกแบบ เมื่อออกแบบเสร็จก็จะมีการทำประชาพิจารณ์อีกครั้งประมาณเดือนสิงหาคม 2567

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : แขวงทางหลวงพะเยา

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เดินหน้านโยบายสามพี่น้องท้องถิ่น กำจัดวัชพืชในแหล่งน้ำ ต.ดอยงาม

 

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น.

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ลงพื้นที่อำเภอพาน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในพื้นที่ตำบลดอยงาม อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เรื่องการกำจัดวัชพืชในแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ระหว่าง อบจ.เชียงราย กับ อบต.ดอยงาม ฝ่ายปกครองต.ดอยงาม บ้านสันช้างตาย หมู่ที่ 7 โดยมีนายสุพิศ สมยาราช นายก อบต.ดอยงาม นายนเรศ วรรณวนา ผู้ใหญ่บ้านสันช้างตาย ม.7 นายสำอางค์ ธรรมโก กำนัน ต.ดอยงาม ร่วมลงนามทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้ด้วย
.
การลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ จัดทำขึ้นระหว่าง อบจ.เชียงราย โดย นายก อบจ.เชียงราย กับ อบต.ดอยงาม โดย นายก อบต.ดอยงาม ฝ่ายปกครองตำบลดอยงาม โดย กำนันตำบลดอยงาม บ้านสันช้างตาย หมู่ที่ 7 โดย ผู้ใหญ่บ้านสันช้างตาย หมู่ที่ 7บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ ทำขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินการกำจัดวัชพืชออกจากแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ ในพื้นที่ตำบลดอยงาม อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เนื่องจากประสบปัญหาการแพร่กระจายของวัชพืชในแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ เป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน และกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในฤดูแล้งได้น้อย อบจ.เชียงราย ร่วมกับอบต.ดอยงาม
 
 
ฝ่ายปกครองต.ดอยงาม และบ้านสันช้างตาย หมู่ที่ 7 ร่วมบูรณาการในการกำจัดวัชพืช ออกจากแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ ต.ดอยงาม อ.พาน ด้วยวิธีการใช้เครื่องจักรกลหนัก ของ อบจ.เชียงราย โดย อบต.ดอยงาม เป็นผู้สนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง และฝ่ายปกครองตำบลดอยงาม และบ้านสันช้างตาย หมู่ที่ 7 เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การกำจัดวัชพืชออกจากแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์พื้นที่ต.ดอยงาม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และขับเคลื่อนนโยบายกระจายเครื่องจักรและบุคลากรลงสู่ชุมชน ในการพัฒนาพื้นที่อย่างครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ ด้วยความร่วมมือของ สามพี่น้องท้องถิ่นและชุมชน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ผู้ว่าฯ เชียงราย ลงพื้นที่ตามโครงการฝายปางกล้วยค้าวอำเภอพาน

 

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน นายทวีชัย โค้วตระกูล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อติดตามโครงการฝายปางกล้วยค้าวพร้อมระบบส่งน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ บ้านปางกล้วยค้าว หมู่ที่ 16 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยมีเจ้าหน้าที่ท้องที่ ท้องถิ่น ประชาชนบ้านปางกล้วยค้าวให้การต้อนรับ ในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และชลประทานเชียงราย ได้ชี้แจงรายละเอียดโครงการ พร้อมทำความเข้าใจลักษณะโครงการ และการดำเนินการแก่ประชาชนในพื้นที่

 

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับจังหวัดเชียงราย ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายชัยเดช จินดาวิจิตร ราษฎรบ้านปางกล้วยค้าว หมู่ที่ 16 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ขอพระราชทานโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำริน พร้อมระบบส่งน้ำ เพื่อช่วยเหลือราษฎรตำบลป่าหุ่ง ตำบลสันกลาง และตำบลเมืองพาน อำเภอพานจังหวัดเชียงราย ซึ่งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร 


ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการฝายปางกล้วยค้าวพร้อมระบบส่งน้ำไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567
กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 2 ได้ตรวจสอบสภาพพื้นที่และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วได้พิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้วยการก่อสร้างฝ่ายบ้านปางกล้วยค้าวพร้อมระบบส่งน้ำ ระบบส่งน้ำความยาว 2,000 เมตร พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 200 ไร่ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ได้ โดยกำหนดชื่อว่า “โครงการฝายปางกล้วยค้าวพร้อมระบบส่งน้ำ”

 

สำหรับโครงการฝายปางกล้วยค้าวพร้อมระบบส่งน้ำ เมื่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นแหล่งน้ำสำหรับทำการเกษตรแก่เกษตรกรในฤดูฝนได้ 200 ไร่ และฤดูแล้งได้ 200 ไร่ และเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภค – บริโภคของราษฎร ลักษณะโครงการ มีพื้นที่รับน้ำฝนเหนือที่ตั้งหัวงาน 36.50 ตารางกิโลเมตร ความยาวลำน้ำจากต้นน้ำถึงหัวงาน 10 กิโลเมตร มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปี 1,308.47 มิลลิเมตร ปริมาณน้ำไหลผ่านหัวงานเฉลี่ยทั้งปี 12,372,109.88 ลูกบาศก์เมตร/วินาที การก่อสร้าง เป็นอาคารหัวงาน ประเภทฝายคอนกรีตล้วนปนหินใหญ่ ความยาว 12.00 เมตร ความสูง 2.00 เมตร มีอาคารบังคับน้ำปากท่อ จำนวน 1 แห่ง ประตูระบายทราย ขนาด 1.80 x 1.50 เมตร ระบบส่งน้ำประเภทคลองดาดคอนกรีตความยาว 2,000 เมตร ส่งน้ำได้ 0.05 ลูกบาศ์กเมตร/วินาที 

 

ทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่ราษฏรขอพระราชทานความช่วยเหลือ ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะทำให้ในพื้นที่มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตรได้ได้ตลอดทั้งปี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ต.ม่วงคำ อ.พาน ทำอุบัติเหตุเป็น 0 ช่วงสงกรานต์ ส่งคนเมาด้วยรถพ่วงข้าง

 

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ มูลนิธิคุณธรรมสถานพระจี้กงหน่ำพิ้งจียิ้งเกาะ ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา ขับเคลื่อนความปลอดภัยจากอุบัติเหตุจราจรทางถนนด้วยพลังภาคีเครือข่าย ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน โดยมี นางสายสุรี ทนันชัย นายกองค์กรบริหารส่วนตำบลม่วงคำ ทันตแพทย์หญิง อรอนงค์ พูลสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพาน ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตอำเภอพาน (พชอ.) นางสาววิวรรณ เอกรินทรากุล นักวิชาการจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผู้แทน สสส.เป็นผู้แทน นายพงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ โดยมีกลุ่มภาคีเครือข่าย ตำบลม่วงคำ ทั้ง 17 หมู่บ้าน เข้าร่วมกิจกรรม

 

จากนั้น นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน พร้อมคณะ ได้เยี่ยมชมบูธ จำนวน 17 บูธ ที่แต่ละหมู่บ้านในตำบลม่วงคำ ดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรม ซึ่งพบจุดเด่นทั้งเรื่องการจัดผ้าป่าซื้อหมวกกันน็อค การทำเครื่องหมายจราจรเพิ่มขึ้น การติดตั้งกล้องวงจรปิด การจัดงานศพปลอดเหล้า  คู่หูบอกรักจนเกิดครอบครัวอบอุ่นต้นแบบ ซึ่งจะนำไปขยายผล และ รถขนส่งคนเมา

 

ทั้งนี้ ในเวทีขับเคลื่อนความปลอดภัยจากอุบัติเหตุจราจรทางถนนด้วยพลังภาคีเครือข่าย กลุ่มประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันขับขี่มอเตอร์ไซด์โดยสวมหมวกกันน็อค รณรงค์ให้ทุกคนที่ใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่อย่างปลอดภัยและนายก อบต.ม่วงคำ นางสายสุรี ทนันชัย ได้นำกลุ่มประชาชนปธิญาณตนว่า จะขับขี่ปลอดภัยต่อหน้าพระจี่กง ณ มูลนิธิคุณธรรมสถานพระจี้กงหน่ำพิ้งจียิ้งเกาะ ด้วย

 

นอกจากนี้ได้สาธิตการกู้ฟื้นคืนชีพ CPR โดยคู่หูขับขี่ปลอดภัย จำนวน 4 คู่ มีทั้ง อสม.และคู่หู (สมาชิกในครอบครัวขับขี่ที่ขับขี่ไม่ปลอดภัย) โดยคู่หู ได้ฝีกทั้งทักษะการสื่อสารเพื่อบอกรักให้คนเมาในครอบครัวเปลี่ยนพฤติกรรมและฝึก CPR เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อประสบเหตุได้

 

 

ทั้งนี้หมู่บ้านที่ ชนะเลิศของการประกวดขับเคลื่อนความปลอดภัยจากอุบัติเหตุจราจรทางถนนด้วยพลังภาคีเครือข่าย คือ หมู่ 7 บ้านสันต้นผึ้ง รถขนส่งคนเมา โดยใช้รถพ่วงข้าง ที่มีคณะกรรมการหมู่บ้านกำกับดูแล ประเด็นที่ชนะ มีนวัตกรรมที่เกิดจากชุมชน มีความร่วมมือทั้งในรูปคณะกรรมการ การทำประชาคมและการร่วมทำกิจกรรมของคนในชุมชน และมีคู่หูประสานงานกัน พบว่าคนดื่มสุราลดปริมาณสุราลง ทำให้ครอบครัวรู้สึกอบอุ่น

 

อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมยังมี เวทีเสวนา ขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน โดยมี ผศ.ดร.ชณิตา ประดิษฐ์สถาพร ผู้ดำเนินการ และผู้ที่นำเสนอประสบการณ์ และผลการดำเนินการประกอบด้วย นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา ขับเคลื่อนความปลอดภัยจากอุบัติเหตุจราจรทางถนนด้วยพลังภาคีเครือข่าย ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน  โดยมี  นางสายสุรี ทนันชัย นายกองค์กรบริหารส่วนตำบลม่วงคำ อำเภอพาน ทันตแพทย์หญิงอรอนงค์  พูลสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพาน ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตอำเภอพาน (พชอ.)  นางสาววิวรรณ เอกรินทรากุล นักวิชาการจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผู้แทน สสส. และผู้แทน นายพงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ

 

โดยเวทีเสวนา ได้นำเสนอเรื่องที่ได้ดำเนินการจนถือว่าประสบความสำเร็จในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา จากที่ในพื้นที่ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน เกิดอุบัติเหตุทางถนนมาก ทั้งในหมู่บ้าน และถนนสายหลัก และสาเหตุมาจากเมาสุรา และขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมใส่หมวกกัน็อคเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจากการประเมินผลพบว่า ในช่วงสงกรานต์ ปี 2567 อุบัติเหตุในพื้นที่ตำลม่วงคำ เป็น 0 โดยจากนี้ไปทาง ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จะยังคงรักษาแชมป์เรื่องการลดอุบัติเหตุไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสิ่งที่ได้ทำมา พร้อมต่อยอดในกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์กรบริหารส่วนตำบลม่วงคำ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

ศึกมวยมันส์ ONE ‘อทิตาธร’ อ.พาน ดันมวยไทย สู่กีฬาเยาวชนเงินล้าน

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 เวลา 20.00 น. นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดงานศึกมวยมันส์ ONE อทิตาธร ณ เวทีมวยชั่วคราว วัดพื้นเมือง ต.สันกลาง อ.พาน โดยมีนายอลงกรณ์ ดีน้อย นายก อบต.สันกลาง เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และมีนายทัศพงษ์ สุวรรณมงคล เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย นายศรีวรรณ์ วงศ์จินา กำนัน ต.สันกลาง ว่าที่ ร.ต.ปภาวิน ปวงใจ ส.อบจ.เชียงราย อ.พาน เขต 1 นายสุรเชษฐ วงศ์น้อย ส.อบจ.เชียงราย อ.พาน เขต 2 ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีเปิด และร่วมชมการแข่งขันมวยในครั้งนี้ด้วย

 

ศึกมวยมันส์ ONE อทิตาธร จัดขึ้นเพื่อฉลองหอระฆัง วัดพื้นเมือง ต.สันกลาง อ.พาน อนุรักษ์สืบสานศิลปะแม่ไม้มวยไทย และส่งเสริมประเพณีการแข่งขันมวยไทยให้แพร่หลายแก่เด็ก เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างความสมัครสมานสามัคคีระหว่างชมรม องค์กร ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งนี้ยังสอดคล้องกับการส่งเสริมกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน และเศรษฐกิจของ อบจ.เชียงราย ตามนโยบาย กีฬาเยาวชนเงินล้าน และ สามพี่น้องท้องถิ่นร่วมใจชุมชนและการมีส่วนร่วม อีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สมโภชสัญญาบัตร-พัดยศ พระครูพิธานพัฒนาทร วัดแม่อ้อใน

 

เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น.นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีสมโภชสัญญาบัตร-พัดยศ และพิธีสืบชาตาหลวง พระครูพิธานพัฒนาทร (ปุนณะพัฒน์) รองเจ้าอาวาสวัดแม่อ้อใน รักษาการเจ้าอาวาสคณะตำบลแม่อ้อ เขต 2 ณ วัดแม่อ้อใน ต.แม่อ้อ อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมด้วยนายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย นายธีระพงษ์ เผ่ากา นายก อบต.แม่อ้อ ร่วมพิธีในครั้งนี้โดยมีพระครูพิพิธ พัฒนโกวิท เจ้าคณะอำเภอพาน เจ้าอาวาสวัดทุ่งพร้าว เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

 

สำหรับพิธีสมโภชสัญญาบัตร-พัดยศ พระครูพิธานพัฒนาทร (ปุนณะพัฒน์) รองเจ้าอาวาสวัดแม่อ้อใน รักษาการเจ้าอาวาสคณะตำบลแม่อ้อ เขต 2 ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าตั้งสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พัดยศ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อเฉลิมฉลองพระราชศรัทธา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ที่มีพระมหากรุณาธิคุณ ต่อพระพุทธศาสนา ทางคณะกรรมการวัด พร้อมด้วยคณะศรัทธาของวัดแม่อ้อใน จึงได้จัดงานทำบุญสืบชาตา ฉลองสัญญาบัตร-พัดยศ และพิธีประกาศพระบรมราชโองการ อ่านตราตั้งพระครูสัญญาบัตร ณ วัดแม่อ้อใน ต.แม่อ้อ อ.พาน จ.เชียงราย ทั้งนี้หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ในต.แม่อ้อ และพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมพิธีฯ ในครั้งนี้ด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News