Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

จีนทำหอมหัวใหญ่ราคาดิ่ง พาณิชย์เชียงรายเร่งช่วยเกษตรกร

เชียงรายเร่งช่วยเกษตรกรหอมหัวใหญ่ ราคาตกต่ำหนัก เหลือเพียง 6 บาท/กิโลกรัม

พาณิชย์จังหวัดจับมือกรมการค้าภายในประกันราคารับซื้อ 10 บาท/กก.

เชียงราย, 23 มีนาคม 2568 – สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย บูรณาการร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเร่งด่วนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ในพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย หลังราคาผลผลิตดิ่งลงเหลือเพียง 6 บาทต่อกิโลกรัม จากผลกระทบการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากประเทศจีน

โดยกิจกรรมรับซื้อผลผลิตหอมหัวใหญ่ในราคานำตลาด เริ่มดำเนินการ ณ วัดปางอ่าย ตำบลเจดีย์ใหม่ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 เป็นการรับซื้อเบื้องต้นจำนวน 10,000 กิโลกรัมในราคากิโลกรัมละ 10 บาท และจะดำเนินการรับซื้ออย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและประคองรายได้เกษตรกรในช่วงวิกฤต

เกษตรกรรวมตัวร้องเรียน ราคาหน้าสวนต่ำสุดในรอบ 40 ปี

จากการรายงานเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 เกษตรกรในพื้นที่ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ และบริเวณใกล้เคียง รวมตัวกันกว่า 300 คน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายฐากูร ยะแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จังหวัดเชียงราย พรรคประชาชน เพื่อให้เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาราคาหอมหัวใหญ่ตกต่ำ

เกษตรกรระบุว่า “หอมหัวใหญ่” เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของพื้นที่ มีประวัติการปลูกมายาวนานกว่า 40 ปี โดยในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวระหว่างเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ราคาหน้าสวนจะไม่ต่ำกว่า 10 บาทต่อกิโลกรัม แต่ในปีนี้ ราคาดิ่งลงเหลือเพียง 6 บาท/กก. ถือเป็นราคาต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ

นำเข้าจากจีนกระทบหนัก ต้นทุนสูง-หนี้สะสมพุ่ง

เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบให้ข้อมูลว่า ราคาตกต่ำในปีนี้มีสาเหตุจากการนำเข้าหอมหัวใหญ่จากประเทศจีนจำนวนมาก ทำให้ราคาสินค้าในประเทศถูกกดลง ขณะที่เกษตรกรไทยต้องแบกรับต้นทุนสูง ทั้งค่ายา ค่าปุ๋ย และค่าแรงงาน

นอกจากนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ยังมีภาระหนี้จากการลงทุนในการผลิต ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน โครงการ SML หรือการกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์และแหล่งเงินกู้อื่น ๆ โดยใช้ที่ดินหรือทรัพย์สินค้ำประกัน ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดได้

มาตรการเร่งด่วนจากรัฐ รับซื้อในราคานำตลาด

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย พร้อมกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินการประสานผู้รับซื้อภาคเอกชนให้รับซื้อหอมหัวใหญ่ในราคานำตลาด เพื่อช่วยพยุงราคาตลาดที่เหลือเพียง 5–6 บาท/กก. ณ วันที่ 22 มีนาคม 2568 ให้สูงขึ้นมาอยู่ที่ 10 บาท/กก.

เบื้องต้น มีการรับซื้อหอมหัวใหญ่จำนวน 10,000 กิโลกรัม และจะดำเนินการรับซื้อเพิ่มเติมในระยะถัดไป โดยวางแผนกระจายผลผลิตไปยังตลาดใหม่และเชื่อมโยงเครือข่ายการค้า เพื่อบรรเทาปัญหาอุปทานล้นตลาด

ตั้งคณะกรรมการ คพจ. เชียงราย เร่งหาทางออกระยะยาว

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงรายประกาศเตรียมจัดประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) ในวันที่ 26 มีนาคม 2568 เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางเชิงนโยบายและมาตรการระยะยาวในการดูแลเกษตรกร

วาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ การวางแผนตลาดล่วงหน้า การจัดทำระบบประกันรายได้ การสร้างเครือข่ายตลาดค้าส่งและตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนการหารือแนวทางควบคุมการนำเข้าสินค้าเกษตรในช่วงฤดูผลผลิตออกมาก

เสียงจากภาคประชาชน ขอรัฐยืนหยัดช่วยเหลืออย่างจริงจัง

นายฐากูร ยะแสง ส.ส.เชียงราย เขต 3 กล่าวว่า “เมื่อเกษตรกรในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ผมในฐานะตัวแทนประชาชนจะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้หาทางช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมและทันต่อสถานการณ์”

ขณะที่เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการเร่งด่วน อาทิ หยุดนำเข้าสินค้าเกษตรในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว หรือให้มีระบบโควตาควบคุม เพื่อไม่ให้กระทบต่อผลผลิตในประเทศซ้ำซากทุกปี

สถิติและแหล่งข้อมูลอ้างอิง

  • ราคาหอมหัวใหญ่หน้าสวน ปี 2567: 12 บาท/กก.
  • ราคาหน้าสวน ปี 2568: 6 บาท/กก.
  • ราคาตลาด ณ วันที่ 22 มี.ค. 2568: 5 บาท/กก.
  • ราคานำตลาดที่รัฐรับซื้อ: 10 บาท/กก.
  • ปริมาณผลผลิตรับซื้อเบื้องต้น: 10,000 กิโลกรัม
  • จำนวนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ: กว่า 300 ราย
  • ที่มา: สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย, กรมการค้าภายใน, นายฐากูร ยะแสง ส.ส.เชียงราย เขต 3

ความคิดเห็นอย่างเป็นกลาง

ฝ่ายเกษตรกรต้องการความคุ้มครองและราคาที่เป็นธรรม ขณะที่ฝ่ายรัฐพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนทั้งในเชิงนโยบายและปฏิบัติ ความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้หากมีการวางแผนตลาดอย่างรอบด้าน ควบคู่กับการเจรจาระหว่างประเทศในด้านการค้าและการเกษตร

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย , ส.ส. ฐากูร ยะแสง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

พาณิชย์เชียงราย ลงตรวจร้านค้าแหล่งท่องเที่ยวล่องแพเปียกแม่สรวย

 
เมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย โดยกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าแหล่งท่องเที่ยวล่องแพเปียกแม่สรวย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ตามที่มีการเสนอข่าวผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ในประเด็น “ร้านโกงค่าอาหารแพงและขูดรีดค่าขยะ” จำนวน 2 ร้าน ผลการตรวจสอบ พบว่า ทั้ง 2 ร้านมีการแสดงราคาอาหารและเครื่องดื่มไว้ในเมนูรายการอาหาร ชัดเจน ราคาเป็นไปตามต้นทุนและค่าบริการจัดการของร้าน
 
 
ทั้งนี้ในส่วนการเรียกเก็บค่าจัดเก็บขยะนั้น ทางร้านมีการแสดงรายละเอียดการเก็บค่าขยะไว้ในหน้าเพจ facebook ของร้าน และมีการแจ้งลูกค้าก่อนทำการจองทุกราย นอกจากนี้พบร้านอาหาร 1 ร้าน ไม่แสดงค่าบริการอื่นๆ ที่เรียกเก็บเพิ่มเติม เช่น ค่าลำโพง ค่าเปิดขวด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฏหมาย
 
 
ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการร้านค้าแสดงราคาค่าบริการต่างๆ ทุกรายการที่เรียกเก็บ เช่น ค่าเช่าซุ้ม ค่าเปิดขวด ค่าบริการเก็บขยะ ค่าแก้วพลาสติก ค่าเช่าลำโพง เป็นต้น ให้ครบถ้วนชัดเจน ทั้งในเมนูรายการอาหาร บริเวณหน้าร้านหรือบริเวณซุ้มนั่งทาน และให้ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดและหากประชาชนนักท่องเที่ยว พบเห็นการไม่แสดงราคาสินค้า และค่าบริการอื่นๆ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย โทร. 053-150200 หรือสายด่วน กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ 1569
 
 
ซึ่งเทศบาลตำบลเวียงสรวย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ได้แจ้งข่าวสารประชาสัมพันธ์ เรื่อง กำหนดระยะเวลาการล่องแพเปียกเขื่อนแม่สรวยเนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนแม่สรวยมีปริมาณลดลง ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ลาว กรมชลประทาน ได้ประสานเทศบาลตำบลเวียงสรวยว่าจะมีการปิดประตูน้ำในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ทำให้ไม่สามารถล่องแพได้ เนื่องจากน้ำจะตื้นเขิน กิจกรรมการล่องแพเปียกเขื่อนแม่สรวย จึงสามารถดำเนินกิจกรรมได้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567ในส่วนของซุ้มนั่งริมน้ำและร้านอาหารจะยังสามารถให้บริการจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 (และสามารถลงเล่นน้ำได้) จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รองผู้ว่าฯ เชียงรายนำทีมตรวจ ปั๊มน้ำมันก่อนเทศกาลสงกรานต์

 

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 67 นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดเชียงราย พลังงานจังหวัดเชียงราย ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย และนายช่างตวงวัดกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่สุ่มตรวจสถานีบริการน้ำมันในเขตอำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 3 แห่ง โดยการตรวจวัดปริมาณน้ำมันด้วยอุปกรณ์เครื่องตวงวัด พบว่าทุกสถานี ได้ปริมาณอยู่ในเกณฑ์ทุกปั้ม เชื่อมั่นว่าผู้บริโภคได้น้ำมันครบตามจำนวนอย่างแน่นอน สร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวเชียงราย นักท่องเที่ยว และผู้ที่ใช้เส้นทางสัญจรผ่านไปมา โดยเฉพาะช่วงการเดินทางเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 นี้

 

นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน ช่างตวงวัดกรมการค้าภายใน และ อปท. ในพื้นที่ ทำการสุ่มตรวจสถานีบริการน้ำมันก่อนเทศกาลสงกรานต์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวเชียงราย นักท่องเที่ยว และผู้ที่ใช้เส้นทางสัญจรผ่านไปมา ได้มีความมั่นใจสถานีบริการน้ำมันในจังหวัดเชียงราย หลังสุ่มตรวจยังไม่พบปริมาณน้ำมันต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งทุกสถานีบริการน้ำมันจะต้องผ่านการตรวจและได้รับเครื่องหมายสติ๊กเกอร์สีน้ำเงินติดอยู่หัวจ่ายหรือตัวเครื่องอย่างชัดเจน
 
 
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย จะมีการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องต่อไป โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันและผู้ค้าน้ำมันยี่ห้อต่าง ๆ เป็นอย่างดี ซึ่งจากการตรวจสอบมาตรวัดหัวจ่ายทั้ง 3 สถานีบริการน้ำมัน โดยการใช้ถังตวงขนาด 5 ลิตร แสดงค่าถูกต้องตามเกณฑ์ทุกเครื่อง หากกรณีที่มีค่าความคลาดเคลื่อนก็ต้องไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด (น้ำมัน 5 ลิตร คลาดเคลื่อนได้ไม่เกิน 50 มล.) และยังพบว่า ทุกมาตรวัดหัวจ่ายที่สถานบริการทุกแห่งมีเครื่องหมายคำรับรองถูกต้อง
 
 
แนะนำประชาชนที่ไปใช้บริการสถานีบริการน้ำมันให้สังเกตมิเตอร์ที่ตู้เติมน้ำมัน ต้องเริ่มต้นที่เลขศูนย์ รวมทั้งสังเกตป้ายราคาน้ำมันที่หน้าปั๊ม และที่ตู้เติมน้ำมันต้องตรงกัน และเมื่อเติมเสร็จควรตรวจสอบยอดขายและปริมาณน้ำมันที่เติม หากสงสัยว่าได้น้ำมันไม่เต็มลิตร สามารถแจ้งสถานีบริการน้ำมันขอให้ตรวจสอบโดยใช้อุปกรณ์เครื่องตวงวัดมาตรฐานขนาด 5 ลิตร ซึ่งมีไว้ประจำทุกสถานีบริการ กรณีพบความผิดปกติหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเติมน้ำมัน หรือจากการใช้เครื่องชั่งตวงวัดใด ๆ ในการซื้อขายสินค้า สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

ผู้ประกอบการภาคเหนือตอนบน 2 เตรียมงาน East-Northern Thailand & GMS Expo

ผู้ประกอบการภาคเหนือตอนบน 2 เตรียมงาน East-Northern Thailand & GMS Expo

Facebook
Twitter
Email
Print
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ที่ห้องยูโทเปีย โรงแรมเลอเมอริเดียนเชียงราย รีสอร์ท อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย ในฐานะพาณิชย์จังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ระดมผู้ประกอบการจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และจังหวัดน่าน เพื่อประชุมเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ 
 
โดยมี นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ภายใต้โครงการบูรณาการการค้าการลงทุน ปีงบประมาณ 2566 เตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมงานแสดงและจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (East-Northern Thailand & GMS Expo) โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2566 นี้ ที่ลาน The Road ณ UD TOWN EXPO จังหวัดอุดรธานี กิจกรรมภายในงานจัดให้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรม การสาธิตความบันเทิง กิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าตลอดการจัดงาน อาทิ กิจกรรมเจรจาธุรกิจ กิจกรรมการจัดนิทรรศการ East-Northern Thailand Pavilion และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
 
นางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มีศักยภาพด้านที่ตั้งสามารถเชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกับกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่มีศิลปวัฒนธรรม ประเพณีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มล้านนาตะวันออก ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าหัตถกรรม อุตสาหกรรม สินค้าชุมชน เป็นฐานการผลิตสินค้าการเกษตร โดยมีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ชา กาแฟ และผลไม้ (ลำไย ลิ้นจี่) ประกอบกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่มีแผนในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก (Local Economic) 
 
โดยมีเป้าหมายในการผลักดันสินค้า (Local Plus) จำนวน 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ 1. กลุ่ม BCG ที่มุ่งเน้นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม สุขภาพ สินค้าออแกนิค 
2. กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ ที่ต้องการรักษาภูมิปัญญาเฉพาะถิ่น คุณค่าทางวัฒนธรรม และ 
3. กลุ่มสินค้านวัตกรรม ที่ต้องรักษาความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าชุมชน
 
ในการนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้แทนสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการค้าและการค้าชายแดนมุ่งสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการบูรณาการการค้าการลงทุน เพื่อเพิ่มช่องทางการค้า สร้างเครือข่าย เพิ่มขีดความสามารถทางการค้าการลงทุน ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการภาคเหนือตอนบน 2 โดยมี ผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตำบล 2 จำนวนกว่า 160 คน เข้าร่วมกิจกรรม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News