การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ: เน้นจังหวัดเชียงรายและงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุน
ประเทศไทยกำลังเผชิญความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายประการ ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เช่น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การเข้าสู่สังคมสูงวัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง การลงทุนหดตัว การส่งออกลดลง ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบรุนแรง นักท่องเที่ยวลดลง ธุรกิจต้องปิดกิจการเป็นจำนวนมาก เกิดวิกฤตการว่างงาน ปัจจัยสนับสนุนการพัฒนาในระบบเศรษฐกิจถดถอย
จากสถานการณ์ดังกล่าว ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับประเทศ โดยการนำแนวคิด BCG Model มาใช้เป็นกรอบการพัฒนา ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักคือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว สอดรับกับกระแสความยั่งยืนของการพัฒนาเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
โดยภาคเหนือ (NEC) เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยโมเดล BCG ด้วยจุดเด่นด้านทรัพยากรการท่องเที่ยว ทรัพยากรชีวภาพ และภูมิปัญญาท้องถิ่น การพัฒนา NEC ด้วยโมเดล BCG จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน จึงมีแนวคิดในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor: NEC – Creative LANNA) ต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม ซึ่งประกอบไปด้วย 4 จังหวัด ขับเคลื่อนด้วย 4 อุตสาหกรรมหลัก ดังนี้
- จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ของภาคเหนือ
- จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพื้นที่ที่ติดกับชายแดน ทำให้มีจุดเด่นด้านการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน
- จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมส่งออก และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงของการขนส่งระหว่างภาคกลางและภาคเหนือ
การพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ: โอกาสใหม่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การเข้าสู่สังคมสูงวัย หรือการระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ อย่างไรก็ตาม การพัฒนา ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor: NEC) ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถกลับมาเติบโตทางเศรษฐกิจได้อีกครั้ง
วิสัยทัศน์ของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ
การพัฒนา NEC มีเป้าหมายหลักในการยกระดับเศรษฐกิจภาคเหนือผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเน้นการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นและภูมิปัญญาชาวบ้านในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน
การยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
ภาคเหนือมีจุดเด่นด้าน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในด้านวัฒนธรรมล้านนา การพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จะช่วยยกระดับมูลค่าสินค้าและบริการในพื้นที่ รวมถึงเชื่อมโยงความเป็นล้านนากับสื่อดิจิทัล นอกจากนี้ NEC ยังมีการผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสร้างสรรค์ผ่านการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล
การพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร
อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจภาคเหนือ NEC มีแผนที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ให้มีความยั่งยืนมากขึ้นผ่านการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ รวมถึงการสนับสนุนการเกษตรแบบยั่งยืนและเกษตรอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในระดับโลก
การพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสุขภาพ
ภาคเหนือมีศักยภาพทางการท่องเที่ยวและสุขภาพที่สูง ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามและเงียบสงบ NEC ได้วางแผนที่จะยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้มีมาตรฐานระดับโลก โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการการดูแลสุขภาพ
การยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัล
NEC มีการส่งเสริม อุตสาหกรรมดิจิทัล โดยเฉพาะในด้านการผลิตสื่อสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวอัจฉริยะ ภาคเหนือถูกวางให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลที่จะดึงดูด Digital Nomads จากทั่วโลก อีกทั้งยังมีการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรและการท่องเที่ยว
เชียงราย: ประตูสู่ความเจริญทางเศรษฐกิจภาคเหนือ
จังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในจังหวัดหลักที่ถูกกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor: NEC) ที่มีการพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อยกระดับศักยภาพด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคผ่าน 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเชียงรายได้รับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับโครงการสำคัญในพื้นที่
โครงการสำคัญในจังหวัดเชียงราย
หนึ่งในโครงการหลักที่ได้รับการผลักดันในจังหวัดเชียงรายคือโครงการ “Gateway to LMC (Lancang-Mekong Cooperation)” ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเชียงรายให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกในกลุ่ม LMC โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการค้า การขนส่ง และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
การสนับสนุนงบประมาณในจังหวัดเชียงราย
จากข้อมูลที่ได้รับมา จังหวัดเชียงรายได้รับการจัดสรรงบประมาณผ่านกองทุนวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของ NEC โดยงบประมาณเหล่านี้ถูกใช้ในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก โครงสร้างพื้นฐาน และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบ BCG Model
ประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
การพัฒนาจังหวัดเชียงรายภายใต้โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการลงทุนจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ
การบริหารจัดการในพื้นที่
การขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือในจังหวัดเชียงราย ดำเนินการผ่านการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในคณะทำงาน และใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งจะช่วยผลักดันการพัฒนาให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้
สรุป
โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ โดยเน้นจังหวัดเชียงราย เป็นโครงการที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการสนับสนุนงบประมาณและการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลก เชียงรายจึงเป็นพื้นที่ที่ควรจับตามองในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
การพัฒนา ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (NEC) เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจผ่านการใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เกษตรและอาหาร ดิจิทัล และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งจะไม่เพียงแต่ช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น แต่ยังส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์