เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.00 น. ณ วัดพระแก้ว พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พระครูสุธีสุตสุนทร ดร. เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง เป็นประธานในพิธีเวียนเทียน เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567
จัดโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ คณะสงฆ์วัดพระแก้ว พระอารามหลวง เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย การมีส่วนร่วมกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในมิติศาสนา บำเพ็ญบุญกุศล เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ ซึ่งมีพระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมกิจกรรม รวมจำนวน 800 รูป/คน
ในโอกาสมงคลนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางพรทิวา ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม พร้อมข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้ามาร่วมกิจกรรมฯ
ความสำคัญของวันมาฆบูชา คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง โอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า “ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อม ๆ กันถึง 4 ประการ อันได้แก่
- วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
- มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
- พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6
- พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ “เอหิภิกขุอุปสัมปทา”
ดังนัเน เพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า “วันจาตุรงคสันนิบาต” หมายความว่า “การประชุมด้วยองค์ 4” นั่นเองทั้งนี้วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันพระธรรม ขณะที่วันวิสาขบูชาถือว่าเป็นวันพระพุทธ ส่วนวันอาสาฬหบูชา เป็นวันพระสงฆ์
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
พรทิวา ขันธมาลา, สุพจน์ ทนทาน : รายงาน
สานุพงศ์ สันทราย : ภาพ
สุพจน์ ทนทาน อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว