Categories
TOP STORIES

เปิดแผน 5 ข้อรัฐบาลไทย เร่งแก้ฝุ่น PM2.5 ปี 2568

รัฐบาลเร่งจัดการมลพิษทางอากาศ เปิดแผน 5 ข้อ รับมือฝุ่น PM2.5 ปี 2568

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารัฐบาลไทยได้เร่งขับเคลื่อนมาตรการเพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2568 การประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศครั้งที่ 1/2567 ได้มีมติ 5 ข้อ เพื่อให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเข้มงวดในการรับมือสถานการณ์มลพิษอากาศ โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม

5 มติสำคัญในการรับมือฝุ่น PM2.5 ปี 2568

  1. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุม
    รัฐบาลมีมติให้จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวัง ควบคุมไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง เพื่อเฝ้าระวัง คาดการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์นี้จะทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศในการป้องกันและรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง

  2. เน้นลดจุดความร้อนในพื้นที่เกษตรและป่า
    รัฐบาลกำหนดเป้าหมายในการลดจุดความร้อนในพื้นที่ 14 กลุ่มป่า และพื้นที่เกษตร โดยเฉพาะพืชสำคัญ เช่น ข้าว ข้าวโพด และอ้อย พร้อมทั้งมีมาตรการไม่รับซื้อผลผลิตที่ใช้การเผาเพื่อป้องกันการเกิดหมอกควันข้ามแดน

  3. ควบคุมยานพาหนะและโรงงานอย่างเข้มงวด
    ให้ความสำคัญกับการตรวจจับยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐาน รวมถึงการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด เพื่อลดการปล่อยฝุ่นละอองในเขตเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร

  4. เพิ่มการสื่อสารและสร้างความตระหนักรู้
    จัดตั้ง ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนและสื่อมวลชน ทั้งในช่วงภาวะปกติและในช่วงวิกฤต

  5. เร่งพัฒนาเทคโนโลยีและการบูรณาการ
    ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการคาดการณ์และแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละออง พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้สามารถจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เปิดศูนย์สื่อสารการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเปิด ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเฝ้าระวัง คาดการณ์ และส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชนเพื่อลดความตื่นตระหนก

มาตรการด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อดูแลกลุ่มเสี่ยง

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียม 4 มาตรการรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง โดยเน้นการดูแลสุขภาพประชาชนเชิงรุก ได้แก่

  1. สร้างความรู้และส่งเสริมองค์กรลดมลพิษ
  2. ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ
  3. จัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข
  4. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ

มาตรการเหล่านี้จะถูกยกระดับตามระดับความรุนแรงของฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ระดับปกติจนถึงระดับวิกฤต เช่น การประกาศ Work from Home และการใช้กฎหมายควบคุมพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน

ผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจ

สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจ การเร่งดำเนินมาตรการแก้ไขจะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. รัฐบาลมีมาตรการอย่างไรในการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5?
    รัฐบาลได้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังและควบคุม พร้อมเพิ่มการตรวจจับยานพาหนะและโรงงานที่ปล่อยฝุ่นละออง

  2. ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศทำหน้าที่อะไร?
    ทำหน้าที่เฝ้าระวัง คาดการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5

  3. กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 คือกลุ่มใด?
    เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

  4. มาตรการลดจุดความร้อนในพื้นที่เกษตรคืออะไร?
    รัฐบาลเน้นลดจุดความร้อนในพื้นที่เกษตรและป่า และห้ามรับซื้อผลผลิตที่ใช้การเผาเพื่อป้องกันหมอกควัน

  5. กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการอย่างไรในการดูแลสุขภาพประชาชน?
    เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยใช้เทคโนโลยีแจ้งเตือนและให้บริการทางการแพทย์อย่างเข้มงวด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ผู้เฒ่าไร้สัญชาติ นับหมื่นคนในเชียงราย

ครม. เตรียมรับมือฝุ่น PM2.5 และปัญหาสัญชาติ พร้อมบูรณาการแก้ไขแบบครบวงจร

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หารือเรื่องมาตรการป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูหนาว โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้นำในการบูรณาการมาตรการป้องกันและลดผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ซึ่งต้องทำงานร่วมกันกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการคมนาคมและภาคอุตสาหกรรม

มาตรการบูรณาการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 หลายมิติ

ในการประชุมดังกล่าว มีการพูดถึงแนวทางป้องกันฝุ่น PM2.5 โดยใช้หลายมาตรการ ทั้งการคุมเข้มการตรวจสอบยานพาหนะที่ปล่อยควันดำ การลดการเผาวัสดุทางการเกษตร เช่น ข้าวโพดและอ้อย รวมถึงการควบคุมการปล่อยมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม โดยขอความร่วมมือจากกระทรวงต่าง ๆ ให้ตรวจจับและควบคุมการปล่อยมลพิษอย่างเข้มงวด ในส่วนของกระทรวงคมนาคม จะมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจจับรถยนต์ที่ปล่อยควันดำ ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมจะควบคุมมาตรการในโรงงานและกิจการที่มีผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะโรงงานที่มีการเผาไหม้หรือใช้สารเคมีที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังได้เสนอแผนการจัดการไฟป่าและการควบคุมหมอกควันข้ามแดนที่เข้มงวดเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในปี 2568 ซึ่งจะมีมาตรการทั้งระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับจังหวัด เช่น การสร้างแผนที่เสี่ยงการเผา การตั้งจุดตรวจสกัดในพื้นที่เสี่ยง การตรวจจับการเผาในเขตชุมชนและริมทาง รวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้วิธีการที่ไม่ต้องเผาในการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก โดยการให้สิทธิประโยชน์และสนับสนุนเกษตรกรที่ปฏิบัติตามแนวทางนี้

แนวทางแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคล

อีกหนึ่งวาระสำคัญในที่ประชุม ครม. คือการเร่งรัดแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลและสัญชาติให้แก่ผู้ที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน รวมถึงบุตรที่เกิดในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันยังคงเหลือบุคคลที่รอการพิจารณาสถานะถึง 483,626 ราย โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติได้เสนอให้ปรับหลักเกณฑ์เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วยิ่งขึ้น จากเดิมที่ใช้เวลาพิจารณาถึง 270 วัน ปรับลดลงเหลือ 5 วัน ซึ่งจะช่วยให้การพิจารณาสถานะบุคคลเกิดประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น

มติสำคัญในการประชุมด้านสิ่งแวดล้อมและการลดก๊าซเรือนกระจก

ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกและการสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีการเห็นชอบในวาระสำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่ การสนับสนุนโครงการความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทย-เยอรมัน เพื่อการพัฒนาพลังงานและการเคลื่อนย้ายด้วยเงินอุดหนุน 234 ล้านบาท การส่งเสริมชุมชนคาร์บอนต่ำในระดับพื้นที่ การควบคุมโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพประชาชน และมาตรการรับมือสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในปี 2568 ซึ่งจะมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับภาคและระดับจังหวัดเพื่อประสานงานการป้องกันและแก้ไขปัญหา

บทสรุปของแนวทางแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ

ในช่วงท้ายของการประชุม ครม. ได้ย้ำถึงการเตรียมความพร้อมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน เช่น การควบคุมฝุ่นละอองจากยานพาหนะ โรงงาน การเผาในพื้นที่ชุมชน รวมถึงการเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข เช่น การสื่อสารเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิดผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

นายกฯ สั่งยกระดับวิกฤตไฟป่า 9 มาตรการ เร่งพิจารณางบกลางให้จังหวัดด่วน

 

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ได้กำชับให้ ‘ยกระดับ’ มาตรการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดยให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานผ่าน 9 มาตรการ ประกอบด้วย

 

1.ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานทหารระดมลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยงรวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ลักลอบเผาป่าทุกกรณี ย้ำทุกกรณีไม่มีการละเว้น
 
2.ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำกับดูแลบังคับกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด
 
3.ให้กระทรวงมหาดไทย สั่งการจังหวัด กำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าระวังเสี่ยงต่อการเผา
 
4.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศ เขตความร่วมมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน และให้ประกาศเวิร์คฟอร์มโฮมตามความจำเป็น เพื่อผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
 
5.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาตัดสินการรับความช่วยเหลือ การชดเชยต่างๆจากรัฐหากพบว่ามีการเผาในพื้นที่เกษตรกรของเอง
 
6.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่มความถี่ ปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองอย่างเร่งด่วน และร่วมกับรายงานความมั่นคงในจัดหาเฮลิคอปเตอร์ให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือการดับไฟป่า
 
7.ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดชุดเคลื่อนที่ลงเยี่ยมบ้านดูแลสุขภาพประชาชนอย่างทั่วถึง ทันท่วงทีและสนับสนุนอุปกรณ์ส่วนบุคคล สำหรับกลุ่มเสี่ยง
 
8.ให้สำนักงานงบประมาณ พิจารณางบกลางให้จังหวัดเพื่อให้ทันต่อการแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์วิกฤติ ตามความเหมาะสมและจำเป็นเร่งด่วน
 
9.กรณีหมอกควันข้ามแดน ให้กระทรวงการต่างประเทศยกระดับการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง พม่า และลาว ให้ลดการเผาป่าอย่างทันทีและตั้ง KPI ให้ชัดเจน
 
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยได้ว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการทั้ง 9 ข้อนี้ โดยมีพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News