โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พะเยา (15 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์และพะเยา (14 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด และเชียงราย (3 ราย)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (11 – 12 เม.ย. 67) เกิดอุบัติเหตุ รวม 541 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 550 คน ผู้เสียชีวิต รวม 63 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 42 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงราย และประจวบคีรีขันธ์ (21 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราชและสงขลา (22 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด (5 ราย)
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้เป็นวันมหาสงกรานต์และเป็นวันปีใหม่ของคนไทย ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางไปทำบุญและสรงน้ำพระ รวมถึงเล่นน้ำสงกรานต์ ทำให้ถนนสายหลายมีปริมาณจราจรหนาแน่น ศปถ. ได้ประสานจังหวัดคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติทางถนนผ่านกลไกในพื้นที่ โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองและอาสาสมัคร เฝ้าระวังจุดเสี่ยงบริเวณถนนทางหลวง เส้นทางสายรอง ถนน อบต. หมู่บ้าน พร้อมเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรรมเสี่ยงอุบัติเหตุและผู้กระทำความผิดซ้ำตามกฎหมายจราจรทางบก รวมถึงดูแลการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และการจำหน่ายในลักษณะเร่ขายในบริเวณที่มีการพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ (Zoning) และสถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งควบคุมสถานบริการให้เปิด – ปิด ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด สำหรับจังหวัดที่มีการสัญจรทางน้ำและแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำให้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย
ด้านนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี และเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ปฏิบัติการเข้มข้นในจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมดูแลความปลอดภัยในการเล่นน้ำของประชาชนไม่ให้มีการเล่นน้ำบริเวณเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุในเส้นทางสายหลักและสายรอง
รวมถึงควบคุมไม่ให้เล่นน้ำในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตราย อีกทั้งคุมเข้มการจัดตั้งจุดตรวจบริเวณเส้นทางโดยรอบพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังจากประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น และความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตลอดจนเตรียมความพร้อมด้านบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้เข้าถึงจุดเกิดเหตุ และส่งต่อผู้ประสบอุบัติเหตุได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนสืบสานประเพณีสงกรานต์ตามประเพณีวิถีไทยบนพื้นฐาน ของความปลอดภัย
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย