Categories
NEWS UPDATE

ปภ. ทดสอบ Cell Broadcast เตือนภัยไว ส่งตรงมือถือ True

ปภ. ทดสอบ Cell Broadcast เต็มรูปแบบ ย้ำประสิทธิภาพสูง หวังยกระดับระบบเตือนภัยไทยเทียบมาตรฐานโลก

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งเดินหน้าระบบ Cell Broadcast ร่วมผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3 ค่ายหลัก

กรุงเทพมหานคร – วันที่ 4 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ (BNIC) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง และผู้แทนจาก กสทช. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยด้วย Cell Broadcast (CBS) ผ่านเครือข่าย True อย่างเป็นทางการ

การทดสอบดังกล่าวเป็นการจำลองเหตุการณ์ภัยพิบัติที่ต้องการความเร่งด่วนในการแจ้งเตือนประชาชนให้ได้รับข้อมูลโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการทดสอบ พบว่า CBS สามารถส่งข้อความแจ้งเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องในพื้นที่ได้อย่างทันที ทั้งระบบ iOS และ Android โดยไม่ต้องพึ่งพาสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือแอปพลิเคชันเพิ่มเติม

Cell Broadcast คืออะไร ทำไมจึงสำคัญยิ่งในยุคภัยพิบัติถี่ขึ้น

Cell Broadcast คือระบบส่งข้อความเตือนภัยแบบกระจายสัญญาณผ่านเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ โดยสามารถส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องในพื้นที่เป้าหมายพร้อมกันในทันที ข้อดีสำคัญ ได้แก่:

  • แจ้งเตือนแม้โทรศัพท์อยู่ในโหมดเงียบ
  • ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • ไม่ต้องลงแอปพลิเคชัน
  • ส่งข้อความได้พร้อมกันแบบไม่จำกัดจำนวน
  • เจาะจงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้อย่างแม่นยำ

ซึ่งระบบนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเสียหายจากภัยพิบัติ ทั้งแผ่นดินไหว น้ำท่วม สึนามิ พายุ หรือแม้แต่การก่อการร้าย

ความร่วมมือ 3 ค่ายมือถือใหญ่ ผลักดันระบบ CBS ให้ครอบคลุม

หลังการประชุมร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง 3 ราย ได้แก่ AIS, True, และ NT ได้มีข้อตกลงในหลักการร่วมกันเพื่อเดินหน้าพัฒนาระบบ CBS ให้สามารถใช้งานได้จริงในระดับประเทศ โดยขณะนี้ ทุกค่ายได้ติดตั้งระบบ CBC (Cell Broadcast Center) แล้วเสร็จ เหลือเพียงหน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะ CBE (Cell Broadcast Entity) ซึ่ง ปภ. อยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบขั้นสุดท้าย

ผลการทดสอบล่าสุด ยืนยันระบบพร้อมใช้งานจริง

นายภาสกร ระบุว่า การทดสอบในวันนี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบ CBS อย่างชัดเจน และถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการนำเทคโนโลยีแจ้งเตือนภัยที่ทั่วโลกยอมรับมาใช้ ซึ่งหากระบบสามารถดำเนินการครบทั้ง CBC และ CBE ได้อย่างสมบูรณ์ ไทยจะสามารถเปิดใช้งาน CBS ทั่วประเทศได้ในเร็ววัน

นอกจากนี้ ปภ. ยังวางแผนจัดทำ แนวปฏิบัติ (SOP) สำหรับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันในการส่งข้อความแจ้งเตือนภัย และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีเอกภาพเมื่อเกิดเหตุจริง

SMS vs Cell Broadcast ทำไมไทยต้องเปลี่ยน?

แม้ปัจจุบันประเทศไทยยังคงใช้ SMS เป็นหลักในการแจ้งเตือนภัย แต่ SMS มีข้อจำกัดชัดเจนหลายประการ เช่น:

  • ส่งได้ช้า เพราะต้องส่งทีละหมายเลข
  • มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณการส่งพร้อมกัน
  • ไม่มีเสียงเตือนพิเศษ
  • ต้องอาศัยฐานข้อมูลผู้ใช้งาน

ในขณะที่ CBS สามารถทำงานได้ทันทีในระดับ “Broadcast” ทำให้ผู้ใช้ในพื้นที่เสี่ยงได้รับการแจ้งเตือนพร้อมกันแบบเรียลไทม์

ตัวอย่างต่างประเทศ ญี่ปุ่น-สหภาพยุโรป ประสบความสำเร็จจาก CBS

  • ญี่ปุ่น ใช้ระบบ J-Alert ซึ่งส่งข้อความผ่าน CBS ไปยังมือถือทุกเครื่องในพื้นที่ภัยพิบัติ พร้อมเสียงเตือนพิเศษ มีการใช้งานอย่างแพร่หลายตั้งแต่ปี 2550
  • เนเธอร์แลนด์ ใช้ระบบ NL-Alert สำหรับแจ้งเตือนน้ำท่วมฉับพลัน
  • ฝรั่งเศส ใช้ระบบ FR-Alert แจ้งเตือนการก่อการร้ายหรือภัยสาธารณะ

ทุกประเทศระบุว่า CBS ช่วยลดความตื่นตระหนก และเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของประชาชนได้อย่างชัดเจน

ทัศนคติจากสองมุมมอง เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์หรือยังไม่ครอบคลุม?

ฝ่ายสนับสนุน CBS เห็นว่า เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนี้ ใช้งานง่าย ไม่ต้องพึ่งแอปพลิเคชัน และสามารถแจ้งเตือนแบบเจาะจงพื้นที่ ช่วยลดความสูญเสียได้จริง และเชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบเตือนภัยของไทยได้อย่างพลิกโฉม

ขณะที่ฝ่ายกังวล ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ CBS จะดีเยี่ยม แต่ยังมีช่องว่าง เช่น ประชาชนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ เด็ก ผู้สูงอายุในพื้นที่ห่างไกล หรือผู้ที่ไม่ชำนาญเทคโนโลยี อาจไม่ได้รับแจ้งเตือนอย่างทันท่วงที จึงเสนอให้รัฐผสาน CBS กับระบบแจ้งเตือนแบบเดิม เช่น วิทยุ ลำโพงชุมชน หรือทีวี เพื่อความครอบคลุมสูงสุด

ทางออก “Multi-Channel Alert System” ผสานหลายช่องทางสู่ระบบเตือนภัยแบบยั่งยืน

ผู้เชี่ยวชาญจาก United Nations Office for Disaster Risk Reduction (UNDRR) แนะนำว่า ประเทศกำลังพัฒนาควรใช้ ระบบแจ้งเตือนหลายช่องทาง (Multi-Channel Alert System) เพื่อครอบคลุมประชากรทุกกลุ่ม เช่น:

  • Cell Broadcast สำหรับมือถือ
  • ลำโพงประกาศสาธารณะในชุมชน
  • SMS สำหรับสำรองข้อมูล
  • วิทยุชุมชนและโทรทัศน์

สถิติและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

  • ปัจจุบัน กว่าร้อยละ 92 ของประชากรไทย มีโทรศัพท์มือถือ (ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2567)
  • ประเทศที่ใช้งาน Cell Broadcast อย่างเป็นทางการ: ญี่ปุ่น, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา ฯลฯ (ที่มา: UNDRR, 2567)
  • ไทยมีแผนเปิดใช้งาน Cell Broadcast ทั่วประเทศภายใน ไตรมาส 3 ปี 2568 (ที่มา: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
  • เหตุแผ่นดินไหวที่มีผลกระทบถึงไทยจากประเทศเพื่อนบ้าน มีเฉลี่ยปีละ 2–3 ครั้ง (ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
  • บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • กสทช.
  • กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
  • UNDRR
  • ITU
  • Japan Meteorological Agency
  • European Commission
  • Dutch Government
  • Cabinet Office of Japan
  • สำนักสถิติแห่งชาติ
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

เจาะเบื้องหลังงานบริการ TrueSphere “สุจิตรา อมิตรพ่าย”

 

[Eng below]

ท่ามกลางกระแสธารและการไหลบ่าของเทคโนโลยี การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้ภาคธุรกิจทุ่มสรรพกำลังเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าอย่างดีที่สุด แต่กระนั้น ความต้องการลูกค้ายังประกอบด้วยมิติด้านอารมณ์ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การแสดงความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หุ่นยนต์ไม่สามารถแทนที่ได้

 

True Blog ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับ สุจิตรา อมิตรพ่าย หัวหน้าฝ่ายงานบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการทรูสเฟียร์และแบรนด์ดิ้งช็อป บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบงานบริการเหนือระดับที่ลูกค้าทุกท่านสามารถสัมผัสได้จากความรู้สึกแบบใจถึงใจ ที่มาพร้อมกับความแม่นยำด้านข้อมูล

 

ยึดถือความต้องการลูกค้าเป็นตัวตั้ง

 

สุจิตรา เรียกได้ว่าเป็น “ลูกหม้อ” ของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่แท้จริง เริ่มต้นจากตำแหน่งจูเนียร์ โดยมีหน้าที่รับผิดชอบงานขายสื่อโฆษณาทั้งหมดของ True Visions และด้วยความหลากหลายของธุรกิจภายใต้กลุ่มทรู เธอยังได้มีโอกาสโลดแล่นบนจอแก้ว ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวของช่อง TNN ไปพร้อมๆ กัน ทำให้เธอได้สัมผัสกับสนามข่าวอย่างแท้จริง ทั้งลงพื้นที่เก็บประเด็น รายงานสด อ่านข่าวในสตูดิโอ เติมเต็มความฝันในวัยเด็ก

 

แต่แล้ว ชีวิตการทำงานก็เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงระลอกใหญ่อีกครั้ง เมื่อเธอได้รับทุนการศึกษาด้านบริหารธุรกิจในระดับปริญญาโท จากโครงการ “True-ABAC Entrepreneur Scholarship” โดยความร่วมมือระหว่าง ทรู คอร์ปอเรชั่น และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และเมื่อจบหลักสูตร เธอได้รับการสอบถามจากผู้บริหารถึงความสนใจในการบริหารงานค้าปลีกหรือไม่ โดยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้าน True Branding Shop สาขา Flagship ใหม่ที่ศูนย์การค้า Siam Center ในขณะนั้น รวมทั้งรุ่นบุกเบิกโครงการที่สำคัญอย่าง “เถ้าแก่น้อย” (Management Trainee โดยผู้บริหารระดับสูงสุดของเครือซีพี)

 

เธอให้ข้อมูลเชิงลึกว่า บริเวณพื้นที่ “สยาม” ซึ่งครอบคลุมทั้งมาบุญครอง สยามสแควร์ สยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน จัดว่าเป็น Red Zone กล่าวคือ เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของผู้ให้บริการมือถือทุกค่าย การแข่งขันสูงทั้งจากคู่แข่งและ True Branding Shop เองที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ขณะที่ลูกค้าก็มีความคาดหวังและความต้องการสูง ด้วยบริบทที่กล่าวมานั้น ทำให้การทำหน้าที่ Shop Manager ของที่นี่ทวีแรงกดดันอย่างมากทั้งในแง่การชิงส่วนแบ่งยอดขายและการสร้างความแตกต่าง

 

“แม้จะไม่มีประสบการณ์ด้านรีเทลมาก่อนเลย แต่โอกาสมีความท้าทาย จึงตัดสินใจทดลองอย่างไม่ลังเล” สุจิตรากล่าวพร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า “เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้จริงๆ ว่าการนำเอาความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้ง คือวิธีคิดที่ถูกต้อง เมื่อนำมาปรับผสมผสานกับสินค้าและบริการของเรา เมื่อมองแบบ Outside-In คิดจากมุมลูกค้าว่าต้องการอะไร จากนั้นจึงพัฒนาและปรับปรุง ส่งมอบสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการ ซึ่งผลประจักษ์ชัดถึงความสำเร็จด้วยการรั้งตำแหน่งสาขาที่มียอดขาย iPhone สูงที่สุดในเวลานั้น”

 

เธอทำหน้าที่ผู้จัดการร้านอยู่ 3 ปี เมื่อผลงานผ่านการพิสูจน์ เธอจึงได้เลื่อนขั้นเป็น “ผู้จัดการเขต” จาก 1 สาขา กลายมาเป็นทั้งประเทศ ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ หินและโหด ทว่า สุจิตรากลับมองว่าเป็น “ความท้าทาย” เธอเห็นความต้องการลูกค้าที่แตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ และนั่นคือ “โอกาส” ในการส่งมอบบริการให้ตรงกับความต้องการลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยยังคงมาตรฐานกลางไว้ ซึ่ง TrueSphere & True Branding Shop นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์การขายที่สำคัญช่องทางหนึ่งของ ทรู คอร์ปอเรชั่น

 

เบื้องหลัง TrueSphere

 

สุจิตรา เล่าต่อว่า ช่วงปี 2559 ด้วยวิสัยทัศน์ของคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ทรู คอร์ปอเรชั่น (ในขณะนั้น) ที่เล็งเห็นว่าทรูควรมีบริการพิเศษเพื่อดูแลลูกค้าที่ให้ความวางใจในการใช้บริการของทรูมาอย่างยาวนาน จึงได้ริเริ่มก่อตั้ง TrueSphere ขึ้น เพื่อให้ “แตกต่างและสร้างสรรค์สิ่งใหม่อยู่เสมอ” โดยวางตำแหน่งทางการตลาดเป็น First Class Co-Working Destination ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

 

ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าใช้บริการ TrueSphere ได้นั้น จะต้องเป็นลูกค้าระดับ Black Card ประกอบด้วย 2 เกณฑ์หลัก ได้แก่ ใช้บริการทรูเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน และมีค่าใช้จ่ายต่อรอบบิล 3,000 บาทขึ้นไป โดยพิจารณารวมทุกบริการในกลุ่มทรู ทั้งทรูมูฟ เอช ทรูออนไลน์ และทรูวิชันส์  อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการควบรวมระหว่างทรูและดีแทค สิทธิพิเศษดังกล่าวถูกขยายให้ครอบคลุมกลุ่มลุกค้า Blue Member ของดีแทคอีกด้วย

 

เธอให้ข้อมูลเสริมว่า เมื่อเข้ามาใช้บริการ TrueSphere ลูกค้าได้ชุด True Welcome Set ฟรี 4 ครั้งต่อเดือน ซึ่งประกอบด้วยเครื่องดื่มที่หลากหลาย และคุกกี้อัลมอนด์ข้าวโอ๊ตหอมหวานกรอบอร่อย นอกจากนี้ ยังได้สิทธิพิเศษอื่นๆ มากมายจาก TrueYou เช่น บริการล้างรถ ส่วนลดร้านอาหาร บริการผู้ช่วยส่วนตัว ฯลฯ

 

“เมื่อเข้ามาใช้บริการที่ TrueSphere ไม่ว่าจะเป็นการนัดพบปะ ดีลธุรกิจ หรือนั่งพักผ่อน ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สมกับความเป็น First Class Co-Working Destination อย่างแท้จริง”

 

เมื่อถามถึงเบื้องหลังและแนวคิดที่มาของความเป็น First Class สุจิตรา ชี้ให้เห็นว่าขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า “2P” โดย P ตัวแรกคือ Privilege หรือสิทธิพิเศษที่แตกต่างและจับต้องได้อย่างการออกแบบตกแต่งสถานที่ที่เน้นความหรูหรา แต่อบอุ่น ให้ความเป็นส่วนตัว ในส่วน P อีกตัวหนึ่ง ก็คือ People หรือบุคลากร ที่ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งยวด

 

TrueSphere DNA เหนือชั้นด้านบริการ

 

เธอเล่าว่า กว่าจะมาเป็นพนักงานของ TrueSphere ได้นั้น จะต้องผ่านกระบวนการคัดสรรอย่างเข้มข้น โดยพิจารณาจากประสบการณ์การทำงาน ซึ่งหากมีประสบการณ์ในแวดวงการบินและการโรงแรม (Airline and Hospitality) จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ นอกจากนี้ บุคลิกท่าทาง การวางตัว ปฏิภาณไหวพริบ การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า และทัศนคติ ยังเป็นอีกคุณลักษณะที่สุจิตรามองหาจากผู้สมัคร ซึ่งพนักงานของ TrueSphere ทุกคนจะต้องผ่านการสัมภาษณ์จากสุจิตราในทุกรายละเอียดด้วยตัวเองเลยทีเดียว

 

“เวลาสัมภาษณ์ เราจะมีคำถามสำคัญ 4-5 ข้อ เช่น เรามองตัวเองอย่างไร เราเข้าใจตัวเองอย่างไร อะไรทำได้ดี อะไรต้องปรับปรุง ชุดคำถามนี้เป็นการวัดความจริงใจของผู้สมัครอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงความสามารถในการยอมรับและเปิดเผยตัวตนของพวกเขา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกรอบคิดพื้นฐานที่นำไปพัฒนาต่อยอดสู่บริการที่เป็นเลิศ” สุจิตรา อธิบาย

 

นอกเหนือจากการอบรมด้านเทคนิคที่พนักงานจำเป็นต้องรู้แล้ว TrueSphere ยังได้ร่างหลักสูตรอบรมเฉพาะทางที่เรียกว่า “TrueSphere DNA” โดยมุ่งเน้นการพัฒนางานบริการอันเป็นเลิศ ครอบคลุมทุกมิติของงานบริการ ตั้งแต่การเสิร์ฟอาหารแบบ Fine Dining การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเฉพาะหน้า การส่งมอบความรู้สึกจากภายในสู่ภายนอก โดยพัฒนาร่วมกับโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ และหลักสูตร Inner to Outer โดยครูเงาะ – รสสุคนธ์ กองเกตุ นักพัฒนาบุคลิกภาพระดับแนวหน้าของไทย

 

รับมือกับการเปลี่ยนแปลง

 

ทั้งนี้ การอบรมผู้สมัครแต่ละชุดจะเป็นไปอย่างเข้มข้น มีการจำลองสถานการณ์จริง เพื่อติดตามและประเมินผลความสามารถในการตัดสินใจ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

 

ถามว่าทำไม TrueSphere ถึงให้ความสำคัญกับความสามารถในการตัดสินใจนัก สุจิตรา ให้คำตอบว่า เพราะความเปลี่ยนแปลง ไม่แน่นอน เกิดขึ้นได้เสมอ ที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับเหตุการณ์กราดยิงถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 และครั้งที่ 2 เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมาใจกลางเมือง ซึ่งทั้ง 2 ครั้ง มีพนักงานและลูกค้า เกิดความสุ่มเสี่ยงความรุนแรงและจำเป็นต้องหาทางเอาตัวรอดในภาวะคับขัน ซึ่งกรณีดังกล่าว ความปลอดภัยของลูกค้าถือเป็นความสำคัญลำดับแรก ขณะเดียวกัน การควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบก็ถือเป็นอีกความท้าทาย โดยเฉพาะในยามคับขันที่การไลฟ์วิดีโอเป็นพฤติกรรมที่เห็นได้ทั่วไปในยุคดิจิทัล สติและความนิ่งของพนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการตรวจสอบความปลอดภัยของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการช่วยเหลือและควบคุมความวุ่นวายสับสน และรอจนกว่าแลนลอร์ดส่งสัญญาณปลอดภัยต่อไป

 

ปัจจุบัน TrueSphere เปิดให้บริการทั่วประเทศ 12 สาขา ได้แก่ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวสท์เกต, เมกะบางนา, ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต, เซ็นทรัล อีสวิลล์, เซ็นทรัลเวิลด์, ไอคอนสยาม, บลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ท มอลล์, เซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา, สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต, และล่าสุดที่ ดิ เอ็มสเฟียร์ กับคอนเซ็ปต์ใหม่ที่มุ่งนำเสนอนวัตกรรมสุดล้ำแห่งอนาคต อธิบายภาพ Telco-Tech อย่างแท้จริง

 

Look Into Thinking and Process that Drives the Superior Services – TrueSphere – Becomes More Special

 

As fast-evolving technology including artificial intelligence (AI) has flooded the business landscape, enterprises have tried to ride the wave in their bid to best respond to the needs of their customers. But robots are still unable to replace humans when it comes to answering emotional needs, showing empathy, and solving issues that have just arisen.

 

True Blog sat down with Sujitra Amitrapai, Head of TrueSphere and Branding Shop at True Corporation

Plc on how she ensured the delivery of heartfelt, data-driven premium services to all customers.

 

Customer-Centric Approach

 

Sujitra, a “protégé” of True Corporation, first joined the company as a junior employee. Back then, she was responsible for selling ad media of paid-TV arm TrueVisions. However, as her company’s group has had a diverse range of businesses, she also got a role as a TNN newscaster. But apart from reading news inside a studio, she also went out to gather information and make live news broadcast herself. All those experiences had fulfilled her childhood dream.

 

But her career path turned a new page because she was granted a “True-ABAC Entrepreneur Scholarship” to study for a Master of Business Administration. Following her graduation, True’s executives asked if she was interested in retail management and offered her the manager post at the latest True Branding Shop in town. The offer had much significance because the shop was located at Siam Center. She also became a pioneer in one of her company’s key projects – “Taokae Noi” (Management Trainee under CP Group’s CEO)

 

According to Sujitra, “Siam” area that includes MBK, Siam Square, Siam Center and Siam Paragon has long been considered a strategic location with fierce competition as ‘Red Zone’. Fighting for customers are similar outlets operated by not just competitors but also True itself. Customers in the area have usually had high expectations too. As the Shop Manager at Siam Center, she faced a lot of pressure. But thanks to her focus on differentiation, her shop managed to steal market share from others.

 

“Although I had never worked in retail field before, I considered this challenging offer an opportunity. That’s why I grabbed it,” Sujitra said, “I also proved soon later that the customer-centric approach truly worked. The outside-in perspectives made us know what customers wanted. Then, we could mix or adjust our product / service offerings to best respond to their needs. When I implemented this approach at my shop, it became the biggest seller of iPhones”.  

 

After three years as the shop manager, Sujitra was appointed a “district manager”. As she gradually climbed up her career ladders, the number of shops under her supervision is no longer just one. Today, there are so many outlets under her guidance and they are located across Thailand. Her current job therefore is much tougher. But she appreciates this “challenge” because the current job has enabled her to see the diverse needs of customers in different areas. To her, she has thus received “opportunities” to satisfy all those customers without compromising the standards of Truesphere & True Branding Shop – which are in fact True Corporation’s strategic selling tools.

 

What is behind TrueSphere?

Sujitra recounted that in 2016, Suphachai Chearavanont – then-President of True Corporation – initiated TrueSphere to deliver exclusive services to his company’s long-time customers. TrueSphere was expected to “be different and creative” and positioned as “First Class Co-Working Destination” for the new generation.

 

TrueSphere was initially accessible to Black Card holders only. To become Black Card members, customers must have already used True services for at least six months and spent more than 3,000 baht per billing cycle. Their bill can cover TrueMove H, TrueOnline and TrueVisions. But after the amalgamation of True and dtac, this exclusive service has been made available to dtac’s Blue Members too.

 

Sujitra disclosed that TrueSphere served a complimentary True Welcome Set to each eligible customer four times a month. The set presents a variety of drinks and fragrant almond oatmeal cookies. Better still, customers are entitled to various other privileges from TrueYou like car-washing services, discounts at restaurants, and personal-assistant services.

 

“Whenever customers walk into TrueSphere for a hangout, a business discussion, or leisure, they will enjoy new experience because our space is a truly First Class Co-Working Destination,” she continued.

 

Why is TrueSphere “First Class”? Sujitra’s answer was ““2Ps”. The first P is Privilege. Customers who can access TrueSpere get tangible privileges that are exemplified by elegant and warm décor. The space also exudes privacy. The other P is People or Personnel, which have crucial importance to the delivery of services.

 

TrueSphere DNA Stands for Superior Services

 

Sujitra said TrueSphere staff had undergone stringent selection process, which focused on their qualifications and work experience. While candidates having airline and hospitality background enjoy an advantage, personality, composure, quick wits, and attitudes are also key criteria. Sujitra interviewed all TrueSphere candidates herself.

 

“Our interview generally has four to five key questions like ‘How do you describe yourself?’, ‘What do you think of yourself?’, ‘What are your strengths?” and “What are your weaknesses?’. These questions test candidates’ sincerity, self-awareness, and frankness because such qualities can contribute to the delivery of excellent services,” Sujitra continued.

 

All staff at TrueSphere have received technical training to get skills needed for their jobs. They, moreover, are given “TrueSphere DNA” via specialized training that is focused on service excellence. Addressing all aspects of services, staff are even trained in how to serve Fine-Dining dishes, solve problems at hand, and translate positive inner feelings into perceivable elements. The training has been developed through True Corporation’s collaboration with the Mandarin Oriental Bangkok Hotel. TrueSpehere has also arranged for Thailand’s leading personality training Rossukon “Kru Ngor” Gonggate to provide “Inner to Outer” training to its staff.

 

React Right

 

Training for each batch of new TrueSphere staff has been extensive. Different scenarios have been created to hone staff’s skills for proper response to each of various possible incidents. Trainers have monitored and evaluated staff’s decision-making and problem-solving skills during such training.

 

Why does TrueSphere place a strong emphasis on decision-making skills? Sujitra said these skills had much importance because anything could happen. Thailand already saw two shooting sprees, first in Nakhon Ratchasima in 2020 and again last year. Both incidents happened in the heart of the towns, with staff and customers at TrueSphere facing risks of extreme violence and struggling for survival. In such violent incidents, customer safety is the top priority with staff expected to handle the challenge of controlling the situation well. Live broadcasts on social media are common in the digital age but staff must be calm and cautious of what can endanger the safety of customers under their care. TrueSphere staff must provide assistance and stop confusion while waiting for landlords’ signal that it is safe to leave the place.

 

There are now 12 TrueSphere outlets in Thailand. They are located at EmQuartier, Siam Paragon, Central Westgate, Mega Bangna, Future Park Rangsit, Central EastVille, CentralWorld, ICONSIAM, Blue Port Hua Hin Resort Mall, CentralPlaza Nakhon Ratchasima, Happy and Healthy Bike Lane, and The Emsphere. The latest branch at The Emsphere embraces the concept of futuristic innovations to visualize what a Telco-Tech firm is.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทรู คอร์ปอเรชั่น

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News