
แม่ฟ้าหลวง–เชียงรายคว้ารางวัล “สุดยอดสุขาสาธารณะแห่งปี 2568” ยกระดับมาตรฐานสนามบิน–ความเชื่อมั่นนักเดินทาง
เชียงราย, 8 กันยายน 2568 – “หนึ่งในความสำคัญของท่าอากาศยานคือความสะอาดของห้องสุขา” น.ต.ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) กล่าวย้ำต่อหน้าผู้แทนหน่วยงานรัฐและเอกชน ระหว่างพิธีรับรางวัล “สุดยอดสุขาสาธารณะแห่งปี 2568” เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา รางวัลดังกล่าวมอบโดย ศูนย์อนามัยที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ กรมอนามัย ภายใต้กรอบมาตรฐาน ส้วมสาธารณะไทย (HAS) ซึ่งชี้วัดคุณภาพในสามมิติหลักคือ Healthy–Accessibility–Safety หรือ สะอาด–เพียงพอ/เข้าถึงได้–ปลอดภัย ตามเกณฑ์ของกรมอนามัย เพื่อยกระดับสุขาภิบาลสาธารณะและความปลอดภัยของผู้ใช้บริการสถานที่สาธารณะทั่วประเทศ โดยเกณฑ์การคัดเลือก “สุดยอดส้วมฯ” ของเขตสุขภาพที่ 1 ประจำปีนี้ยังได้กำหนดกติกาและแนวทางประเมินไว้อย่างเป็นทางการด้วย
ภาพวันรับรางวัลหลักฐานของการทำงานเชิงระบบ
พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นที่ห้องประชุม “ตอบแทนคุณแผ่นดิน” ของท่าอากาศยาน โดยมีผู้บริหารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ผู้แทนด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และบริษัทบริการภาคพื้น เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน รางวัลนี้สะท้อนผลลัพธ์จากการทำงานต่อเนื่องทั้งด้านดูแลความสะอาด การเพิ่มความสะดวกผู้โดยสาร และการบริหารความปลอดภัยในพื้นที่ห้องสุขา ซึ่งทชร.ระบุว่าผ่านเกณฑ์ประเมินครบถ้วน ทั้งมิติการบริหารจัดการ, ความเป็นต้นแบบ/แหล่งเรียนรู้ และการจัดสภาพแวดล้อม–นวัตกรรมบริการ ทำคะแนนรวม 91 คะแนน จากผู้เข้าร่วมประเมิน 7 สถานที่ ในเขตสุขภาพเดียวกัน
แม้ตัวเลขคะแนนจะเป็นเพียง “ผลลัพธ์ปลายทาง” แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือกระบวนการ “หน้าบ้าน–หลังบ้าน” ที่เข้มงวด ตั้งแต่ความถี่การทำความสะอาดแบบเชิงรุก การจัดโครงสร้างพื้นฐานแบบแตะน้อย (touchless) ไปจนถึงระบบตรวจสอบคุณภาพและการตอบสนองต่อคำร้องเรียนอย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับคำแนะนำของภาคอุตสาหกรรมสนามบินระดับสากลที่เน้นความสะอาดพื้นที่สัมผัสร่วม โดยเฉพาะห้องสุขา อ่างล้างมือ และอุปกรณ์จ่ายสบู่/น้ำยาฆ่าเชื้อในรูปแบบไร้สัมผัส
ทำความเข้าใจ “HAS”มาตรฐานไทยที่ขับเคลื่อนด้วยสุขาภิบาลและความปลอดภัย
มาตรฐานส้วมสาธารณะไทย (HAS) เป็นกรอบประเมินที่กรมอนามัยใช้ผลักดันคุณภาพห้องน้ำสาธารณะในประเทศอย่างต่อเนื่อง เน้น 3 แกนหลัก ได้แก่
- Healthy (สะอาด): เน้นความสะอาดพื้น–ผนัง–สุขภัณฑ์ การกำจัดของเสีย และระบบระบายอากาศ
- Accessibility (เพียงพอ/เข้าถึงได้): จำนวนห้อง–การแยกเพศ–ความพร้อมใช้งาน รวมถึงการออกแบบเพื่อคนพิการ/ผู้สูงอายุ
- Safety (ปลอดภัย): แสงสว่าง เพดาน–พื้นไม่ลื่น ป้ายสัญลักษณ์ชัดเจน รวมถึงความปลอดภัยด้านอาชญากรรม/การคุกคาม
กรอบดังกล่าวผ่านการรณรงค์และยืนยันโดยกรมอนามัยมายาวนาน พร้อมคู่มือ/เอกสารเผยแพร่มาตรฐาน และในหลายจังหวัดก็มีการจัดประกวด–ประเมิน “สุดยอดส้วมฯ” ต่อเนื่องเพื่อยกระดับพื้นที่สาธารณะให้เป็นต้นแบบ ขณะที่ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 (ภาคเหนือบน) ก็มีเอกสารกติกาการคัดเลือกฉบับทางการสำหรับปี 2568 ซึ่งทำให้กระบวนการคัดเลือกโปร่งใสและตรวจสอบได้
ทำไม “ห้องน้ำ” จึงกำหนดประสบการณ์สนามบิน
สำหรับสนามบินเชิงพาณิชย์ ห้องสุขาไม่ใช่ “พื้นที่ท้ายอาคาร” แต่เป็นจุดสัมผัสสำคัญที่ผู้โดยสารใช้ซ้ำหลายครั้ง ตั้งแต่ก่อนเช็กอิน ก่อนผ่านความปลอดภัย ไปจนถึงหน้าประตูขึ้นเครื่อง งานวิชาชีพด้านท่าอากาศยานยืนยันว่า การลงทุนในสุขาภิบาลและเทคโนโลยีไร้สัมผัสในห้องสุขา ช่วยยกระดับความรู้สึกปลอดภัยและประสบการณ์โดยรวม โดยเฉพาะยุคหลังโควิดที่ผู้โดยสารให้ความสำคัญด้านสุขอนามัยอย่างยิ่ง แนวปฏิบัติของสมาพันธ์สนามบินนานาชาติ (ACI) จึงแนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ไร้สัมผัสในห้องสุขา และเพิ่มจุดล้างมือ/เจลฆ่าเชื้อในจุดคอขวดต่าง ๆ ของกระบวนการผู้โดยสาร
ในต่างประเทศ สนามบินหลายแห่งยังติดตั้งระบบ “Smart Restroom” เพื่อรับฟังเสียงผู้ใช้แบบเรียลไทม์และปิดช่องว่างบริการอย่างฉับไว ซึ่งถูกยกเป็นกรณีศึกษาด้านประสบการณ์ผู้โดยสารในบทความวิชาชีพของ ACI สะท้อนทิศทางการจัดการเชิงข้อมูล (data-driven) ที่สนามบินไทยสามารถต่อยอดได้
“91 คะแนน” บอกอะไร ถอดบทเรียนจากเช็กลิสต์ถึงระบบงาน
คะแนนรวมที่ทชร.ได้รับ สะท้อนวัฒนธรรมความปลอดภัยและความสะอาดที่ฝังอยู่ในขั้นตอนปฏิบัติงาน ตั้งแต่
- การบริหารจัดการสิ่งปฏิกูล–ความสะอาดเชิงรุก
กำหนดความถี่ทำความสะอาดตามปริมาณผู้ใช้จริง ปรับรอบให้ถี่ในช่วงพีกไฟลต์ ติดตามคุณภาพด้วยการสุ่มตรวจและบันทึกผลอย่างมีหลักฐาน - โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเข้าถึง
จำนวนห้องสุขาเพียงพอ การจัดทางสัญจร–ป้ายชัดเจน และห้องน้ำสำหรับผู้ใช้รถเข็น/ผู้สูงอายุ รวมถึงอุปกรณ์ช่วยพยุงและพื้นผิวกันลื่น - ความปลอดภัยและการสื่อสาร
ไฟส่องสว่าง กล้องวงจรปิดในโถงทางเดิน (ไม่นำเข้าพื้นที่ส่วนตัว) ป้ายแจ้งเหตุ–เบอร์ฉุกเฉิน รวมถึงการทำความเข้าใจข้อพึงปฏิบัติแก่ผู้โดยสารหลายภาษา
หลักคิดและรายการตรวจเหล่านี้สอดคล้องกับองค์ความรู้ของกรมอนามัยเรื่อง HAS ซึ่งใช้กันทั่วประเทศ และเชื่อมโยงกับแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยของอุตสาหกรรมสนามบินระดับสากล
เสียงจากผู้บริหารสนามบิน “สะอาด–เข้าถึง–ปลอดภัย คือคำมั่นสัญญา”
น.ต.ดร.สมชนก ระบุในพิธีว่า “หนึ่งในความสำคัญของท่าอากาศยานคือความสะอาดของห้องสุขา” พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ส่วนหน้า–ส่วนหลัง และหน่วยงานคู่ภาคีที่ร่วมกันยกระดับมาตรฐานจนได้รับการยอมรับระดับเขตสุขภาพ นับเป็น “รางวัลรวมหมู่” ของบุคลากรที่อยู่ด่านหน้าทุกวัน ตั้งแต่แม่บ้าน วิศวกร ไปจนถึงทีมบริการผู้โดยสาร
จากแนวโน้มผู้โดยสารที่ฟื้นตัวและเส้นทางบินที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง บทบาทของทชร.ในฐานะประตูเศรษฐกิจภาคเหนือฝั่งตะวันออกยิ่งเด่นชัด สนามบินดังกล่าวอยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) – AOT และเป็นหนึ่งในเครือข่ายสนามบินหลักของประเทศ ซึ่งมีภารกิจควบทั้ง “ความปลอดภัย–คุณภาพบริการ–ประสิทธิภาพการดำเนินงาน” เพื่อรองรับอุปสงค์การเดินทางและการท่องเที่ยวที่เติบโต.

มิติท่องเที่ยว–เศรษฐกิจห้องน้ำดี สร้างประสบการณ์ดีกว่าเดิม
เชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง การยกระดับคุณภาพห้องสุขาในสนามบินจึงมีนัยสำคัญต่อ “ภาพจำแรก–สุดท้าย” ของนักเดินทาง เพราะผู้โดยสารจำนวนมากเข้าห้องน้ำอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนหรือหลังเที่ยวบิน การพบห้องสุขาที่สะอาด ปลอดภัย และเข้าถึงได้ ช่วยลด “ความเครียดการเดินทาง” และสร้างความรู้สึกไว้วางใจต่อระบบบริการโดยรวม ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนให้เกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำ และการบอกต่อในเชิงบวก โดยแนวทางของอุตสาหกรรมท่าอากาศยานก็ชี้ให้เห็นว่า การจัดวางจุดล้างมือ–แอลกอฮอล์ที่เพียงพอและระบบไร้สัมผัสในห้องสุขามีผลต่อความรู้สึกปลอดภัยและคุณภาพประสบการณ์อย่างมีนัยสำคัญ
เชื่อมโลกมาตรฐานสากลกับมาตรฐานไทย ทางเดินต่อจากนี้
รางวัล “สุดยอดสุขาสาธารณะฯ” คือจุดเริ่มของการยกระดับรอบใหม่ มากกว่าคำว่าจบภารกิจ ทชร.สามารถต่อยอดได้ในหลายมิติ เช่น
- ยกระดับระบบไร้สัมผัส: โถสุขภัณฑ์–ก๊อกน้ำ–สบู่–กระดาษเช็ดมือแบบอัตโนมัติ รวมถึงประตูเข้า–ออก เพื่อ “ลดสัมผัส ลดความเสี่ยง” ตามแนวปฏิบัติที่ ACI แนะนำไว้สำหรับอาคารผู้โดยสารสมัยใหม่
- ข้อมูลหน้างานแบบเรียลไทม์: นำระบบแจ้งเตือนคุณภาพ/การทำความสะอาด–นับผู้ใช้–แบบประเมินสั้น ๆ ติดหน้าห้องน้ำ เพื่อปรับรอบงานอย่างยืดหยุ่น คล้ายกรณีศึกษาสนามบินต่างประเทศที่ ACI เคยเผยแพร่
- การสื่อสารหลายภาษา–สัญลักษณ์สากล: ป้ายแนะนำการใช้และช่องทางร้องเรียน–แจ้งเหตุที่เข้าใจง่าย ครอบคลุมผู้โดยสารต่างชาติ ผู้สูงวัย และผู้พิการ
รางวัลที่มากกว่าถ้วยเชิดชู เป็น “ภูมิคุ้มกันองค์กร”
- มิติผู้โดยสาร: ห้องสุขาที่ดีลดจุดสะดุดในการเดินทาง ย่นเวลาแช่อยู่ในคิว เพิ่มความรู้สึกปลอดภัยและความมั่นใจ
- มิติการดำเนินงาน: เช็กลิสต์ HAS ทำหน้าที่เป็น “แบบตรวจซ้ำ” ให้ทีมงานหมุนวงล้อ PDCA อย่างเป็นระบบ ทำให้การดูแลห้องสุขาไม่ขึ้นกับคนใดคนหนึ่ง แต่ยึดมาตรฐานร่วม
- มิติเศรษฐกิจ–ภาพลักษณ์เมือง: สนามบินอยู่หน้า–ท้ายประสบการณ์ท่องเที่ยว ความประทับใจพื้นที่สาธารณะช่วยต่อเติมแบรนด์จุดหมายปลายทาง
- มิตินโยบายสาธารณะ: HAS ทำให้ “สุขาภิบาล” กลายเป็นวาระจับต้องได้ หน่วยงานท้องถิ่น–เอกชนสามารถสมัครเข้าร่วมประเมินและยกระดับสถานที่ตนเอง เกิดการแข่งขันเชิงคุณภาพที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ.
จากความสะอาดสู่ความเชื่อมั่น
การได้รางวัล “สุดยอดสุขาสาธารณะแห่งปี 2568” สะท้อนว่าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย กำลังเดินบนเส้นทาง “สะอาด–เข้าถึง–ปลอดภัย” อย่างมีระบบและตรวจสอบได้ พร้อมต่อยอดสู่เทคโนโลยี–ข้อมูล–นวัตกรรมบริการที่ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ใช้สนามบินทุกกลุ่ม ในวันที่การเดินทางแข่งขันกันด้วย “ประสบการณ์” รายละเอียดอย่างห้องสุขา คือสมรภูมิเล็กที่ชี้ชะตาความประทับใจใหญ่ของเมืองและประเทศ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
- ศูนย์อนามัยที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่
- บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT)
- กพท. (CAAT) eAIP Thailand, แฟ้มข้อมูลสนามบิน (Operator: Airports of Thailand PLC).
- Airports Council International (ACI)