Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ผู้ว่าฯ ลงตรวจปฏิบัติการแพทย์ทหาร ฝูงบิน 416 เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 เวลา 14.30 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปยังฝูงบิน 416 อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการลำเลียงอาหารและถุงยังชีพ รวมถึงทีมแพทย์ทหารที่เตรียมออกปฏิบัติภารกิจโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ในการส่งมอบอาหารและให้บริการทางการแพทย์แก่ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่เป้าหมายบ้านเทอดไทยและบ้านจะตี อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก ทำให้หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากเส้นทางคมนาคม ส่งผลให้การส่งอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ต้องอาศัยการขนส่งทางอากาศ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลในอำเภอแม่ฟ้าหลวง เช่น บ้านเทอดไทยและบ้านจะตี ที่ถูกน้ำป่าล้อมรอบจนไม่สามารถเดินทางเข้าถึงได้

ในระหว่างการลงพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้รับรายงานจากชุดปฏิบัติการทางอากาศว่าภารกิจการขนส่งอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ในพื้นที่อำเภอแม่สายเมื่อวันที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความสำเร็จ โดยเฮลิคอปเตอร์ได้ลำเลียงอาหารไปถึงชาวบ้านที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม นอกจากนี้ ทีมแพทย์ทหารยังสามารถนำตัวผู้ป่วยจำนวน 3 ราย ซึ่งติดอยู่ในบ้านอันเป็นผลจากน้ำท่วมหนักออกจากพื้นที่น้ำท่วมมารักษาตัวในพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างปลอดภัย

สำหรับภารกิจในวันนี้ ทีมเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ได้เตรียมพร้อมลำเลียงอาหารและยารักษาโรคไปยังบ้านเทอดไทยและบ้านจะตี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารและการรักษาพยาบาล เนื่องจากเส้นทางคมนาคมถูกน้ำป่าตัดขาด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้

ทั้งนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ห่างไกล พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในจังหวัดเชียงราย

จังหวัดเชียงรายยังคงติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด โดยได้เตรียมพร้อมรับมือกับการระบายน้ำและการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับประชาชนที่ต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติกู้ระบบประปาเชียงรายหลังน้ำท่วม

 

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปรับปรุงระบบจ่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถจ่ายน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่เวลา 15.30 น. ของวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โดยมี นายทวีศักดิ์​ สุขก้อน​ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย​ ได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการฟื้นฟูระบบประปา รวมถึงแผนการบริหารจัดการที่กำลังดำเนินอยู่

ดร.สุรสีห์ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการฟื้นฟูระบบจ่ายน้ำ โดยได้กล่าวว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงรายเมื่อวันที่ผ่านมา ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้ถูกมอบหมายให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเร่งกู้คืนระบบประปาให้กลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยในการประชุมวานนี้ มีการขอความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เช่น กรมทรัพยากรน้ำ กองทัพพัฒนาภาคที่ 3 กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมทางหลวง เพื่อจัดหาเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากบ่อพักของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย ซึ่งทางกรมทางหลวงยังได้สนับสนุนรถน้ำเพื่อให้บริการน้ำสะอาดแก่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นการชั่วคราว

ในขณะนี้ทางการประปาส่วนภูมิภาคกำลังระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบ โดยเฉพาะในส่วนของระบบไฟฟ้าที่จะทำให้ระบบปั๊มน้ำสามารถกลับมาทำงานได้ ดร.สุรสีห์ ได้คาดการณ์ว่าการจ่ายน้ำจะสามารถเริ่มได้ในช่วงเย็นของวันนี้ โดยเริ่มต้นที่พื้นที่ใกล้เคียงกับการประปาส่วนภูมิภาคเชียงรายก่อน อย่างไรก็ตาม สำหรับการจ่ายน้ำในพื้นที่เมืองเชียงรายทั้งหมด อาจต้องใช้เครื่องส่งน้ำที่มีกำลังสูง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเร่งติดตั้ง คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในคืนนี้หรืออย่างช้าในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้หากระบบส่งน้ำประปาพร้อมใช้งาน การประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงรายจะเร่งดำเนินการจ่ายน้ำให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด

สำหรับมาตรการที่ได้ดำเนินการในขณะนี้ การประปาส่วนภูมิภาคเชียงรายยังได้จัดส่งรถน้ำเคลื่อนที่ไปให้บริการน้ำสะอาดแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยหากมีเหตุการณ์ใดๆ เพิ่มเติมหรือระบบส่งน้ำเกิดปัญหา การประปาจะเร่งดำเนินการแก้ไขทันที เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้น้ำประปาได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

ด้านการประปาส่วนภูมิภาคยังได้แสดงความขอบคุณต่อความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงชุมชนที่ให้ความร่วมมือในการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม โดยขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรับทราบข้อมูลและเตรียมตัวได้ทันท่วงที

การฟื้นฟูระบบน้ำประปาในครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจสำคัญในการดูแลชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดจากเหตุอุทกภัยที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

ทั้งนี้ หาก กปภ.เชียงราย ดำเนินการจ่ายน้ำแล้ว ถ้าพบเห็นท่อน้ำแตกในเขตอำเภอเมืองเชียงราย แจ้งได้ที่การประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย 053-711655

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ลงพื้นที่น้ำท่วมบ้านปางหัด อ.เวียงแก่น ส่งมอบถังเก็บน้ำช่วยเหลือชาวบ้าน

 

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 เวลา 13.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยคณะสภาเยาวชน อบจ.เชียงราย และทีมงาน ซึ่งประกอบด้วย นายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย, นางนิตยา ยาละ สมาชิกสภา อบจ. เชียงราย เขตอำเภอเวียงแก่น และ นายวิชาญ กาวี ปลัดอำเภอเวียงแก่น ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านปางหัด ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งมอบ ถุงยังชีพ และอุปกรณ์สนับสนุนด้านการเกษตรให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก

ของที่มอบในครั้งนี้ประกอบด้วย ถังเบ๊าท์เพื่อการเกษตรขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 4 ใบ และ ถังสแตนเลสสำหรับสำรองน้ำดื่มขนาด 2,000 ลิตร จำนวน 1 ใบ โดยเป็นการตอบสนองต่อความต้องการเร่งด่วนของชาวบ้านที่ร้องขอความช่วยเหลือเข้ามาเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567

 

การสนับสนุนจาก อบจ.เชียงราย

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ กล่าวในระหว่างการลงพื้นที่ว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายพร้อมสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องจักรเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม รวมถึงการจัดส่ง รถฉีดน้ำแรงดันสูง และ รถตัก พร้อมทั้งบุคลากรที่มีความชำนาญในการดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ ซึ่งจะเร่งบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ให้ได้เร็วที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมพร้อมในการสนับสนุนด้านการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภาครัฐ เพื่อช่วยบรรเทาภาระที่ชาวบ้านต้องเผชิญจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

การสนับสนุนจากภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในงานนี้ สภาเยาวชน อบจ. เชียงราย ยังได้แสดงความขอบคุณต่อผู้สนับสนุนจากภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมในการจัดหาถังเบ๊าท์และถังสแตนเลสสำหรับการเก็บน้ำในราคาพิเศษ โดยเฉพาะร้าน เชียงรายค้าถัง ที่สนับสนุนถังเบ๊าท์ขนาด 1,000 ลิตรในราคาพิเศษ และห้าง ดูโฮมเชียงราย ที่สนับสนุนถังสแตนเลสขนาด 2,000 ลิตร พร้อมการติดตั้งวาล์วสำหรับกรอกน้ำดื่ม ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีแหล่งน้ำสำรองเพียงพอในช่วงวิกฤตน้ำท่วม

 

สถานการณ์น้ำป่าที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง

พื้นที่บ้านปางหัด ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากเป็นครั้งที่ 3 แล้วในปีนี้ ชาวบ้านจึงต้องการการสนับสนุนทั้งในด้านอาหาร น้ำดื่ม และอุปกรณ์เพื่อการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน การส่งมอบถุงยังชีพและอุปกรณ์ในครั้งนี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย

 

การประสานงานและความร่วมมือในการฟื้นฟู

นายก อบจ.เชียงรายยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการขนส่งถังเบ๊าท์และถังสแตนเลสครั้งนี้ ได้รับการประสานงานจาก สำนักช่าง และ กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.เชียงราย ที่ได้จัดส่งรถบรรทุกและทีมงานเข้ามาช่วยในการขนส่ง

 

การเชิญชวนให้ร่วมสนับสนุนการฟื้นฟูน้ำท่วม

นอกจากนี้ สภาเยาวชน อบจ.เชียงรายยังเปิดรับการสนับสนุนจากผู้ใจบุญและหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการเข้าร่วมในการช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้ โดยสามารถประสานงานผ่านทาง สภาเยาวชน อบจ.เชียงราย ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งต่อความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อไป

 

สรุป

การลงพื้นที่บ้านปางหัดของทีมงาน อบจ.เชียงราย และสภาเยาวชนในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงความร่วมมือในการช่วยเหลือฟื้นฟูชุมชนหลังเกิดน้ำท่วม ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในทันที แต่ยังเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์เยาวชนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย – CR – PAO Youth Center

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

เชียงราย จัดตั้งกองทุนฯ ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย สูงสุด 150,000 บาท

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2567 ณ ห้องจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการแถลงข่าว การช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเรียงรายฯ โดยมี นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองรู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย และนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว โดยมีนางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้ววยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งกองทุนฯ ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ผ่านบัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขาเชียงราย เลขที่บัญชี 504-3-23-732-5 ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ.2567 โดยยอดบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า ซึ่งการจัดตั้งกองทุนในครั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะบ้านที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย สำหรับการช่วยเหลือด้านสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก ก็ได้มีส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน ภาคสังคมสงเคราะห์ เหล่ากาชาด ในการแจกจ่ายสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการดำรงชีพพื้นฐาน ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการช่วยเหลือ

นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์จังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 67 เป็นต้นมา เกิดอุทกภัยและดินถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในระหว่างวันที่ 14 ส.ค. – 5 ก.ย. 67 จำนวน 18 อำเภอ 106 ตำบล 925 หมู่บ้าน และบางส่วนในเขตเทศบาลนครเชียงราย จำนวน 27 ชุมชน ราษฎรได้รับผลกระทบ 34,131 ครัวเรือน 127,809 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 31 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2,861 หลัง ซึ่งเกิดจากน้ำป่าและดินสไลด์ สำหรับภาคการเกษตรได้รับผลกระทบภาพรวม 189,275 ไร่ ส่วนใหญ่ได้แก่ นาข้าว ไร่ข้าวโพด ไร่มัน พืชสวน พืชยืนต้น ด้านปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 356,000 ตัว ด้านประมง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งบ่อปลาและบ่อกุ้ง รวม 4,137 ไร่ ถนนได้รับความเสียหาย 499 จุด สะพานและคอสะพาน 13 แห่ง ฝาย 69 แห่ง อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 3 แห่ง ศาสนสถานและวัด 34 แห่ง สถานศึกษาได้รับผลกระทบ 30 แห่ง สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมี 4 อำเภอได้แก่อำเภอเทิง อำเภอเวียงแก่น อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอขุนตาล ซึ่งทั้ง 4 อำเภอนอกจากได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากแล้ว ยังได้รับผลกระทบจากน้ำอิงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตรบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำของลำน้ำอิงด้วย

นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง ได้กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม จนถึงปัจจุบันนี้ อำเภอเทิงได้เกิดอุทกภัยขึ้น ได้รับผลกระทบ 10 ตำบล 156 หมู่บ้าน 713 ครัวเรือน มีผู้อพยพมายังศูนย์พักพิงรวมกว่า 105 ราย ซึ่งขณะนี้ทุกคนได้กลับบ้านแล้ว บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 7 หลังคาเรือน แต่ยังถือว่าเป็นเรื่องดีที่สถานการณ์เกิดในช่วงเวลากลางวัน ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่ 1 รายเท่านั้น

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงกรณีการเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยจำนวน 2 ราย คือ รายที่ 1 นายสุรชัย อายุ 56 ปี เป็นราษฎร ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ถูกน้ำป่าพัดร่างขณะขี่จักรยานยนต์เข้าไปทำงานในไร่ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ องค์การบริหารส่วนตำบลปอ ได้มอบค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัว เป็นเงิน 59,400 บาท และสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงราย มอบเงินสงเคราะห์กรณีผู้ประกันตน มาตรา 33 เสียชีวิตให้แก่ทายาทนายสุรชัยฯ เป็นเงิน 87,353.97 บาท และ คปภ. เยียวยาให้อีก 35,000 บาท รายที่ 2 นายชวฤทธิ์ อายุ 49 ปี เป็นราษฎรบ้านป่าตาลแดง หมู่ที่ 3 ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ถูกน้ำป่าพัดร่างสูญหายตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. 67 เวลา 09.00 น. พบร่างในวันที่ 24 ส.ค. 67 โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มอบค่าจัดการศพ 29,700 บาท และสำหรับพี่น้องประชาชนที่บ้านเรือนเสียหาย จะได้รับเงินเยียวยาตามระเบียบหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2563 หลักเกณฑ์ ค่าซ่อมแซมที่พักอาศัยเนื่องจากเสียหายทั้งหลังไม่เกิน 49,500 บาท หลังที่เสียหายบางส่วนเท่าที่เสียหายจริงไม่เกิน 49,500 บาท  
.
ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ ของกองทุนฯ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งบ้านที่ได้รับถวามเสียหายทั้งหลัง และมีการประเมินความเสียหายเกินกว่า 1 ล้านบาท  จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 150,000 บาท ความเสียหาย 700,000 – 1 ล้านบาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 125,000 บาท ความเสียหาย 500,000 – 700,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 100,000 บาท ความเสียหาย 300,000 – 500,000 บาท  จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ  75,000 บาท ความเสียหายตำกว่า 300,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 50,000 บาท สำหรับที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายบางส่วน และมีการประเมินความเสียหายเกิน 500,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 75,000 บาท ความเสียหาย 300,000 – 500,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ร้อยละ 10 ของประมาณการความเสียหายแต่ไม่เกิน 50,000 บาท ความเสียหาย 100,000 – 300,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ร้อยละ 5 ของประมาณการความเสียหายแต่ไม่เกิน 15,000 บาท หากความเสียหายต่ำกว่า 100,000 บาท จะใช้งบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเยียวยา
.
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การเยียวยาของทาง กองทุนฯ จะสมทบกับการเยียวยาของราชการ เพื่อให้ผู้ประสบภัยกลับมาลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง ด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวเชียงราย และในวันที่ 7-9 กันยายน นี้ ก็ต้องเฝ้าระวังเรื่องของผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ซึ่งทางจังหวัดเชียงราย ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดเชียงราย ที่ภายในหอประชุมคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เราต้องร่วมกันเตรียมความพร้อม ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เพราะหากเกิดเหตุภัยพิบัติขึ้นอีก เราต้องทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทางจังหวัดได้สั่งการให้ทุกอำเภอจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เราทุกคนต้องดูแลซึ่งกันและกัน เพราะเราชาวเชียงรายจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างเด็ดขาด
จากนั้น ผู้เข้าร่วมแถลงข่าวได้รับชมคลิปวีดีโอสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือในจังหวัดเชียงราย และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้รับมอบเงินและสิ่งของจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร้านค้า เข้าสู่กองทุนฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

“จากใจคนใต้ ถึงใจพี่น้องคนเหนือ” ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 เวลา 13.00 น. ที่อาคารปฏิบัติการไปรษณีย์เชียงราย โครงการ “จากใจคนใต้ ถึงใจพี่น้องคนเหนือ” ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนของชุมชนเขตเทศบาลเมืองคอหงส์ / นครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในการส่งมอบสิ่งของบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) นำโดยนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เชียงราย และกำลังพลจาก มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) ร่วมกันรับของบริจาคเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

การบริจาคที่เริ่มต้นจากใจคนใต้

โครงการนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 – 31 สิงหาคม 2567 โดยความร่วมมือของหลายหน่วยงานในจังหวัดสงขลา เช่น สมาคมชุมชนสร้างสรรค์, สมาคมชาวเหนืออีสานจังหวัดสงขลา, ศูนย์การค้าไดอาน่าคอมเพล็กซ์ , เคแอนด์เคชุปเปอร์สโตร์ , สงขลาโฟกัส, นครเชียงรายนิวส์ , พะเยาน่าอยู่ ,ไปรษณีย์เขต9 , มูลนิธิร่วมพัฒนาภาคใต้, โดยเป็นการเปิดโอกาสให้พี่น้องชาวใต้ร่วมบริจาคสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของจำเป็นต่างๆ การบริจาคครั้งนี้ไม่รับเงินบริจาค เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งของที่ได้รับจะส่งตรงไปยังผู้ที่ต้องการในทันที จุดรับบริจาคตั้งอยู่ที่ เคแอนด์เค ชุปเปอร์สโตร์ ถนนนวลแก้ว และ ลานจอดรถหน้าห้างไดอาน่า ถนนศรีภูวนารถ มีการรับบริจาคตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนถึง 20.00 น.

การตอบรับจากชุมชนในสงขลาเป็นอย่างดี พี่น้องคนใต้ต่างนำสิ่งของมาร่วมบริจาคกันอย่างล้นหลาม ซึ่งของบริจาคเหล่านี้ได้ถูกจัดส่งมายังเชียงราย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำอิง ซึ่งได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนที่ทับถมในหลายหมู่บ้าน

สถานการณ์น้ำท่วมในเชียงราย

ในช่วงต้นเดือนกันยายน 2567 หลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย เช่น อำเภอเทิง, อำเภอพญาเม็งราย, อำเภอขุนตาล, และ อำเภอเชียงของ ยังคงมีน้ำท่วมสูง แม้ระดับน้ำจะลดลงวันละประมาณ 10-15 เซนติเมตร แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังการมาของมวลน้ำรอบใหม่ที่คาดว่าจะถูกปล่อยมาจากกว๊านพะเยา ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำอิง มวลน้ำดังกล่าวอาจจะทำให้สถานการณ์กลับมารุนแรงอีกครั้งในไม่ช้า

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำอิง ทางจังหวัดเชียงรายได้จัดการแจกถุงยังชีพและตั้งโรงครัวพระราชทานในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งทำความสะอาดบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม กรมชลประทานเองก็เร่งระบายน้ำจากแม่น้ำอิงลงสู่แม่น้ำโขงอย่างรวดเร็ว เพื่อคลี่คลายปัญหาที่ชาวบ้านประสบอยู่

การรับมอบสิ่งของบริจาคในเชียงราย

ทางด้านเชียงราย สิ่งของบริจาคจากโครงการ “จากใจคนใต้ ถึงใจพี่น้องคนเหนือ” ได้ถูกส่งมอบของบริจาคมายังทางจังหวัดเชียงราย โดยมีนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย เป็นผู้รับมอบสิ่งของและจัดสรรไปยังพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน

นอกจากทางส่วนกลางจังหวัดเชียงรายแล้ว ยังได้รับสิ่งเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง มอบให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยมีนายกนก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วยนายวิญญู ทองทัน เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย เป็นผู้ดูแลการรับมอบ นอกจากนี้ นางวรินทร ยานะนวล หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์และฟื้นฟูผู้ประสบภัย กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมไปถึงนายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน ที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงราย และเจ้าหน้าที่การกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกันประสานงานเพื่อส่งมอบของบริจาคไปยังพื้นที่ประสบภัยที่ยังต้องการความช่วยเหลือ

การร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วน

กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานและภาคส่วนในจังหวัดเชียงราย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เชียงราย และกำลังพลจาก มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งการแจกจ่ายถุงยังชีพ การจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน และการประสานงานกับกรมชลประทานในการเร่งระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำท่วมในพื้นที่

การตอบสนองต่อวิกฤตน้ำท่วมในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของคนไทยจากทุกภูมิภาค พี่น้องคนใต้ที่ร่วมบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือพี่น้องภาคเหนือ และหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โครงการ “จากใจคนใต้ ถึงใจพี่น้องคนเหนือ” นับเป็นตัวอย่างที่ดีของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยในการเผชิญกับภัยพิบัติ

ขอขอบคุณพี่น้องคนใต้

ทางสำนักข่าว นครเชียงรายนิวส์ ในฐานะสื่อท้องถื่นในการประสานงานโครงการ ขอขอบคุณพี่น้องชาวใต้ที่ได้ร่วมบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือพี่น้องภาคเหนือในครั้งนี้ โดยหวังว่าความร่วมมือเช่นนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจกันในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามวิกฤต

โครงการ “จากใจคนใต้ ถึงใจพี่น้องคนเหนือ” จึงแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยในการเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นจากภาคใต้หรือภาคเหนือ ล้วนมีส่วนช่วยให้การช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ในภาวะที่ประเทศต้องเผชิญกับภัยพิบัติ ความสามัคคีจะทำให้เราสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้อย่างเข้มแข็ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

อบจ.เชียงราย เร่งฟื้นฟูพื้นที่ ประสบอุทกภัย ต.หงาว อ.เทิง

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2567 เวลา 10.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) พร้อมด้วยนายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และ ส.อ.วิมล รู้ทำนอง ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.เชียงราย ลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลหงาว อำเภอเทิง หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา

เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้พื้นที่ตำบลหงาวได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่สัญจร ประชาชนจำนวนมากต้องเผชิญกับสภาพที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมและดินโคลนที่สะสมอยู่ในบริเวณพื้นที่ต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและการสัญจรไปมาของชาวบ้าน

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ได้สั่งการให้กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักช่าง และบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยโดยด่วน โดยได้จัดส่งรถน้ำแรงดันสูงเข้ามาช่วยเหลือในการทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งบริเวณพื้นผิวสัญจรและพื้นที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนที่มีดินโคลนสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก

ในระหว่างการลงพื้นที่ นางอทิตาธรได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและประชาชน เพื่อให้การฟื้นฟูและการช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความพร้อมในการสนับสนุนทรัพยากรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อให้การช่วยเหลือสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

นางอทิตาธรยังได้พบปะและพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ โดยให้กำลังใจและให้ความมั่นใจว่าทาง อบจ.เชียงราย จะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เธอยังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกคนที่ได้เข้ามาช่วยเหลือและทำงานอย่างไม่หยุดยั้งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ อบจ.เชียงรายยังได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อจัดหาเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูและซ่อมแซมพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เช่น การจัดหาวัสดุก่อสร้างสำหรับซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย และการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ยังได้สั่งการให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันและการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถลดผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การดำเนินงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ อบจ.เชียงราย ในการให้ความช่วยเหลือและดูแลประชาชนในยามวิกฤต ทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชนในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI

ครม.ตั้งศูนย์อำนวยการอุทกภัย ใช้งบฯ ทดลองจ่าย 20 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งมีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยมองว่าน้ำท่วมเป็นปัญหาซ้ำซากเรื้อรังมานานจากหลายปัจจัย ทั้งการบริหารจัดการน้ำ การกักเก็บน้ำ การไม่มีที่รองรับน้ำในภาคเหนือ ทำให้มีปัญหาน้ำท่วมหนักทุกปี ต้องช่วยเหลือผู้ที่ลำบากทุกปี

โดยเฉพาะในปีนี้ (2567) มีมวลน้ำปริมาณมาก สถานการณ์ฝนตกมีความแตกต่างจากที่ผ่านมา มีภาวะฝนตกเป็นจุดๆ จากปัญหาโลกร้อน ซึ่งปัญหานี้นับวันจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงมีการวางแนวทางการบริหารจัดการ คือ

1.ต้องมีการบริหารจัดการไม่ให้สถานการณ์ลุกลามไปมากกว่านี้

2.การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนหลังน้ำลด

3.การแก้ปัญหาระยะยาว โดยบรรจุเรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งนี้ เมื่อมีคณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศก็จะบรรจุเรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วน เพื่อให้รองรับสถานการณ์ได้ทัน

รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้คาดการณ์สถานการณ์บางพื้นที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว แต่บางพื้นที่สถานการณ์น้ำท่วมยังหนักอยู่ เช่น จังหวัดสุโขทัย ซึ่งยอมรับว่าเป็นพื้นที่รองรับน้ำก่อนระบายสู่จังหวัดต่างๆ ถือว่าค่อนข้างหนัก คันกั้นน้ำไม่สามารถรับได้ จึงเกิดกรพังทลาย คันกั้นน้ำยังมีปัญหาการเวนคืนที่ดิน รักษาการนายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแก้ไขในเรื่องดังกล่าว 

และนำมาสู่การตั้งศูนย์แก้ปัญหาให้มีเอกภาพ จึงตั้งเป็นศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัย มีอำนาจหน้าที่และการใช้งบประมาณที่ชัดเจน โดยมีนายภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน

ส่วนองค์ประกอบที่เหลือคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งจะมีคำสั่งอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง โดยแบ่งภารกิจออกเป็น 2 ส่วน คือ 

1.การบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำ การแจ้งเตือน ให้ทราบข่าวว่าน้ำจะมาประมาณ ไหน ไม่ให้เกิดความตระหนก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คำนวณและยืนยันว่าจะไม่ถึงสถานการณ์ปี 2554 โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ จะเป็นผู้ดูแล 

2.การดูแลช่วยเหลือประชาชน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะเป็นหลักในการบูรณาการความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงาน

สำหรับงบประมาณที่ใช้จะใช้จากงบประมาณกลาง อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งบางจังหวัดมีการประกาศพื้นภัยพิบัติจะใช้งบทดลองจ่าย จำนวน 20 ล้านบาท หากไม่เพียงพอต้นสังกัดจะขอมาที่งบกลาง แต่เมื่อมีคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาแล้วการดำเนินการทุกอย่างจะต้องรวดเร็วตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“หน้าที่มีทั้งการป้องกัน แก้ไข เยียวยา และฟื้นฟู ซึ่งต้องดูสถานการณ์ในรายจังหวัด เช่น จังหวัดน่านสถานการณ์น้ำท่วมผ่านไปแล้วจะเข้าสู่กระบวนการเยียวยาและฟื้นฟู ส่วนจังหวัดที่น้ำยังมาไม่ถึงจะป้องกันอย่างไร เช่น จังหวัดนครสวรรค์ หรือต่ำกว่านั้น ก็ต้องหามาตรการป้องกัน แก้ไขไม่ใช่ทำงานเชิงรับ” รองเลขาธิการนายกฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัย 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

“กรุงไทย” ห่วงใยประชาชน ส่งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานเขตเชียงราย และ สำนักงานภาคเชียงใหม่ เร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ใน อ. เวียงแก่น อ.ขุนตาล และ อ.เทิง จ.เชียงราย และขอเป็นกำลังใจ ให้ผู้ประสบภัยทุกๆ ท่าน ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี

 

ซึ่งนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ได้เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ตระหนักถึงผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีพของลูกค้าประชาชนในพื้นที่เป็นวงกว้าง โดยภาคธนาคารมีความห่วงใยและพร้อมเคียงข้างผู้ประสบภัยน้ำท่วม จึงเร่งออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่น้ำท่วม ครอบคลุมการลดภาระในการผ่อนชำระหนี้สิน และการสนับสนุนทางการเงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทย ได้ประสานธนาคารสมาชิกในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเร่งด่วน ซึ่งบางธนาคารได้มีมาตรการรองรับอยู่แล้ว ขณะที่ธนาคารอื่นๆ พร้อมพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเหมาะสม โดยแต่ละธนาคารจะพิจารณาความช่วยเหลือให้สอดคล้องสถานการณ์ของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจและดำรงชีพต่อไปได้อย่างปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่แต่ละธนาคารกำหนด

 

สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม สามารถแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ที่ธนาคารที่เป็นลูกค้า ผ่านทางสาขา เจ้าหน้าที่หรือฝ่ายงานที่ดูแลสินเชื่อ หรือ Call Center ของแต่ละธนาคารได้ทันที

 

นอกจากนี้ทางธนาคารกรุงไทยขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกท่าน เคียงข้างคนไทยเพื่อผ่านพ้นวิกฤติการณ์ครั้งนี้ โดยเปิดให้ร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บริจาคผ่านบัญชีออมทรัพย์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เลขที่ 000-0-60128-4 ธนาคารกรุงไทย สาขานานาเหนือ สำหรับผู้ที่ประสงค์ขอใบเสร็จ กรุณาส่งหลักฐานการบริจาค พร้อมชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และเบอร์โทรติดต่อ เพื่อรับใบเสร็จรับเงินได้ที่ แฟกซ์ 0-2054-6544 หรือ E-mail : donation@friendsofpa.or.th เบอร์โทร 0-2054-6546

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานเขตเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘ทักษิณ’ ลงพื้นที่ ‘เชียงราย’ เผยไทย มีปัญหาซ้ำซาก ทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง

 

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ที่จ.เชียงราย นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ถึงท่าอากาศยานเเม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ทันทีที่เดินทางมาถึง ประชาชนที่มาเฝ้ารอ พร้อมกับบอกเหตุผลที่มาช้า ซึ่งจากเดิมมีกำหนดการณ์มาถึงในเวลา 10.00 น. เเต่ล่าช้าไปกว่า 2 ชั่วโมง เพราะเครื่องบินเสีย จึงต้องเปลี่ยนมานั่งเครื่องบินอีกลำเเทน 

จากนั้นนายทักษิณพร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยัง สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอเทิง (บขส.) จังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม เพื่อมอบถุงยังชีพและยาเวชภัณฑ์ พร้อมพบประประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม  จากนั้นได้เดินทางต่อเพื่อเยี่ยมประชาชนผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านปางค่า ตำบลตับเต่า ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันเกิดความเสียหายอย่างหนัก พร้อมกันนี้ได้เยี่ยมชม ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix it จิตอาสา จากวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกเชียงราย ที่ไปจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนในการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังพื้นที่ประสบอุทกภัย บริเวณหลังที่ว่าการอำเภอเทิง โดยการนั่งเรือเข้าไปมอบถุงยังชีพและยาเวชภัณฑ์ ให้ผู้ประสบภัย ได้มอบถุงยังชีพจำนวน 500 ชุด เเก่ผู้ประสบภัย 

โดยนายทักษิณ กล่าวทักทายประชาชนเป็นภาษาเหนือว่า “ตลอดระยะเวลา 17 ปี ที่ตนเองต้องไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ รู้สึกทราบซึ้งใจที่พี่น้องไม่เคยลืมผม ดังนั้นผมก็จะไม่ทิ้งพี่น้องเช่นกัน วันนี้จึงต้องมาเเอ่วหาพี่น้อง ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ เเละขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกคน ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา รัฐบาลกำลังตั้งใจอย่างเต็มที่ หากใครได้รับผลกระทบอย่างหนักหรือบ้านพัง ให้ประสาน สส.ในพื้นที่ ซึ่งเป็น สส.ของพรรคเพื่อไทย” 


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำว่า ประเทศไทยมีปัญหาซ้ำซาก ทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง การแก้ไขปัญหาจะต้องดำเนินการทั้งระบบ อย่างน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆ ต้องมีอ่างเก็บน้ำ ต้องมีแก้มลิง หรือฝายชะลอน้ำ ซึ่งจะช่วยให้น้ำไม่ท่วมหนัก นอกจากจะต้องจัดการภายในประเทศแล้ว กับประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องมีการคุยกันเพื่อจัดการน้ำทั้งระบบ แม่น้ำโขงก็ต้องคุยกับทางจีนว่าควรจะมีมาตรการร่วมกันอย่างไร เพื่อไม่ให้การปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาซ้ำเติมปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ตอนล่าง การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบแม้จะต้องใช้วงเงินงบประมาณสูงแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อให้ปัญหาเรื่องน้ำได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง 


ส่วนปัญหาที่มีการมองกันว่าน้ำท่วมปีนี้อาจจะกลายเป็นน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 นั้น นายทักษิณ บอกว่า นายกอิ๊งค์ (แพทองธาร ชินวัตร) เล่าให้ฟังว่า คณะรัฐมนตรีที่รักษาการอยู่ ได้พูดคุยกับกรมชลประทานแล้วในเรื่องของการพร่องน้ำในเขื่อนต่างๆ เพื่อเตรียมรองรับน้ำจากทางเหนือ ซึ่งการพร่องน้ำเตรียมไว้ก่อนเช่นนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพเหมือนปี 2554 ที่ไม่ได้พร่องน้ำไว้ก่อน ปีนี้คนกรุงเทพจึงสบายใจได้ว่าจะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

คาดการณ์ บ้านป่าข่า อ.ขุนตาล จมน้ำอยู่อีกประมาณ 1 เดือน

 

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานฝูงบิน 466 กองทัพอากาศ จ.น่าน ไปที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย และบ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 


        โดยก่อนที่จะเดินทางลงพื้นที่ประสบภัย คณะของนายภูมิธรรม ได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนจาก นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ ห้องรับรองท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง หลังจากรับฟังรายงานแล้ว รองนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง และเดินทางต่อไปที่บ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น เพื่อพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย


สำหรับสถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงราย ตอนนี้พื้นที่ทีมีปัญหาน้ำท่วมจะเป็นที่อำเภอขุนตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับมวลน้ำต่อจากอำเภอเทิง บวกกับมวลน้ำที่มาจากจังหวัดพะเยาไหลมาสมทบ จนทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำอิงล้นฝั่ง เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ 2 ตำบลคือตำบลต้าและตำบลป่าตาล ขณะทื่การให้ความช่วยเหลือนั้น จังหวัดเชียงรายระดมกำลังทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่  

โดยพื้นที่ บ้านป่าข่า ม.8 ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ประสบอุทกภัยจากน้ำอิงที่เอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่าครึ่งหมู่บ้าน วันนี้กองทัพบกได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน โดยนำเรือท้องแบนมาบรรทุกถุงยังชีพไปแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย และตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อแจกจ่ายให้ผู้เดือดร้อน

นายสอน เทพสมบัติ ผู้ใหญ่บ้านบ้านป่าข่า ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล กล่าวว่า ขณะนี้มวลน้ำก็ได้เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ประสานขอหน่วยงานจากทหาร หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 สำนักงานพัฒนาภาค3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.35) นำเรือท้องแบนมาช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อส่งสิงของให้ชาวบ้านที่ยังจมน้ำ บางรายก็ออกมาได้ บ่งรายก็ออกมาไม่ได้ ตอนนี้ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐบาล ขอให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ทางหมู่บ้านได้รับความลำบากมาที่สุด มีบ้านเรือนที่จมน้ำ และออกบ้านได้ประมาณ 70 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านป่าข่าเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำอิงที่มีต้นน้ำมาจาก กว๊านพะเยา ซึ่งคาดว่าหมู่บ้านจะจมน้ำอยู่แบบนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือน ทางชาวบ้านก็ขอขอบคุณหน่วยงานต่าง งภาคเอกชนและราชการที่มาช่วยเหลือชาวบ้าน

พันตรี วัลลภ เสือโฮก หัวหน้าศูนย์บรรเทาสาธารณภัย พัฒนาสำนักงานพัฒนาภาค 3 กล่าวว่า ทางทหารหน่วยพัฒนา ได้มีการนำชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 2 ชุด เรือท้องแบน และรถครัวสนามเข้ามาช่วยเหลือประชาชน โดยตั้งครัวพระราชทานอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอเทิง เพื่อสนับสนุนอาหารให้กับผู้ประสบภัย โดยได้ประสานงานกับผู้ใหญ้บานในการช่วยเหลือ นำอาหารไปส่งให้กับชาวบ้านและรับผู้ที่จะออกจากหมู่บ้านออกมา ในการเคลื่อนย้าย ปัจจุบันมีการ้องขอ 2 พื้นที่คือ บ้านป่าข่า และบ้านต้า อ.ขุนตาล ซึ่งเป็นจุดที่มีประชาชนได้รับการเดือดร้อน และยังมีเรือท้องแบบอีก 2 ลำที่จะเข้ามาสนับสนุนการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย / Poom Pakpoom Wilai

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News