Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

คาดการณ์ บ้านป่าข่า อ.ขุนตาล จมน้ำอยู่อีกประมาณ 1 เดือน

 

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานฝูงบิน 466 กองทัพอากาศ จ.น่าน ไปที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย และบ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 


        โดยก่อนที่จะเดินทางลงพื้นที่ประสบภัย คณะของนายภูมิธรรม ได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนจาก นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ ห้องรับรองท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง หลังจากรับฟังรายงานแล้ว รองนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง และเดินทางต่อไปที่บ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น เพื่อพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย


สำหรับสถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงราย ตอนนี้พื้นที่ทีมีปัญหาน้ำท่วมจะเป็นที่อำเภอขุนตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับมวลน้ำต่อจากอำเภอเทิง บวกกับมวลน้ำที่มาจากจังหวัดพะเยาไหลมาสมทบ จนทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำอิงล้นฝั่ง เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ 2 ตำบลคือตำบลต้าและตำบลป่าตาล ขณะทื่การให้ความช่วยเหลือนั้น จังหวัดเชียงรายระดมกำลังทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่  

โดยพื้นที่ บ้านป่าข่า ม.8 ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ประสบอุทกภัยจากน้ำอิงที่เอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่าครึ่งหมู่บ้าน วันนี้กองทัพบกได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน โดยนำเรือท้องแบนมาบรรทุกถุงยังชีพไปแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย และตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อแจกจ่ายให้ผู้เดือดร้อน

นายสอน เทพสมบัติ ผู้ใหญ่บ้านบ้านป่าข่า ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล กล่าวว่า ขณะนี้มวลน้ำก็ได้เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ประสานขอหน่วยงานจากทหาร หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 สำนักงานพัฒนาภาค3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.35) นำเรือท้องแบนมาช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อส่งสิงของให้ชาวบ้านที่ยังจมน้ำ บางรายก็ออกมาได้ บ่งรายก็ออกมาไม่ได้ ตอนนี้ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐบาล ขอให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ทางหมู่บ้านได้รับความลำบากมาที่สุด มีบ้านเรือนที่จมน้ำ และออกบ้านได้ประมาณ 70 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านป่าข่าเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำอิงที่มีต้นน้ำมาจาก กว๊านพะเยา ซึ่งคาดว่าหมู่บ้านจะจมน้ำอยู่แบบนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือน ทางชาวบ้านก็ขอขอบคุณหน่วยงานต่าง งภาคเอกชนและราชการที่มาช่วยเหลือชาวบ้าน

พันตรี วัลลภ เสือโฮก หัวหน้าศูนย์บรรเทาสาธารณภัย พัฒนาสำนักงานพัฒนาภาค 3 กล่าวว่า ทางทหารหน่วยพัฒนา ได้มีการนำชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 2 ชุด เรือท้องแบน และรถครัวสนามเข้ามาช่วยเหลือประชาชน โดยตั้งครัวพระราชทานอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอเทิง เพื่อสนับสนุนอาหารให้กับผู้ประสบภัย โดยได้ประสานงานกับผู้ใหญ้บานในการช่วยเหลือ นำอาหารไปส่งให้กับชาวบ้านและรับผู้ที่จะออกจากหมู่บ้านออกมา ในการเคลื่อนย้าย ปัจจุบันมีการ้องขอ 2 พื้นที่คือ บ้านป่าข่า และบ้านต้า อ.ขุนตาล ซึ่งเป็นจุดที่มีประชาชนได้รับการเดือดร้อน และยังมีเรือท้องแบบอีก 2 ลำที่จะเข้ามาสนับสนุนการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย / Poom Pakpoom Wilai

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

หน่วยงานเร่งบรรเทาความเดือดร้อนเส้นทาง ภูซาง-ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง ดินสไลด์-ถนนทรุด

 

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 67 จากกรณีที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย ทำให้เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วม ดินสไลด์ ถนนขาด ในหลายจุดของ อ.เทิง และ อ.เวียงแก่น กรมทางหลวงเร่งดำเนินการซ่อมแซมถนนเชื่อมทางสัญจร ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอเทิงยังคงทรงตัว หลายหน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือ

ถนนทางหลวงหมายเลข 1093 ช่วงบ้านฮวก-เวียงแก่น มีดินสไลด์และถนนทรุดตัวหลายแห่ง รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ โดยจุดสำคัญพบถนนขาดที่บริเวณบ้านไทยสามัคคี ม.16 ต.ตับเต่า อ.เทิง และที่บริเวณถนนช่วงบ้านร่มโพธิ์ไทย ม.9 ดินสไลด์ ถนนฝังขาไปภูชี้ฟ้าดินสไลด์ทรุดลงไปด้านล่าง ผิวถนนพังเสียหายเป็นเส้นทางประมาณ 100 ม. เหลือเพียงเลนถนนฝั่งมุ่งหน้าไปบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา เพียงเลนเดียว ส่วนฝั่งตั้งแต่ดอยผาตั้งลงไปทาง อ.เวียงแก่น มีดินสไลด์และถนนทรุดตัวที่บริเวณบ้านปางปอ ม.1 และถนนขาดที่บ้านสันติพัฒนและถนนขาดที่บ้านอยู่สุข ม.10 ต.ปอ อ.เวียงแก่น รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 แนะว่ารถยนต์ทุกชนิดไม่ควรจะใช้เส้นทางดังกล่าว โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงจะต้องรอให้ฝนหยุดตกจึงจะสามารถเข้าไปในพื้นที่เพื่อซ่อมแซมถนน คาดว่าอย่างเร็วน่าจะได้เข้าซ่อมแซมถนนได้ประมาณ 1-1.5 เดือนข้างหน้า จะต้องรอให้หมดฤดูฝนไปก่อน ระหว่างนี้ขอให้ผู้ใช้ถนนเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นไปก่อน หากพร้อมจะเปิดใช้งานเมื่อไหร่ประกาศเป็นทางการอีกที ปัจจุบันคนที่ติดค้างอยู่ตรงกลางจะโดนตัดขาดทั้งไฟฟ้า การสื่อสาร ทางสัญจร ไม่สามารถเดินทางออกไปที่ไหนได้ ต้องรอให้สะพานที่บริเวณบ้านปางค่าซ่อมเสร็จ หมู่บ้านในโซนบนดอยจึงสามารถเดินทางลงมาข้างล่างได้ ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างโดนตัดขาดอยู่

ส่วนถนนหมายเลข 1155 ช่วงเทิง-เวียงแก่น มีคอสะพานขาดที่บ้านเหล่า ม.1 ต.ตับเต่า อ.เทิง ทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 ได้นำเอาเครื่องจักรเขามาทำการซ่อมแซมคอสะพานจนสามารถสัญจรผ่านไปมาได้แล้ว ด้านชาวบ้านกำลังทำความสะอาดบ้านเรือน เนื่องจากมีน้ำหงาวไหลบ่าท่วมทั้งหมู่บ้าน เสียหาย 49 หลังคาเรือน จากทั้งหมด 56 หลังคา ข้าวของภายในบ้านเสียหายทั้งหมด นางซอน รู้หาเงิน อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 37 เผยว่า ช่วงเวลาที่น้ำป่าไหลเอ่อท่วมบ้าน น้ำมาเร็วมาก เก็บข้าวของไม่ทัน เสียหายเกือบทั้งหมด โชคดีที่ย้านตนมี 2 ชั้น จึงไปอาศัยที่ชั้นบนได้อยู่ แต่บ้านที่มีชั้นเดียวทรัพย์สอนเสียหายหมดเลย ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยทำความสะอาด เห็นมีเพียงกู้ภัยเอาน้ำมาแจกจ่าย ตอนนี้อยากให้ทาง อบต.ตับเต่า มาช่วยฉีดน้ำทำความสะอาดเป็นอันดับแรก

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ซึ่งนำเอาอาหารและน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในฝั่งบ้านปางค่า เผยว่า วันนี้จะนำเสนออาหารไปให้พี่น้องประชาชนซึ่งอยู่โซน 14 หมู่บ้านบนดอยที่โดนตัดขาดทางสัญจร โดยทาง อบจ.เชียงราย ได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำเครื่องจักรลงพื้นที่เพื่อช่วยพี่น้องที่ประสบปัญหาอุทกภัยในทุกพื้นที่ของ จ.เชียงราย อย่างเร่งด่วนแล้ว

ด้านสะพานข้ามแม่น้ำหงาว พื้นที่บ้านปางค่า ม.8 ต.ตับเต่า ที่โดนน้ำหงาวซัดขาดไปเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือน 7 หมู่บ้านโซนล่างภูชี้ฟ้าโดนตัดขาด ต้องใช้โดรนการเกษตรในการส่งอาหารให้ผู้ประสบภัยที่ออกมาไม่ได้ โดยในวันนี้ทางศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 1 จ.พิจิตร ได้นำเอาสะพานแบลี่ย์มาติดตั้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วน

นายไพบูลย์ อินทร์สอน นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 1 จ.พิจิตร เผยว่า วันนี้ทางศูนย์สร้างและบูรณะสะพาน ได้นำเอาสะพานแบลี่ย์มาติดตั้งการติดตั้งที่บ้านปางค่า ม.8 พบว่ามีตัวสะพานพังเป็นระยะทาง 30 ม. และคอสะพานทรุดตัวอีก 10 ม. การสัญจรระหว่าง 2 ฝั่งโดนตัดขาด ซึ่งในการติดตั้งนี้จะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน จึงจะแล้วเสร็จ

และในเส้นทางเดียวกัน มีถนนพังช่วงบ้านแผ่นดินทอง-พญาพิภักดิ์ บริเวณเลยสามแยกด่านทหารไปประมาณ 50 ม. ถนนโดนน้ำซัดจนผุพัง ปัจจุบันผิวถนนอสีหายทั้งหมด รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ปิดไร่รื่นรมย์เชียงราย ไม่มีกำหนด หลังน้ำท่วมแปลงผัก ที่พัก และคอกสัตว์

 

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ศิริวิมล กิตะพาณิชย์ ผู้ก่อตั้งไร่รื่นรมย์ เกษตรอินทรีย์ ท่องเที่ยว ออร์แกนิก ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเพจเฟซบุ๊กของไร่รื่นรมย์ เพื่อประกาศปิดไร่อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อไร่และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ

ศิริวิมลได้กล่าวในคลิปว่า “ตอนนี้เนื่องจากมีน้ำท่วมฉับพลัน แม้ตอนแรกจะคิดว่าเป็นฝนตามฤดูกาล แต่เมื่อได้เห็นความรุนแรงของเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เราตระหนักว่าเรื่อง Global Warming ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องที่ซีเรียสจริงๆ เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายหลายส่วน ทั้งแปลงผัก ที่พัก และสัตว์เลี้ยงในฟาร์มที่ไม่ได้ตั้งตัว เพราะน้ำมาเร็วมาก ไวมาก และแรงมาก ทำให้ทางไร่ต้องตัดสินใจปิดไร่ชั่วคราวโดยไม่มีกำหนดเปิด”

นอกจากนี้ เธอยังได้โพสต์ประกาศเพิ่มเติมว่า “ทางไร่ขอปิดชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเหตุอุทกภัยในเชียงราย ทำให้ไร่รื่นรมย์ได้รับผลกระทบในหลายส่วน ทั้งแปลงผัก ที่พัก และคอกสัตว์ ซึ่งทีมงานทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน เราขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมส่งแรงใจให้กับไร่รื่นรมย์”

ศิริวิมลยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ต้องการสนับสนุนไร่รื่นรมย์ ยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูป สินค้าพร้อมทาน ผักสดจากเครือข่ายออร์แกนิก รวมถึงเยี่ยมเยียนและใช้บริการร้านอาหาร Roasty By Rai Ruen Rom ที่สาขาโฮมโปร เชียงราย และบ้านก้ามปู อโศก ในกรุงเทพฯ ได้ตามปกติ

เหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในจังหวัดเชียงรายในปี 2567 ซึ่งเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ รวมถึงอำเภอเทิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของไร่รื่นรมย์ ส่งผลให้การคมนาคมในพื้นที่ถูกตัดขาด และชาวบ้านหลายครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง น้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่แปลงผักและคอกสัตว์ของไร่รื่นรมย์ ส่งผลให้พืชผลที่กำลังเติบโตได้รับความเสียหายอย่างหนัก และสัตว์เลี้ยงหลายตัวต้องเร่งอพยพเพื่อความปลอดภัย ทีมงานของไร่รื่นรมย์ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือและป้องกันความเสียหาย แต่ด้วยความรุนแรงของน้ำที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้การรับมือเป็นไปด้วยความยากลำบาก

วิกฤตการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งทำให้สภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในหลายพื้นที่ ทำให้ชุมชนเกษตรกรต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและความเสียหายที่ยากจะคาดการณ์

ไร่รื่นรมย์เป็นหนึ่งในตัวอย่างของความท้าทายที่ชุมชนเกษตรกรต้องเผชิญในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ศิริวิมลได้กล่าวปิดท้ายในประกาศของเธอว่า “เราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน และหวังว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ไร่รื่นรมย์จะได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้กับเรา”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับและความเคลื่อนไหวของไร่รื่นรมย์ สามารถติดตามได้ทางเพจเฟซบุ๊กของไร่รื่นรมย์อย่างต่อเนื่อง.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ไร่รื่นรมย์ เกษตรอินทรีย์ ท่องเที่ยว ออแกนิค Rai Ruen Rom Organic Farm

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News