Categories
CULTURE

เปิดกรุสมบัติหมื่นล้าน ดร.ถวัลย์ ดัชนี“สมบัติชั่วนิรันดร์แห่งเอเชีย”

 

เปิดตัวปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่จะพาดำดิ่งสู่โลกศิลปะ และทะยานสู่โลกอนาคตไปพร้อม ๆ กันกับสุดยอดนวัตกรรมการลงทุนด้านศิลปะครั้งแรกของโลก ART INVESTMENT CENTER ”The next level of passion investment” ศูนย์กลางการลงทุนด้านศิลปะ และของสะสมล้ำค่าแบบครบวงจร ที่จะเชื่อมทั้งสองโลกเข้าไว้ด้วยกัน กับสุดยอดแพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบไร้ขีดจำกัด ระดับ The Ultimate Luxury Platforms พร้อมบริการครบจบทุกมิติในหนึ่งเดียวแบบ ONE-STOP SERVICE & ALL IN ONE SOLUTION OFFLINE / ONLINE / MOBILE ด้วยความร่วมมือระหว่าง ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี CEO & Founder ART INVESTMENT CENTER ร่วมมือกับสุดยอดพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนระดับแนวหน้าของประเทศ เพื่อแก้ปัญหาที่ไม่เคยมีทางออก เพื่อสร้างโอกาสที่ไม่เคยมีทางเลือก เพื่อเชื่อมโยงทุกเครือข่ายเพิ่มส่วนต่อขยาย สร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มในผลงานศิลปะ และของสะสมล้ำค่า ส่งเสริมผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้กลายเป็นรายได้หลักของประเทศในอนาคต และเป็นเป้าหมายของนักลงทุนจากทั่วโลก “มาร่วมกันเปลี่ยนโลกใบเก่า ด้วยการสร้างระบบนิเวศใหม่” เพื่อเป็น “ต้นแบบนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมอย่างยั่งยืน” ปักหมุดหมายให้ประเทศไทยเป็น “กรุสมบัติ ชั่วนิรันดร์ แห่งเอเชีย”

พร้อมร่วมชมนิทรรศการครั้งสำคัญ เพื่อฉลองวาระพิเศษในโอกาสความสัมพันธ์ครบรอบ 12 ปี ระหว่าง พิพิธภัณฑ์บ้านดำ และ สยามพิวรรธน์ กับ “The Eternal Treasure of Asia” “สมบัติชั่วนิรันดร์แห่งเอเชีย” เปิดกรุสมบัติหมื่นล้านจากพิพิธภัณฑ์และนักสะสมชั้นนำระดับโลก ที่รวบรวมสุดยอดของผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ ดร.ถวัลย์ ดัชนี ที่ไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน ตลอดจนสุดยอดของสะสมล้ำค่าระดับ World-Class ที่หาชมยาก พร้อมเปิดโอกาสให้คนรักงานศิลป์ได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดเฉพาะในงานนี้เท่านั้น! ณ Fashion Gallery ชั้น 1สยามพารากอน

งาน Grand Opening ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ กับการแสดงชุดเภรีกำนาทเฟือนฟ้าไหวตะวัน โดยคณะ Tiger Drumเปิดตัวคฑาสุริยคราสจักราวตาร กุญแจแห่งจักรวาล สร้างโดยศิลปิน อัฐพล คำวงษ์ ผู้สร้างโกศบรรจุอัฐิของอาจารย์ถวัลย์ นำแสดงโดย คณะ The Thais พร้อมทั้งมีแขกผู้มีเกียรติหลากหลายวงการ ศิลปิน และนักสะสมเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เมื่อในวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา

ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี CEO & Founder ART INVESTMENT CENTER เปิดเผยถึงสุดยอดนวัตกรรมแพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบไร้ขีดจำกัด “ART INVESTMENT CENTER” ว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากการตกผลึกของปัญหาที่ไม่เคยมีทางออกที่สะสมมาเป็นเวลายาวนาน เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบเก่าได้ แต่เราสามารถสร้างระบบนิเวศใหม่ให้ดีขึ้นได้ ผมต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยั่งยืนให้กับวงการ โดยใช้ประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิต บวกกับการเตรียมโครงการนี้เป็นเวลาหลายปีในการพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบไร้ขีดจำกัด ในรูปแบบ The Ultimate Luxury Platforms เพื่อเชื่อมโยงทั้งสองโลกเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งในแบบ OFFLINE และ ONLINE ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือประมูลผลงานศิลปะที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มแรกของโลกที่กล้าการันตีของแท้ 100% ทุกชิ้นงานที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มนี้ เพราะเรามีการทำงานร่วมกับพันธมิตร และหน่วยงานหลายแห่ง ทั้งภาครัฐ และเอกชนในการตรวจสอบร่วมกัน อาทิ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ในการจดแจ้งลิขสิทธิ์ของศิลปิน และมีการทำใบรับรองถึงสองชั้น ถือเป็นกุญแจสองดอก ทั้งในโลกจริง และโลกบล็อกเชน จากนั้นจึงจะมีการ Invitation ชิ้นงานขึ้นมาบนแพลตฟอร์มต่อไป

“เราไม่ได้หวังเป็นธุรกิจใหญ่ที่ทำกำไร แต่เราสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่ไม่เคยมีทางแก้ เราจึงจำเป็นต้องแก้ตั้งแต่ระดับโครงสร้าง โดยการสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจร เพื่อให้เป็น “แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบไร้ขีดจำกัด” และเป็น “ต้นแบบนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมอย่างยั่งยืน” ผ่าน 6 บริการหลัก ได้แก่ 1.ซื้อ 2.ขาย 3.แลกเปลี่ยน 4.ให้เช่า 5.บริจาค และ 
6.สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่เน้นการซื้อ-ขายอย่างเดียว แต่เรามีความหลากหลายที่เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตร เช่น “ทุกพื้นที่คือพื้นที่แห่งศิลป์” โดยสามารถให้เช่าผลงานของศิลปิน เพื่อนำไปประดับตามโครงการธุรกิจ โรงแรม โรงพยาบาล เรสซิเด้นท์ คอนโด หมู่บ้าน ร้านอาหาร คาเฟ่ และทำ E-Catalog ไว้ให้ และถ้ามีผู้สนใจซื้อ ทาง AIC ก็แบ่งผลกำไร 10% ให้กับโครงการ เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และช่วยศิลปินได้มากมายเป็นต้น

นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเหลือศิลปินให้มีพื้นที่ในการแสดงผลงานของตัวเอง และช่องทางการประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการจัดนิทรรศการศิลปะ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการจัดแสดงนิทรรศการในแต่ละครั้ง เราจะผลงานนำขึ้นแพลตฟอร์มออนไลน์ให้อีก 30 วัน สามารถเข้าชมบนโทรศัพท์มือถือได้ตลอด 24ชม. ที่สามารถชมได้ทุกที่บนโลก และยังมีบริการ Museum on mobile เป็นบริการพิเศษที่ส่งตรงถึงบ้านโดยเราจะนำผลงานศิลปะไปส่งให้พิจารณาถึงบ้าน พร้อมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา โดยในส่วนของการขายทุกผลงานที่เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม AIC จะใช้มาตรฐานเดียวกันกับของทุกชิ้น โดยใช้หลักการ “ต้นแบบนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมอย่างยั่งยืน” ของทุกชิ้นจะถูกหักรายได้ 35% โดยหัก 5% นำไปบริจาคสาธารณะกุศล  และ 10% นำไปแบ่งให้พันธมิตรที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งองคาพยพ ส่วนอีก 20% จะถูกใช้เป็นค่าบริหารจัดการแพลตฟอร์ม หรือสำหรับใครที่อยากนำผลงานศิลปะหรือของสะสมที่มีมาปล่อยเช่าหรือแลกเปลี่ยนผ่านแพลตฟอร์มก็สามารถทำได้เช่นกัน ในส่วนของ Digital Asset หรือ การลงทุนรูปแบบใหม่ในทรัพย์สินดิจิทัล ปัจจุบัน AIC มีโครงการความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ และ โทเคน เอกซ์ เพื่อพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมการลงทุนด้านศิลปะให้ก้าวไปอีกขั้น ซึ่งจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้” 

และในโอกาสพิเศษเพื่อร่วมฉลองวาระพิเศษครบรอบ 12 ปี ที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (Baandam Museum) ร่วมกับ สยามพิวรรธน์ สร้างสรรค์ผลงานด้านทางศิลปวัฒนธรรมมากว่าทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็น การจัดงานเปิดตัว โครงการเหรียญสุริยะภูมิจักรวาล ในปี 2555 – 2556, Immersive Art of Thawan Duchanee ในปี 2563 และ Thailand Digital Arts Festival ในปี 2565 ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ศิลปวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นท่ามกลางอาณาจักรสยามพิวรรธน์

โดยครั้งนี้เป็นการแสดงนิทรรศการครั้งสำคัญ  “The Eternal Treasure of Asia” “สมบัติชั่วนิรันดร์แห่งเอเชีย” เปิดกรุสมบัติหมื่นล้านจากพิพิธภัณฑ์ และนักสะสมชั้นนำระดับโลก ที่รวบรวมสุดยอดของผลงานศิลปะ ระดับ Masterpiece ศิลปินแห่งชาติ ดร.ถวัลย์ ดัชนี ที่ไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน ตลอดจนสุดยอดของสะสมล้ำค่าระดับ World-Class หลากแขนง นำเสนอในมุมมองใหม่ โดยเล่าเรื่องราวผ่านวัตถุจัดแสดง เช่น “ตำนานเทพศาสตราวุธ ศาสตร์และศิลป์ จิตวิญญาณแห่งตะวันออก” จัดแสดงศาสตราวุธแห่งจิตวิญญาณ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และสุดยอดประติมากรรมยานยนต์เหนือกาลเวลา รวมสุดยอดรถยนต์คลาสสิค มอเตอร์ไซค์คลาสสิค ในตำนาน และซุปเปอร์คาร์ลิมิเต็ดหายาก และอื่นๆ อีกมากมาย 

สำหรับนิทรรศการ “The Eternal Treasure of Asia : สมบัติชั่วนิรันดร์แห่งเอเชีย” จัดแสดงให้ได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิด โดยภายในนิทรรศการประกอบด้วย 

ศิลปะสร้างโลก ความรักปรากฏรูป ผลงานศิลปะระดับตำนาน ที่ไม่เคยนำมาจัดแสดงที่ไหนมาก่อน อาทิ ผลงานจิตรกรรมขนาดใหญ่ ”มารผจญ“ และภาพผลงานชุด “หนุมาน” ผลงานชุดสุดท้ายของถวัลย์ ดัชนี, ประติมากรรมรูปปั้นศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี บิดาแห่งวงการศิลปะไทยร่วมสมัย ผลงานปั้นของอาจารย์เขียน ยิ้มศิริ ผู้ที่อาจารย์ศิลป์เรียกว่า “ลูก” 

ศรัทธา ประติมา ปาฏิหาริย์ พลังแห่งวัตถุมงคลล้ำค่า มรดกทางภูมิปัญญาของสยามประเทศ “The Spirit of Siam” จัดแสดงพระเครื่องและเครื่องรางหายาก มรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรมองค์สำคัญ อาทิ สุดยอดมีดหมอด้ามแกะ เทพศาสตรา หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์, สุดยอดพระขรรค์เขาควายเผือกหลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก เพชรบุรี, สุดยอดท้าวเวสสุวรรณวัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ และท้าวเวสสุวรรณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

เทพศาสตราวุธ ศาสตร์และศิลป์แห่งจิตวิญญาณ จัดแสงดาบสำคัญในประวัติศาสตร์ และเรื่องราวของวิถีแห่ง Bushido อาทิ ชุดเกราะมังกร ตระกูลซามูไร ยานางิซาวะ ดาบโอดาจิ ดาบเทพเจ้ามังกร ถูกตีขึ้นใน ศตวรรษที่ 18 เพื่อถวายเทพเจ้า แห่ง โทโยคาวะอินาริ (วัดเมียวกอนจิ) ศาลเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ 1ใน 3 ที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น จาก Japanese Sword Museum Thailand

ประติมากรรมยานยนต์เหนือกาลเวลา  รวมสุดยอดยานยนต์ ทั้งเรือ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์คลาสสิค และซุปเปอร์คาร์ น่าสะสม อาทิ เรือสปีดโบ้ทสุดคลาสสิก แบรนด์ Century เรือวินเทจ ปี 1954 เครื่อง V8, มอเตอร์ไซด์ Vincent (Black shadow) ปี 1953 ที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 230 กม. / ชม. ซึ่งถือเป็นไฮเอนด์ของมอเตอร์ไซด์คลาสสิก, Ariel มอเตอร์ไซค์สายพันธุ์อังกฤษที่หายากและมีความสวยงาม, รถยนต์ Rolls-Royce “ลักษณ์ประทับ” เปิดประทุน ปี 1951 ซึ่งเป็นรุ่นที่หายาก, รถยนต์ Porsche 356A ปี 1958, รถซุปเปอร์คาร์  Ferrari Light Weight version “The Racing DNA” รุ่น Ferrari 360 Challenge Stardare,  Ferrari 430 Scuderia, Ferrari 458 Speciale, Fiat Abarth 695 TributoFerrari เป็นต้น

คฑาสุริยะศราสจักราวตาร  ผลงานศิลปะชิ้นสำคัญ แรงบันดาลใจจากกุญแจไขจักรวาล สู่ประติมากรรมโลหะล้ำค่า สร้างขึ้นครบรอบ 12 ปี     

แหวนพยัคฆินราชตะปบชาติอาชาไนย เปิดตัว Thawan X Parcthai ที่นำแรงบันดาลใจจากผลงานศิลปะกับงาน High Jewelry มาหลอมรวมไว้เป็นหนึ่งเดียว

ห้ามพลาด! การแสดงนิทรรศการครั้งสำคัญที่นักสะสมงานศิลป์และคนรักงานอาร์ต “The Eternal Treasure of Asia” “สมบัติชั่วนิรันดร์แห่งเอเชีย” ชมกรุสมบัติหมื่นล้านจากพิพิธภัณฑ์และนักสะสมชั้นนำระดับโลก ณ Fashion Gallery ชั้น 1สยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้ถึง 1 กันยายนนี้ เท่านั้น!!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สยามพารากอน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
CULTURE

หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 1,856,800 บาท

 
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่ JWD Art Space มีการจัดงานประมูล “Voyage De l’Art” ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง The Art Auction Center และ De Siam ให้ทุกท่านได้เลือกสรรผลงานที่น่าสนใจมากกว่า 122 ชิ้นงาน 
 

โดยได้รับความสนใจจากคนรักงานศิลปะทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ร่วมเดินทางไปสำรวจดินแดนอันกว้างใหญ่และไร้ขอบเขตกันอย่างหนาตาที่ JWD Art Space ส่งผลให้บรรยากาศการประมูลเต็มไปด้วยสีสันและเรียกเสียงฮือฮาเป็นระยะ และภาพอีกหนึ่งผลงานหาชมยากอย่าง หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลได้ถึง 1,856,800 บาท

 

ผลงานศิลปะที่เข้าร่วมงาน VOYAGE DE L’ART มีทั้งหมด 122 ชิ้น นำมาจัดแสดงเป็น 8 โซน 8 ดินแดนที่รอคอยการสำรวจ รวบรวมผลงานศิลปะหลากหลายแขนงของศิลปินชื่อดังชาวไทยและต่างชาติ โดยมี “หีบเดินทาง” (Trunk) วินเทจของ Louis Vuitton และ Goyard โดย ดี สยาม เป็นจุดเช็กอินที่ทุกคนแวะมาถ่ายภาพ สะท้อนความเป็นเพื่อนคู่ใจของนักเดินทาง ก่อนจะกลายเป็นของสะสมอันทรงคุณค่าที่บ่งบอกถึงสไตล์และเสน่ห์ข้ามกาลเวลา

 

การเดินทางของงานศิลปะหาชมยากถือเป็นประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจ โดยมีนางเอกของการประมูลที่สร้างสีสันให้คนรักงานศิลป์ร่วมประมูลกันอย่างดุเดือดต้องยกให้ไฮไลต์ทั้ง 10 ชิ้น ผลงานของศิลปินระดับ Old Master ยังครองบัลลังก์อย่างสง่างาม เคียงคู่กับศิลปินยุคใหม่มากฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น

  1. Stupa (สถูป) ผลงานของมณเฑียร บุญมา
  2. Landlord of The Earth ผลงานของถวัลย์ ดัชนี
  3. นกอินทรี ผลงานของถวัลย์ ดัชนี
  4. Business Talk ผลงานของนที อุตฤทธิ์
  5. หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี
  6. Duck Out No.2 ผลงานของ Alex Face (พัชรพล แตงรื่น)
  7. Freedom of Speech ผลงานของ MUEBON (มือบอญ)
  8. The Waiting Pink Version ผลงานของ ‘มอลลี่’ นิสา ศรีคำดี
  9. มิสเตอร์ครีม (Mr.Kreme) ผลงานของวรกันต์ จงธนพิพัฒน์
  10. ปากปีจอ ผลงานของวันดา ใจมา

สุดท้ายภาพของถวัลย์ ดัชนี สามารถทำเงินได้ทั้งหมดถึง 8,471,650 บาท โดยทั้ง 3 ภาพคือ

  • Landlord of The Earth ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 4,409,900 บาท งานชิ้นใหญ่ซึ่งใช้เวลาในการสร้างสรรค์นานและใช้ความละเอียดพิถีพิถันมาก เวลาวาดอาจารย์ถวัลย์จะนอนคว่ำเอาอกหนุนหมอนไว้แล้วใช้ปากกาค่อย ๆ ฝน ให้มีน้ำหนักอ่อนแก่จนเกิดเป็นภาพคนที่มีหัวเป็นสัตว์ เป็นงานซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีมาก ทั้งที่เวลาผ่านไปหลายสิบปีแล้ว
  • นกอินทรี ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 2,204,950 บาท ภาพจิตรกรรรมที่เกิดจากการตวัดฝีแปรงอย่างรวดเร็วและหนักแน่น ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์อันเป็นภาพจำของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี โดยวาดเป็นนกอินทรีที่แสดงถึงพละกำลังและความแข็งแกร่ง
  • หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 1,856,800 บาท อีกหนึ่งผลงานหาชมยาก สะท้อนคาแรกเตอร์ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ได้อย่างทรงพลัง อันเกิดจากการตวัดฝีแปรงอย่างรวดเร็วและหนักแน่น ที่แสดงถึงพละกำลังและความแข็งแกร่งของสัตว์ต่าง ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง

นิทรรศการ “VOYAGE DE L’ART” จัดขึ้นที่ JWD Art Space ชั้น 3 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 233 7939 และ 065 097 9909 ติดตามการประมูลงานศิลปะของ The Art Auction Center ครั้งต่อไปได้เร็ว ๆ นี้ และถ้าอยากชมนิทรรศการศิลปะหาชมยาก หรือเข้าร่วมการประมูลครั้งต่อไปติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/theartauctioncenter

ประวัติ ถวัลย์ ดัชนี

ถวัลย์ ดัชนี เกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2482 ที่จังหวัดเชียงราย เป็นบุตรของนายศรี และนางบัวคำ (พรหมสา) ดัชนี เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 4 คน ได้แก่ พ.ต.สว่าง ดัชนี นายสมจิตต์ ดัชนี และนายวสันต์ ดัชนี สมรสกับนางคำเอ้ย มีบุตรชาย 1 คน คือ นายดอยธิเบศร์ ดัชนี 

 

ถวัลย์ ดัชนี ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พ.ศ. 2544 

 

ประวัติการศึกษา

พ.ศ. 2485-2491 ศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม จังหวัดเชียงราย

พ.ศ. 2492-2498 ศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จังหวัดเชียงราย

พ.ศ. 2498-2500 ศึกษาระดับครูประถมการช่าง (ปปช.) จากโรงเรียนเพาะช่าง

พ.ศ. 2500 – 2505 ศึกษาปริญญาตรีศิลปบัณฑิต (เกียรตินิยม) จากคณะจิตรกรรมประติมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร

พ.ศ. 2506 – 2512 ศึกษาระดับปริญญาโท ทางด้านจิตรกรรมฝาผนัง อนุสาวรีย์ ผังเมือง และปริญญาเอก สาขาอภิปรัชญาและสุนทรียศาสตร์ ที่ราชวิทยาลัยศิลปแห่งชาติ อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ (RIJKS AKADEMIE VAN BEELDEN DE KUNSTEN AMSTERDAM NEDERLAND)

 

คนไทยไม่ยอมรับผลงาน

เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น รูปเขียนขนาดใหญ่ของเขาหลายรูปถูกนักเรียนกรีดทำลาย เว็บไซต์หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บรรยายเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “รูปเขียนขนาดใหญ่ของเขาหลายรูป ถูกนักเรียนกรีดทำลายด้วยเหตุที่ว่างานของเขานั้นดูหมิ่นพระพุทธศาสนา ทำให้ถวัลย์ ดัชนี เลิกแสดงผลงานในประเทศไทยไปนานหลายปี กว่าคนไทยจะยอมรับได้ ก็ต้องใช้เวลานานถึงสามสิบกว่าปี”

 

หลังจาก ถวัลย์เลิกแสดงงานศิลปะในไทย การชื่นชมผลงานของถวัลย์ ส่วนใหญ่ต้องผ่านหนังสือหรือสื่อต่างประเทศ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษางานศิลปะในหมู่นักศึกษาและผู้สนใจงานศิลปะ แต่ยังมีกลุ่มบุคคลสำคัญในแวดวงศิลปะในไทยสนับสนุน ผลงานของถวัลย์ ยังแพร่หลายไปในหลายประเทศทั่วโลก ในปัจจุบันผลงานของเขาได้รับการยอมรับ และได้รับการยกย่องชื่นชมว่าเป็นงานศิลปะชั้นเลิศ อีกทั้งเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมงานศิลปะทั่วไปอีกด้วย

 

เสียชีวิต

ถวัลย์ ดัชนี ได้ถึงแก่กรรมด้วยอาการสงบ จากอาการตับวาย เวลา 02.15 น. ของวันที่ 3 กันยายน 2557 ถวัลย์ ดัชนี มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน และความดัน เมื่อประมาณปี 2555 ได้เข้ารับการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตซึ่งมีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ต่อมาเมื่อต้นปี 2557 ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย และในช่วงปลายเดือนมิถุนายนจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างจริงจัง จนกระทั่งพบว่าเชื้อมะเร็งลุกลามไปที่ตับและปอด มีอาการไตวาย จากนั้นอาการทรุดหนักจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : The Art Auction Center

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News