Categories
CULTURE

“งานตรานกยูงพระราชทาน ฯ ครั้งที่ 18”

 

   นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะผู้บริหารกรมหม่อนไหมเข้าพบนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชาสัมพันธ์ “งานตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย” ครั้งที่ 18 ประจำปี 2566 โดยมี นายศรัญญู พูลลาภ รองอธิบดีกรมหม่อนไหม นำเสนอนิทรรศการฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงสืบสานและทรงให้ความสำคัญกับผ้าไหมไทย เป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ้าไหมไทยคุณภาพผลิตภัณฑ์จากหม่อนและไหม รวมทั้งภารกิจและผลงานของกรมหม่อนไหมให้เป็นที่รู้จัก ตลอดจนเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน ผลิตภัณฑ์จากหม่อนและไหมของเกษตรกรให้ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง


            สำหรับการจัด “งานตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย” ครั้งที่ 18 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ไหมไทยล้ำค่า สายใยแห่งภูมิปัญญา พัฒนาสู่สากล” ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีกิจกรรมภายในงานที่น่าสนใจมากมาย อาทิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ การจัดแสดงเครื่องหมายตรานกยูงพระราชทาน การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ประเภทผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมยกดอกลำพูน ผ้าไหมแพรวา ผลงานการประกวด เส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานและผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2566 ผลงานของกรมหม่อนไหม และการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับหม่อนไหม เป็นต้น รวมทั้งยังมีการออกร้านจำหน่ายผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมไทย และสินค้าหม่อนไหม มากกว่า 200 ร้านค้า


            นายศรัญญู พูลลาภ รองอธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า กรมหม่อนไหม มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาไหมไทยตามความต้องการของตลาด ทั้งภายในประเทศและในระดับสากล โดยไฮไลท์สำคัญของการจัดงานตรานกยูงพระราชทานฯ ในครั้งนี้ คือ นิทรรศการการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เป็นการนำเสนอนิทรรศการพันธุ์หม่อน พันธุ์ไหมอนุรักษ์ ที่กรมหม่อนไหมได้รวบรวมและอนุรักษ์ให้คงอยู่ การนำเสนอไหมกินใบหม่อนและไหมที่กินใบพืชชนิดอื่น เช่น ไหมกระท้อน ไหมดาหลา ไหมมันสำปะหลัง และไหมอีรี่ เป็นต้น การนำเสนอการพัฒนาพันธุ์ไหมที่เหมาะสมในการผลิตผ้าห่มใยไหม ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดูดความชื้น ระบายเหงื่อและน้ำมันจากร่างกาย จึงทำให้รู้สึกแห้งสบายตัว และเย็นแม้ในค่ำคืนของฤดูร้อน นิทรรศการงานวิจัยผลิตภัณฑ์วัสดุทางการแพทย์จากไหมไทย ในส่วนของโครงร่างกระดูกและเต้านม นิทรรศการผ้าไหมลายดอกเอเดลไวส์ ซึ่งกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือ “จากพันธุ์ไม้ สู่แพรพรรณ” ซึ่งเป็นข้อมูลการออกแบบลายผ้าดอกเอเดลไวส์ ประกอบด้วย 5 เทคนิค ได้แก่ มัดหมี่ ยกดอก จก ขิด และ บาติก โดยกรมหม่อนไหมจัดทำขึ้น เพื่อส่งต่อให้ช่างทอผ้าไหมของทุกภูมิภาคได้สานต่องานทอผ้าให้มีความหลากหลาย และเพิ่มมูลค่าให้แก่  ผ้าไหมไทย


            นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ Silk Home ที่เป็นการจำลองการใช้ชีวิตประจำวันใน ห้องรูปแบบ Studio คอนโดมิเนียม โดยมีผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหมเป็นหลัก ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน ซึ่งผลิตภัณฑ์ใน Silk Home จะมีรายละเอียดของสินค้าและช่องทางการจำหน่ายที่สามารถเลือกซื้อสินค้าดังกล่าวได้ภายในงานที่ได้รับการการันตีคุณภาพและมาตรฐาน ตลอดจน มีการจัดแสดงแฟชั่นโชว์ของทูตอัตลักษณ์ไหมไทย ซึ่งเป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ และสวมใส่ผ้าไหมไทย ในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งยังประชาสัมพันธ์การสวมใส่ผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย         

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS TOP STORIES

นายกฯ สั่งหาแนวทางรรับมาตรการ ลดภาษีน้ำมันสิ้นสุด 20 ก.ค.นี้

นายกฯ สั่งหาแนวทางรรับมาตรการ ลดภาษีน้ำมันสิ้นสุด 20 ก.ค.นี้

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบถึงข้อกังวลของประชาชนและภาคธุรกิจต่อกรณีที่ขณะนี้มีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร จะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค. 66 โดยมีความกังวลว่าระยะเวลาดังกล่าวอาจจะยังไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศและติดสินใจเกี่ยวกับมาตรการ จะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นทันที 5 บาทต่อลิตร จนกระทบต่อค่าครองชีพและเศรษฐกิจในภาพรวม

นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งวิตกกังวล โดยมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลครั้งล่าสุด(ครั้งที่7) ที่รัฐบาลได้อนุมัติให้ดำเนินการเพิ่งเริ่มมีผลเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมาและจะไปสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค. 66 หรือเหลือเวลาอีก 2 เดือนจึงจะสิ้นสุดมาตรการ ยังมีเวลาที่รัฐบาลจะพิจารณาแนวทางต่างๆ มารองรับเพื่อให้ผลกระทบเกิดกับประชาชนน้อยที่สุด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรีเห็นว่าตามความเหมาะสมแล้วมาตรการที่ต้องใช้จ่ายงบประมาณ หรือทำให้รัฐสูญเสียรายได้อย่างมีนัยสำคัญนั้น ควรต้องให้รัฐบาลใหม่ได้พิจารณา แต่รัฐบาลรักษาการโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องดูสถานการณ์แต่ละช่วงเวลาว่าควรต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อสามารถดูแลผลกระทบให้เกิดกับประชาชนน้อยที่สุด ไม่เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว และเป็นไปตามกฎหมาย

“นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังหารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อวางแนวทางรองรับกับมาตรการที่จะสิ้นสุดในปลายเดือน ก.ค. โดยให้พิจารณาปัจจัยต่างๆประกอบกัน เช่น สถานการณ์และแนวโน้มราคาน้ำมันโลก ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงเปลี่ยนผ่านนโยบาย แนวทางไหนดำเนินการได้โดยอำนาจของหน่วยงาน หรือส่วนใดที่ต้องหารือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้จัดทำแนวทางเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี 

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS NEWS

นายกฯ ชมทีมเยาวชน รร. ดำรงราษฎร์สงเคราะห์ ทำผลงานยอดเยี่ยมในโครงการระดับโลก

นายกฯ ชมทีมเยาวชน รร. ดำรงราษฎร์สงเคราะห์ ทำผลงานยอดเยี่ยมในโครงการระดับโลก

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถึงผลการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมสำหรับเยาวชน ระดับโลก ในรายการ Regeneron International Science and Engineering Fair 2023 ระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2566 ที่ เมือง Dallas รัฐ Texas สหรัฐอเมริกา 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประกวดครั้งนี้ มีเยาวชนและนักเรียนเข้าร่วมการประกวดถึง 1600 คน จาก 63 ประเทศทั่วโลก โดยผลจากการประกวด มีทีมตัวแทนเยาวชนไทย ได้รับรางวัลในหลากหลายประเภท เช่น ทีมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้รับรางวัลสุดยอดนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ (Regeneron Young Scientist Awards) ซึ่งเป็นรางวัลที่สะท้อนถึงการทำงานอย่างจริงจังของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายของโลกอนาคต โดยใช้แนวคิดที่สร้างสรรค์แตกต่าง และรางวัล Grand Awards อันดับ 1 สาขาสัตวศาสตร์ ในโครงงาน“การเพิ่มอัตราการรอดของแมลงช้างปีกใสจากพฤติกรรมการฟักและการเลือกกินอาหาร (Innovation for Optimizing Lacewing Survivability)” นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล Grand Awards อันดับที่ 3 จากสาขาเดียวกันในโครงงาน “วิธีการยั่งยืนในการควบคุมปัญหาการเป็นศัตรูพืชของหนอนด้วงสาคู” (Approach to Control Red Palm Weevil Pests) อีกทั้ง โครงงานนี้ยังได้รับรางวัล Special Award อันดับที่ 2 จากหน่วยงาน U.S. Agency for International Development (USAID) ในสาขา Agriculture and Food Security

ทีมจากโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จ.เชียงราย ได้รับรางวัล Grand Awards อันดับที่ 2 สาขาสัตวศาสตร์ จากโครงการ “วิธีการใหม่ในการตรวจสอบการติดเชื้อโรคเพบริน (Pebrine Disease Detection Using Silkworm Phototaxis)” และ ทีมจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี ได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์โลกและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ในโครงการ “การพัฒนานวัตกรรมซ่อมแซมป่าหลังเกิดไฟป่าเลียนแบบโครงสร้างของผลน้อยหน่าเครือ (A Novel Seed Delivery System for Effective Reforestation)” 

โดยในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา นายอรรณพ จูจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ครู และตัวแทนนักเรียนโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ ให้การต้อนรับพร้อมมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีให้กับนายธนวิชญ์ น้ำใจดี, นายพณทรรศน์ ชัยประการ, นางสาวกัญญาริณทร์ ศรีวิชัย และนายเกียรติศักดิ์ อินราษฎร ครูที่ปรึกษา ณ อาคารผู้โดยสารชั้น 1 ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง หลังคว้ารางวัลใหญ่ 2nd Place Grand Award พร้อมเงินรางวัล $2000 ในการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม สำหรับเยาวชน ระดับโลก REGENERON ISEF 2023 จัดโดย Society for Science & the Public ณ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2566
โครงงานที่ได้รับรางวัล
Project Title : Pebrine Disease Detection Using Silkworm Phototaxis (วิธีการใหม่ในการตรวจสอบการติดเชื้อโรคเพบริน)
Project ID : ANIM026T
Category : Animal Sciences (สาขาสัตวศาสตร์)
 
ผู้ทำโครงงาน : นายธนวิชญ์ น้ำใจดี, นายพณทรรศน์ ชัยประการ, นางสาวกัญญาริณทร์ ศรีวิชัย
ครูที่ปรึกษา : นายเกียรติศักดิ์ อินราษฎร
 
รายละเอียดโครงงาน : เราได้พัฒนาวิธีการใหม่ในการตรวจโรค Pebrine ในตัวอ่อนหนอนไหม ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อที่สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับอุตสาหกรรมเลี้ยงไหม วิธีการใหม่นี้ใช้พฤติกรรมการเคลื่อนที่หาแสงมีประสิทธิภาพสูงในการตรวจโรคในตัวอ่อนทั้งหมดในกลุ่มและแยกตัวอ่อนติดเชื้อออกจากกลุ่มได้ โดยไม่ต้องทำลายตัวอ่อนทั้งหมดต่างจากวิธีการตรวจสอบแบบสุ่มที่ใช้กันอยู่ซึ่งต้องทำในห้องปฏิบัติการโดยผู้เชี่ยวชาญ วิธีใหม่นี้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ตรวจสอบในฟาร์มได้ด้วยตนเอง
โดยโครงการนี้เป็นตัวแทนประเทศไทย ที่ได้รับคัดเลือกจากการประกวดในค่ายนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์แห่งชาติ ประจำปี 2565 (Thai Young Scientist Festival (TYSF)) ครั้งที่ 18 โดย สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

ทีมโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จ.ระยอง ได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 3 สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ จากโครงงาน “การศึกษาแบบจำลองผลของสนามแม่เหล็กต่อพายุทรงหลายเหลี่ยมบนดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์โดยหลักความไม่เสถียรเชิงอุทกพลศาสตร์ (Study of Polygonal Cyclones on Jupiter and Saturn)”นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 4 สาขาชีววิทยาเชิงคำนวณและชีวสารสนเทศศาสตร์จากโครงการ “PROSynMOGN: การปรับปรุง Graph Neural Networks สำหรับโมเลกุลเพื่อทำนายการเสริมฤทธิ์ของยาคู่ผสมสำหรับรักษาโรคมะเร็งที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลการแสดงออกของโปรตีน”

ทีมจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 4 สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ปริวรรต (Translational Medical Science) จากโครงงาน ออร่า “ผู้ช่วยป้องกัน ชะลอ และฟื้นฟูข้อเสื่อม” (O-RA: Osteoarthritis Rehabilitation Assistant) นอกจากนี้ โครงการนี้ยังได้รับรางวัล Special Award อันดับที่ 1 จากหน่วยงาน : Sigma Xi, The Scientific Research Honor Society ในสาขา: Life Sciences Discipline 

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสามารถของทีมตัวแทนเยาวชนไทยที่แสดงศักยภาพ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับรางวัลจากหลายประเภทโครงงานในการประกวด และได้แสดงถึงศักยภาพทางความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเยาวชนไทย ให้เป็นที่ประจักษ์ในการแข่งขันระดับสากล ทั้งนี้ รัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชนไทย และขอบคุณที่นำความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย” นายอนุชาฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS TOP STORIES

พรรคก้าวไกลแถลงขอโทษปม พรรคชาติพัฒนากล้า ยันฟังเสียงประชาชน

พรรคก้าวไกลแถลงขอโทษปม พรรคชาติพัฒนากล้า ยันฟังเสียงประชาชน

Facebook
Twitter
Email
Print
วันนี้ (19 พฤษภาคม) เมื่อเวลาประมาณ 23.35 น. พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีพรรคก้าวไกลแถลงขอโทษปมพรรคชาติพัฒนากล้า ยืนยันฟังเสียงประชาชนไม่ร่วมรัฐบาลชาติพัฒนากล้า
 
กรณีดังกล่าว ได้ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางจากประชาชน เจ้าหน้าที่พรรค คณะทำงานจังหวัด และสมาชิกพรรค ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่าไม่สามารถยอมรับการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคชาติพัฒนากล้าได้ นอกจากนี้ ในที่ประชุมร่วมของว่าที่ผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ก็มีมติสอดคล้องกับประชาชนว่าไม่สามารถยอมรับได้เช่นกัน
 
ด้วยเหตุนี้ กรรมการบริหารพรรค จึงน้อมรับมติดังกล่าวมาปฏิบัติ เราจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า และจะเดินหน้าพูดคุยและทำความเข้าใจเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้ได้เสียงพอในการโหวตนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด
 
พรรคก้าวไกลขอน้อมรับคำวิจารณ์ทั้งหมด และกราบขออภัยประชาชน ที่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล จะทำบนพื้นฐานจุดยืนทางการเมือง นโยบายหลักของพรรคตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ รวมถึงขอโทษพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ต้องยุติการเจรจาครั้งนี้
 
และสุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่พรรค และว่าที่ผู้แทนราษฎรก้าวไกลทุกคน ที่คอยตรวจสอบ ท้วงติงการทำงานของผู้บริหารพรรค เพื่อให้พรรคยืนหยัดในจุดยืน อุดมการณ์เดิมอย่างมั่นคง
พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรคก้าวไกลแถลงขอโทษปมพรรคชาติพัฒนากล้า ยืนยันฟังเสียงประชาชน ไม่ร่วมรัฐบาลชาติพัฒนากล้า
 
โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ตอบรับเข้าร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว โดยในเวลา 17.00 น. วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคมนี้ นายสุวัจน์ จะเข้าร่วมงานราตรี “ร้อยดวงใจ 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา” และจะมีการแถลงประเด็นดังกล่าว จนทำให้กระแสดังกล่าวทำให้ในทวิตเตอร์แห่ติดแฮชแท็ก #ชาติพัฒนากล้า และ #มีกรณ์ไม่มีกู จนติดอันดับ 1 ใน 5 เทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย เป็นผลให้ก้าวไกลแถลงขอโทษปมพรรคชาติพัฒนากล้า ยืนยันฟังเสียงประชาชน ไม่ร่วมรัฐบาลชาติพัฒนากล้า

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : พรรคก้าวไกล – Move Forward Party

 
Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE