จุดสมดุลเศรษฐกิจ-ความรู้สึก เชียงรายชวนนักท่องเที่ยวแต่ง ‘โทนสุภาพ’ ร่วมงานไม้ดอก
เชียงราย,28 ตุลาคม 2568 – ที่ห้องประชุมธรรมรับอรุณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย การประชุมราชการ (Morning Brief) ครั้งที่ 8/2568 มีวาระพิเศษที่ไม่ใช่แค่การติดตามผลการทำงานประจำเดือนเหมือนเช่นเคยอีกต่อไป หากแต่เป็นการประชุมเพื่อกำหนดทิศทางเชิงภาพรวมของจังหวัดในห้วงเวลาที่ทั่วประเทศกำลังอยู่ในความโศกเศร้าหลังจากสำนักพระราชวังประกาศข่าวการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งทั่วทั้งแผ่นดินต่างแสดงความอาลัยอย่างสุดหัวใจ
การประชุมครั้งนี้นำโดย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร อาทิ นางทรงศรี คมขำ รองนายก อบจ.เชียงราย นายวิญญู ทองทัน เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย และนางอัญญลักษณ์ กายาไชย เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย โดยมีนายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัด เพื่อหารือภารกิจที่ต้องขับเคลื่อนต่อเนื่อง
หัวข้อสำคัญที่สุดของการประชุมครั้งนี้ คือทิศทางการจัดงาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025”
เดินหน้าตามกำหนดการเดิม แต่ไม่ใช่ในรูปแบบเดิมอีกต่อไป
หลังการประชุม นางอทิตาธรยืนยันอย่างชัดเจนว่า อบจ.เชียงรายจะยังคงจัดงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 ตามกำหนดการที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ นั่นคือ
- พื้นที่หลัก “สวนไม้งามริมน้ำกก” อำเภอเมืองเชียงราย ระหว่างวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ถึง 7 มกราคม 2569
- พื้นที่ขยายในอำเภอ ได้แก่ สวนสาธารณะหนองหลวง อำเภอเวียงชัย และวัดถ้ำเสาหินพญานาค อำเภอแม่สาย ระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ถึง 7 มกราคม 2569
หมายความว่า จังหวัดยังคงมุ่งหวังให้ช่วงปลายปีไปจนถึงต้นปีใหม่เป็นระยะเวลาที่เชียงรายจะดึงดูดการท่องเที่ยว ทั้งนักท่องเที่ยวภายในประเทศที่นิยมเดินทางขึ้นเหนือในฤดูหนาว และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนใจวัฒนธรรมล้านนา ธรรมชาติ และอากาศเย็น
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ “จะจัดหรือไม่จัด” แต่อยู่ที่ “จะจัดอย่างไร”
นางอทิตาธรระบุชัดว่า การจัดงานปีนี้ “จะต้องมีการปรับให้เหมาะสม” เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความอาลัยจากการสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง โดยย้ำว่าการจัดงานต้องดำเนินไป “ภายใต้กรอบมติคณะรัฐมนตรีและแนวทางกลางของรัฐบาล” ที่ระบุให้ส่วนราชการและหน่วยงานท้องถิ่นระมัดระวังกิจกรรมที่อาจถูกมองว่าไม่เหมาะสมหรือเกินความกาลเทศะ
เธอกล่าวในที่ประชุมว่า การดำเนินงานในครั้งนี้ต้องสะท้อนทั้ง “ความจงรักภักดี” และ “ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้” ของพสกนิกรชาวเชียงรายและประชาชนชาวไทย
เมื่อแปลออกมาในเชิงปฏิบัติ รูปแบบของงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 จะถูกปรับใน 3 มิติใหญ่ คือ
- ลดกิจกรรมรื่นเริง
กิจกรรมที่มีลักษณะเป็นความบันเทิง เช่น การแสดงมหรสพคึกคัก การแสดงคอนเสิร์ตเชิงบันเทิง หรือกิจกรรมที่เน้นความสนุกสนานเป็นหลัก จะถูกลดระดับหรือปรับโทน ไม่ใช่เพียงเพราะความเหมาะสมทางสังคม แต่เพื่อส่งสัญญาณถึงความเคารพและความอาลัยในระดับจังหวัด ซึ่งเป็นการแสดงจิตวิญญาณร่วมกับประชาชนทั้งประเทศ - เพิ่มเนื้อหาเชิงวัฒนธรรม ศิลปะ และจารีตท้องถิ่น
อบจ.เชียงรายกำหนดให้งานในปีนี้เน้นการจัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับที่สะท้อนความอ่อนช้อย งดงาม และอัตลักษณ์ของเชียงราย เช่น ไม้ดอกฤดูหนาว ไม้ประดับหายาก การจัดสวนนิทรรศการเชิงศิลป์ และการออกแบบภูมิทัศน์ที่ใช้ดอกไม้เป็น “ภาษาทางความรู้สึก” มากกว่าจะเป็นเพียงฉากสำหรับท่องเที่ยวเช็คอิน
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ดอกไม้ในปีนี้จะไม่ใช่เพียง “สีสันของงาน” แต่น่าจะถูกตีความให้เป็น “สัญลักษณ์ของการรำลึกถึง” และ “การถวายความเคารพ” - จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึก
จะมีการจัดนิทรรศการเพื่อน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมุ่งสะท้อนพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจด้านศิลปวัฒนธรรมและหัตถกรรมพื้นถิ่น ตลอดจนพระราชดำริในการส่งเสริมอาชีพและคุณภาพชีวิตของราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ
ประเด็นนี้มีนัยสำคัญในทางสัญลักษณ์อย่างยิ่ง เพราะสมเด็จพระพันปีหลวงทรงได้รับการยกย่องมาโดยตลอดในฐานะ “แม่ของแผ่นดิน” ผู้ทรงมีบทบาทโดดเด่นในการผลักดันงานหัตถศิลป์ ผ้าไทย งานจักสาน งานทอมือ และงานอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย — ซึ่งล้วนเป็นรากฐานของอัตลักษณ์ภาคเหนือรวมถึงเชียงราย การนำแนวทาง “นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ” มาเป็นแกนของงานมหกรรมไม้ดอกในครั้งนี้ จึงไม่ใช่การแสดงความอาลัยเชิงพิธีเท่านั้น แต่เป็นการวางบทบาทของเชียงรายในฐานะเมืองที่เข้าใจคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม และพร้อมถ่ายทอดต่อสาธารณะ
เชียงรายต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่เชียงรายก็ต้องเป็นจังหวัดที่ “รู้กาลเทศะ”
อีกประเด็นหนึ่งที่ถูกพูดอย่างชัดเจนในการประชาสัมพันธ์ของ อบจ.เชียงราย คือการ “ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว” โดยเชิญชวนให้ผู้มาเยือนร่วมแต่งกายด้วยโทนสีไว้ทุกข์หรือสีสุภาพตลอดช่วงการจัดงาน
คำขอนี้สะท้อนความพยายามของจังหวัดในการสร้างบรรยากาศร่วมไว้อาลัยในพื้นที่สาธารณะ ไม่ใช่เพียงผ่านพิธีการหรือคำกล่าวเปิดงาน แต่ผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นการยกระดับงานท่องเที่ยวให้เป็นพื้นที่แสดงความเคารพร่วมกันในฐานะ “สาธารณะทางความรู้สึก”
การขอความร่วมมือด้านการแต่งกายแบบนี้ มักจะปรากฏในช่วงเวลาที่ประเทศเผชิญเหตุการณ์สำคัญระดับสถาบัน ซึ่งสะท้อนว่านโยบายของจังหวัดในครั้งนี้ไม่ได้มองงานไม้ดอกเป็นเพียงอีเวนต์เชิงเศรษฐกิจ แต่ยกระดับไปสู่พื้นที่เชิงสังคมและจิตใจร่วม
ในอีกด้านหนึ่ง การเดินหน้าจัดงานตามกำหนดการเดิมในช่วงวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ถึง 7 มกราคม 2569 ก็มีความหมายเชิงเศรษฐกิจที่ไม่อาจปฏิเสธได้
เดือนธันวาคมถึงต้นมกราคมเป็นช่วงที่เชียงรายมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุดของปี อากาศเย็นเป็นแม่เหล็กตามธรรมชาติ ขณะที่สีสันทางวัฒนธรรม เช่น ประเพณีล้านนา อาหารพื้นถิ่น และภูมิทัศน์ริมน้ำกก ล้วนเป็นจุดขายของจังหวัดมาอย่างยาวนาน งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนในอดีตมักถูกใช้เป็น “เวทีหลัก” ในการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น ทั้งผู้ประกอบการที่พัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านงานหัตถกรรม ตลอดจนเครือข่ายเกษตรกรไม้ดอกไม้ประดับ
กล่าวอีกมุมหนึ่ง งานนี้ไม่ใช่เพียงงานที่จัดเพื่อความสวยงาม แต่เป็น “จุดกระจายเม็ดเงินปลายปี” ของจังหวัดเชียงราย
การตัดสินใจ “เดินหน้าจัด – แต่ลดความรื่นเริง และเพิ่มความสงบสำรวม” จึงเป็นจุดสมดุลที่สะท้อนแนวทางของฝ่ายบริหารท้องถิ่น จังหวัดยังต้องขยับเศรษฐกิจและดูแลความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ ขณะเดียวกันก็ไม่ละเลยบรรยากาศแห่งความโศกอาลัยระดับชาติ
ในที่ประชุม นางอทิตาธรยังย้ำประเด็นเรื่อง “การบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน” พร้อมมอบหมายให้ทุกภาคส่วนบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งด้านการจัดสถานที่ การรักษาความปลอดภัย การดูแลสภาพแวดล้อมจราจร และการบริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่จัดงานทั้งสามจุดคือ ริมน้ำกก หนองหลวง เวียงชัย และวัดถ้ำเสาหินพญานาค แม่สาย ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชายแดนสำคัญ
ถ้อยคำลักษณะนี้ชวนให้สังเกตว่า งานมหกรรมไม้ดอกฯ ไม่ใช่การจัดโดยหน่วยงานเดียว แต่เป็นงานที่ต้องใช้พลังของทั้งจังหวัด ทั้งหน่วยงานวัฒนธรรม เกษตรและสหกรณ์ การท่องเที่ยวและกีฬา หน่วยความมั่นคง ตำรวจ ท้องถิ่นอำเภอ รวมถึงชุมชนเจ้าของพื้นที่ร่วมกันดูแลภาพลักษณ์ของจังหวัดต่อสายตาคนทั้งประเทศ
มิติเชิงวัฒนธรรม ดอกไม้ในปีแห่งการอาลัย
หากมองเชิงสัญลักษณ์ การจัดงานดอกไม้ภายใต้บรรยากาศความอาลัย ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย ดอกไม้ถูกใช้เสมอในวัฒนธรรมไทยเพื่อแสดงความเคารพ ความระลึก และพระเกียรติคุณ โดยเฉพาะดอกไม้สีขาว สีอ่อนโทนสุภาพ หรือไม้ดอกที่จัดเป็นลวดลายเชิงสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์
เมื่อ อบจ.เชียงรายประกาศว่าจะ “เพิ่มเนื้อหาเชิงวัฒนธรรม ศิลปะ และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ” นั่นหมายความว่างานปีนี้อาจไม่ใช่เพียงการประกวดความสวยงามของไม้ดอก หากแต่อาจเป็นพื้นที่เล่าเรื่องความผูกพันระหว่างเชียงรายกับสถาบันฯ ผ่านการตีความด้วยสื่อที่อ่อนโยน เข้าใจง่าย และเข้าถึงได้สำหรับทุกเพศทุกวัย
ทิศทางเช่นนี้ยังสอดคล้องกับบทบาทของสมเด็จพระพันปีหลวงในประวัติศาสตร์สังคมไทย ทรงมีพระราชกรณียกิจด้านศิลปหัตถกรรมชนเผ่าและกลุ่มชาติพันธุ์ภาคเหนือ ทั้งงานผ้า การทอ การปัก การอนุรักษ์วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนบนพื้นที่สูง ซึ่งล้วนเกี่ยวพันกับจังหวัดในพื้นที่ล้านนา รวมทั้งเชียงรายด้วย การจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติภายในงานจึงอาจเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นบทบาทเหล่านี้ชัดเจนขึ้น
กล่าวในเชิงเนื้อหา งานไม้ดอกฯ ปีนี้อาจกลายเป็นพื้นที่สาธารณะให้คนรุ่นพ่อแม่และรุ่นลูกมายืนอยู่ในภาพเดียวกัน—ภาพที่ไม่ได้มีแค่ดอกไม้สวย ๆ ให้ถ่ายรูปลงโซเชียล แต่เป็นภาพของการเรียนรู้ร่วมกันว่า ความผูกพันของ “ชาติ-สถาบัน-ท้องถิ่น” มีมิติที่ลึกกว่าในเชิงอารมณ์
การบริหารจังหวัดในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการที่ผู้บริหาร อบจ.เชียงราย พูดถึง “ความโปร่งใส” และ “การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ” ในการประชุม Morning Brief ครั้งที่ 8/2568 จุดนี้สะท้อนมุมมองการทำงานเชิงรุกด้านธรรมาภิบาลท้องถิ่น เพราะโดยปกติ งานท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมปลายปีมักถูกจับตาในสองเรื่องเสมอ คือค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมพื้นที่ (ตกแต่งภูมิทัศน์ ระบบแสง-เสียง การบริหารเวทีกิจกรรม โครงสร้างชั่วคราว) และความคุ้มค่าต่อประชาชนในพื้นที่
การย้ำเรื่อง “งบประมาณต้องโปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน” จึงเป็นการส่งสัญญาณล่วงหน้าว่า อบจ.จะวางตัวเองในฐานะองค์กรที่พร้อมถูกตรวจสอบในสายตาสังคม โดยเฉพาะในโครงการสาธารณะที่มีมูลค่าการใช้จ่ายสูงและอยู่ในความสนใจของสื่อและประชาชนทั้งในจังหวัดและนอกจังหวัด
การวางน้ำเสียงเช่นนี้ยังสะท้อนการทำงานเชิงป้องกันความเสี่ยงทางสังคมเช่นกัน เพราะในยุคปัจจุบัน โครงการของหน่วยงานท้องถิ่นสามารถถูกตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ผ่านโซเชียลมีเดีย หากกระบวนการใช้งบประมาณไม่ชัดเจน ย่อมมีโอกาสที่จะเกิดการตั้งคำถามเชิงศรัทธาในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น
งานดอกไม้ที่ไม่ใช่แค่งานดอกไม้
“มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025” จึงไม่ใช่แค่งานท่องเที่ยวประจำฤดูหนาวของจังหวัดเชียงรายอีกต่อไป หากแต่มันกำลังถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่เชิงสาธารณะของความทรงจำร่วมและความอาลัย ขณะเดียวกันก็เป็นกลไกทางเศรษฐกิจในปลายปีที่ถูกคาดหวังว่าจะกระจายรายได้สู่คนในจังหวัด
ภายใต้สถานการณ์ที่ทั้งประเทศกำลังแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง การจัดงานในบรรยากาศที่สำรวมขึ้น ลดความเป็น “มหรสพ” เพิ่มความเป็น “นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติและศิลปวัฒนธรรม” อาจเป็นแบบจำลองใหม่ของการจัดงานสาธารณะในระดับจังหวัด ว่าจะสามารถผสานเศรษฐกิจ-วัฒนธรรม-ความรู้สึกร่วมของสังคมได้อย่างไรในเวลาเดียวกัน
ในทางปฏิบัติ การเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้แต่งกายโทนไว้ทุกข์ คือการส่งสารเชิงสังคมว่า ทุกคนที่มาเยือนเชียงรายในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่ได้เป็นเพียง “นักท่องเที่ยว” แต่เป็น “ผู้ร่วมยืนในช่วงเวลาเดียวกันของประวัติศาสตร์ร่วมชาติ”
และในทางการบริหาร นี่คือบททดสอบสำคัญของ อบจ.เชียงราย ว่าจะสามารถเดินเชือกเส้นบาง ๆ ระหว่าง “การรักษาความรู้สึกของคนทั้งประเทศ” กับ “การรักษาความยืนยาวของเศรษฐกิจท้องถิ่น” ไปจนจบงานได้อย่างไร
เพราะเมื่อม่านดอกไม้ปิดลงในวันที่ 7 มกราคม 2569 สิ่งที่จังหวัดเชียงรายจะเหลืออยู่ไม่ใช่แค่ภาพถ่ายสวนดอกไม้ยามรุ่งสางริมแม่น้ำกก แต่คือคำตอบว่า เชียงรายสามารถเป็นต้นแบบการจัดงานท้องถิ่นในยามที่ทั้งประเทศกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์ร่วมได้หรือไม่ และคำตอบนั้น ไม่ได้สำคัญเฉพาะกับเชียงรายเท่านั้น แต่อาจกลายเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่น ๆ ของไทยในอนาคตด้วย
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย)
- มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025
- การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, นางทรงศรี คมขำ, นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์, นางอัญญลักษณ์ กายาไชย, นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ, นายวิญญู ทองทัน, พิธีถวายอาลัย, มหกรรมไม้ดอกอาเซียน, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, สวนไม้งามริมน้ำกก, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, เศรษฐกิจท้องถิ่น







