Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สสจ.เชียงราย เตือนระวังโรคหลังน้ำลด เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินอาหาร

 

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย (สสจ.เชียงราย) ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการรับมือและการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย โดยกล่าวว่าทีมเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้คำแนะนำแก่ประชาชนในเรื่องของการป้องกันตนเองหลังน้ำลด โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM10 ที่มักเกิดขึ้นหลังจากน้ำลด โดยแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่โล่งแจ้งควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่น และสามารถใช้หน้ากากอนามัยธรรมดาได้

อีกหนึ่งปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังคือขยะเน่าเหม็น ซึ่งอาจเป็นแหล่งเชื้อโรค โดยขอให้ประชาชนที่ต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีขยะใส่รองเท้าบูทหรือรองเท้ายางเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ทั้งนี้ การจัดการขยะจะต้องประสานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อเร่งจัดเก็บ โดยมีการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงประเภทของขยะในแต่ละพื้นที่ เพราะขยะเน่าเหม็นนั้นมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินอาหาร หากมีการหยิบจับหรือสัมผัสสิ่งของที่เริ่มเน่าเสียแล้วไม่สวมถุงมือหรือไม่ล้างมือให้สะอาด

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับบาดแผลที่อาจสัมผัสน้ำเน่าเสีย นพ.วัชรพงษ์ได้กล่าวว่า บาดแผลที่สัมผัสกับน้ำเน่าเสียมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคฉี่หนู ซึ่งควรทำความสะอาดและทายาทันทีหลังจากสัมผัสน้ำ หรือไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยปฐมพยาบาลที่ลงพื้นที่ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพบาดแผลและให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง โดยสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายได้พบว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมีอาการเท้าเปื่อย ระบบทางเดินหายใจ และตาแดง ส่วนโรคฉี่หนูยังไม่มีการแพร่ระบาด แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของภาวะทางจิตใจ นพ.วัชรพงษ์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการส่งทีมสุขภาพจิตเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภาวะเครียดจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยร่วมกับทีมจากโรงพยาบาลสวนปรุงของกรมสุขภาพจิต ซึ่งได้คัดกรองประชาชนไปแล้วประมาณ 3,000 คน พบว่ามีผู้ที่มีความเครียดในระดับปานกลางที่ยังสามารถดูแลตัวเองได้ บางรายมีการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ แต่ยังไม่พบผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือมีแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย

ความเครียดที่พบส่วนใหญ่เกิดจากความกังวลเรื่องบ้านเรือนที่ถูกดินโคลนถล่มและไม่สามารถเข้าไปฟื้นฟูได้ ประชาชนบางส่วนยังคงวิตกเกี่ยวกับการเกิดพายุหรืออุทกภัยซ้ำในอนาคต กรมสุขภาพจิตได้จัดทำข้อมูลเพื่อช่วยแจ้งเตือนประชาชนอยู่ตลอด และมีการเตรียมพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต นอกจากนี้ยังได้ทำคู่มือแนะนำประชาชนเกี่ยวกับการรับมือภัยพิบัติ โดยแนะนำให้ประชาชนมองสถานการณ์ในแง่บวก เชื่อมั่นในความสามารถของตนเองในการผ่านพ้นวิกฤตนี้ และอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเมื่อมีความจำเป็น

สุดท้าย นพ.วัชรพงษ์กล่าวย้ำว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ และประชาชนควรป้องกันตนเองให้ดีในช่วงหลังน้ำลด เพราะอาจมีโรคภัยต่างๆ ตามมาได้ เช่น โรคทางเดินอาหาร เท้าเปื่อย โรคฉี่หนู และโรคตาแดง ซึ่งหากมีอาการควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักข่าวชายขอบ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย Kick Off 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว

 

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick Off โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว จังหวัดเชียงราย โดยมี นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พญ.อัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ คณะผู้บริหาร และบุคลากรสาธารณสุขเชียงราย ร่วมพิธีฯ เปิดกิจกรรม

นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าผลการดำเนินงานของจังหวัดเชียงราย โครงการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัลได้มากกว่า 22,155 ครั้ง ให้บริการการแพทย์และเภสัชกรรมทางไกลผ่านระบบออนไลน์ทุกช่องทาง 20,528 ครั้ง ประชาชนลงทะเบียน Health ID กว่า 477,949 คน ให้บริการประชาชนนัดหมายผ่านระบบออนไลน์ 255 ครั้ง ทั้งนี้หน่วยบริการเอกชนที่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประชาชนใช้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีประชาชนเข้ารับบริการคลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น จำนวนกว่า 223,033 ครั้ง การเยี่ยมบ้านจำนวนกว่า 40,991 ครั้ง รับบริการร้านยาคุณภาพของฉัน จำนวนกว่า 48,885 ครั้ง บริการกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น จำนวน 3,211 ครั้ง บริการคลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น จำนวน 13 ครั้ง บริการคลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น จำนวน 1,726 ครั้ง และบริการคลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น จำนวน 911 ครั้ง โดยพบว่าประชาชนที่ใช้บริการแล้ว ส่วนใหญ่จะกลับเข้ามาใช้บริการซ้ำอีก
 
นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า กิจกรรม Kick Off ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวในครั้งนี้ เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชน จาก 30 บาท รักษาทุกโรค สู่การเป็น 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ให้ประชาชนชาวเชียงราย สามารถเข้ารับบริการด้านสุขภาพได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งเข้ารับบริการได้ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ เอกชน คลินิก ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ (LAB) และร้านขายยาใกล้บ้าน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพ ควบคุม ป้องกันโรค รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสุขภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย เท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ และให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และคุณภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ ของตนเองและครอบครัวได้
 
ทั้งนี้ภายในงานยังมีการจัดบูธนิทรรศการ และการให้บริการประชาชน จำนวน 6 บูธ ประกอบด้วย 1. บูธนิทรรศการ ได้แก่ Provider ID (การยืนยันตัวตันผู้ให้บริการ) และ Health ID (การยืนยันตัวตนภาคประชาชน) 2. บูธนิทรรศการ Health Rider (บริการส่งยาถึงบ้าน) 3. บูธนิทรรศการ Telemedicine (การแพทย์ทางไกล) 4. บูธนิทรรศการ หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ (คลินิก, ร้านยาชุมชนอบอุ่น) 5. บูธนิทรรศการ Lab Anywhere (เจาะเลือด ตรวจแล็บ ที่คลินิกแล็บใกล้บ้าน) และ 6. บูธนิทรรศการ การตรวจวัดสมรรถภาพหลอดเลือดแดง จากภาคเอกชน โดยได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงาน และประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายจัดโครงการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขความพิการแต่กำเนิด

 

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 ณ ห้องประชุมประจวบ ภิรมย์ภักดี ชั้น 6 อาคารศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขความพิการแต่กำเนิด และความพิการจากอุบัติเหตุทั่วไป จากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก 

 

โดยสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิ พอ.สว. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี โดยมีนพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย รศ. ชุษณะ รุ่งปัจฉิม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ทีมแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมพิธี

 

หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว เป็นหน่วยแพทย์ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2512 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดหาแพทย์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือให้การรักษาพยาบาล ป้องกันโรค ส่งเสริม และฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ ในท้องถิ่นทุรกันดาร ที่มีอาการเจ็บป่วย แต่ไม่มีโอกาสได้รับการรักษาจากแพทย์หรือเข้ารับบริการทางการแพทย์ ซึงในครั้งนี้ หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว ได้จัดทำโครงการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขความพิการแต่กำเนิด และความพิการจากอุบัติเหตุทั่วไปจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก 
 
 
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสุขภาพจิตที่ดีขึ้น สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้ จนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
 
 
โดยครั้งนี้ได้ดำเนินโครงการในระหว่างวันที่ 20 – 22 มีนาคม 2567 ณ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยมีจำนวนผู้ป่วยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ที่ร่วมโครงการในครั้งนี้ จำนวน 46 ราย
ทั้งนี้สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิ พอ.สว. ได้จัดทำโครงการฯ ในปี 2567 ทั้งหมด 3 โรงพยาบาล ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันที่ 20 – 22 มีนาคม 2567 ณ โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ครั้งที่ 2 วันที่ 15 – 17 พฤษภาคม 2567 ณ โรงพยาบาลหนองคาย และครั้งที่ 3 วันที่ 7 – 9 สิงหาคม 2567 ณ โรงพยาบาลยะลา 
 
 
เพื่อให้ผู้ป่วยปากแหว่ง – เพดานโหว่ ผู้พิการจากอุบัติเหตุทั่วไป และผู้พิการจากไฟไหม้น้ำร้อนลวก ในท้องถิ่นทุรกันดาร ห่างไกล ได้รับการทำศัลยกรรมตกแต่ง แก้ไขความพิการ ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น มีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News