Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

เศรษฐกิจเชียงราย สองเครื่องยนต์ ‘ท่องเที่ยว-ชายแดน’ ผลักดัชนีเชื่อมั่นให้ยืนสูง

เชียงราย–ภาคเหนือ “เงยหน้ารับลมหนาวเศรษฐกิจ” ดัชนีเชื่อมั่นอนาคตภาคเหนือแตะ 73.5 แรงหนุน “คนละครึ่ง พลัส” จ่อดันกำลังซื้อ-ท่องเที่ยวไฮซีซัน ขณะภาพรวมไทยโต 2.4% ปี 2568 แต่ต้องจับตาความเสี่ยงปี 2569

เชียงราย, 1 พฤศจิกายน 2568 — ลมหนาวเที่ยวแรกแตะขอบดอยนางนอนในหุบเขาเชียงราย พร้อมข่าวดีจากส่วนกลางที่ส่งแรงกระเพื่อมถึงปลายน้ำ: ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (RSI) เดือนตุลาคม 2568 ของภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 73.5 สะท้อนมุมมอง 6 เดือนข้างหน้าที่ “ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” บนแรงหนุนสองขา—มาตรการ “คนละครึ่ง พลัส” ที่กำลังเดินเครื่องในไตรมาสสุดท้าย และ ฤดูท่องเที่ยว ที่เข้าสู่ช่วงพีกของปี นัยนี้มีความหมายกับเชียงรายโดยตรง เพราะจังหวัดปลายสุดแดนเหนือกำลังยืนอยู่ “หน้าเคาน์เตอร์โอกาส” ทั้งจากการท่องเที่ยว ธุรกิจบริการ ร้านค้ารายย่อย ไปจนถึงซัพพลายเชนเกษตรและโลจิสติกส์ชายแดน

ในมุมมหภาค กระทรวงการคลังคาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 โต 2.4% จากแรงกระตุ้นภาครัฐและการส่งออกที่คาดขยายตัว 10.0% ทว่า “ปีถัดไป” อาจไม่ราบรื่นเท่าเดิม เมื่อภาพรวมปี 2569 ถูกประเมินว่าจะ ชะลอมาที่ 2.0% สาเหตุหลักจากการเร่งส่งออกในปีนี้เพื่อหลบผลกระทบภาษีการค้าของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ชี้ว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างปี 2569 มีแนวโน้ม ‘ทรงตัว’ งบลงทุนรัฐลดลงและภาคเอกชนยังเปราะบาง—สัญญาณที่ผู้ประกอบการเชียงรายควรรู้ทันและปรับแผน

ภาพใหญ่ของประเทศ โตได้…แต่ไม่ง่าย

สัญญาณข้างหน้า: กระทรวงการคลังประเมินปี 2568 ไทยขยายตัว 2.4% โดยมี “โครงการคนละครึ่ง พลัส” กับมาตรการเพิ่มวงเงินสวัสดิการรัฐเป็นแรงขับการบริโภคเอกชน (คาดโต 3.0%) และการส่งออกมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 10.0% ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ (คิดเป็น 3.5% ของ GDP) และเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี -0.2% โดยได้รับอานิสงส์ต้นทุนพลังงานที่ลดลง

จุดห่วงปี 2569: จีดีพีชะลอที่ 2.0% ส่งออกหดตัว -1.5% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกลับสู่แดนบวกแถว 0.5% นโยบาย “Quick Big Win” ของรัฐบาล—จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดหนี้ครัวเรือน หนุน SMEs เพิ่มออม และลงทุนเพื่ออนาคต—จึงถูกคาดหวังให้ยื้อแรงเฉื่อยเศรษฐกิจและสร้างฐานใหม่ระยะยาว

คำเตือนเชิงนโยบาย: การค้าโลกที่ผันผวน มาตรการภาษีสหรัฐฯ ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ และหนี้ครัวเรือนยังสูง คือชุดความเสี่ยงที่อาจสั่นความเชื่อมั่นธุรกิจ—หากลามสู่ต้นทุนการเงินและพฤติกรรมบริโภค

พื้นที่เศรษฐกิจภาคเหนือ ดัชนี 73.5 “โซนอ่อนไปทางดี” ท่องเที่ยว–อุตสาหกรรมเครื่องยนต์คู่

ตัวเลขชวนคิด RSI เดือน ต.ค. 2568

  • ภาคเหนือ 73.5: ได้แรงหนุนจาก บริการ–ท่องเที่ยว และ อุตสาหกรรม ในช่วงไฮซีซัน กอปรกับมาตรการรัฐ
  • ภาคตะวันออก 75.5 / EEC 78.7: สะท้อนบทเรียนว่าพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐาน–การลงทุนต่อเนื่อง มีความเชื่อมั่นสูงกว่าค่าเฉลี่ยประเทศ
  • กทม.–ปริมณฑล 63.8: ยังต่ำกว่าภูมิภาคอื่น ชี้ว่าการฟื้นตัว “ไม่เสมอหน้า” และกิจกรรมบางส่วนยังรอผลลัพธ์มาตรการ

ความหมายต่อภาคเหนือ:

  1. การท่องเที่ยวกลับมาเป็น “เสาหลักรายได้กระจายตัวสูง” ตั้งแต่ที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ งานเทศกาลท้องถิ่น ไปจนถึงสินค้าหัตถกรรม—ห่วงโซ่คุณค่าไหลถึงชุมชนรวดเร็ว
  2. อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร–เครื่องดื่ม–ยางพารา–อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นส่วน มีแนวโน้มปรับกำลังผลิตตามคำสั่งซื้อช่วงปลายปีและต้นปีหน้า
  3. กำลังซื้อชาวบ้าน–แรงงานกลับบ้าน ช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน สนับสนุนเม็ดเงินหมุนเวียนท้องถิ่นอย่างเห็นรูปธรรม

แต่ก็ยังมีโจทย์ท้าทาย: ความแปรปรวนสภาพอากาศที่กระทบผลผลิตเกษตร ค่าครองชีพในเมืองท่องเที่ยว และการขนส่งข้ามแดนที่ต้องลุ้นกับกฎระเบียบประเทศเพื่อนบ้านเมื่อภูมิรัฐศาสตร์ “ไหลแรง”

โฟกัสเชียงราย เมืองชายแดน–เมืองท่องเที่ยว “สองเครื่องยนต์” ผลัก RSI ภาคเหนือให้ยืนสูง

เชียงรายกำลังอยู่ใน จุดสมดุลใหม่ ของบทบาทสองประการ—เมืองท่องเที่ยวธรรมชาติ–วัฒนธรรม และเมืองโลจิสติกส์ชายแดนฝั่งแม่สาย–เชียงแสน–เชียงของ—ที่โอบรับฤดูกาลท่องเที่ยวและความต้องการบริโภคปลายปีพอดิบพอดี

1) ไฮซีซันท่องเที่ยว ฤดูขายประสบการณ์–ฤดูเก็บรายได้ฐานราก

  • ฤดูหนาว = ฤดูงาน: เทศกาลแสงสีริมโขง งานกาแฟ–ชา–เกษตร และทริปสายธรรมชาติ “กอดหมอก” ทำให้ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวที่พัก–อาหาร–เดินทางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • คนละครึ่ง พลัส = คูณแรงในเมืองท่องเที่ยว: มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในไตรมาส 4 ช่วย “ปิดช่องว่างกำลังซื้อ” ของครัวเรือนท้องถิ่นและนักเดินทาง—ร้านอาหารรายย่อยและผู้ค้าชุมชนมีโอกาสจับจ่ายเฉลี่ยต่อใบเสร็จสูงขึ้น
  • SMEs–OTOP–หัตถกรรมท้องถิ่น มีแนวโน้มได้ประโยชน์ทันที เมื่อดีมานด์ของที่ระลึก–ของฝากขยับตามจำนวนนักท่องเที่ยว การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลชำระเงินและการตลาดออนไลน์ช่วงแคมเปญ จะช่วยขยายวงเงินสะพัดได้ดีกว่าช่วงปกติ

ผลลัพธ์คาดหวัง รายได้ท่องเที่ยว “ไหลลึก” ลงสู่ชุมชน—ตั้งแต่ผู้ให้บริการที่พักระดับครอบครัว ร้านอาหารท้องถิ่น คนขับรถรับจ้าง ไปจนถึงเกษตรแปลงเล็กที่ขายผลผลิตเข้าสายโภชนาการ–คาเฟ่

2) เศรษฐกิจชายแดน แรงเสริมเมื่อค้าชายแดนฟื้นตัว

แม้ข้อมูลปริมาณการค้ารายด่านล่าสุดไม่ได้ระบุในชุดข้อมูลนี้ แต่แรงส่งทั่วประเทศจากการส่งออกปี 2568 ที่กระทรวงการคลังคาดว่าจะขยายตัวสูง 10.0% ย่อมเอื้อให้ โซ่โลจิสติกส์เชียงราย—ทั้งด่านแม่สาย ด่านเชียงของ และท่าเรือเชียงแสน—รับโอกาสต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยมีความได้เปรียบด้านเกษตรแปรรูป บรรจุภัณฑ์ และสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้านและจีนตอนใต้

ประเด็นต้องกางแผน ความผันผวนกฎระเบียบข้ามแดนและต้นทุนขนส่งที่อยู่ในระดับสูงทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้อง “ล็อกต้นทุน” ผ่านสัญญาระยะกลาง–ยาว และประสานเครือข่ายโลจิสติกส์ให้ยืดหยุ่นต่อข้อจำกัดหน้าด่าน

3) ตลาดก่อสร้าง–อสังหาริมทรัพย์เชียงราย อ่านสัญญาณ “ทรงตัว” ก่อนวางเงินลงทุน

บทวิเคราะห์ของ SCB EIC ที่ประเมินว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างปี 2569 “ทรงตัว” ราว 1.41 ล้านล้านบาท และการลงทุนภาครัฐลดแรงจากงบปี 2569 ส่งสารสำคัญถึงผู้พัฒนาโครงการในเชียงราย

  • ภาครัฐยังเดินหน้ามหาโปรเจกต์ แต่ความเร็วการเบิกจ่าย–เปิดประมูลอาจไม่เร่งเท่าที่หวัง
  • เอกชนที่อยู่อาศัยชะลอ ตามภาพอสังหาฯ ประเทศและค่าแรงที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากแรงงานข้ามชาติหดตัว
  • มาตรฐานวัสดุ–งานโครงสร้างถูกยกระดับ หลังเหตุแผ่นดินไหวในหลายพื้นที่—เพิ่มต้นทุนและเวลาควบคุมคุณภาพ

คำแนะนำเชิงกลยุทธ์สำหรับท้องถิ่น

  1. บริหาร Backlog ให้ยืดหยุ่น ปรับสัดส่วนงานรัฐ–เอกชน ลดความเสี่ยงจาก “ลูกค้าก้อนเดียว”
  2. ทำสัญญาซื้อวัสดุล่วงหน้า กับคู่ค้าคุณภาพ เพื่อคุมต้นทุนและลดความผันผวนราคา
  3. จับมือพันธมิตรต่างชาติ/เทคโนโลยี ยกมาตรฐานความปลอดภัย–ผลิตภาพ และใช้เป็น “แต้มความเชื่อมั่น” ในตลาด
  4. ตั้งเป้าการลด Emission และใช้วัสดุเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม—สอดรับทั้งข้อกำหนดใหม่และความต้องการลูกค้ารุ่นใหม่

4) โอกาส–ความเสี่ยงเฉพาะจังหวัด ทำการบ้านเชิงรุก

  • โอกาสฝั่งท่องเที่ยว: เชื่อม “สุขภาพ–นิเวศ–วัฒนธรรม” ให้เป็นแพ็กเกจเดียว เช่น เส้นทางวิ่ง–ปั่น–เดินป่า ตลาดชุมชน–คาเฟ่กาแฟ–ชา พร้อมพื้นที่กิจกรรมครอบครัว ช่วยยืดเวลาพำนักและเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริป
  • โอกาสฝั่งชายแดน: ต่อยอดคลังสินค้าเย็น–เกษตรแปรรูปคุณภาพสูง รองรับคำสั่งซื้อปลายปี–ตรุษจีน พร้อมมาตรฐานตรวจสอบย้อนกลับ
  • ความเสี่ยงสำคัญ: สภาพอากาศสุดขั้วกระทบเกษตร, ราคาพลังงานและค่าขนส่ง, และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ–การค้าโลก
  • มาตรการกันชนที่ใช้ได้ทันที: ผู้ประกอบการรายย่อยใช้สิทธิ “คนละครึ่ง พลัส” และโปรโมชันร่วมเอกชนเพื่อดึงทราฟฟิกหน้าร้าน, เชื่อมดีลผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล–อีเพย์เมนต์, ทำประกันภัยธุรกิจ–ทรัพย์สินที่ครอบคลุมภัยธรรมชาติ และจับสัญญาณเตือนจากระบบต้นแบบ “ดัชนีหมอกควัน–PM2.5” เพื่อออกแบบกิจกรรมกลางแจ้งอย่างยืดหยุ่น

สะพานเชื่อม “นโยบาย–พื้นที่” ทำอย่างไรให้เม็ดเงินเข้าถึงชุมชนเชียงรายเร็วที่สุด

  • เร่ง “แปลงนโยบายเป็นแคมเปญพื้นที่”
    ภาคเอกชน–ชุมชน ควรจับมือกับหน่วยงานท้องถิ่น ออกแบบกิจกรรมใช้สิทธิคนละครึ่ง พลัสที่
  • ชัดเวลา–ชัดสถานที่–ชัดของดี เช่น ถนนคนเดินมิติใหม่ เมนูวัตถุดิบท้องถิ่น ซุ้มชิม–ช็อป–แชร์ ให้สิทธิประโยชน์ชัดเจนและตรวจง่าย
  • เชื่อม “โลจิสติกส์–ท่องเที่ยว”
    พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวที่ผูกกับจุดขนส่งชายแดน: นักเดินทางที่เข้า–ออกด่าน สามารถถูกดึงเข้ามาใช้ค่าใช้จ่ายเพิ่มในเมือง ผ่านแพ็กเกจคาเฟ่–มิวเซียม–ของฝาก และบริการสปา–สุขภาพ–แอดเวนเจอร์ระยะสั้น
  • ยกระดับอีโคซิสเต็มดิจิทัล
    สนับสนุนผู้ค้าใช้ QR พร้อมเพย์–บัญชีรับเงินธุรกิจ–เครื่องออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มความน่าเชื่อถือ และทำให้ข้อมูลยอดขาย “สะท้อนจริง” ต่อการวางแผนสต็อกและขอสินเชื่อ

ตัวเลขชวนคิด” เพื่อการตัดสินใจของเชียงราย

  • 73.5 = RSI ภาคเหนือเดือนตุลาคม 2568 — โซนบวกชัดใน 6 เดือนข้างหน้า
  • 2.4% = จีดีพีไทยปี 2568 (คาดการณ์) — เปิดช่องทำรายได้ปลายปี-ต้นปี
  • 10.0% = การส่งออกทั้งปีกลับมาโตแรง — โอกาสต่อซัพพลายเชนชายแดน
  • -0.2% → 0.5% = เงินเฟ้อ 2568→2569 — ปีหน้าแรงกดดันค่าใช้จ่ายอาจยกหัว
  • 1.41 ล้านล้านบาท = มูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้าง 2569 (คาด “ทรงตัว”) — บอกให้วางแผนลงทุนแบบคุมความเสี่ยง

ภาคบริการ–ผู้ประกอบการรายย่อยจะ “เกียร์ออโต้” ได้อย่างไร

  1. ดีลราคาล่วงหน้า กับซัพพลายเออร์ (เนื้อ–ผัก–กาแฟ–เบเกอรี่–น้ำมันปรุงอาหาร) ในกรอบ 3–4 เดือน เพื่อคุมมาร์จินช่วงพีก
  2. แพ็กเกจประสบการณ์ มากกว่า “ลดราคา” เช่น เซ็ตอาหารท้องถิ่น + เวิร์กช็อป + มุมถ่ายรูป + ส่วนลดร้านคู่ค้า เพื่อเพิ่มมูลค่าต่อบิล
  3. เวลาทำการยืดหยุ่น สอดรับเที่ยวบิน–รถทัวร์–ด่านชายแดน เปิดเช้าขึ้น/ปิดดึกขึ้นในช่วงสัปดาห์พีก
  4. ข้อมูลลูกค้า = ทองคำ: เก็บอีเมล/ไลน์ OA จากลูกค้าหน้าร้าน พร้อมคูปองคัมแบ็กไตรมาส 1/2569 เพื่อลดหลุมยอดขายหลังเทศกาล
  5. มาตรฐานสะอาด–ปลอดภัย–ยั่งยืน สื่อสารชัด (ขยะเปียกลดเหลือศูนย์/ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น/ลดพลาสติกใช้ครั้งเดียว) ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวคุณภาพ

หน้าต่างแห่งโอกาส” ของเชียงรายในอีก 6 เดือน

ดัชนี RSI ที่ 73.5 ไม่ได้แปลว่าเศรษฐกิจจะพุ่งแรงในชั่วข้ามคืน แต่มันบอกเราว่า โอกาสมีมากกว่าความเสี่ยง ในช่วงครึ่งปีข้างหน้า หากเชียงราย แปลงมาตรการกระตุ้น ให้เป็นกิจกรรมพื้นที่ที่เข้าถึงผู้ค้า–ชุมชนจริง ใช้ฤดูท่องเที่ยวเป็น “เครื่องเร่งการไหลเวียน” ของเงิน และยกระดับมาตรฐานบริการให้สอดรับผู้บริโภคยุคใหม่ เม็ดเงินจะไหลลึกและยั่งยืนกว่าแค่ “ภาพคนแน่นงาน”

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้อง ไม่หลงลืมภาพปี 2569 ที่ท้าทายกว่า—จากการชะลอของจีดีพีและการหดตัวของส่งออกตามวัฏจักร—จึงควรเตรียมกันชนด้านเงินสด สัญญาวัสดุ–แรงงาน และผลิตภัณฑ์–ตลาดที่ยืดหยุ่นไว้แต่เนิ่น ๆ

สารที่ควรถูกตอกย้ำ ถ้าภาคเอกชน–ชุมชน–ท้องถิ่นจับมือกัน “ออกแบบเศรษฐกิจหน้าร้าน” ให้สอดรับมาตรการใหญ่ของรัฐ เชียงรายจะไม่เพียง “รับลมหนาวเศรษฐกิจ” แต่จะสามารถ ชี้ทางลม ให้ไหลผ่านชุมชนอย่างเป็นธรรม สร้างรายได้ กระจายโอกาส และวางฐานใหม่สำหรับปีหน้าที่ท้าทายกว่า

เค้าโครงข้อมูลสำคัญที่ใช้ประกอบการรายงาน

  • ประมาณการเศรษฐกิจไทย 2568–2569 (ต.ค. 2568/ต.ค. 2569f)
    • จีดีพี 2568 = 2.4%, 2569f = 2.0%
    • บริโภคเอกชน 2568 = 3.0%, 2569f = 2.4%
    • เงินเฟ้อทั่วไป 2568 = -0.2%, 2569f = 0.5%
    • ส่งออกสินค้าและบริการ (Real term) 2568 = 7.6%, 2569f = -1.7%
    • ดุลบัญชีเดินสะพัด 2568 = 20.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ, 2569f = 15.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
      (ตัวเลขตามเอกสารอินโฟกราฟิกของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังที่เผยแพร่ ณ ตุลาคม 2568/2569f)
  • ดัชนี RSI ต.ค. 2568
    • ภาคเหนือ 73.5 | ตะวันออก 75.5 | EEC 78.7 | อีสาน 73.9 | ตะวันตก 72.8 | ใต้ 72.7 | ภาคกลาง 68.5 | กทม.–ปริมณฑล 63.8
    • องค์ประกอบที่หนุนภาคเหนือ บริการ–ท่องเที่ยว และ อุตสาหกรรม บนแรงส่งไฮซีซันและมาตรการรัฐ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง (สศค.)
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News