สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ออกแถลงการณ์ร่วมแสดงความห่วงใยสูงสุดต่อความปลอดภัยของบุคลากรสื่อมวลชนที่รายงานข่าวความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ประเทศไทย,14 ธันวาคม 2568 – ข้อห่วงใยจากองค์กรวิชาชีพสู่มาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด พร้อมเสนอแนะแนวทางเข้มงวดให้กองบรรณาธิการประเมินสถานการณ์ภาพรวมก่อนมอบหมายงาน และเน้นย้ำใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้จากหน่วยงานราชการทดแทนการลงพื้นที่ด้วยตนเองในกรณีที่จำเป็น เพื่อให้การรายงานข่าวเป็นไปอย่างรับผิดชอบ ควบคู่ไปกับความมั่นคงของประเทศ องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนที่สำคัญ 3 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย , สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย , และ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ด่วนภายใต้หัวข้อ “ข้อห่วงใยสื่อมวลชน ในการลงพื้นที่รายงานข่าวที่มีความเสี่ยง” ซึ่งสะท้อนถึงความตระหนักต่อสถานการณ์ที่มีความอ่อนไหวและเสี่ยงอันตรายบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสวัสดิภาพของผู้สื่อข่าว ช่างภาพ และบุคลากรสื่อมวลชนทุกคน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวสถานการณ์ดังกล่าว องค์กรวิชาชีพเหล่านี้ได้กล่าวชื่นชมการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งและมุ่งมั่นในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ภายใต้สถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความอ่อนไหว
อย่างไรก็ตาม เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของบุคลากรสื่อมวลชน องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนจึงได้เสนอแนะแนวทางการทำงานต่อสื่อมวลชนภาคสนามและกองบรรณาธิการ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลักและ 1 แนวทางทดแทนที่สำคัญ:
- การประเมินสถานการณ์ภาพรวมก่อนการมอบหมายงาน (Editor’s Responsibility)
องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้ขอให้ กองบรรณาธิการและผู้บังคับบัญชา ดำเนินการตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ภาพรวมอย่างรอบด้านตลอดเวลา โดยต้องอาศัยข้อมูลจากหลายแหล่งข่าว/ข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อนำมาช่วยวิเคราะห์ความจำเป็นในการส่งทีมข่าวเข้าพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
- เหตุผลเชิงนโยบาย: แถลงการณ์ระบุอย่างชัดเจนว่า ผู้สื่อข่าวภาคสนามอาจเห็นสถานการณ์ในมุมมองเฉพาะจุดเท่านั้น ขณะที่การตัดสินใจเชิงนโยบาย (Policy Decision) ที่จะส่งบุคลากรเข้าไปในพื้นที่ ควรพิจารณาจากภาพรวมของสถานการณ์ทั้งหมด ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการบริหารจัดการข่าวในสถานการณ์ความมั่นคง
- การให้ความสำคัญกับพื้นที่ปลอดภัยเป็นลำดับแรก (Field Safety First)
หลักการพื้นฐานที่องค์กรสื่อย้ำเตือนคือ การคำนึงถึงสวัสดิภาพของสื่อมวลชนภาคสนามเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มอบหมายให้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยของชีวิตและยังคงมีการปะทะ หรือมีการใช้อาวุธหนัก
เนื้อหาแนวทางปฏิบัติทางเลือกและการคำนึงถึงความมั่นคง
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ แสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของผู้สื่อข่าว ช่างภาพ และบุคลากรสื่อมวลชนทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมขอชื่นชมการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง มุ่งมั่นนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนภายใต้สถานการณ์ที่มีความอ่อนไหวและ
อย่างไรก็ตาม เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของบุคลากรสื่อมวลชน องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนขอเสนอแนะแนวทางการทำงานต่อสื่อมวลชนภาคสนามและกองบรรณาธิการ ดังต่อไปนี้
- การประเมินสถานการณ์ภาพรวมก่อนการมอบหมายงาน : ขอให้กองบรรณาธิการและผู้บังคับบัญชา ตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ภาพรวมอย่างรอบด้านตลอดเวลา โดยอาศัยข้อมูลจากหลายแหล่งข่าว/ข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อช่วยวิเคราะห์ความจำเป็นในการส่งทีมข่าวเข้าพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้สื่อข่าวภาคสนามอาจเห็นสถานการณ์ในมุมเฉพาะจุด ขณะที่การตัดสินใจเชิงนโยบายควรพิจารณาจากภาพรวมของสถานการณ์ทั้งหมด
- การให้ความสำคัญกับพื้นที่ปลอดภัยเป็นลำดับแรก : คำนึงถึงสวัสดิภาพของสื่อมวลชนภาคสนาม กรณีมอบหมายให้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยของชีวิตที่ยังคงมีการปะทะ ใช้อาวุธหนักในสถานการณ์
ในกรณีที่จำเป็นต้องรายงานเหตุการณ์จากพื้นที่เสี่ยง ขอแนะนำให้ใช้ข้อมูล ภาพ หรือคลิปวิดีโอจากหน่วยงานราชการหรือเจ้าหน้าที่เชื่อถือได้ เป็นทางเลือกทดแทนการเข้าพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงและการสูญเสียต่อบุคลากรสื่อมวลชน
ขณะเดียวกัน ในสถานการณ์ด้านความมั่นคงครั้งนี้ อยากให้ผู้ปฏิบัติงานภาคสนามทุกคน รวมทั้งบรรณาธิการให้ความสำคัญกับการตรวจสอบข่าวและภาพที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ทางการทหารรวมถึงสถานที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน ก่อนเผยแพร่ภาพ เพื่อคำนึงถึงเหตุผลทางด้านความมั่นคง
ทั้งนี้ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานด้านสื่อมวลชนคือหัวใจสำคัญควบคู่ไปกับเสรีภาพในการรายงานข่าว ที่ต้องเป็นไปอย่างรับผิดชอบ รอบคอบ และสอดคล้องกับจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชน
การจัดการความเสี่ยงในสถานการณ์ความขัดแย้ง
แถลงการณ์ร่วมของทั้ง 3 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการยกระดับมาตรฐานการจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ในงานข่าวสถานการณ์ความขัดแย้งของประเทศไทย
- การยกระดับบทบาทกองบรรณาธิการ:
แถลงการณ์ได้โอนถ่ายอำนาจและความรับผิดชอบในการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจากผู้สื่อข่าวภาคสนาม ไปยัง “กองบรรณาธิการ” ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจเชิงนโยบาย (Policy Decision) ที่สามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ “ภาพรวมของสถานการณ์ทั้งหมด” จากหลายแหล่งที่เชื่อถือได้ การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปตามหลักการสากลในการรายงานข่าวสงครามหรือความขัดแย้ง ซึ่งถือว่าความปลอดภัยของบุคลากรคือต้นทุนที่ไม่อาจประเมินค่าได้
- สื่อสารมวลชนกับความมั่นคงแห่งชาติ:
การเน้นย้ำให้ตรวจสอบภาพถ่ายสถานที่ทางการทหารและที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนอย่างละเอียดก่อนเผยแพร่ สะท้อนถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในฐานะ “ผู้รักษาความรับผิดชอบ” ต่อความมั่นคงแห่งชาติในช่วงเวลาวิกฤต ในขณะที่ต้องธำรงไว้ซึ่งเสรีภาพในการรายงานข่าว ซึ่งเป็นบทบาทที่ต้องสร้างสมดุลอย่างชาญฉลาดตามหลักจริยธรรมวิชาชีพ
- การใช้ข้อมูลทดแทนที่เชื่อถือได้:
การแนะนำให้ใช้ข้อมูลจากหน่วยงานราชการหรือเจ้าหน้าที่ที่เชื่อถือได้ในกรณีจำเป็น เป็นการยอมรับกลไกความร่วมมือระหว่างสื่อและหน่วยงานความมั่นคง เพื่อให้ประชาชนยังได้รับข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่ลดความเสี่ยงของบุคลากรสื่อ การใช้แหล่งข้อมูลเหล่านี้ต้องถูกกำกับดูแลอย่างเข้มงวดโดยบรรณาธิการ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่นำมาใช้นั้นเป็น ข้อมูลที่เป็นกลาง และมิได้เป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อ
แถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติ (Guideline) ที่ชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับองค์กรสื่อในประเทศไทย เพื่อให้สามารถรายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบ การให้ความสำคัญกับ “ความปลอดภัยควบคู่ไปกับเสรีภาพในการรายงานข่าวที่ต้องมีความรับผิดชอบ” เป็นการยกระดับวิชาชีพสื่อมวลชนไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากลในการจัดการสถานการณ์ความขัดแย้ง พร้อมทั้งช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียบุคลากรอันเนื่องมาจากความขัดแย้งในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงมีความอ่อนไหว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (Thai Journalists Association – TJA)
- สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย (The Thai Broadcast Journalists Association – TBJA)
- สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (Online News Providers Association – SONP)





















