สทนช. นำคณะผู้แทนจีนศึกษาพื้นที่น้ำท่วมเชียงราย ร่วมมือพัฒนาโครงการแม่น้ำสาย-รวกแก้ปัญหาน้ำข้ามพรมแดน
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำโดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. พร้อมด้วย นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และคณะผู้แทนจากประเทศจีน ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่จังหวัดเชียงราย โดยมีเป้าหมายเพื่อหารือการดำเนินโครงการแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก เพื่อ แก้ปัญหาน้ำข้ามพรมแดน ระหว่างไทยและเมียนมา
ความร่วมมือในการแก้ปัญหาน้ำท่วมข้ามพรมแดน
แม่น้ำสายและแม่น้ำรวกเป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและเมียนมา ซึ่งในช่วงฤดูฝนจะประสบปัญหาน้ำท่วมชุมชนทั้งสองฝั่ง แต่ในช่วงฤดูแล้งจะประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตรกรรม โดย สทนช. ได้ดำเนินโครงการวิจัยเพื่อบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำดังกล่าว โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation: MLC)
ดร.สุรสีห์ เปิดเผยว่า ในปี 2568 สทนช. ได้เสนอขอรับงบประมาณเพิ่มเติมจากกองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง เพื่อนำมาพัฒนาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนอุทกภัยล่วงหน้า รวมถึงการปรับตัวของชุมชนเมืองให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ศึกษาดูงานพื้นที่จริง เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ
การศึกษาดูงานในครั้งนี้ คณะผู้แทนได้เยี่ยมชมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เช่น
- อำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมบ่อย
- สถานีสูบน้ำดิบ และ สะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1
- สบรวก สามเหลี่ยมทองคำ ที่อำเภอเชียงแสน
นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมสถานีวัดระดับน้ำแม่น้ำโขง เพื่อศึกษาและแลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการน้ำข้ามพรมแดน รวมถึงการปรับปรุงระบบเตือนภัยล่วงหน้า โดยคณะผู้แทนจากประเทศจีนและเมียนมาได้แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและประสบการณ์ในการเฝ้าระวังและจัดการอุทกภัย
พัฒนาการจัดการน้ำเพื่อความยั่งยืนของภูมิภาค
สทนช. ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อหารือกับประเทศสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยมีการถอดบทเรียนจากโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้างในปีที่ผ่านมา เช่น
- โครงการสร้างเครือข่ายผู้นำเยาวชนด้านน้ำ ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับภูมิภาค
- โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมอัจฉริยะด้านน้ำ เพื่อรับมือกับปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำ โดยเน้นการเพิ่มผลผลิตและรายได้ให้แก่เกษตรกร
ทั้งสองโครงการนี้ดำเนินการร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมสตอกโฮล์ม (SEI) และสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมปีนี้
ยกระดับความสามารถของชุมชนในการรับมือกับอุทกภัย
โครงการพัฒนาการจัดการน้ำข้ามพรมแดนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสามารถของชุมชนในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมและภัยแล้ง โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการแจ้งเตือนภัย และการแบ่งปันข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
โครงการแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวกคืออะไร?
โครงการนี้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา โดยใช้การวิจัยและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำสทนช. มีบทบาทอะไรในโครงการนี้?
สทนช. เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการดำเนินโครงการร่วมกับประเทศสมาชิกแม่โขง – ล้านช้างความร่วมมือระหว่างไทยและจีนมีอะไรบ้าง?
การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้าผลกระทบของโครงการนี้ต่อชุมชนคืออะไร?
ชุมชนจะได้รับประโยชน์จากการลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมและภัยแล้ง และสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโครงการนี้จะดำเนินการในพื้นที่ใดบ้าง?
พื้นที่ที่เน้นคือแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก รวมถึงพื้นที่เกษตรและชุมชนเมืองบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย