Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

คืนโอกาสให้เด็กเชียงราย! ม.ราชภัฏฯ-ม.จีน ร่วมฟื้นฟูโรงเรียนหลังน้ำท่วม

น้ำใจจากจีนถึงเชียงราย ม.ราชภัฏเชียงรายผนึกกำลัง Pu’er University ฟื้นฟูการศึกษา 13 โรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมด้วย ‘สื่อการเรียนรู้ผ่านการเล่น’

เชียงราย, 4 สิงหาคม 2568 – รอยยิ้มหลังวิกฤตจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูจากมหาอุทกภัย แม้เวลาจะผ่านจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ที่ถาโถมเข้าใส่จังหวัดเชียงรายในปี 2567 ไปเกือบปีแล้ว แต่ภาพความเสียหาย โดยเฉพาะในภาคการศึกษายังคงชัดเจน โรงเรียนหลายแห่งต้องสูญเสียทั้งอุปกรณ์ ห้องเรียน สื่อการสอน และความมั่นใจในอนาคตของเด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ อย่างไรก็ตาม วันนี้ ความหวังได้หวนคืนสู่ห้องเรียนอีกครั้ง เมื่อ “มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย” (มร.ชร.) ได้จับมือกับ “Pu’er University” สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งมอบ “สื่อการเรียนรู้ผ่านการเล่น” สู่โรงเรียน 13 แห่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ให้เด็กๆ ได้กลับมาสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพ

ภารกิจฟื้นฟูการศึกษาหลังน้ำลด

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมพญามังราย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 (สพป.เชียงราย เขต 1) ได้มีพิธีส่งมอบชุดสื่อการเรียนรู้โดยมีนายนิคม อัสสรัตนะสุขิน ผู้เชี่ยวชาญ และ ดร.ธีรวัฒน์ วังมณี ผู้อำนวยการกองพัฒนานักศึกษา พร้อมตัวแทนนักศึกษา จาก มร.ชร. ส่งมอบให้กับนายมรกต อนุเคราะห์ ผู้อำนวยการ สพป.เชียงราย เขต 1 เพื่อนำไปจัดสรรแก่โรงเรียน 13 แห่ง อันได้แก่ โรงเรียนผาขวางวิทยา, บ้านห้วยทรายขาว, บ้านน้ำลัด, บ้านเวียงกือนา, บ้านป่ายางหลวง, ห้วยพลูพิทยา, บ้านโป่งน้ำตก, บ้านป่ารวก (คุรุราษฎร์สงเคราะห์), ชุมชนบ้านแม่ข้าวต้มหลวง, บ้านผาเสริฐ, บ้านป่าสักไก่, บ้านถ้ำผาตอง และบ้านนางแลใน

เด็กนักเรียนและครูจากโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบต่างซาบซึ้งในน้ำใจและความมุ่งมั่นของทั้งสองสถาบันอุดมศึกษาที่เล็งเห็นถึงหัวใจของการฟื้นฟู นั่นคือ “การคืนโอกาสการเรียนรู้ที่มีคุณภาพให้กับเด็กทุกคน” ซึ่งเหนือกว่าการบริจาคเพียงเพื่อบรรเทาทุกข์ระยะสั้น แต่เป็นการเสริมสร้างรากฐานทางการศึกษาในระยะยาว

สื่อการเรียนรู้ผ่านการเล่น นวัตกรรมแห่งความหวัง

หัวใจของการสนับสนุนในครั้งนี้อยู่ที่ “Learning Through Play” หรือ “การเรียนรู้ผ่านการเล่น” ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างทักษะศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางสังคม อารมณ์ การคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร หรือการทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ การเล่นยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลของเด็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ เพิ่มพลังบวกและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับพวกเขาในการกลับคืนสู่การเรียนรู้

ตัวแทนครูในพิธีส่งมอบได้เล่าว่า “ตั้งแต่เกิดอุทกภัย เด็กๆ ขาดอุปกรณ์และของเล่นที่ส่งเสริมจินตนาการ ครูเองก็รู้สึกขาดแรงบันดาลใจในการจัดกิจกรรม เมื่อได้รับสื่อการเรียนรู้ชุดใหม่ ทุกคนต่างตื่นเต้น เด็กๆ กลับมาสนุกกับการเรียนมากขึ้น เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาแล้ว รู้สึกได้ถึงพลังบวกที่ค่อยๆ กลับคืนมา”

บทพิสูจน์พลังความร่วมมือไทย-จีน

การร่วมมือกันระหว่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และ Pu’er University ไม่ใช่เพียงแค่การบริจาคเพื่อการกุศล แต่ยังเป็นสะพานสำคัญของการสร้างสัมพันธ์ทางวิชาการและวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน ทั้งสองสถาบันได้นำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาผสมผสานกัน โดย มร.ชร. เข้าใจลึกซึ้งถึงบริบทชุมชน และ Pu’er University มีศักยภาพในการสนับสนุนสื่อการเรียนรู้รุ่นใหม่ การจับมือกันในครั้งนี้จึงทำให้ความช่วยเหลือมีความตรงจุดและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ไม่เพียงแค่นั้น โครงการนี้ยังเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งด้านนวัตกรรมการศึกษา การพัฒนาเด็กและเยาวชน รวมถึงการขยายเครือข่ายเพื่อรองรับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อเด็กเชียงรายและสังคม

แม้สื่อการเรียนรู้แต่ละชิ้นอาจดูเรียบง่าย แต่เมื่อรวมกันแล้วกลับมีอานุภาพมหาศาลในการเปลี่ยนชีวิตเด็กหลายร้อยคนให้กลับมามีไฟในการเรียนรู้ ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงหลังวิกฤต และพร้อมเผชิญความท้าทายใหม่ๆ ข้อมูลจาก สพป.เชียงราย เขต 1 ระบุว่า เด็กนักเรียนใน 13 โรงเรียนที่ได้รับสื่อการสอนในครั้งนี้กว่า 1,400 คนจะได้รับประโยชน์โดยตรง ขณะที่ครูผู้สอนสามารถนำเครื่องมือดังกล่าวไปต่อยอดพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยขึ้นได้

ฟื้นฟู-คืนโอกาส-สร้างอนาคต

สิ่งที่โครงการนี้สะท้อนออกมาชัดเจนคือ บทบาทของสถาบันอุดมศึกษาในฐานะ “ตัวกลาง” ของการฟื้นฟูทางสังคม ที่สามารถขับเคลื่อนความร่วมมือจากนานาชาติมาสู่ชุมชน โดยไม่เพียงเติมเต็มทรัพยากรที่ขาดแคลน แต่ยังปลุกพลังและความหวังให้กับผู้ได้รับผลกระทบ การนำ “Learning Through Play” มาเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาการศึกษาในภาวะวิกฤต ยังเป็นโมเดลตัวอย่างที่ขยายผลต่อไปได้ในพื้นที่อื่นๆ ที่ประสบภัย

ไม่เพียงแค่เด็กเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ ครูและชุมชนก็กลับมามีความมั่นใจในศักยภาพของตนเอง และมีส่วนร่วมในการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีความหมาย ซึ่งจะกลายเป็นต้นทุนสำคัญสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเชียงรายต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 (สพป.เชียงราย เขต 1)

     

  • มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

  • มหาวิทยาลัย Pu’er University สาธารณรัฐประชาชนจีน

  • ข้อมูลข่าวจากสื่อประชาสัมพันธ์ สพป.เชียงราย เขต 1

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สทนช. จับมือจีนพัฒนาแม่น้ำสาย-รวก ลดปัญหาน้ำท่วม

สทนช. นำคณะผู้แทนจีนศึกษาพื้นที่น้ำท่วมเชียงราย ร่วมมือพัฒนาโครงการแม่น้ำสาย-รวกแก้ปัญหาน้ำข้ามพรมแดน

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำโดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. พร้อมด้วย นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และคณะผู้แทนจากประเทศจีน ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่จังหวัดเชียงราย โดยมีเป้าหมายเพื่อหารือการดำเนินโครงการแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก เพื่อ แก้ปัญหาน้ำข้ามพรมแดน ระหว่างไทยและเมียนมา

ความร่วมมือในการแก้ปัญหาน้ำท่วมข้ามพรมแดน

แม่น้ำสายและแม่น้ำรวกเป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและเมียนมา ซึ่งในช่วงฤดูฝนจะประสบปัญหาน้ำท่วมชุมชนทั้งสองฝั่ง แต่ในช่วงฤดูแล้งจะประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตรกรรม โดย สทนช. ได้ดำเนินโครงการวิจัยเพื่อบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำดังกล่าว โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation: MLC)

ดร.สุรสีห์ เปิดเผยว่า ในปี 2568 สทนช. ได้เสนอขอรับงบประมาณเพิ่มเติมจากกองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง เพื่อนำมาพัฒนาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนอุทกภัยล่วงหน้า รวมถึงการปรับตัวของชุมชนเมืองให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ศึกษาดูงานพื้นที่จริง เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ

การศึกษาดูงานในครั้งนี้ คณะผู้แทนได้เยี่ยมชมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เช่น

  • อำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมบ่อย
  • สถานีสูบน้ำดิบ และ สะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1
  • สบรวก สามเหลี่ยมทองคำ ที่อำเภอเชียงแสน

นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมสถานีวัดระดับน้ำแม่น้ำโขง เพื่อศึกษาและแลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการน้ำข้ามพรมแดน รวมถึงการปรับปรุงระบบเตือนภัยล่วงหน้า โดยคณะผู้แทนจากประเทศจีนและเมียนมาได้แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและประสบการณ์ในการเฝ้าระวังและจัดการอุทกภัย

พัฒนาการจัดการน้ำเพื่อความยั่งยืนของภูมิภาค

สทนช. ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อหารือกับประเทศสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยมีการถอดบทเรียนจากโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้างในปีที่ผ่านมา เช่น

  1. โครงการสร้างเครือข่ายผู้นำเยาวชนด้านน้ำ ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับภูมิภาค
  2. โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมอัจฉริยะด้านน้ำ เพื่อรับมือกับปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำ โดยเน้นการเพิ่มผลผลิตและรายได้ให้แก่เกษตรกร

ทั้งสองโครงการนี้ดำเนินการร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมสตอกโฮล์ม (SEI) และสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมปีนี้

ยกระดับความสามารถของชุมชนในการรับมือกับอุทกภัย

โครงการพัฒนาการจัดการน้ำข้ามพรมแดนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสามารถของชุมชนในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมและภัยแล้ง โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการแจ้งเตือนภัย และการแบ่งปันข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. โครงการแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวกคืออะไร?
    โครงการนี้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา โดยใช้การวิจัยและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำ

  2. สทนช. มีบทบาทอะไรในโครงการนี้?
    สทนช. เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการดำเนินโครงการร่วมกับประเทศสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง

  3. ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนมีอะไรบ้าง?
    การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า

  4. ผลกระทบของโครงการนี้ต่อชุมชนคืออะไร?
    ชุมชนจะได้รับประโยชน์จากการลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมและภัยแล้ง และสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

  5. โครงการนี้จะดำเนินการในพื้นที่ใดบ้าง?
    พื้นที่ที่เน้นคือแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก รวมถึงพื้นที่เกษตรและชุมชนเมืองบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE