Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ไฟไหม้บ้านนักสะสมเครื่องเสียง ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจนหลักฐาน

เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไหม้บ้านที่เชียงราย ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 12.46 น. ศูนย์สั่งการบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครเชียงราย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านในบริเวณถนนวัดใหม่ หน้าค่าย ซอย 3 เขตเทศบาลนครเชียงราย โดยมีรายงานว่าไฟกำลังลุกไหม้ภายในบ้าน และควันพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่มีบ้านชั้นเดียวอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

นายธเนศ โกมลธง รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้มอบหมายให้ พ.จ.อ.ณัฏฐศรันย์ อินแสนสืบ หัวหน้าสำนักปลัด และนายประพันธ์ ช่างแก้ว หัวหน้าฝ่ายปกครอง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครเชียงราย พร้อมด้วยรถดับเพลิงและรถน้ำ พร้อมออกไปยังจุดเกิดเหตุในทันที

การเข้าระงับเหตุครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก พ.อ. สิงหนาท โลสุยะ เสธ.มทบ.37/เสธ.ศบภ.มทบ.37 ซึ่งได้นำรถบรรทุกน้ำขนาด 6000 ลิตรจำนวน 2 คัน และรถดับเพลิงขนาด 4,500 ลิตรจำนวน 1 คัน มุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุเพื่อช่วยระงับเหตุไฟไหม้ในทันที โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการควบคุมเพลิงในวงจำกัด

รายละเอียดเหตุการณ์และการปฏิบัติการดับเพลิง

จากการสำรวจที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านชั้นเดียวที่มีไฟกำลังโหมลุกไหม้ภายในบ้าน และมีควันพวยพุ่งออกมาจากตัวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการเปิดประตูม้วนด้านหน้าเพื่อเข้าถึงพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ และทำการควบคุมเพลิงในวงจำกัด การดำเนินการนี้ได้รับการสนับสนุนจากรถดูดโคลนที่มีน้ำแรงดันสูง ซึ่งช่วยสนับสนุนการดับไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองเชียงราย ได้เข้ามาช่วยปิดกั้นการจราจรบริเวณจุดเกิดเพลิงไหม้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว การปิดกั้นการจราจรช่วยให้การเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุทำได้อย่างไม่มีอุปสรรค

ผลการปฏิบัติและความเสียหาย

จากการปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้สำเร็จเมื่อเวลา 13.30 น. โดยไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ทรัพย์สินในบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนัก รวมถึงตัวบ้านและโครงสร้างหลังคาของบ้านด้วย โดยเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นายอภิรมย์ ยาวิชัย อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและบ้านเลขที่ 172/2 หมู่ 2 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย แต่ในขณะเกิดเหตุ เจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ในบ้าน

สาเหตุและการตรวจสอบ

ทรัพย์สินที่เสียหายในบ้านส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า เช่น เครื่องเสียงและเครื่องเล่นเทป เนื่องจากเจ้าของบ้านเป็นนักสะสมของเก่าที่รักในสิ่งเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจภูธรเชียงราย เพื่อทำการตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป

บทสรุป

เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในเขตเทศบาลนครเชียงรายนี้ได้รับการควบคุมอย่างรวดเร็วโดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในระหว่างเหตุการณ์ ทรัพย์สินที่เสียหายถูกประเมินว่าได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าและโครงสร้างของบ้าน ขณะนี้การตรวจสอบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ยังคงดำเนินการอยู่ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์นี้.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกฯ ติดตามช่วยเหลือเชียงราย สั่งเฝ้าระวังอากาศหนาว

นายกฯ สั่งติดตามช่วยเหลือเชียงราย-แม่สาย พร้อมแจ้งเตือนสภาพอากาศแปรปรวน

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานส่วนราชการในพื้นที่เชียงรายและแม่สายยังคงตรวจสอบความต้องการช่วยเหลือของประชาชน แม้สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายลงแล้ว โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจและติดตามกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือครอบครัวที่ยังคงต้องการการฟื้นฟูในพื้นที่

ล่าสุด ศปช. ได้รับรายงานจาก นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย (พมจ.เชียงราย) ได้รับการร้องขอจากมูลนิธิกระจกเงาในการเข้าไปช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านของนางจันทร์แสง หมื่นยอง อายุ 64 ปี ในชุมชนเกาะทราย อำเภอแม่สาย ซึ่งบ้านได้รับความเสียหายบางส่วนจากอุทกภัยที่ผ่านมา โดยเฉพาะส่วนของประตู หน้าต่าง ห้องครัว และห้องน้ำที่เสียหายอย่างหนัก ขณะนี้ พมจ.เชียงราย และเทศบาลตำบลแม่สายกำลังดำเนินการซ่อมแซมเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้พักอาศัย

กรมอุตุฯ แจ้งเตือนอากาศหนาวและฝนตกหนักในหลายพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนถึงสภาพอากาศแปรปรวนในภาคเหนือและภาคอีสาน โดยอุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวจะลดลงอีก 2–4 องศาเซลเซียส ในขณะที่บริเวณยอดดอยและยอดภูจะมีอากาศหนาวเย็นลง สำหรับภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส และในภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2567 โดยจังหวัดที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา

คำแนะนำในการป้องกันสุขภาพและภัยอันตรายจากอากาศหนาว

จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ประชาชนในภาคเหนือและภาคอีสานควรเตรียมรับมือกับอากาศหนาวเย็นและลมแรง พร้อมทั้งดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ ทั้งนี้ อากาศแห้งและลมแรงยังอาจเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอัคคีภัย จึงควรระมัดระวังการจุดไฟหรือการใช้อุปกรณ์ให้ความร้อน และสำหรับภาคใต้ ควรเฝ้าระวังความเสียหายที่อาจเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจากฝนตกหนัก

ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพอากาศและประกาศแจ้งเตือนได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th หรือโทรสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเตือนประชาชนรับมืออากาศเย็นและหมอกหนา

เชียงรายอุณหภูมิลดต่ำ หมอกหนาจัด ผู้ขับขี่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 สื่อมติชนรายงานว่า ประชาชนชาวเชียงรายผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่สัญจรบนท้องถนน โดยเฉพาะถนนพหลโยธิน สายแม่จัน-แม่สาย ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีหมอกหนาปกคลุมในช่วงเช้า ซึ่งลดรัศมีการมองเห็นของผู้ขับขี่เหลือไม่ถึง 1 กิโลเมตร ส่งผลให้ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้ารถเพื่อป้องกันอันตราย โดยหมอกหนานี้เกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดถึงสาย ก่อนที่จะสลายตัวไป ลักษณะดังกล่าวพบได้ทุกวันในช่วงนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเมืองหรือพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของป่าและนาข้าว

การเตรียมรับมือสภาพอากาศเย็นจากมวลอากาศเย็นจากจีน

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ 18 อำเภอให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุณหภูมิที่ลดต่ำลง ภายหลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศฉบับที่ 1 ระบุว่ามวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนกำลังแผ่ลงมาปกคลุมทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้ในระยะแรกมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ ก่อนที่อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศในตอนเช้าเย็นจัดและมีลมแรง โดยเฉพาะในเขตจังหวัดทางตอนบนของประเทศไทย

คำแนะนำในการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยจากอากาศหนาว

นายประเสริฐกล่าวว่า ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด และควรสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อรักษาความอบอุ่นให้กับร่างกาย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ผู้พิการ และสตรีมีครรภ์ ควรดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ และควรงดเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลดความหนาว เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อน ซึ่งอาจทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำจนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ ประชาชนควรระมัดระวังการก่อไฟผิงเพื่อคลายความหนาว เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอัคคีภัยได้ หากไม่มีการดูแลอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ คำแนะนำดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นสุดฤดูหนาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ตำรวจเชียงรายทลายแก๊งอันธพาล ก่อเหตุป่วนเมืองเสียหาย

ตำรวจเชียงรายทลายแก๊งอันธพาล ก่อเหตุป่วนเมือง ทำร้ายทรัพย์สินและประชาชน

ทลายแก๊งวัยรุ่นอันธพาล ก่อเหตุรุนแรงกลางเชียงราย

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ตำรวจจังหวัดเชียงรายทลายแก๊งอันธพาลที่ก่อเหตุรุนแรง โดยกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ต่ำกว่า 20 คัน ขับป่วนเมือง ทำลายทรัพย์สินและขว้างปาวัตถุเสียงดังบริเวณถนนพหลโยธิน ตั้งแต่แยกบ้านเด่นถึงทางเลี่ยงเมืองเชียงราย

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและจับกุม หัวหน้าแก๊งวัยรุ่น

หลังเหตุเกิดที่หน้าโรงเรียนเม็งรายมหาราช เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 24 ต.ค. พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ ผกก.สภ.บ้านดู่ และ พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ แก้วสืบ สว.สส.สภ.บ้านดู่ เข้าติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุจนพบหัวหน้าแก๊ง นายเวฟ (นามสมมุติ) เยาวชนอายุ 15 ปี จากหมู่บ้านท่าสาย ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย

ตรวจค้นอาวุธ อุปกรณ์อันตรายในบ้านพัก

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักที่มีการรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่น พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก สนับมือ 1 อัน และมีดจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงควบคุมตัวนายเวฟและเพื่อนอีก 2 คน พร้อมของกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตำรวจเชิญผู้ปกครองอบรมปรับทัศนคติ

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญผู้ปกครองและกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเข้าร่วมการอบรมและปรับทัศนคติเพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ และทำประวัติ พร้อมกำชับให้ผู้ปกครองช่วยดูแลพฤติกรรมของเยาวชน

ความผิดทางกฎหมายที่กลุ่มวัยรุ่นเผชิญ

สำหรับความผิดที่พบในเบื้องต้น ได้แก่ การทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น สร้างความรบกวนเสียงดังในที่สาธารณะ และพกพาอาวุธในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร นอกจากนี้ ยังผิดตามพระราชบัญญัติความสะอาด และพระราชบัญญัติจราจรทางบก โดยจะติดตามผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ประชาชนที่พบเห็นการกระทำผิดสามารถแจ้งตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายได้ที่สายด่วน 191

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News