Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย Kick Off โครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” 

 

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567 นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” ณ วัดป่ายางสบยาบ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีนายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอเชียงแสน กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยนางสุวาภรณ์ จิตต์พลีชีพ รองประธานแม่บ้านมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการอำเภอเชียงแสน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น คณะครูและนักเรียน และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธี

      ในการนี้ นางอำไพ บัวระดก พัฒนาการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นายปรีชา ปวงคำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการ โดยมีนางสุรีย์ศรี แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน พัฒนาการอำเภอและเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน จาก 18 อำเภอ ร่วมพิธี 

       สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานแนวพระราชดำริในการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประชาชน เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 2019 รวมทั้งใช้เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความรัก ความสามัคคีในหมู่ของประชาชน เกิดผลดีต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม  

     กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าว มาขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ร่วมกับประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด และภาคีเครือข่ายการพัฒนา ดำเนินโครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” เพื่อต่อยอดขยายผลการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งจังหวัดเชียงราย ได้พิจารณาคัดเลือกบ้านสบยาบ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน เป็นพื้นที่ดำเนินงาน 

        สำหรับกิจกรรมในวันนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย ได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเชียงแสน เทศบาลตำบลแม่เงิน และประชาชนบ้านสบยาบ ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” ดังนี้

1. กิจกรรม “ผู้นำต้นแบบตัวอย่างที่เห็นจริง” Kick off กิจกรรม โครงการ “เส้นทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน ปันสุข” โดยร่วมกันปลูกไม้ผลและปลูกผักสวนครัว ภายในบริเวณวัดป่ายางสบยาบและบริเวณ 2 ข้างทางของหมู่บ้าน

2. การมอบเมล็ดพันธุ์และกล้าพันธุ์ไม้ให้แก่ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา สถานศึกษาและตัวแทนครัวเรือน เพื่อนำไปขยายพันธุ์ผัก และต่อยอดไปสู่การจัดตั้งเป็นศูนย์แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ระดับตำบล 

3.กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน และจัดทำวีดิทัศน์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SPORT

คับคั่ง! เชียนแสน ปั่นชิลล์ชมวิวริมโขง 3 แผ่นดิน

 
วันนี้(20ส.ค.)ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย นางภัทราวดี สุทธิธนากูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมปั่นท่องเที่ยวเชียงรายริมฝั่งโขง โดยมีนายสัณฐิติ โคละทัต ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงราย และนายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอเชียงแสน นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรท้องถิ่นผู้นำชุมชน และพี่น้องนักกีฬาเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
 
กิจกรรมการปั่นท่องเที่ยวเชียงรายริมฝั่งโขง จัดขึ้นปีที่ 2 เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย และรักษาสุขภาพ เป็นการพัฒนาการจัดกิจกรรมการปั่นจักรยานของจังหวัดเชียงรายสู่มาตรฐานสากลตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬาเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายในรูปแบบ Sport Tourism อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการนำกีฬาจักรยานมาเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์และงดงามของจังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักด้วยสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน
 
การจัดกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญด้านสุขภาพและด้านต่างๆซึ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน และประชาชนในพื้นที่ให้ครบทุกมิติ สนับสนุน ส่งเสริมการออกกำลังกายการเล่นกีฬาเพื่อให้เยาวชน และประชาชนเขาด้วยเชียงรายมีสมรรถภาพร่างกายที่ดี มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และเป็นการผลักดันกีฬาจักรยานไปสู่สากลพร้อมทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายแบบยั่งยืน สอดคล้องกับการเป็นเมืองกีฬาเชียงรายสปอร์ตซิตี้อีกด้วย
 
ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนการจัดกิจกรรมจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเป็นอย่างดี โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมปั่นในครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้นกว่า 800 คน จากทั้งภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว และเมียนมา โดยได้แบ่งเส้นทางการจัดกิจกรรมออกเป็น 3 ระยะประกอบไปด้วย ประเภทเอระยะทาง 90 กิโลเมตร ประเภทบีระยะทาง 48 กิโลเมตร และประเภทซี 22 กิโลเมตร โดนทั้ง 3 ระยะ ผู้ที่เข้าร่วมปั่นในครั้งนี้จะมีความเพลินเพลิน ได้ออกกำลังกาย ชมธรรมชาติของอำเภอเชียงแสน 3 เหลี่ยมทองคำ และได้รับความสนุกสนานอีกด้ว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News