ความสำคัญของการพัฒนายั่งยืนต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เน้นย้ำว่าการเดินหน้ายุทธศาสตร์พัฒนายั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างเศรษฐกิจและสังคมไทยให้มั่นคงในระยะยาว การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ยังคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคตอย่างสมดุล
ยุทธศาสตร์การพัฒนายั่งยืน: แนวทางและเป้าหมาย
การพัฒนายั่งยืนต้องไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่าการพัฒนาเศรษฐกิจควรคำนึงถึงการลดภาระทางสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากร การนำแนวคิดยั่งยืนและจริยธรรมเข้าสู่กระบวนการกำหนดนโยบายสาธารณะเป็นสิ่งเร่งด่วน เพื่อให้การพัฒนาสามารถตอบสนองความต้องการของสังคมได้อย่างแท้จริง
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อประเทศไทย
รายงาน IPCC Climate ของสหประชาชาติ ระบุว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติเช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม และการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าประเทศอื่น แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกลับรุนแรงมาก
มาตรการบรรเทาภัยพิบัติด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน
การนำแนวคิดยั่งยืนมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจช่วยบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรักษาทรัพยากรป่าไม้ โดยเฉพาะป่าต้นน้ำ ช่วยลดความเสี่ยงจากดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก นอกจากนี้ ภาคการผลิตควรเน้นการผลิตที่ยั่งยืน ลดการปล่อยของเสียและมลพิษ รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก
การสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชน
ภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและสร้างกลไกส่งเสริมการลงทุนในด้านสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการลงทุนในหุ้นกลุ่ม ESG เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ สถานประกอบการต่างๆ ควรบริหารองค์กรตามแนวคิด ESG เพื่อสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
การลดความเหลื่อมล้ำและการสร้างความมั่นคงทางอาหาร
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและเพิ่มความเหลื่อมล้ำในสังคม ประเทศไทยต้องดำเนินมาตรการเพื่อลดความยากจนและสร้างความมั่นคงให้กับประชากรที่เปราะบาง การลงทุนในเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียนและการสนับสนุนงบประมาณสำหรับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น
อนาคตของการพัฒนายั่งยืนในประเทศไทย
ประเทศไทยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเป็น 40% ภายในปี พ.ศ.2573 ซึ่งการดำเนินการตามแผนงานระดับชาติและการทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้ อย่างไรก็ตาม การลดก๊าซเรือนกระจกและการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมต้องเกิดขึ้นพร้อมกับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสังคมไทยที่มั่นคงในระยะยาว
บทสรุป
การเดินหน้ายุทธศาสตร์พัฒนายั่งยืนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้สำหรับประเทศไทยในปัจจุบันและอนาคต การร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและสามารถรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์