
งบประมาณเทศบาลนครเชียงราย ปี 2568 มูลค่า 646 ล้านบาท โอกาสและความท้าทายในการพัฒนาท้องถิ่น
ประเทศไทย, 7 พฤษภาคม 2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งบประมาณท้องถิ่นคือหัวใจสำคัญที่หล่อเลี้ยงการพัฒนาเมืองและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งมีเทศบาลรวมกันถึง 574 แห่ง ประกอบด้วยเทศบาลนคร 6 แห่ง เทศบาลเมือง 31 แห่ง และเทศบาลตำบล 537 แห่ง ในจำนวนนี้ จังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความโดดเด่นด้านการบริหารจัดการท้องถิ่น โดยเทศบาลนครเชียงรายได้รับความสนใจอย่างมากจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 มูลค่ารวม 646,624,800 บาท ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและความท้าทายในการบริหารจัดการเมืองที่มีประชากร 77,911 คน บนพื้นที่ 60.85 ตารางกิโลเมตร การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนชาวเชียงรายจะมีส่วนกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองผ่านการเลือกผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชน
ความสำคัญของงบประมาณท้องถิ่น
งบประมาณท้องถิ่นเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงการพัฒนาในระดับชุมชน โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีเทศบาลทั้งสิ้น 73 แห่ง รองจากจังหวัดเชียงใหม่ที่มีถึง 121 แห่ง งบประมาณของเทศบาลนครเชียงรายในแต่ละปีมาจากสามแหล่งหลัก ได้แก่ (1) รายได้จากการจัดเก็บเอง เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีโรงเรือน และภาษีป้าย (2) งบประมาณจากการจัดสรรของรัฐบาล เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิต และ (3) เงินอุดหนุนจากรัฐบาลทั้งในรูปแบบทั่วไปและเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนภารกิจและโครงการพัฒนาท้องถิ่น
ในปีงบประมาณ 2568 เทศบาลนครเชียงรายได้รับงบประมาณรวม 646,624,800 บาท ลดลงจากปี 2567 จำนวน 10,182,800 บาท ซึ่งได้รับงบประมาณรวม 656,807,600 บาท การลดลงของงบประมาณในครั้งนี้ส่งผลให้ผู้บริหารท้องถิ่นต้องวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างครอบคลุม ประชากร 77,911 คนของเทศบาลนครเชียงราย ประกอบด้วยผู้หญิง 41,192 คน และผู้ชาย 36,719 คน มีความหลากหลายทั้งในด้านอายุ เพศ และความต้องการ การจัดสรรงบประมาณจึงต้องคำนึงถึงความครอบคลุมและความเท่าเทียม เพื่อให้ทุกกลุ่มในสังคมได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง
สถานะการคลังและการบริหารงบประมาณ
จากข้อมูลของฝ่ายแผนงานและงบประมาณ กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลนครเชียงราย สถานะการคลังในปีงบประมาณ 2567 (ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567) แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของเทศบาล ดังนี้
- เงินฝากธนาคาร: 672,992,744.27 บาท
- เงินสะสม: 44,641,036.42 บาท
- เงินทุนสำรองเงินสะสม: 0.00 บาท
- รายการกันเงินไว้แบบก่อหนี้ผูกพันและยังไม่ได้เบิกจ่าย: 4 โครงการ รวม 14,760,789.00 บาท
- รายการกันเงินไว้โดยยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพัน: 18 โครงการ รวม 69,139,200.00 บาท
- เงินกู้คงค้าง: 92,994,648.21 บาท
สถานะการคลังดังกล่าวสะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงินของเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งอย่างไรก็ตาม การที่มีเงินกู้คงค้างถึงเกือบ 93 ล้านบาท และงบประมาณที่ลดลงจากปีก่อนหน้า ทำให้การจัดสรรงบประมาณในปี 2568 ต้องเน้นความคุ้มค่าและการตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างตรงจุด
ในส่วนของการบริหารงบประมาณในปี 2566 เทศบาลนครเชียงรายมีรายรับจริงรวม 912,797,893.31 บาท แบ่งเป็น
- หมวดภาษีอากร: 142,775,013.07 บาท
- หมวดค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และใบอนุญาต: 17,277,750.79 บาท
- หมวดรายได้จากทรัพย์สิน: 10,048,864.81 บาท
ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดเก็บรายได้ของเทศบาล ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเมืองในด้านต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม การที่งบประมาณในปี 2568 ลดลงจากปีก่อนหน้า ทำให้ผู้บริหารต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่าง ๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดสรรงบประมาณปี 2568 ความท้าทายและโอกาส
งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ของเทศบาลนครเชียงรายครอบคลุมหลากหลายแผนงานที่มุ่งตอบสนองความต้องการของประชาชนและยกระดับคุณภาพชีวิต ประกอบด้วย
- แผนงานบริหารงานทั่วไป: มุ่งเน้นการบริหารจัดการภายในและการพัฒนาบุคลากร รวมถึงการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนสำหรับนายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี และพนักงานเทศบาล
- แผนงานการศึกษา: สนับสนุนการพัฒนาการศึกษาในท้องถิ่น เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของเยาวชน
- แผนงานสาธารณสุข: เสริมสร้างระบบสาธารณสุขและการเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาด รวมถึงการจัดซื้อวัสดุวิทยาศาสตร์และการแพทย์ในช่วงที่มีโรคระบาด
- แผนงานสังคมสงเคราะห์: จัดสรรเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (95,845,200 บาท) และเบี้ยความพิการ (15,784,800 บาท) เพื่อสนับสนุนกลุ่มเปราะบาง รวมถึงเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับบำนาญ (1,470,000 บาท)
- แผนงานโยธาและอุตสาหกรรม: รวมถึงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดินตามสัญญาเลขที่ 2192/40/2565 และการบำรุงรักษาและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน
- แผนงานการจัดการภัยพิบัติ: เตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วมและไฟป่า ที่เกิดถี่ขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ
- แผนงานการท่องเที่ยว: ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยรถรางและรถโค้ช เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
นอกจากนี้ งบประมาณเฉพาะการสถานธนานุบาล ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของเทศบาล มีรายรับรวม 52,030,500 บาท และรายจ่ายที่ครอบคลุมการบริหารจัดการสถานธนานุบาล เช่น ค่าตอบแทนพนักงาน ค่าบำรุงรักษาทรัพย์สิน และเงินทดแทนท้องถิ่นร้อยละ 30 (7,200,000 บาท) การบริหารจัดการสถานธนานุบาลนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของเทศบาลในการให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
ความท้าทายหลักของเทศบาลนครเชียงรายในปี 2568 คือการบริหารงบประมาณที่ลดลงให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะในช่วงที่เมืองกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองในระยะต่อไป ผู้บริหารคนใหม่จะต้องเผชิญกับคำถามสำคัญ เช่น
- จะจัดลำดับความสำคัญของโครงการพัฒนาอย่างไร เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งความต้องการเร่งด่วนและการพัฒนาในระยะยาว?
- จะบริหารจัดการหนี้กู้ยืมที่คงค้างอยู่เกือบ 93 ล้านบาทอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระในอนาคต?
- จะเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่นอย่างไร เพื่อลดการพึ่งพาเงินอุดหนุนจากรัฐบาล?
วิสัยทัศน์และความคาดหวัง
งบประมาณครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการกำหนดทิศทางการใช้จ่ายของเทศบาล แต่ยังเป็นโอกาสที่ผู้บริหารท้องถิ่นจะแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเมืองให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่กำลังจะมาถึงจึงไม่เพียงแต่เป็นการเลือกผู้นำ แต่ยังเป็นการเลือกวิสัยทัศน์และนโยบายที่จะกำหนดอนาคตของเมือง ผู้สมัครที่สามารถนำเสนอแผนการบริหารงบประมาณที่ชัดเจน โปร่งใส และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้ จะมีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุด
หนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจคือการจัดสรรเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเทศบาลในการดูแลกลุ่มเปราะบางในสังคม นอกจากนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การเปลี่ยนระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน และการจัดการภัยพิบัติ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับประชาชนในระยะยาว โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยรถรางและรถโค้ช จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างรายได้ให้กับชุมชน
การบริหารงบประมาณ 646 ล้านบาทในปี 2568 ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ โดยเฉพาะในบริบทที่งบประมาณลดลงและความคาดหวังของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น ผู้บริหารจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการต่อยอดงบประมาณเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชน เช่น
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน: การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ระบบไฟฟ้า และการจัดการน้ำท่วม จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับประชาชน
- การส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจท้องถิ่น: การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับชุมชน
- การดูแลกลุ่มเปราะบาง: การจัดสรรเงินเบี้ยยังชีพและการพัฒนาระบบสวัสดิการจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้พิการ
- การเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ: การลงทุนในระบบเตือนภัยและการจัดการภัยพิบัติจะช่วยลดความสูญเสียจากภัยธรรมชาติที่เกิดถี่ขึ้น
โอกาสและบทบาทของผู้นำท้องถิ่น
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ประชาชนชาวเชียงรายจะมีส่วนกำหนดอนาคตของเมือง ผ่านการใช้สิทธิเลือกตั้ง งบประมาณ 646 ล้านบาทในปี 2568 เป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้บริหารท้องถิ่นสามารถใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและพัฒนาเมืองให้ก้าวหน้า ผู้สมัครที่สามารถนำเสนอนโยบายที่ชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนจะมีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากกว่า
หนึ่งในโอกาสสำคัญของผู้บริหารคนใหม่คือการต่อยอดงบประมาณเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว เช่น การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัย การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง นอกจากนี้ การบริหารจัดการหนี้กู้ยืมที่คงค้างอยู่เกือบ 93 ล้านบาทจะเป็นบททดสอบความสามารถของผู้บริหารในการรักษาความสมดุลทางการคลัง
การเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นโอกาสที่ประชาชนชาวเชียงรายจะแสดงพลังในการกำหนดทิศทางการพัฒนาเมือง สิทธิและอำนาจในการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ประชาชนสามารถใช้เพื่อเลือกผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเมืองให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มในสังคม การเลือกผู้นำที่มีความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบจะช่วยให้งบประมาณ 646 ล้านบาทถูกใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
สถิติที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เห็นภาพรวมของบริบทงบประมาณท้องถิ่นในภาคเหนือและจังหวัดเชียงราย ต่อไปนี้คือสถิติที่เกี่ยวข้อง
- จำนวนเทศบาลในภาคเหนือ: 574 แห่ง (เทศบาลนคร 6 แห่ง, เทศบาลเมือง 31 แห่ง, เทศบาลตำบล 537 แห่ง)
ที่มา: กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, 2567 - จังหวัดที่มีเทศบาลมากที่สุดในภาคเหนือ: เชียงใหม่ (121 แห่ง), เชียงราย (73 แห่ง), ลำปาง (43 แห่ง)
ที่มา: กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, 2567 - งบประมาณเทศบาลนครเชียงราย ปี 2568: 646,624,800 บาท (ลดลง 10,182,800 บาท จากปี 2567)
ที่มา: ฝ่ายแผนงานและงบประมาณ เทศบาลนครเชียงราย, 2567 - รายรับจริงของเทศบาลนครเชียงราย ปี 2566: 912,797,893.31 บาท (ภาษีอากร 142,775,013.07 บาท, ค่าธรรมเนียม 17,277,750.79 บาท, รายได้จากทรัพย์สิน 10,048,864.81 บาท)
ที่มา: ฝ่ายแผนงานและงบประมาณ เทศบาลนครเชียงราย, 2567 - ประชากรเทศบาลนครเชียงราย: 77,911 คน (ชาย 36,719 คน, หญิง 41,192 คน)
ที่มา: สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง, 2567 - เงินกู้คงค้างของเทศบาลนครเชียงราย: 92,994,648.21 บาท (ณ 31 กรกฎาคม 2567)
ที่มา: ฝ่ายแผนงานและงบประมาณ เทศบาลนครเชียงราย, 2567 - งบประมาณสถานธนานุบาล ปี 2568: รายรับ 52,030,500 บาท, รายจ่ายรวมค่าบำรุงรักษาและเงินทดแทนท้องถิ่น 7,200,000 บาท
ที่มา: รายงานรายละเอียดประมาณการรายรับ-รายจ่ายสถานธนานุบาล, เทศบาลนครเชียงราย, 2567
สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเทศบาลนครเชียงรายในฐานะศูนย์กลางการพัฒนาท้องถิ่นในจังหวัดเชียงราย และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างยั่งยืน การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนชาวเชียงรายจะมีส่วนกำหนดอนาคตของเมืองผ่านการเลือกผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเมืองให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มในสังคม
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, 2567
- ฝ่ายแผนงานและงบประมาณ เทศบาลนครเชียงราย, 2567
- เทศบาลนครเชียงราย