Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

“ศุภชัย” บูรณาการเชียงราย พัฒนาท้องถิ่น วิทย์-วิจัย-นวัตกรรม

อว. ลงพื้นที่เชียงราย ติดตามขับเคลื่อน อววน. เร่งพัฒนาท้องถิ่นสู่เศรษฐกิจฐานความรู้

เชียงราย – 8 เมษายน 2568 นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำคณะผู้บริหารระดับสูงลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการขับเคลื่อนภารกิจด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) โดยมีหน่วยงานการศึกษาระดับอุดมศึกษาในพื้นที่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย เข้าร่วมรายงานผลและจัดนิทรรศการนำเสนอผลงานเชิงรูปธรรม

ผลักดันเชียงรายสู่โมเดลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือ

กิจกรรมภาคเช้าจัดขึ้น ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มีการนำเสนอผลการดำเนินงานของแต่ละมหาวิทยาลัยที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์จังหวัด และเป้าหมายการพัฒนาประเทศ ได้แก่ การยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การสนับสนุน Soft Power ท้องถิ่น และการพัฒนากำลังคนให้สอดรับกับภาคการผลิตจริง

มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายได้นำเสนอโครงการที่สะท้อนการบูรณาการ อววน. กับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน เช่น โครงการ “เชียงรายแบรนด์”, โครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย และ “สันสลีโมเดล” ที่ใช้การเรียนการสอนแบบไร้รอยต่อระหว่างห้องเรียน ชุมชน และธุรกิจ

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย ได้นำเสนอผลงานเด่นด้านวิจัยเชิงพาณิชย์และเทคโนโลยีประยุกต์ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ, การใช้ IoT และ AI คาดการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรม และอิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์

พิธีมอบรางวัลชุมชนสร้างสรรค์ และ Smart Student

นายศุภชัยได้มอบรางวัล “ชุมชนสร้างสรรค์” ให้แก่หมู่บ้านและภาคีเครือข่ายที่มีการนำผลการวิจัยและองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยไปต่อยอดในเชิงพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และการนำภูมิปัญญามาพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ ยังได้มอบรางวัล “Smart Student 2568” ให้แก่นักศึกษาที่มีความโดดเด่นด้านวิชาการและนวัตกรรม

ภาคบ่ายเยี่ยมชม ‘มหาวิทยาลัยวัยที่สาม’ ต้นแบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต

คณะฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยวัยที่สาม นครเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิตบนฐานชุมชน โดยมีทั้งหลักสูตรสำหรับผู้สูงอายุ, การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน, โครงการเกษตรปลอดภัย Farm to Table และศูนย์จำหน่ายสินค้าชุมชน ภายใต้การสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และเทศบาลนครเชียงราย

ผู้ช่วยรัฐมนตรี อว. ยืนยันหนุนเชียงรายพัฒนาเป็น Hub ด้านการศึกษา-นวัตกรรมของภาคเหนือ

นายศุภชัยให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้เห็นถึง “ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม” ระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเชียงราย พร้อมยืนยันว่า อว. จะสนับสนุนงบประมาณและโครงสร้างให้แก่โครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจฐานความรู้

เมื่อสอบถามถึงบทบาทของ อว. ในการรับมือภัยพิบัติในพื้นที่เสี่ยง เช่น แผ่นดินไหว ไฟป่า และหมอกควัน ท่านระบุว่า กระทรวงจะเร่งผลักดันการใช้ Big Data และ IoT ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยในพื้นที่ เพื่อเป็นระบบแจ้งเตือนและบริหารจัดการภัยอย่างแม่นยำ

บทบาทของ RMUTL เชียงราย เด่นทั้งในเชิงวิชาการและเทคโนโลยี

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชไมพร รัตนเจริญชัย ผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร มทร.ล้านนา เชียงราย นำเสนอผลการดำเนินงานทั้ง 3 ด้าน ได้แก่:

  • ด้านการศึกษา – หลักสูตร WIL และ Co-op ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้ร่วมกับสถานประกอบการจริง
  • ด้านวิจัยและนวัตกรรม – ผลงานวิจัยเชิงประยุกต์ เช่น ระบบ Smart Water Management และอาหารแปรรูปจากผลผลิตท้องถิ่น
  • ด้านภัยพิบัติ – มีศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติ ใช้เทคโนโลยีตรวจจับ และระบบวิเคราะห์ล่วงหน้า โดยร่วมมือกับ ปภ. และท้องถิ่น

ความคิดเห็นสองมุมมองต่อทิศทาง อววน. เชียงราย

ฝ่ายสนับสนุน มองว่า การมีสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ที่สามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ วิจัย และการศึกษาเข้ากับการพัฒนาท้องถิ่นได้จริง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ยั่งยืน

ในขณะที่ฝ่ายกังวล เห็นว่ายังมีข้อจำกัดด้านการเข้าถึงโครงการบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่อยู่นอกเขตเมือง หรือมีข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ รวมถึงอุปสรรคในการนำผลงานวิจัยไปใช้เชิงพาณิชย์ที่ยังต้องได้รับการสนับสนุนด้านกฎหมายและตลาด

สถิติและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

  • ประเทศไทยมีสถาบันอุดมศึกษา 156 แห่งทั่วประเทศ (ที่มา: สำนักงานปลัดกระทรวง อว., 2567)
  • จังหวัดเชียงรายมีมหาวิทยาลัย 4 แห่งหลัก และวิทยาลัย/สถาบันการศึกษาอีกกว่า 20 แห่ง (ที่มา: อว. ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย)
  • โครงการภายใต้ อววน. ในพื้นที่เชียงราย ได้รับงบประมาณสนับสนุนรวมกว่า 120 ล้านบาท ในช่วงปี 2566–2568 (ที่มา: สกสว.)
  • ประเทศไทยมีนักศึกษาระดับอุดมศึกษาทั้งหมดประมาณ 1.7 ล้านคน โดยกว่า 55% อยู่ในสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2566)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

ครม.สั่งศึกษาแนว “นักศึกษาฝึกงาน” ต้องได้เงินค่าตอบแทน และเบี้ยเลี้ยง

 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาการฝึกงานของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ของคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า การฝึกงานเป็นการจัดระบวนการเรียนรู้เพื่อฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้ที่เรียนมาใช้เพื่อป้องกันและแก้ปัญหา โดยการฝึกปฏิบัติงานของนักศึกษาฝึกงานไม่มีลักษณะเป็น “ลูกจ้าง” ตามสัญญาจ้างแรงงาน มีวัตถุประสงค์ในการทำงานเพื่อเป็นการฝึกปฏิบัติงานโดยถือเป็นส่วนหนึ่งของ “การศึกษาเพื่อให้สำเร็จตามหลักสูตร” เท่านั้น 

จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานเช่นเดียวกับลูกจ้าง และปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่คุ้มครองการฝึกปฏิบัติงานของนักศึกษาฝึกงานในระดับอุดมศึกษาโดยตรง ปัญหาการฝึกงานของนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมอย่างเป็นทางการ เป็นประเด็นปัญหาที่สำคัญที่จะต้องหาแนวทางการแก้ไข เพื่อให้เกิดการจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

ดังนั้นจึงได้มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ 4 ประเด็น ดังนี้

1. สิทธิของนักเรียน นิสิตและนักศึกษาฝึกงาน การกำหนดค่าตอบแทนเป็นเบี้ยเลี้ยง การจัดทำประกันอุบัติเหตุการมีสวัสดิการขั้นพื้นฐานในที่ทำงานแก่ผู้รับการฝึกอบรมฝีมือแรงานและผู้ฝึกงานอาชีวศึกษา แต่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองนักศึกษาฝึกงานระดับอุดมศึกษาโดยตรง 

หากกรณีมีปัญหาเกิดขึ้นโดยเฉพาะกรณีค่าตอบแทน การประสบอันตราย หรือการเจ็บป่วยจากการฝึกปฏิบัติงานอาจต้องเทียบเคียงจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะเกิดความยุ่งยากหรือเกิดปัญหาการตีความ ทำให้นักศึกษาฝึกงานไม่ได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม

2. การคุ้มครองนักเรียน นิสิตและนักศึกษาฝึกงาน เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาฝึกงานได้รับความคุ้มครองตามฎหมาย นั้น นักเรียนระดับอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ออกประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การฝึกงานหลักสูตรการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในสถานประกอบการ พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว 

ส่วนนักศึกษาระดับปริญญาตรีควรมอบหมายให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นหน่วยงานหลักในการพิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องการกำหนดมาตรฐานการส่งนักศึกษาที่เข้ารับการฝึกงานในสถานประกอบการ เพื่อให้นักศึกษาได้รับการคุ้มครองในระหว่างการฝึกงาน ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์มาตรฐานกลาง 

เพื่อเป็นแนวทางให้สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาแต่ละแห่งจัดทำเป็นหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องมาตรฐานการส่งนักศึกษา เข้ารับการฝึกงานในสถานประกอบการและการคุ้มครองนักศึกษาระหว่างการฝึกงานให้เหมาะสมกับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยกระทรวงแรงงาน สนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของนักศึกษาฝึกงาน ให้สอดคล้องกับกฎหมายแรงงาน

3. ปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน ควรสร้างและรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ปราศจากการล่วงละเมิดทางเพศด้วยการสร้างความตระหนักการสร้างความรู้ความเข้าใจ การกำหนดมาตรการป้องกันและจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น และตำเนินการเมื่อเกิดกรณีการร้องเรียนเรื่องการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศอย่างทันท่วงที รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมและมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศขึ้น

4. ข้อเสนอการยกระดับการคุ้มครองการฝึกงานในประเทศไทยของศูนย์วิจัยเฉพาะทางสหวิทยาการด้านรัฐสวัสดิการและความเป็นธรรม ศูนย์วิจัยเฉพาะทางสหวิทยาการด้านรัฐสวัสดิการและความเป็นธรรมร่วมกับอีกหลายหน่วยงานในภาคีได้ผลักดันร่างพระราชบัญญัติการฝึกงาน พ.ศ. …. เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองและรักษาสิทธิประโยชน์ที่ควรได้ ในฐานะลูกจ้างคนหนึ่ง 

โดยสถาบันอุดมศึกษาอาจอนุญาตให้บุคลากรและผู้เรียนไปปฏิบัติงานในหน่วยงานต่าง ๆ ได้ตามระเบียบที่สภาสถาบันอุดมศึกษากำหนดตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 

ดั้งนั้น สภาสถาบันอุดมศึกษา อว. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรกำหนดระเบียบการฝึกงานหรือเงื่อนไขหลักเกณฑ์การฝึกงานของนักเรียน นักศึกษาฝึกงาน ให้ครอบคลุมเนื้อหาและรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็กตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562

นายคารม กล่าวว่า ในขั้นตอนต่อจากนี้ ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นหน่วยงานหลักในการพิจารณารายละเอียดตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ และศึกษาแนวทางการออกกฎหมาย เช่น กฎหมายฉบับรอง มาบังคับใช้ต่อไป

  






เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAMกองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News

MOST POPULAR
FOLLOW ME


Facebook


Times


Instagram


Youtube


Line

NEWS UPDATE
BREAKING NEWS


ข่าวเด่นน่าติดตามวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566


ข่าวเด่นน่าติดตามวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566



ข่าวเด่นน่าติดตามวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2566


ข่าวเด่นน่าติดตามวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2566



ข่าวเด่นน่าติดตามวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566


ข่าวเด่นน่าติดตามวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566