Categories
SOCIETY & POLITICS

อินฟลูฯ-ขายออนไลน์ สรรพากรเตือน ยื่นภาษี ก่อนโดนปรับหนัก

กรมสรรพากรเร่งย้ำประชาชนยื่นภาษีภายในกำหนดปี 2568 – อินฟลูเอนเซอร์-อีคอมเมิร์ซเป้าหมายหลัก

กรุงเทพฯ, 22 มีนาคม 2568 – กรมสรรพากรแจ้งเตือนประชาชนทุกกลุ่มอาชีพให้เร่งยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2567 ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 โดยผู้ที่ยื่นผ่านระบบออนไลน์ เช่น D-MyTax หรือ e-Filing จะสามารถยื่นได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2568 พร้อมระบุว่า กลุ่มอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ อีคอมเมิร์ซ และผู้ค้าขายออนไลน์ เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องได้รับการติดตามอย่างเข้มข้น หลังพบว่าเป็นกลุ่มที่หลีกเลี่ยงการยื่นภาษีสูงสุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ยอดการยื่นแบบภาษีเพิ่มขึ้น แต่ยังมีผู้เลี่ยงภาษีจำนวนมาก

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า รายได้จากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาถือเป็นรายได้อันดับที่สามของกรมสรรพากร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 400,000 ล้านบาทต่อปี ข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 13 มีนาคม 2568 มีการยื่นแบบภาษีแล้วกว่า 7.4 ล้านแบบ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 13 โดยมีการขอคืนภาษีกว่า 3.5 ล้านแบบ คิดเป็นร้อยละ 46.9 ของจำนวนแบบที่ยื่นเข้ามาทั้งหมด และกรมฯ ได้คืนภาษีไปแล้วกว่า 82%

อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่น่าห่วงคือกลุ่มที่มีรายได้แต่ไม่เคยยื่นภาษีเลย ซึ่งจากการสำรวจพบว่าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มผู้ทำงานอิสระ และกลุ่มที่มีรายได้จากช่องทางดิจิทัล เช่น ขายของออนไลน์ ทำคอนเทนต์ รีวิวสินค้า หรืออินฟลูเอนเซอร์

อินฟลูเอนเซอร์ไม่ยื่นภาษี เสี่ยงถูกตรวจย้อนหลัง

อธิบดีกรมสรรพากรยืนยันว่า มีการติดตามการเสียภาษีของกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำ ผ่านการวิเคราะห์จากข้อมูลในโซเชียลมีเดีย และพบว่าหลายรายไม่มีประวัติการยื่นภาษีย้อนหลังถึง 3-4 ปี ทั้งที่มีรายได้เข้าข่ายต้องเสียภาษี ซึ่งกรมฯ มีอำนาจตรวจสอบย้อนหลังได้ 2 ปี และขยายได้ถึง 5 ปี หากพบว่าไม่ยื่นแบบโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะต้องเสียภาษีพร้อมเบี้ยปรับ ซึ่งบางรายจากภาษีแค่ 10,000 บาท อาจต้องจ่ายถึง 50,000 บาท

แนวทางยื่นภาษีของอาชีพอินฟลูเอนเซอร์และผู้ขายออนไลน์

กรมสรรพากรได้กำหนดแนวทางชัดเจนในการยื่นภาษีสำหรับกลุ่มอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ ดังนี้

  1. รายได้จากค่าจ้างทั่วไป ต้องยื่นแบบภาษีเหมือนพนักงานประจำ
  2. รายได้ที่มีต้นทุน เช่น รีวิวสินค้า สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริง
  3. รายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
  4. รายได้ที่ได้รับในรูปแบบสินค้า ต้องประเมินมูลค่าเทียบเท่าเงินสดและยื่นเป็นรายได้เช่นเดียวกับเงินสด

ทั้งนี้ อินฟลูเอนเซอร์ยังต้องยื่นภาษีกลางปี และสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ตามรายการที่กำหนดกว่า 20 รายการ โดยมีสำนักงานสรรพากรพื้นที่ และช่องทางออนไลน์ให้คำแนะนำตลอดการยื่นแบบ

กรณีตัวอย่าง “เซฟ กระทะฮ้าง” จุดกระแสดราม่าภาษีบนโซเชียล

กรณี “เซฟ กระทะฮ้าง” หรือ นายสมบูรณ์ วรรณวงศ์ อดีตเชฟโรงแรมที่ผันตัวมาเป็นครีเอเตอร์ดิจิทัล โพสต์ตัดพ้อผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับภาษีที่ต้องจ่ายเกือบ 2 แสนบาท ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นการเลี่ยงภาษีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวออกมายืนยันว่าจะจ่ายแน่นอนเพียงแต่ยังไม่ทราบกระบวนการที่ชัดเจน

เรื่องนี้กลายเป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่ทำอาชีพอิสระ หรือมีรายได้จากโลกออนไลน์ว่า แม้จะไม่มีรายได้ประจำ แต่เมื่อมีรายได้เข้าข่ายเกณฑ์ ก็ควรต้องยื่นแบบเสียภาษีอย่างถูกต้อง

ทัศนะจากทั้งสองฝ่าย

ฝ่ายกรมสรรพากร ยืนยันว่าไม่ได้มุ่งเล่นงานกลุ่มใดเป็นพิเศษ แต่ต้องดูแลความเป็นธรรมและสร้างระบบรายได้ของประเทศอย่างยั่งยืน พร้อมเน้นย้ำว่าการไม่ยื่นภาษีหรือหลบเลี่ยง อาจทำให้ต้องเผชิญกับค่าปรับจำนวนมากในอนาคต

ฝ่ายประชาชนและผู้เสียภาษี บางส่วนมีความกังวลว่าหากเข้าระบบแล้วจะถูกเรียกเก็บย้อนหลัง จึงเลือกไม่ยื่นแบบภาษี ขณะเดียวกันบางรายยังขาดความรู้ในการยื่นแบบภาษี ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง

บทลงโทษสำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตาม

อธิบดีกรมสรรพากรชี้แจงว่า ผู้ไม่ยื่นแบบภาษีภายในกำหนด หรือไม่ชำระภาษี จะถูกปรับไม่เกิน 2,000 บาท และต้องชำระเงินเพิ่มอัตรา 1.5% ต่อเดือน หากพบว่ามีเจตนาหลบเลี่ยงภาษี อาจถูกจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากแจ้งข้อมูลเท็จ อาจถูกจำคุก 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 200,000 บาท

สถานการณ์ตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในปี 2568

ปี 2568 เป็นปีที่มีแนวโน้มการเติบโตของอาชีพอินฟลูเอนเซอร์อย่างก้าวกระโดด โดยข้อมูลจาก MI GROUP คาดการณ์ว่าจำนวนอินฟลูเอนเซอร์ในประเทศไทยอาจแตะ 3 ล้านราย จากปี 2567 ที่มีประมาณ 2 ล้านราย เติบโตจากกลุ่ม Micro และ Nano Influencer ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก

ในแง่เศรษฐกิจ สื่อดิจิทัลเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าเม็ดเงินโฆษณาในปี 2568 จะอยู่ที่ 92,048 ล้านบาท โดยเฉพาะโฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์จะมีมูลค่าแตะ 2,360 ล้านบาท และเติบโตเฉลี่ยปีละ 10.24% จนถึงปี 2572 ตามข้อมูลจาก Statista

ความเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญ

นายภวัต เรืองเดชวรชัย จาก MI GROUP ระบุว่า อินฟลูเอนเซอร์จะยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำตลาด โดยเฉพาะกลุ่ม Micro และ Nano ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้สูงในงบประมาณจำกัด ขณะที่นายศิวัตม์ วิลาสศักดานนท์ จาก AnyMind Group เผยว่า อินฟลูเอนเซอร์ไทยเข้าสู่ยุคใหม่ที่เน้นความเรียลและเข้าถึงผู้บริโภคได้จริง พร้อมระบุว่าผู้ใช้จริงและนักขายออนไลน์จะเป็นกลุ่มหลักในอนาคตของอุตสาหกรรมนี้

สถิติที่เกี่ยวข้องกับข่าว

  • ยอดการยื่นภาษีถึงวันที่ 13 มีนาคม 2568: 7.4 ล้านแบบ (กรมสรรพากร, 2568)
  • อัตราขอคืนภาษี: 46.9% หรือ 3.5 ล้านแบบ (กรมสรรพากร, 2568)
  • จำนวนอินฟลูเอนเซอร์ในประเทศไทย (คาดการณ์ปี 2568): 3 ล้านคน (MI GROUP, 2568)
  • มูลค่าตลาดโฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์ปี 2567: 2,360 ล้านบาท (Statista, 2567)
  • การซื้อสินค้าออนไลน์รายสัปดาห์ของคนไทย: 66.9% (DataReportal, 2567)
  • อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทย: 89.5% (สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลฯ, 2566)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • กรมสรรพากร
  • สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
  • บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด (MI GROUP)
  • บริษัท AnyMind Group ประเทศไทย
  • Statista
  • สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.)
  • DataReportal
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

กรมสรรพากร ได้รับเลือกเป็น “ประธาน SGATAR” การประชุมผู้บริหารจัดเก็บภาษี

 

 

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ประชุม SGATAR ประจำปี ครั้งที่ 52 ได้เลือกไทยเป็นประธาน SGATAR สืบต่อจากมาเลเซีย โดยทำหน้าที่ในช่วง 1 ปีนับจากนี้

 

ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสรรพากร หัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้กล่าวขอบคุณสมาชิก SGATAR ที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่ประธาน พร้อมกล่าวแสดงความยินดีแก่มาเลเซียที่จัดการประชุม SGATAR ประจำปี ครั้งที่ 51 ได้สำเร็จลุล่วง และกล่าวแสดงความชื่นชมแก่คณะทำงาน SGATAR (SGATAR Taskforce) ที่พยายามอย่างอุตสาหะให้การจัดการประชุม SGATAR ประจำปีสำเร็จด้วยดี

 

ดร.กุลยา ตันติเตมิท ยังได้เน้นความสำคัญของ SGATAR ในการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการอภิปรายอย่างเปิดกว้าง การแลกเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ และการระบุความท้าทายร่วมกันของหน่วยงานบริหารการจัดเก็บภาษี รวมทั้งการร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศ เพื่อความก้าวหน้าของการบริหารการจัดเก็บภาษีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยไทยในฐานะประธานจะพยายามอย่างเต็มที่ให้ภารกิจอันมีวิสัยทัศน์นี้ ของ SGATAR บรรลุเป้าหมาย

 

ทั้งนี้ ประธาน SGATAR ได้แต่งตั้งนายนิรันดร์ ประจวบเหมาะ ให้ทำหน้าที่เลขาธิการในการประชุม SGATAR ประจำปีครั้งนี้

SGATAR จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) เป็นที่ประชุมประจำปีของผู้บริหารการจัดเก็บภาษี เพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือของหน่วยงานบริหารการจัดเก็บภาษี ปรับปรุงการบริหารการจัดเก็บภาษี และอภิปรายประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการจัดเก็บภาษี ปัจจุบันมีสมาชิก 18 เขตเศรษฐกิจ และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม SGATAR ประจำปี โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่หน่วยงานบริหารการจัดเก็บภาษีของ 18 เขตเศรษฐกิจและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ รวมกว่า 150 คน

 

 

 

Thailand has been elected as the Chair of SGATAR

Yesterday (31st October 2023), during the 52nd SGATAR Annual Meeting, Thailand was elected as the Chair of SGATAR, succeeding Malaysia, and will serve in this capacity one year from now.

Dr.Kulaya Tantitemit, the Director-General of the Comptroller General’s Department acting Director-General of the Revenue Department and the Head of Thai Delegation, expressed gratitude to SGATAR members for entrusting Thailand with the Chairmanship.

She also extended congratulations to Malaysia for successfully hosting the 51st SGATAR Annual Meeting and commended the SGATAR Taskforce for their dedicated efforts in ensuring the success of the the SGATAR Annual Meeting.

Dr.Kulaya also emphasised the importance of SGATAR as a platform for open discussions, exchange of best practices, and identification of common challenges among tax administrations as well as collaboration with international organisations to advance tax administration in the Asia-Pacific region. In her role as Chair, Thailand will fully commit to achieving this SGATAR’s visionary mission.

The Chair of SGATAR appointed Mr.Nirandara Prachuabmoh from Thailand to act as the Secretary-General for the SGATAR Annual Meeting this year.

SGATAR was established in 1970 as an annual forum for tax administrators to enhance cooperation among tax administrations, improve tax administration, and discuss issues related to tax administration. At present, there are 18 member jurisdictions. This year marks the 6th time Thailand has hosted the SGATAR Annual Meeting. There are over 150 participants, including executives and officials from tax administrations in 18 member jurisdictions, as well as representatives from various international organisations.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมสรรพากร

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News