Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เทศกาลสีสันกาสะลอง 2024 ส่องแสงเจิดจ้า สร้างสีสันเมืองเชียงราย

เชียงรายผนึกกำลังทุกภาคส่วน กระตุ้นการท่องเที่ยว ต้อนรับฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่

เชียงราย 11 พฤศจิกายน 2567 – นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมเพื่อวางแผนฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

เน้นย้ำความร่วมมือทุกภาคส่วน สร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

ในการประชุมดังกล่าว รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชียงรายให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ จังหวัดเชียงรายได้เตรียมกิจกรรมและโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เดินทางมาเยือน

ผสมผสานทุกองค์ประกอบ สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่าง

จังหวัดเชียงรายมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยผสมผสานกิจกรรมทางด้านกีฬา การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การชิมอาหารพื้นเมือง และการสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่นเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน

เซ็นทรัล เชียงราย จัดงาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2024” ต้อนรับนักท่องเที่ยว

เพื่อตอกย้ำความเป็นเมืองท่องเที่ยว ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ ได้แก่ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (โครงการพัฒนาดอยตุง) จัดงาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2024” ขึ้น โดยมีไฮไลท์สำคัญคือ “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” สูง 15 เมตร ที่ออกแบบและสร้างสรรค์โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Chiang Rai The Sense of Art” ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องราวของดินแดนแห่งศิลปะและดอกไม้ของจังหวัดเชียงราย ผ่านการนำดอกไม้เมืองหนาว 9 สายพันธุ์ มาประดับตกแต่งบนต้นคริสต์มาส

“ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” สัญลักษณ์แห่งความสร้างสรรค์และภูมิปัญญาชาวดอย

“ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” นับเป็นผลงานศิลปะที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ภาครัฐ และชุมชน โดยใช้ผ้าพื้นเมืองและเครื่องประดับจากชนเผ่ามาประดับตกแต่ง ซึ่งเป็นการส่งเสริมภูมิปัญญาและผลิตภัณฑ์ของชุมชนท้องถิ่นไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างสรรค์แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงราย และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน

กิจกรรมภายในงาน

  • ชม “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” และสัมผัสความสวยงามของศิลปะและดอกไม้
  • ช้อปปิ้งสินค้าหัตถกรรม จากชุมชนต่างๆ
  • ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง รสชาติอร่อย
  • ร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การแสดงดนตรี การประกวด และเวิร์คช็อป

ช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปีที่เชียงราย

งาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2024” จะจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 ณ บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ผู้ที่สนใจสามารถมาร่วมสัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขและความอบอุ่นในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้ที่นี่

เชียงรายพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน

จังหวัดเชียงรายขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาสัมผัสเสน่ห์ของเมืองแห่งขุนเขาและวัฒนธรรมล้านนา พร้อมร่วมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แสนประทับใจ

พบกับพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่ในวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

ติดตามความเคลื่อนไหวเซ็นทรัลพัฒนา คลิก                     https://www.centralpattana.co.th/th/shopping/shopping-update/lifestyle-activities

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI ENTERTAINMENT

เจนี่ รำบวงสรวง ณ Skywalk วัดพระธาตุดอยเวา

เปิดโมเมนต์งดงาม! เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ รำบวงสรวงพ่อพญานาคราช ณ วัดพระธาตุดอยเวา

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา นางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ได้สร้างความประทับใจและเรียกเสียงชื่นชมจากแฟนๆ ทั่วประเทศอีกครั้ง ด้วยการแต่งกายชุดไทยสุดงดงามและรำบวงสรวงพ่อพญานาคราช ณ วัดพระธาตุดอยเวา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยการรำบวงสรวงนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดบารมี “วิสุทธิเทวามหานทีศรีสวรรค์บันดาลโชค ๙ เศียร” ที่มีความสูงถึง 9.99 เมตร เจนี่ได้ถือฤกษ์งามยามดีในวันที่ 9 เดือน 11 เวลา 9.11 น. ซึ่งเป็นเวลาที่มีความหมายตามความเชื่อเรื่องความมงคล และเธอยังโพสต์ภาพในอินสตาแกรมพร้อมแคปชั่น “อะ งะ สะ ประสิทธิลาโภ” ซึ่งสร้างความสนใจและได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากเหล่าแฟนคลับ

บรรยากาศงานบวงสรวง ณ วัดพระธาตุดอยเวา

พิธีบวงสรวงในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานมากมาย นอกจากจะเป็นการแสดงความเคารพและศรัทธาต่อพ่อพญานาคราชแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการฉลอง ครบรอบ 1 ปีของ Skywalk วัดพระธาตุดอยเวา ซึ่งเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 2566 Skywalk แห่งนี้เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญในจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา

Skywalk วัดพระธาตุดอยเวา: จุดชมวิวที่ไม่ควรพลาด

สกายวอล์กแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือสุดในสยาม เป็นทางเดินกระจกโค้งที่ขนานไปกับถนนทางลงดอยเวา มีความยาวประมาณ 150 เมตร ซึ่งถือว่ายาวที่สุดในประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งสองฝั่งไทยและเมียนมาได้อย่างเต็มตา บรรยากาศที่สงบและสวยงามทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

การเดินทางไปยัง Skywalk วัดพระธาตุดอยเวา

นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางได้หลายวิธี โดยมีบริการรถรับส่งจาก ลานจอดรถตรงข้ามมูลนิธิกวงเม้ง รวมถึงจุดจอดอื่นๆ เช่น สถานีด้านล่างบันไดพญานาค ค่าโดยสารสำหรับรถรับส่งอยู่ที่ประมาณ 30-40 บาทต่อคน ซึ่งสะดวกและเข้าถึงง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

ประวัติวัดพระธาตุดอยเวา: สถานที่แห่งความศรัทธาและวัฒนธรรม

วัดพระธาตุดอยเวาเป็นวัดที่มีความเก่าแก่และเป็นที่เคารพนับถือในจังหวัดเชียงราย เชื่อกันว่ามีอายุน้อยกว่าวัดพระธาตุดอยตุงเล็กน้อย นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสามารถขึ้นไปนมัสการพระธาตุโดยการเดินขึ้นบันได เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา จะพบกับ พระแก้วมรกตจำลอง และรูปปั้นแมงป่องยักษ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์เวา นอกจากนี้ยังมีพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้สักการบูชา

งานทอดกฐินสามัคคีมหาทานบารมี

นอกจากพิธีรำบวงสรวงแล้ว ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ยังมีการจัดพิธีทอดกฐินสามัคคี ณ Skywalk วัดพระธาตุดอยเวา ซึ่งมีขบวนแห่ต้นกฐินที่งดงาม นักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธามาร่วมทำบุญกันอย่างคึกคัก ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ส่งเสริมความเป็นไทยและสร้างบุญกุศลให้แก่ผู้ร่วมงานทุกคน

ความสำคัญของสกายวอล์กต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น

การเปิด Skywalk และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องไม่เพียงแต่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับชุมชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ นับเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ / janienineeleven

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
CULTURE TRAVEL

ทริปไหว้พระ 9 วัดดัง เชียงราย เสริมสิริมงคลครบในวันเดียว

แจกพิกัดไหว้พระ 9 วัดในเชียงราย สายมูห้ามพลาด! ทริปวันเดียวครบในตัวเมือง

เชียงรายในฤดูหนาวกำลังคึกคัก พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวสายบุญและสายมูที่ต้องการเสริมสิริมงคลให้ชีวิต วันนี้เราขอแนะนำทริปไหว้พระ 9 วัดในตัวเมืองเชียงราย วันเดียวไหว้ครบ แถมไม่ต้องเดินทางไกล พิกัดแน่น ๆ แบบ One Day Trip! เริ่มจากจุดสำคัญที่พลาดไม่ได้

เริ่มต้นทริปที่ อนุสาวรีย์พญามังราย

อนุสาวรีย์พญามังราย ตั้งอยู่ที่ห้าแยกพ่อขุน ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งเมืองเชียงราย สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแก่พระปรีชาสามารถของพญามังราย กษัตริย์ล้านนาผู้ก่อตั้งเมืองเชียงราย พระบรมรูปหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ประดับด้วยเครื่องทรงล้านนาโบราณ ประทับยืนบนฐานสูงประมาณ 3 เมตร พระหัตถ์ซ้ายถือดาบยืนอย่างสง่างาม

หลังจากนั้นเราขอแนะนำเส้นทางไหว้พระ 9 วัด ที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ ในตัวเมืองเชียงราย ไหว้ครบจบในวันเดียว รับรองทั้งอิ่มใจและอิ่มบุญตามแบบฉบับสายมู ใครมาถึงเชียงรายแล้วห้ามพลาดทริปนี้!

1.วัดศรีบุญเรือง เชียงราย

วัดศรีบุญเรือง เชียงราย

แนะนำวัดศรีบุญเรือง เชียงราย สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนา เริ่มต้นทริปไหว้พระเสริมบุญที่ “วัดศรีบุญเรือง” วัดเก่าแก่ใจกลางเมืองเชียงราย ตั้งอยู่ในตำบลเวียง อำเภอเมือง ซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 1982 แม้จะเคยกลายเป็นวัดร้างและเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา แต่ต่อมาได้รับการบูรณะขึ้นใหม่โดยคุ้มเจ้าหลวงและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2489 ภายในวัดมีทั้งพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอฉัน หอระฆัง และศาลาพักร้อน โดยทั้งหมดสร้างด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอันงดงามสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของล้านนา

ด้านหลังวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่เปิดให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมา เรียกได้ว่าเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ต้องการซึมซับความเป็นล้านนาแท้ ๆ อีกทั้งใกล้ ๆ วัดยังมีร้านอาหารพื้นเมืองรสชาติเยี่ยมให้ได้ลองชิม บอกได้คำเดียวว่ามาเยือนเชียงรายทั้งที ต้องไม่พลาดแวะมาเที่ยววัดศรีบุญเรือง!

  • Location: หมู่ที่ 3 ถนนสิงหไคล ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
  • Google Map: https://maps.app.goo.gl/kA1zrHRt4sN145x5A
2.วัดเชตวัน(พระนอน) เชียงราย

วัดเชตวัน (พระนอน) เชียงราย วัดเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

อีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจในเชียงราย คือ “วัดเชตวัน (พระนอน)” วัดราษฎร์ฝ่ายมหานิกาย ที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “วัดพระนอน” วัดนี้ถูกเชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพ่อขุนเม็งรายมหาราช พร้อมกับการก่อตั้งเมืองเชียงราย โดยชื่อ “เชตวัน” นั้นอาจมีรากศัพท์มาจากคำว่า “ตะวัน” ซึ่งหมายถึงพระอาทิตย์ เพราะวัดนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง

ความสำคัญของวัดเชตวันเพิ่มขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2423 เมื่อครูบาหงษ์หรือกาวิโลภิกขุ เดินทางธุดงค์มาจากเชียงใหม่และได้พบบริเวณที่มีเจดีย์ลูกนิมิตและต้นโพธิ์ใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่มีความรกและมีน้ำท่วม เขาจึงตัดสินใจบูรณะพื้นที่นี้ให้เป็นวัด โดยตั้งชื่อว่า “วัดเชตวัน (ป่าแดด)” สื่อถึงฤดูแล้งที่ท้องฟ้าปราศจากเมฆหมอก เห็นแสงแดดเจิดจ้า

ภายในวัดมีพระพุทธไสยาสน์ หรือ “พระนอน” ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2491 นับเป็นจุดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านมักมาเคารพสักการะ นอกจากนี้ วัดเชตวันยังได้รับคัดเลือกให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ชุมชนแห่งแรกของเชียงราย และมีการตั้งชมรมตีกลองปู่จาเพื่ออนุรักษ์ประเพณีการตีกลองอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมกลองปู่จาและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดได้อย่างใกล้ชิด

  • Location: บ้านหนองบัว ตำบลเวียง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
  • Google Map: https://maps.app.goo.gl/xDQsQDWCqjdxfe978
3.วัดกลางเวียงเชียงราย

วัดกลางเวียง เชียงราย จุดศูนย์กลางแห่งความศรัทธาในเวียงเชียงราย

หากคุณเป็นสายมูที่เดินทางมาถึงเชียงรายแล้ว วัดกลางเวียง ถือเป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาด วัดนี้เคยถูกเรียกว่า “วัดจันทน์โลก” หรือ “จั๋นต๊ะโลก” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดกลางเวียง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นศูนย์กลางของเมืองเชียงรายและมี “สะดือเวียง” หรือเสาหลักเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ภายในวัดด้วย

สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1975 วัดนี้ได้รับการเคารพบูชาเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้านในยุคแรกๆ ชื่อเดิมมาจากต้นจันทน์แดงใหญ่ที่เคยขึ้นอยู่ในบริเวณวัด ก่อนจะโค่นลงตามกาลเวลา เมื่อครั้งสร้างเมืองเชียงรายครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2417 ชาวเมืองได้รังวัดจากทั้ง 4 มุมเมือง และพบว่าวัดนี้อยู่กลางใจเมืองพอดี จึงได้ตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดกลางเวียง”

จุดเด่นของวัดนี้คือเสาหลักเมืองเชียงรายที่ตั้งอยู่ภายในมณฑปทรงฟักทองยอดแหลม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 รอบพระชนมายุในปี พ.ศ. 2535 บริเวณรอบมณฑปมีรูปปั้นท้าวจตุโลกบาลทำหน้าที่ปกป้องสะดือเวียง สร้างความศักดิ์สิทธิ์และงดงามให้กับพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีเจดีย์และพระอุโบสถในศิลปะล้านนาประยุกต์ที่งดงามสะดุดตา ควรค่าแก่การเยี่ยมชม

4.วัดพระสิงห์ เชียงราย พระอารามหลวง

วัดพระสิงห์ เชียงราย พระอารามหลวง

วัดพระสิงห์ เชียงราย จุดศูนย์กลางแห่งความศรัทธาและศิลปะล้านนา

วัดพระสิงห์ เชียงราย หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองล้านนาและจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ วัดพระสิงห์เป็นพระอารามหลวงที่มีประวัติยาวนานและความสำคัญทางศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย

ประวัติความเป็นมา วัดพระสิงห์สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ามหาพรหม พระอนุชาของพระเจ้ากือนาธรรมิกราช เจ้าเมืองเชียงใหม่ โดยสันนิษฐานว่าก่อสร้างในราวปี พุทธศักราช 1928 ระหว่างปี พุทธศักราช 1888 ถึง 1943 คำว่า “พระสิงห์” หมายถึงวัดที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์ หรือ พระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่ชาวไทยให้ความเคารพ

พระพุทธรูปสำคัญ ภายในพระอุโบสถของวัดพระสิงห์ มีพระพุทธสิหิงค์สององค์ ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์หรือพระสิงห์เชียงแสน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปชนิดสำริดปิดทอง ขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 204 เซนติเมตร สูงทั้งฐาน 284 เซนติเมตร ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงราย

สถาปัตยกรรมและการบูรณะ วัดพระสิงห์มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทยสมัยเชียงแสน โครงสร้างเดิมเป็นไม้เนื้อแข็ง และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในปี พุทธศักราช 2504 และปี พุทธศักราช 2533 บานประตูหลวงที่ประดับด้วยไม้แกะสลักจิตกรรมอย่างประณีต วิหารและพระเจดีย์ที่ตกแต่งด้วยทองแผ่นทองแดงเพิ่มความงดงามให้กับวัด

เรื่องเล่าและตำนาน ตามตำนาน เจ้ามหาพรหม พระอนุชาของพระเจ้ากือนา ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองกำแพงเพชรเพื่อหล่อจำลองและประดิษฐานไว้ที่วัดพระสิงห์ เชื่อกันว่าพระพุทธสิหิงค์องค์จริงถูกยืมไปประดิษฐานที่เชียงรายเพื่อเป็นแบบหล่อขึ้นใหม่

กิจกรรมและประเพณี วัดพระสิงห์เป็นที่จัดงานประเพณีและกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ตลอดทั้งปี รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแข่งขันตีกลองปู่จา ซึ่งเป็นการสืบสานประเพณีโบราณของล้านนา

จุดน่าสนใจภายในวัด

  • พระพุทธสิหิงค์คู่เมือง: พระพุทธรูปปฏิมากรรมที่งดงามและมีขนาดใหญ่
  • บานประตูหลวง: ประดับด้วยไม้แกะสลักจิตกรรมอย่างละเอียดและวิจิตรบรรจง
  • พระเจดีย์เก่าแก่: สถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย มีพระพุทธรูปทองคำและเงินประดิษฐานอยู่ภายใน
  • รอยพระพุทธบาทจำลอง: สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช

การเยี่ยมชมวัดพระสิงห์ วัดพระสิงห์เปิดให้เข้าชมทุกวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสิริมงคลหรือสนใจศึกษาประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนา นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพระพุทธรูป ศาลาการเปรียญ และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ภายในวัดได้อย่างใกล้ชิด

แวะมาทำบุญและเสริมสิริมงคลที่วัดพระสิงห์ ไม่ว่าคุณจะมาเพื่อทำบุญหรือเพื่อศึกษาความงดงามของสถาปัตยกรรมล้านนา วัดพระสิงห์เชียงรายเป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของเชียงราย

 

  • Location: ถนนท่าหลวง เมืองเชียงราย, เชียงราย
  • Google Map: https://g.co/kgs/HVuKmg3
5.วัดมิ่งเมืองเชียงราย

วัดมิ่งเมือง เชียงราย วัดเก่าแก่และศูนย์รวมความศรัทธาของชาวไทยใหญ่

เชียงราย – เข้าสู่ช่วงครึ่งทางของทริปไหว้พระ 9 วัด เชียงราย คราวนี้มาถึง “วัดมิ่งเมือง” หนึ่งในวัดสำคัญของเมืองเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนไตรรัตน์ เป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวไทยใหญ่เรียกว่า “วัดเงี้ยว” หรือ “วัดช้างมูบ” และยังถือว่าเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมไทยใหญ่และล้านนาอย่างโดดเด่น

ประวัติความเป็นมา วัดมิ่งเมืองก่อตั้งขึ้นโดยเจ้านางตะละแม่ศรี พระมเหสีของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ธิดาของกษัตริย์จากหงสาวดี จึงทำให้วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นจุดศูนย์รวมความศรัทธาของชุมชนชาวไทยใหญ่ ภายในวัดมีพระธาตุมิ่งเมือง เจดีย์ศิลปะล้านนาประดับฉัตรทองที่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์อย่างงดงามและเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้มอบเป็นพระราชทานให้กับวัด

สถาปัตยกรรมและสถานที่สำคัญภายในวัด วัดมิ่งเมืองเป็นที่ตั้งของพระวิหารไม้ลายคำ ซึ่งสะท้อนศิลปะผสมผสานระหว่างไทยใหญ่และล้านนา ภายในพระวิหารประดิษฐานพระศรีมิ่งเมือง พระประธานปูนปั้นลงรักปิดทอง ศิลปะแบบเชียงแสนสิงห์ 1 อายุกว่า 400 ปี ด้านหน้าพระวิหารยังมีบ่อน้ำโบราณชื่อ “บ่อน้ำช้างมูบ” พร้อมซุ้มโขงช้างตกแต่งด้วยประติมากรรมที่หายาก

เสน่ห์ของวัดมิ่งเมือง วัดมิ่งเมืองยังคงมีโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ รวมถึง “ประตูขัวดำ” หรือประตูเมืองเก่า ซึ่งผู้คนเชื่อว่าบ่อน้ำที่นี่เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้ผู้ที่ดื่มและล้างหน้ามีสิริมงคลก่อนไปท่องเที่ยวหรือเดินทางต่อ นอกจากนี้ หากต้องการเติมพลังแนะนำให้ลองชิม “ก๋วยจั๊บน้ำข้น” ร้านเด็ดหลังวัดที่ขึ้นชื่อในรสชาติ 

วัดมิ่งเมือง จุดแวะที่คุณไม่ควรพลาดในทริปเชียงราย ด้วยบรรยากาศของวัดที่เต็มไปด้วยศิลปะล้านนาและความศรัทธาโบราณ วัดมิ่งเมืองเชียงรายจะทำให้คุณรู้สึกสงบและเสริมสิริมงคลให้กับการเดินทาง

6. วัดพระแก้ว เชียงราย

วัดพระแก้ว เชียงราย จุดหมายสำคัญแห่งพระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์

หลังเติมพลังเสร็จ เราขอพาเข้าสู่ครึ่งหลังของทริปไหว้พระ 9 วัดในเชียงราย โดยมีจุดหมายที่ “วัดพระแก้ว” วัดอารามหลวงชั้นตรีที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมล้านนา วัดนี้เป็นสถานที่ค้นพบพระแก้วมรกตอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ

ประวัติความเป็นมาและการค้นพบพระแก้วมรกต วัดพระแก้วแต่เดิมชื่อว่า “วัดป่าเยียะ” ภายในบริเวณวัดมีไม้เยียะขึ้นอยู่มากมาย แต่ในปี พ.ศ. 1977 ได้เกิดเหตุการณ์เจดีย์ของวัดถล่มลงมา เผยให้เห็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่กะเทาะออกจนเห็นเนื้อมรกตภายใน ทำให้ผู้คนขนานนามวัดนี้ใหม่ว่า “วัดพระแก้ว” นับเป็นสถานที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ก่อนจะย้ายไปกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน

สถานที่สำคัญภายในวัด

  • หอพระหยก: อาคารทรงล้านนาที่ประดิษฐาน “พระหยกเชียงราย” ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครบ 90 พรรษา
  • พระอุโบสถทรงเชียงแสน: พระวิหารที่มีลักษณะหลังคาเตี้ยและลาดต่ำ เป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับการยกย่องในความงดงามตามศิลปะแบบล้านนา
  • โฮงหลวงแสงแก้ว: พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญของวัด รวมถึงจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

วัดพระแก้วเชียงรายแห่งนี้เป็นมากกว่าสถานที่ปฏิบัติธรรม เพราะเป็นทั้งจุดท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์พุทธศิลป์ล้านนา ใครที่มาเชียงรายไม่ควรพลาดแวะมาสักการะที่นี่สักครั้ง

มาทำบุญและเยี่ยมชมความงามแห่งล้านนาได้ที่วัดพระแก้ว เชียงราย

7.วัดดอยงำเมือง

วัดดอยงำเมือง เชียงราย จุดหมายสายมู สร้างมิตรภาพและโชคลาภ

วัดดอยงำเมือง หรือวัดงำเมือง เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ผู้คนสายมูไม่ควรพลาด เพราะเชื่อกันว่าใครที่มาไหว้พระที่นี่จะได้เสริมมิตรภาพและโชคลาภอย่างไม่ขาดสาย วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเชียงราย ตั้งอยู่บนดอยงามเมืองและเป็นสถานที่ประดิษฐานของกู่พญามังรายที่สร้างโดยพญาไชยสงคราม โอรสของพญามังรายมหาราช

วัดดอยงำเมืองมีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาประยุกต์ที่งดงาม โดยเฉพาะพระวิหารที่มีราวบันไดเป็นรูปมกรคายนาคและประดับตกแต่งด้วยลายคำทองอย่างละเอียด อีกทั้งภายในยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา ซึ่งแสดงถึงความสง่างามและศรัทธาในพุทธศาสนา

วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหลังวัดพระแก้วเชียงราย โดยสามารถเดินทางผ่านถนนงำเมืองและเข้าไปได้ง่าย ผู้ที่เดินทางมาสามารถขับรถขึ้นเนินเล็กๆ ไปยังวัดได้สะดวก

หากคุณกำลังมองหาสถานที่เสริมสิริมงคลและบรรยากาศสงบเงียบในเชียงราย วัดดอยงำเมืองเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรแวะเยือน

  • Location: ถนนอาจอำนวย บ้านฮ่อมดอย (ชุมชนราชเดชดำรง) หมู่ที่1 ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย
  • Google Map: https://g.co/kgs/fErJ2Lh

8.วัดพระธาตุดอยจอมทอง หรือวัดพระธาตุดอยทอง (หรือวัดพระธาตุดอยตอง ตามสำเนียงคนเชียงราย)

วัดพระธาตุดอยจอมทอง วัดเก่าแก่เชียงราย คู่ประวัติศาสตร์เมืองล้านนา

วัดพระธาตุดอยจอมทอง หรือวัดพระธาตุดอยทอง เป็นวัดสำคัญในเชียงรายที่สายมูและนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ควรพลาด วัดนี้มีความเก่าแก่และเป็นที่นับถือในฐานะวัดที่คู่กับการสร้างเมืองเชียงราย ตามตำนานเล่าว่า วัดพระธาตุดอยจอมทองถูกสร้างขึ้นก่อนที่พ่อขุนเม็งรายจะทรงสร้างเมืองเชียงราย โดยภายในวัดมีพระธาตุจอมทองที่เป็นเจดีย์ตามศิลปะแบบล้านนา-พุกาม หุ้มด้วยทองคำอันงดงามและมีชื่อมงคล

ย้อนกลับไปในอดีต เมื่อพระพุทธศาสนามีอายุได้ประมาณ 936 ปี พระเถระเจ้ารูปหนึ่งนามว่าพระพุทะโฆษา ได้นำพระบรมสารีริกธาตุจำนวน 16 องค์มาถวายแก่พระเจ้าพังคราช เจ้าเมืองโยนกนาคพันธุ์ในขณะนั้น พระองค์ได้นำส่วนหนึ่งบรรจุลงในมหาสถูปบนดอยทองและตั้งชื่อว่าพระธาตุดอยจอมทอง ส่วนอีกส่วนนำไปประดิษฐานที่ดอยน้อยหรือวัดพระธาตุจอมกิตติในปัจจุบัน

นอกจากนี้ วัดพระธาตุดอยจอมทองยังมีเสาสะดือเมืองเชียงราย ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2530 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการรำลึกถึงพ่อขุนเม็งรายและในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเสานี้ถือเป็นศูนย์กลางจักรวาลตามคติความเชื่อของชาวล้านนา มีการแกะสลักจากหินโดยนายสิงห์คำ สมเครือ ช่างฝีมือชาวพะเยา ปัจจุบันเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งของเชียงรายที่นักท่องเที่ยวแวะมาเคารพสักการะ

หากมีโอกาสเยือนเชียงราย อย่าลืมแวะสักการะวัดพระธาตุดอยจอมทองและเสาสะดือเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อสัมผัสบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ของเมืองล้านนา

  • Location: ถนนอาจอำนวย ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
  • Google Map: https://goo.gl/maps/1XaMew7HwEfRtd3H6

9.วัดเจ็ดยอด เชียงราย เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี

วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวงเชียงราย ความงดงามแห่งเมืองล้านนา

ปิดท้ายทริปไหว้พระในเชียงรายด้วยวัดเจ็ดยอด พระอารามหลวงชั้นตรี ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย วัดเจ็ดยอดเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ล้านนา ถึงแม้จะไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่มีการบูรณะวัดครั้งสำคัญในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ในปี พ.ศ. 2386 โดยพระครูบาคันธะคนฺธวํโส ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสคนแรกของวัด ท่านได้เชิญชวนชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธามาร่วมกันพัฒนาวัด จนพบซากวัดเก่าที่มีพระธาตุเจ็ดองค์ตั้งเรียงกันทั้งใหญ่และเล็ก จึงได้บูรณะใหม่ตามแบบวัดเจ็ดยอดในเมืองเชียงใหม่

พระพุทธรูปประธานในอุโบสถของวัดเจ็ดยอดเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบล้านนา ก่ออิฐถือปูนและปิดทองทั้งองค์ ภายในอุโบสถเงียบสงบ เหมาะแก่การเจริญสติและสมาธิ ฝ้าเพดานด้านหน้าพระอุโบสถประดับด้วยภาพเขียนสีที่งดงามมาก

วัดเจ็ดยอดมีชื่อเสียงจากเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่องค์พระธาตุเจ็ดยอดในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2565 ซึ่งทำให้ผิวคอนกรีตด้านนอกแตกกะเทาะออกจนเห็นอิฐด้านใน แต่โครงสร้างหลักไม่ได้รับความเสียหาย และยังคงเป็นจุดสำคัญที่ผู้ศรัทธาแวะเวียนมาทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลอยู่เสมอ

การเดินทางมาวัดเจ็ดยอด
จากแยกหอนาฬิกาเชียงราย ขับรถตามถนนเจ็ดยอดประมาณ 500 เมตร วัดเจ็ดยอดจะอยู่ทางขวามือ

วัดเจ็ดยอดเป็นหนึ่งในพระอารามหลวงที่แฝงด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนาโบราณ ใครมาเชียงรายแล้วไม่ควรพลาดที่จะเยี่ยมชม

 

  • Location: ตำบลเวียง อำเภอเชียงราย จังหวัดเชียงราย
  • Google Map: https://g.co/kgs/PDdpdYA

ทริปไหว้พระ 9 วัดดังในเชียงราย ไหว้ครบได้ในวันเดียว!

และนี่คือทริปไหว้พระ 9 วัดดังในตัวเมืองเชียงรายที่เรานำมาฝากกันค่ะ รับรองว่าเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นสายมูหรือสายบุญก็สามารถไหว้ครบทุกวัดได้ภายในวันเดียว ใครที่อยู่ต่างจังหวัดและอยากตามรอยทริปดี ๆ แบบนี้ ก็จัดกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าเชียงรายกันได้เลย บอกเลยว่าทั้งอิ่มบุญและยังได้สัมผัสความงดงามของวัดเก่าแก่ที่มีตำนานยาวนานอีกด้วย!

คอลัมน์โดย : มนรัตน์ ก.บัวเกษร

เครดิตภาพ : กีรติ ชุติชัย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

Chiang Rai Road Classic 2024 ปั่นชมธรรมชาติสวยงาม

 

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 บรรยากาศคึกคักที่จังหวัดเชียงรายเมื่อเหล่านักปั่นจากทั่วประเทศและนักปั่นต่างชาติกว่า 2,000 คน ร่วมเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานทางเรียบ Chiang Rai Road Classic 2024 ซึ่งจัดขึ้นโดย บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงราย และ เครือข่ายชมรมจักรยานจังหวัดเชียงราย กิจกรรมนี้นับเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและการท่องเที่ยวของจังหวัด

เปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ด้วยผู้บริหารระดับสูงร่วมปล่อยขบวนนักปั่น

กิจกรรมในวันนี้ได้รับเกียรติจาก นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยผู้บริหารจากบริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด และหน่วยงานราชการ อาทิ นางชญาณ์นันท์ เชื้อศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ปลัด อบจ.เชียงราย และ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ที่เข้าร่วมพิธีเปิดและร่วมปล่อยขบวนจักรยาน

เส้นทางปั่นจักรยานที่สวยงามที่สุดในภาคเหนือ

กิจกรรมปั่นจักรยานครั้งนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นการปั่นชมทัศนียภาพอันงดงามของ จังหวัดเชียงราย โดยมีเส้นทางแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ 25 กม., 60 กม., 110 กม. และ 130 กม. ซึ่งไม่จำกัดประเภทของจักรยาน ผู้เข้าร่วมสามารถเลือกเส้นทางตามความสามารถและความชื่นชอบ เส้นทางเริ่มต้นที่ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ อาทิ วัดร่องขุ่น และ สะพานข้ามทะเลสาบหนองหลวง รวมถึงเส้นทางธรรมชาติที่เงียบสงบ

สัมผัสบรรยากาศชุมชนและธรรมชาติที่งดงาม

เส้นทางการปั่นจักรยานพาดผ่านพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดเชียงราย ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย, อำเภอเวียงชัย, อำเภอพญาเม็งราย, อำเภอขุนตาล และ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง นักปั่นไม่เพียงแต่จะได้ออกกำลังกาย แต่ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชน ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงรายตลอดเส้นทาง นักปั่นได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่งดงามของสองข้างทาง ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

กระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว

การจัดงานครั้งนี้มุ่งเน้นการ ประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย และสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วย กระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น ผ่านการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ การเยี่ยมชมร้านค้าและร้านอาหารในพื้นที่ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น

ส่งเสริมการออกกำลังกายและสุขภาพที่ดี

นอกจากการเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวแล้ว Chiang Rai Road Classic 2024 ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ ของผู้เข้าร่วม โดยเปิดโอกาสให้นักปั่นทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นได้มาสนุกกับการปั่นจักรยานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตร นักปั่นหลายคนรู้สึกประทับใจกับการจัดงานในครั้งนี้ และมีความหวังว่าจะได้ร่วมกิจกรรมในปีถัดไป

ความสำเร็จของกิจกรรมและการตอบรับจากนักปั่น

จากข้อมูลที่ได้รับการสำรวจ พบว่านักปั่นที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ส่วนใหญ่ชื่นชอบเส้นทางที่ท้าทายและทิวทัศน์ที่สวยงามของเชียงราย โดยหลายคนกล่าวว่าเป็น หนึ่งในเส้นทางปั่นจักรยานที่สวยงามที่สุดในภาคเหนือ และอยากให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสุขภาพของคนไทย

ประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อชุมชน

การจัดงานนี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างสรรค์โอกาสใหม่ ๆ ให้กับชุมชนในเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

ฟื้นฟูถนนคนเดินเชียงของ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.30 น. นายเสริฐ ไชยยานันตา ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ได้จัดพิธีเปิดกิจกรรม “ฟื้นฟูและส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นถิ่น ถนนคนเดินเมืองเชียงของ” ณ ลานเสาพญานาคริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงนิเวศ และเชิงสุขภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดยได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่

พิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่ มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 100 คน

พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มาเป็นประธานในพิธี โดยนายเสริฐ ไชยยานันตา ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับโครงการ ขณะที่ นายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอเชียงของ กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานกว่า 100 คน

ถนนคนเดินเมืองเชียงของ: แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่ไม่ควรพลาด

กิจกรรม “ถนนคนเดินเมืองเชียงของ ChiangKhong Street Market” จัดขึ้นทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ถึง 8 ธันวาคม 2567 ระหว่างเวลา 17.00 – 21.00 น. ณ บริเวณเสาพญานาคริมน้ำโขง ซึ่งถือเป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญของอำเภอเชียงของ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศวิถีชุมชน พร้อมซึมซับธรรมชาติอันงดงามของแม่น้ำโขง โดยมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น อาหารพื้นเมือง กว่า 60 บูธ การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และนิทรรศการเล่าเรื่องราวของเมืองเชียงของ

สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างรายได้ให้ชุมชน

กิจกรรมถนนคนเดินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยมีผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าร่วมมากมาย รวมถึงกลุ่ม วิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตสินค้า OTOP ศิลปินนักแสดง และผู้ประกอบการด้านการสร้างสรรค์ ซึ่งกิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ยังช่วยส่งเสริมการจ้างงานในพื้นที่ และเชื่อมโยงเศรษฐกิจในระดับรากฐาน ทำให้ผู้ประกอบการและพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่มีโอกาสเพิ่มรายได้

การตอบรับดีเยี่ยมจากนักท่องเที่ยว

จากการสำรวจข้อมูลการจัดงานในช่วงที่ผ่านมา 2 สัปดาห์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมมากกว่า 500 คนต่อวัน ส่งผลให้มียอดรายได้จากการจำหน่ายสินค้ารวมกว่า 40,000 บาทต่อวัน สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ กิจกรรมนี้ยังช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในพื้นที่ หลังจากที่ชุมชนได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา

อัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่ควรอนุรักษ์

กิจกรรม “ถนนคนเดินเมืองเชียงของ” ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังช่วย อนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น โดยมีกิจกรรมเวิร์กช็อปที่สร้างแรงจูงใจให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชน ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม สร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดีในการเดินทางมายังเมืองเชียงของ

สร้างความร่วมมือเข้มแข็งระหว่างภาครัฐและเอกชน

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนในพื้นที่ การบูรณาการการทำงานระหว่างกันช่วยให้กิจกรรมมีความสำเร็จอย่างยั่งยืน นายเสริฐ ไชยยานันตา กล่าวว่า “หวังว่ากิจกรรมนี้จะกลายเป็นต้นแบบให้กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ”

ความหวังในการพัฒนาเศรษฐกิจและชุมชนอย่างยั่งยืน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ศูนย์คุ้มครองสิทธิฯ เชียงราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ รพ.คืนเงินผู้ป่วยวิกฤต

ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองเชียงราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ รพ.เอกชนเตรียมคืนเงินผู้ป่วย UCEP

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จังหวัดเชียงราย ได้เปิดเผยความสำเร็จในการไกล่เกลี่ยกรณี โรงพยาบาลเอกชน เก็บเงินค่ารักษาพยาบาลจากผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP) ซึ่งถือเป็นสิทธิที่ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” ผู้ป่วยรายดังกล่าวจะได้รับ เงินคืนจากโรงพยาบาลเอกชน หลังจากที่การเจรจาสิ้นสุดลง

กรณีตัวอย่าง: ผู้ป่วยฉุกเฉินที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน

กรณีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เมื่อมีผู้ป่วยรายหนึ่งที่ทำงานเป็น ไรเดอร์ ประสบภาวะ อาการเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งทำให้มีอาการอ่อนแรง สะลึมสะลือ และน้ำลายฟูมปาก เพื่อนไรเดอร์จึงรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย โดยในช่วงนั้นสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด ทำให้ญาติผู้ป่วยลงนามยินยอมไม่ใช้สิทธิ UCEP อย่างเร่งด่วน เนื่องจากต้องการให้เริ่มการรักษาโดยเร็วที่สุด

กระบวนการไกล่เกลี่ยและการคืนเงินค่ารักษา

หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ญาติของผู้ป่วยได้พยายามย้ายตัวผู้ป่วยไปยัง โรงพยาบาลที่มีสิทธิประกันสังคม แต่โรงพยาบาลเอกชนกลับเรียกเก็บเงินค่ารักษาประมาณ 250,000 บาท และไม่ยินยอมให้ผู้ป่วยย้ายออกจนกว่าจะชำระเงิน ญาติจึงตัดสินใจชำระเท่าที่มีและเซ็นรับสภาพหนี้ไปก่อนเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถออกจากโรงพยาบาลได้

นายธนชัย ฟูเฟื่อง ประธานศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จังหวัดเชียงราย ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติผู้ป่วย ศูนย์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างรวดเร็ว โดยทำการรวบรวมข้อมูลและส่งหนังสือแจ้งไปยังโรงพยาบาลเอกชนว่า ผู้ป่วยรายนี้เข้าข่ายสิทธิ UCEP และโรงพยาบาลไม่มีสิทธิ์เรียกเก็บเงินเพิ่มเติม

กระบวนการส่งเรื่องต่อ สปสช. และสพฉ.

ในขั้นตอนต่อมา ศูนย์คุ้มครองสิทธิฯ ได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยัง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ส่วนกลาง ซึ่งต่อมา สปสช. เขต 1 เชียงใหม่ ได้ประสานกับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) เพื่อพิจารณากรณีนี้ โดยสพฉ. ได้ทำหนังสือยืนยันว่า เคสนี้เข้าเกณฑ์ UCEP และโรงพยาบาลควรคืนเงินให้กับญาติผู้ป่วย

ผลการเจรจาและการคืนเงิน

การเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างศูนย์คุ้มครองสิทธิฯ ญาติผู้ป่วย และตัวแทนจากโรงพยาบาลเอกชนเกิดขึ้นในวันที่ 4 ตุลาคม 2567 หลังจากเจรจาราว 1 ชั่วโมง โรงพยาบาลเอกชนตกลงที่จะคืนเงินให้กับญาติผู้ป่วย แต่ขอเคลมค่าใช้จ่ายกับ สปสช. ก่อน เมื่อทางโรงพยาบาลได้รับเงินจาก สปสช. แล้วจึงจะโอนคืนเงินส่วนที่เรียกเก็บไปให้กับญาติผู้ป่วย ซึ่งล่าสุด ทางโรงพยาบาลได้โอนเงินคืนให้กับผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว

ความสำคัญของสิทธิ UCEP และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

กรณีนี้เป็น กรณีตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรู้สิทธิ UCEP โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งโรงพยาบาลทุกแห่งมีหน้าที่ต้องเคลมค่าใช้จ่ายจาก สปสช. แทนการเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วยโดยตรง

การขอบคุณและความหวังในอนาคต

นายธนชัยได้ขอบคุณโรงพยาบาลเอกชนที่ยอมคืนเงินค่ารักษาและเข้าใจในกระบวนการหลังการเจรจา พร้อมเน้นย้ำว่า กรณีนี้จะเป็นบทเรียน ให้กับโรงพยาบาลอื่น ๆ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสิทธิที่พึงมีอย่างแท้จริง

บทสรุป

การไกล่เกลี่ยกรณีโรงพยาบาลเอกชนเก็บเงินค่ารักษาผู้ป่วย UCEP ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี ต้องยกย่องความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์คุ้มครองสิทธิ สปสช. และสพฉ. ในการดำเนินการให้ผู้ป่วยได้รับสิทธิที่พึงมี กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาสิทธิและการเคารพในกฎระเบียบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในระบบสุขภาพไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จังหวัดเชียงราย 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายลุยป้องฝุ่น PM2.5 ปี 2568 สร้างสุขภาพดีทั่วจังหวัด

เชียงรายเตรียมพร้อมรับมือฝุ่น PM2.5 ปี 2568: สสจ.เชียงรายจับมือภาคีเครือข่ายดูแลสุขภาพประชาชน

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย (สสจ.เชียงราย) ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนอย่างครอบคลุม

การดำเนินมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังฝุ่น PM2.5

ในปีที่ผ่านมา สสจ.เชียงรายได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการแจกจ่าย หน้ากากอนามัย N95 ให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบางจำนวนกว่า 232,000 ชิ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหลอดเลือด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคหอบหืด นอกจากนี้ ทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน 12,162 ราย เพื่อดูแลและเฝ้าระวังอาการของผู้ป่วย

นพ.วัชรพงษ์ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกับ อสม. ในการตรวจเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง โดยไม่เพียงแค่แจกจ่ายหน้ากากป้องกันฝุ่นเท่านั้น แต่ยังมีการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้หน้ากากอย่างถูกวิธี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการป้องกันสูงสุด

นวัตกรรมเพื่อป้องกันฝุ่นภายในบ้าน

เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 สสจ.เชียงรายได้ส่งเสริมการติดตั้งอุปกรณ์สร้าง แรงดันบวกภายในบ้าน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้ามาภายในบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้ “มุ้งปลอดฝุ่น” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดการสัมผัสกับฝุ่นละอองโดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ที่ไม่มีเครื่องฟอกอากาศ

บริการคลินิกมลพิษและการจัดห้องปลอดฝุ่น

สสจ.เชียงรายยังได้ให้บริการ คลินิกมลพิษ ผ่านสถานพยาบาลและระบบออนไลน์กว่า 1,234 ครั้ง นอกจากนี้ยังจัดทำ ห้องปลอดฝุ่นระดับ 2 และระดับ 3 (ระบบกรองอากาศและแรงดันบวก) ในสถานพยาบาล สถานศึกษา และศูนย์เด็กเล็กทั่วจังหวัดกว่า 2,400 ห้อง พร้อมเชิญชวนร้านค้าและสถานบริการเอกชนกว่า 119 แห่ง เข้าร่วมโครงการห้องปลอดฝุ่นเพื่อให้บริการประชาชน

คัดกรองสุขภาพเจ้าหน้าที่และอาสาดับไฟป่า

นอกจากการดูแลประชาชนแล้ว สสจ.เชียงรายยังได้ดำเนินการ คัดกรองสุขภาพของเจ้าหน้าที่และอาสาดับไฟป่า จำนวน 4,429 ราย เพื่อให้มั่นใจว่ามีสภาพร่างกายพร้อมปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนให้ประชาชนสร้าง ห้องปลอดฝุ่นในบ้านด้วยตนเอง ซึ่งมีประชาชนกว่า 352 ราย เข้าร่วมสร้างพื้นที่ปลอดฝุ่นอย่างง่ายในบ้าน

เชิญชวนประชาชนร่วมมือเพื่อลดปัญหาฝุ่น PM2.5

นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนให้งดการเผาขยะและวัสดุการเกษตร รวมถึงการปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานรัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อให้จังหวัดเชียงรายสามารถลดผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

สรุป

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายยังคงเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพของประชาชนให้ปลอดภัยจากฝุ่นละออง โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้จังหวัดเชียงรายกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและสุขภาพดี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายมอบเงินช่วยเหลือ ฟื้นฟูบ้านหลังน้ำท่วมและดินถล่ม

จังหวัดเชียงรายมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ฟื้นฟูบ้านเรือนหลังเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่ม

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 จังหวัดเชียงรายได้จัดพิธีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอแม่ฟ้าหลวง และ อำเภอแม่สาย โดยมี นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี แทน นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ ที่ว่าการอำเภอแม่ฟ้าหลวง

การมอบเงินช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูบ้านเรือน

ในพิธีครั้งนี้ คณะทำงานฝ่ายพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย โดยในพื้นที่ อำเภอแม่ฟ้าหลวง ได้มอบเงินช่วยเหลือเพื่อการฟื้นฟูบ้านเรือนจำนวน 7 หลังคาเรือน เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 410,000 บาท จากนั้นคณะทำงานได้เดินทางต่อไปยัง อำเภอแม่สาย เพื่อมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 32 หลังคาเรือน รวมเป็นเงิน 1,380,000 บาท

หลักเกณฑ์การพิจารณาการช่วยเหลือ

คณะทำงานได้พิจารณาการจัดสรรเงินช่วยเหลือตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ โดยคำนึงถึงความเสียหายของบ้านเรือนจากอุทกภัยและดินถล่มที่เกิดขึ้น โดยคณะทำงานได้ตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องก่อนการมอบเงิน เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างเหมาะสมและโปร่งใส

สถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มในจังหวัดเชียงราย

จังหวัดเชียงรายได้ประสบกับสถานการณ์ อุทกภัยและดินโคลนถล่ม ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2567 ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ทางจังหวัดจึงได้จัดตั้ง กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการฟื้นฟูบ้านเรือน

เงินกองทุนที่ได้รับมาจากการสนับสนุนของภาคเอกชน องค์กร และประชาชน ได้ถูกนำมาใช้เพื่อ สมทบค่าก่อสร้างและซ่อมแซมบ้าน ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถกลับมามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความสามัคคีและความร่วมมือในชุมชนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ในพื้นที่

แผนการช่วยเหลือและการฟื้นฟูในระยะยาว

ทางจังหวัดเชียงรายมีแผนการดำเนินการฟื้นฟูบ้านเรือนและพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ นอกจากนี้ยังมีการวางแผน ป้องกันภัยพิบัติในอนาคต เพื่อให้ชุมชนสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอีก

สรุป

การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จในการร่วมมือกันของหน่วยงานภาครัฐและประชาชน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้กลับมามีชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นการยืนยันถึง ความสามัคคีของชุมชน ที่พร้อมจะก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

แม่สรวยเปิดแหล่งน้ำพุร้อน ทองทิพย์ หนุนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

เปิดตัวโครงการ “แอ่วน้ำพุร้อน ทองทิพย์” แม่สรวย สร้างเมืองสุขภาพสู่ Chiangrai Wellness City

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 มูลนิธิอโรคยาด้วยสมุนไพร โดย ดร.ยงยุทธ สาระสมบัติ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานมูลนิธิอโรคยาด้วยสมุนไพร ได้เปิดตัว โครงการแอ่วน้ำพุร้อน ทองทิพย์หมู่บ้านทองทิพย์ ตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โครงการนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ขานรับนโยบายของจังหวัดเชียงรายในการพัฒนาเป็น Chiangrai Wellness City

ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สร้างความร่วมมือหลายภาคส่วน

การเปิดตัวโครงการในครั้งนี้มีการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่ โดยมี นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย และผู้แทนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและภาคประชาชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

โครงการแอ่วน้ำพุร้อน ทองทิพย์ กับศักยภาพในการพัฒนาสุขภาพ

โครงการนี้มุ่งหวังให้ น้ำพุร้อนทองทิพย์ ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 54 องศาเซลเซียส เป็นสถานที่สำหรับการบำบัดสุขภาพ โดยสามารถใช้แช่ตัว แช่เท้า และมีผลบรรเทาอาการปวดข้อเข่าเสื่อม ซึ่งจากการตรวจวิเคราะห์โดยกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกพบว่าน้ำแร่ที่นี่มี ค่า pH 8.2 และสามารถดื่มได้ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข น้ำแร่ธรรมชาติที่นี่จึงถือว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพของประชาชน

กิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยวและสุขภาพ

โครงการ “แอ่วน้ำพุร้อน ทองทิพย์” จะเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 16.00 น. โดยไม่เก็บค่าเข้าเยี่ยมชม พร้อมทั้งมีกิจกรรมเพื่อสุขภาพหลากหลาย เช่น การนวดแผนไทย การอบสมุนไพร และบริการจากกลุ่มแพทย์ทางเลือก นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพัฒนาโครงการเพื่อยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับนานาชาติ เช่น เมือง คาร์โลวี วารี (Karlovy Vary) ในสาธารณรัฐเช็ก และเมือง เบปปุ (Beppu) ในประเทศญี่ปุ่น

ขยายโครงการเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ดร.ยงยุทธ สาระสมบัติ เปิดเผยว่าในอนาคตโครงการนี้จะขยายเพื่อสร้าง Golden Immortal Wellness and Healthy Living บนพื้นที่กว่า 425 ไร่ โดยเชิญชวนนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมพัฒนาโครงการ เพื่อสนับสนุนนโยบาย Chiangrai Wellness City ของจังหวัด และผลักดันให้เชียงรายกลายเป็น เมืองแห่งสุขภาพและการท่องเที่ยวระดับสากล

ประวัติศาสตร์และความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับน้ำพุร้อนทองทิพย์

หมู่บ้านทองทิพย์มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี โดยเล่ากันว่าพระเจ้าไชยเชษฐาเคยพักแรมที่บริเวณนี้ก่อนจะครองเมืองเชียงใหม่ อีกทั้งได้อัญเชิญ พระเจ้าทองทิพย์ มาประดิษฐานไว้ ณ บริเวณนี้ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาตั้งแต่อดีตถูกใช้โดยหมอแผนโบราณสำหรับการรักษาโรคและการบำบัดสุขภาพ โดยปัจจุบันได้พัฒนาให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง

บทสรุปและเป้าหมายในอนาคต

โครงการ “แอ่วน้ำพุร้อน ทองทิพย์” เป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของเชียงรายและประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาของ องค์การบริหารการพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ (อพท.) โครงการนี้ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับประโยชน์ แต่ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้สัมผัสกับประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างเต็มที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายประชุมร่วมฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ กระตุ้นเศรษฐกิจยั่งยืน

การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟูจังหวัดเชียงรายหลังภัยพิบัติ: ร่วมมือสร้างนวัตกรรมเชิงนโยบาย

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) ได้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำ ข้อเสนอนวัตกรรมเชิงนโยบาย สำหรับฟื้นฟูจังหวัดเชียงรายหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ โดยการประชุมจัดขึ้นที่ โรงแรมแกรนด์ วิสต้า จ.เชียงราย มี นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน พร้อมด้วย นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

ความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาอย่างยั่งยืน

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกับ The Active ภายใต้องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ThaiPBS) และ หอการค้าจังหวัดเชียงราย ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ โดยเน้นการสร้างนวัตกรรมเพื่อการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติภายใต้แนวคิด Build Back Greener Chiang Rai: RESILIENCE DEVELOPMENT WHITE PAPER การประชุมครั้งนี้มุ่งหวังที่จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางบวกโดยใช้แนวทางที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน

ผลกระทบจากอุทกภัยต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน

จากเหตุการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา จังหวัดเชียงราย ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจที่ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งในภาคการค้า การลงทุน ปศุสัตว์ เกษตรกรรม และสุขภาวะของประชาชน ความเร่งด่วนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้กลับมาเป็น ประตูสู่การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และโลจิสติกส์ ได้อย่างเต็มศักยภาพโดยเร็วที่สุด

การเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและการฟื้นฟู

ในการประชุมครั้งนี้ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้เน้นถึงความสำคัญของการ บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเสนอให้มีการออกแบบและปรับปรุงผังเมือง การจัดการเส้นทางน้ำ และการดูแลป่าไม้ เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในอนาคต

แนวทางการแก้ไขระยะสั้นและระยะยาว

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น นางอทิตาธรแนะนำให้ใช้แนวทาง Social Impact Tourism หรือ การท่องเที่ยวเพื่อสังคม โดยการเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมจังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น

ในส่วนของการแก้ไขปัญหาระยะยาว นางอทิตาธรเสนอให้จัดตั้ง ศูนย์บริหารจัดการสาธารณภัยแบบเบ็ดเสร็จ (PDOSSS) เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพในการจัดการปัญหาภัยพิบัติและสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

บทบาทของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการฟื้นฟูจังหวัดเชียงราย

การประชุมครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสนอแนวทางในการฟื้นฟู โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ให้กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง เช่น การปรับปรุงระบบสื่อสาร การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคม และการส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่น

บทสรุป

การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูและพัฒนา จังหวัดเชียงราย ให้กลับมามีศักยภาพอีกครั้ง โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ นายก อบจ. เชียงรายย้ำว่า การร่วมมือกันของทุกหน่วยงาน จะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาและสร้างความยั่งยืนในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE