Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

โออาร์มอบถุงยังชีพช่วยเหลือชุมชนหลังน้ำท่วมเชียงราย

โออาร์มอบถุงบิ๊กแบ๊กและถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเชียงราย

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 โออาร์ได้ดำเนินการสนับสนุนผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง โดยมอบถุงบิ๊กแบ๊กจำนวน 500 ถุง สำหรับใช้เป็นพนังกั้นน้ำ และถุงยังชีพจำนวน 400 ถุง พร้อมเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากคาเฟ่ อเมซอน รวมถึงน้ำดื่มจิฟฟี่ ให้กับหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชากองทัพไทย เพื่อช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

การสนับสนุนอย่างจริงจังเพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัย

โออาร์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยการมอบถุงบิ๊กแบ๊กและถุงยังชีพ ซึ่งเป็นอุปกรณ์จำเป็นในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม การให้ถุงบิ๊กแบ๊กช่วยให้สามารถสร้างแนวป้องกันน้ำได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ถุงยังชีพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเอาตัวรอดในช่วงวิกฤต นอกจากนี้ การมอบเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากคาเฟ่ อเมซอน และน้ำดื่มจิฟฟี่ยังช่วยเติมพลังและเพิ่มกำลังใจให้แก่กำลังพลที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ความร่วมมือระหว่างภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือชุมชน

การดำเนินงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างโออาร์กับผู้แทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. และผู้แทนจำหน่าย PTT Station ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โออาร์ได้จัดสรรถุงยังชีพกว่า 2,200 ถุง และน้ำดื่มรวมกว่า 9,500 ขวด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 7 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา เชียงราย น่าน แพร่ และสุโขทัย

การมอบของขวัญแก่ผู้ประสบภัยและกำลังพล

ในงานมอบถุงบิ๊กแบ๊กและถุงยังชีพที่อำเภอแม่สาย พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับเกียรติจากโออาร์ในการมอบถุงบิ๊กแบ๊ก 500 ถุง และถุงยังชีพ 400 ถุง เพื่อใช้ในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัย นอกจากนี้ พลตรีอนุมาศ พินิจชอบ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ยังได้รับเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากคาเฟ่ อเมซอน และน้ำดื่มจิฟฟี่ จากนางศรีญาภา หุตวณิช ผู้จัดการส่วนกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เพื่อเติมกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยและกำลังพลในพื้นที่

การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและความมุ่งมั่นของโออาร์

การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการสานต่อความช่วยเหลือที่โออาร์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ โดยได้ร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. และผู้แทนจำหน่าย PTT Station ในการจัดสรรถุงยังชีพและน้ำดื่มเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โออาร์ยังคงมุ่งมั่นในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายและหน่วยงานในพื้นที่เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ชาวเชียงรายสามารถก้าวผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปด้วยกัน

บทสรุป

โออาร์แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการสนับสนุนผู้ประสบอุทกภัยในเชียงรายผ่านการมอบถุงบิ๊กแบ๊ก ถุงยังชีพ และผลิตภัณฑ์ที่จำเป็น การร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของโออาร์เป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ช่วยให้ชาวเชียงรายสามารถฟื้นฟูและกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

การประชุมวางแผนสร้างบ้านน็อคดาวน์เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมที่เชียงราย

การประชุมวางแผนสร้างบ้านน็อคดาวน์เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมที่เชียงราย

ในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ ร้านกาแฟเรือนจำชั่วคราวดอยฮาง จังหวัดเชียงราย นายอภิรักษ์ อินต๊ะวัง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ยาว ปลัดเทศบาลตำบลแม่ยาว นายกเทศบาลตำบลดอยฮาง และปลัดเทศบาลตำบลดอยฮาง ได้เข้าร่วมการประชุมหารือเกี่ยวกับการสร้างบ้านน็อคดาวน์ ปรับภูมิทัศน์ และการซ่อมแซมพื้นที่เพื่อเตรียมการต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในการมอบบ้านน็อคดาวน์ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในตำบลฮาง ตำบลแม่ยาว ตำบลริมกก และชุมชนรอบเวียง

การสร้างบ้านน็อคดาวน์เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วม

การสร้างบ้านน็อคดาวน์ถือเป็นมาตรการสำคัญในการลดผลกระทบจากภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ของเชียงราย บ้านน็อคดาวน์เป็นโครงสร้างที่สามารถติดตั้งได้รวดเร็วและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างรวดเร็วหลังเกิดภัยพิบัติ

ปรับภูมิทัศน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำท่วม

การปรับภูมิทัศน์เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่มีความสำคัญในการลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม การสร้างพื้นที่สีเขียว การจัดการระบบน้ำเสีย และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะช่วยให้พื้นที่มีความสามารถในการรองรับน้ำท่วมได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน

การซ่อมแซมและเตรียมการต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

การซ่อมแซมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ชุมชนสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะมอบบ้านน็อคดาวน์ให้กับผู้ประสบภัยในโอกาสนี้ การเตรียมการต้อนรับอย่างเป็นทางการจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อแสดงถึงความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ

การวางแผนและการร่วมมือระหว่างเทศบาล

การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางแผนและการร่วมมือระหว่างเทศบาลในพื้นที่ต่างๆ การแบ่งปันทรัพยากรและความรู้จะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต

ความสำคัญของการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรต่างๆ

การสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรต่างๆ เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินโครงการสร้างบ้านน็อคดาวน์และการปรับภูมิทัศน์ รัฐบาลมีบทบาทในการจัดสรรงบประมาณและนโยบายที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในขณะที่องค์กรต่างๆ สามารถให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการดำเนินโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป

การประชุมหารือในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเชียงรายในการรับมือกับภัยน้ำท่วม การสร้างบ้านน็อคดาวน์และการปรับภูมิทัศน์เป็นมาตรการที่สามารถลดผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ การร่วมมือระหว่างเทศบาล รัฐบาล และองค์กรต่างๆ จะช่วยให้โครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประสบภัยได้อย่างเต็มที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

จุฬาราชมนตรีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย

จุฬาราชมนตรีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เชียงราย: ความร่วมมือเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ จุฬาราชมนตรีได้ลงพื้นที่เพื่อมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย โดยกิจกรรมนี้เกิดขึ้นเวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ชุมชนมุสลิมกกโท้ง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย 

การมอบเงินช่วยเหลือเพื่อเยียวยาผู้ประสบภัย

ในวันอาทิตย์ที่กล่าวมา อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี พระไพศาลประชาทร วิ. เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ผู้บริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงราย

ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้กล่าวต้อนรับการมอบเงินช่วยเหลือนี้ พร้อมด้วยประชาชนชาวไทยมุสลิมและชาวไทยพุทธที่มาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ ชุมชนมุสลิมกกโท้ง

คำกล่าวของอาจารย์อรุณ บุญชม

อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ได้กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่จังหวัดเชียงรายประสบอุทกภัย ทางคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ออกประกาศเพื่อร่วมบริจาคเงินนำมามอบให้กับพี่น้องชาวเชียงรายที่ประสบภัย โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างทางศาสนาและเชื้อชาติ

การสนับสนุนจากพระมหากษัตริย์

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการอยู่ร่วมกันของทั้ง ๕ ศาสนา โดยไร้ซึ่งความขัดแย้งกัน พระมหากษัตริย์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกที่ดูแลทุกศาสนาและให้ความอนุเคราะห์อย่างเท่าเทียมกัน ทำให้บ้านเมืองของเราสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

การร่วมบริจาคจากพระไพศาลประชาทร วิ. เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง

พระไพศาลประชาทร วิ. เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ได้ร่วมสมทบเงินและสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อให้กำลังใจและเป็นการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากเหตุการณ์ดังกล่าว

การมีส่วนร่วมของหน่วยงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางวนิดาพร ธิวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมการต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานดังกล่าว

ผลกระทบของน้ำท่วมต่อชุมชนเชียงราย

น้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายที่มีภูมิประเทศเป็นเขตหุบเขาและมีการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ การเกิดน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้หลายครัวเรือนต้องสูญเสียทรัพย์สินและที่อยู่อาศัย

การฟื้นฟูและช่วยเหลือหลังน้ำท่วม

การมอบเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถฟื้นฟูชีวิตได้เร็วขึ้น แต่ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนให้สามารถเผชิญกับภัยธรรมชาติในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น

บทบาทของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย

คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการประสานงานและจัดสรรทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกภาคส่วน การมีส่วนร่วมจากหลายองค์กรช่วยให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ต้องการ

การสนับสนุนจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ผู้บริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนทางการเงินและการจัดการทรัพยากร เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างราบรื่นและทันเวลา

ความสำคัญของความสามัคคีในชุมชน

การที่ชุมชนมุสลิมและชาวพุทธมาร่วมกันต้อนรับและให้การสนับสนุนกันแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความร่วมมือที่เข้มแข็งในสังคมไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสังคมที่มีความยั่งยืนและมั่นคง

การส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างศาสนา

การมีปฏิสัมพันธ์และการสนับสนุนกันระหว่างศาสนาต่างๆ ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและลดความขัดแย้ง ทำให้สังคมไทยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและมีความสุข

การตอบสนองของประชาชนในเหตุการณ์น้ำท่วม

ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างมาก หลายคนต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำรงชีวิตประจำวัน การมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ มาช่วยเหลือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้

การมีส่วนร่วมของชุมชนในการฟื้นฟู

ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและฟื้นฟูหลังน้ำท่วม การร่วมมือกันระหว่างประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

แผนการฟื้นฟูระยะยาวสำหรับจังหวัดเชียงราย

การฟื้นฟูหลังน้ำท่วมไม่เพียงแต่เน้นที่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันที แต่ยังต้องมีแผนการฟื้นฟูระยะยาวเพื่อป้องกันและเตรียมความพร้อมสำหรับภัยธรรมชาติในอนาคต

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบเตือนภัย

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานต่อภัยน้ำท่วมและการติดตั้งระบบเตือนภัยที่ทันสมัย เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สามารถรับมือกับภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเรียนรู้จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้

การวิเคราะห์และเรียนรู้จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาระบบการจัดการภัยพิบัติให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

การประเมินผลการช่วยเหลือและการฟื้นฟู

การประเมินผลการช่วยเหลือและการฟื้นฟูเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบประสิทธิภาพของการดำเนินงานและการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

ความสำคัญของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล องค์กรเอกชน หรือประชาชนทั่วไป เป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและสามารถเผชิญกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรต่างๆ

องค์กรต่างๆ ควรมีบทบาทในการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางการเงิน การจัดหาอาหารและเครื่องใช้ หรือการให้คำปรึกษาและการสนับสนุนด้านจิตใจ

สรุป

การมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เชียงรายโดยจุฬาราชมนตรีและคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือและความสามัคคีในสังคมไทย การสนับสนุนจากทุกภาคส่วนช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถฟื้นฟูชีวิตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบการจัดการภัยพิบัติในอนาคต และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและประเทศชาติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

นายกเทศมนตรีเชียงรายฟื้นฟูท่องเที่ยวพร้อมจัดงานดอกไม้อย่างยิ่งใหญ่

นายกเทศมนตรีเชียงรายเสนอกลยุทธ์ฟื้นฟูการท่องเที่ยว พร้อมจัดงานดอกไม้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้เสนอแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง และปลัดกระทรวงนัทรียา ทวีวงศ์ ในการประชุมที่จัดขึ้นที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนัก

การประชุมร่วมกับรัฐมนตรีท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชียงราย

นายกเทศมนตรีเชียงรายและทีมงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมประชุมกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงผู้แทนเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ ชุมชนที่ได้รับผลกระทบมากถึง 52 ชุมชน มีบ้านเรือนประชาชนประสบภัยถึง 12,000 หลังคาเรือน และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้รับความเสียหายหนัก

แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวและการจัดงานดอกไม้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

นายกเทศมนตรีเชียงรายได้เสนอแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายและเป็นระบบ ซึ่งรวมถึงการจัดงานลอยกระทงในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 และการจัดงาน “เชียงรายดอกไม้งาม” ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ถึงกุมภาพันธ์ 2568 งานดอกไม้นี้จะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดที่เคยจัดมากว่า 20 ปี โดยจะจัดขึ้นที่หาดนครเชียงราย ภายใต้แนวคิด “ปิ๊กบ้านเฮา จาวเจียงฮาย” ซึ่งเน้นการใช้ดอกไม้ ม่านหมอก สายน้ำ และขุนเขาเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างบรรยากาศและดึงดูดนักท่องเที่ยว

การสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เสนอแผนฟื้นฟูที่มีกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว “เหนือ…พร้อมเที่ยว” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 และแคมเปญ “แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” ซึ่งมอบส่วนลดสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว จำนวน 10,000 สิทธิ์ และวงเงิน 800 บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมการตลาดผ่าน influencer ระดับนานาชาติ เพื่อเพิ่มการรับรู้และดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังเชียงรายมากยิ่งขึ้น

การฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยวและการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

การฟื้นฟูพื้นที่ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการกลับมาเยือนเชียงรายอีกครั้ง โดยมีการดำเนินการฟื้นฟูทุกแห่งตามแผนที่รัฐบาลวางเอาไว้ รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนและสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมล้างฝุ่นและทำความสะอาดเพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์และเพิ่มความน่าสนใจให้กับสถานที่ท่องเที่ยว

การร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อความสำเร็จของแผนฟื้นฟู

นายกเทศมนตรีเชียงรายเน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการดำเนินแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว ซึ่งการสนับสนุนจากทั้งสองฝ่ายจะช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเชียงรายฟื้นตัวได้อย่างมั่นคงในอนาคต

สรุปและมองไปสู่อนาคตที่สดใสสำหรับการท่องเที่ยวเชียงราย

ด้วยการวางแผนฟื้นฟูที่ชัดเจนและการจัดงานที่ใหญ่กว่าเดิม นายกเทศมนตรีเชียงรายเชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต การฟื้นฟูการท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังสร้างความภูมิใจให้กับประชาชนในพื้นที่และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเชียงรายในสายตานักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘ธีรรัตน์’ เยี่ยมผู้ประสบภัย อุทกภัยชุมชนสายลมจอย อ.แม่สาย

 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเยี่ยมผู้ประสบภัยอุทกภัยเชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะ

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 เวลา 11.00 น. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยชุมชนถ้ำผาจม ตำบลเวียงพางคำ และชุมชนสายลมจอย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมุ่งเน้นการติดตามความคืบหน้าในการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ประสบภัย

การเยี่ยมเยียนเพื่อติดตามการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและที่อยู่อาศัย

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ได้ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมเยือนชุมชนถ้ำผาจมและชุมชนสายลมจอย เพื่อประเมินความคืบหน้าในการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและดินโคลนถล่ม

การมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ประสบภัย

ระหว่างการเยี่ยมเยือน รัฐมนตรีช่วยได้มอบถุงยังชีพแก่ประชาชนจำนวนมาก เพื่อช่วยเหลือในการดำรงชีวิตในช่วงที่กำลังฟื้นฟู นอกจากนี้ยังมีการให้ความสำคัญในการรับฟังข้อมูลความต้องการของประชาชนทั้งด้านไฟฟ้า น้ำประปา และความต้องการให้ภาครัฐเยียวยาในด้านต่างๆ ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยทุกคน

การฟื้นฟูชุมชนถ้ำผาจมและสายลมจอย

ชุมชนถ้ำผาจมและชุมชนสายลมจอย เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำของอำเภอแม่สาย ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และสภากาชาดไทย โดยมีการฟื้นฟูบ้านเรือนและนำดินโคลนออกจากบ้านเรือน รวมถึงการจัดหาสาธารณูปโภคเช่นไฟฟ้าและน้ำประปาให้กับประชาชน

 
การให้ความช่วยเหลือและกำลังใจจากภาครัฐและภาคเอกชน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ได้มอบถุงยังชีพและให้กำลังใจแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูชุมชนตลอดเส้นทาง การให้ความช่วยเหลือจากภาครัฐและภาคเอกชนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างรวดเร็ว

การรับฟังและตอบสนองความต้องการของประชาชน

ระหว่างการลงพื้นที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับข้อมูลความต้องการจากประชาชนทั้งด้านไฟฟ้า น้ำประปา และการเยียวยาจากภาครัฐ รัฐมนตรีช่วยได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการตามความต้องการเหล่านี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

การฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและพื้นที่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง

การฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและพื้นที่สาธารณะในชุมชนถ้ำผาจมและสายลมจอย ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ องค์กรช่วยเหลือ และชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้การฟื้นฟูเสร็จสมบูรณ์และสามารถกลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด

ความสำคัญของการฟื้นฟูหลังอุทกภัย

การฟื้นฟูหลังอุทกภัยเป็นสิ่งที่สำคัญไม่เพียงแต่ในด้านการฟื้นฟูสาธารณูปโภคและที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับชุมชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยการให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การมองไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นสำหรับชุมชนเชียงราย

ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ชุมชนถ้ำผาจมและสายลมจอยในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีแนวโน้มที่จะฟื้นฟูและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง การให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ตั้งโรงครัวจิตอาสา ช่วยผู้ประสบภัย น้ำท่วมที่แม่สาย จ.เชียงราย

ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 ตั้งโรงครัวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่แม่สาย จ.เชียงราย

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 (ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3) ร่วมกับกองบัญชาการควบคุมบริหารสถานการณ์ จ.เชียงราย ภายใต้การนำของ พล.ต. บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) และผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.37 ได้จัดตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โรงครัวนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตามแผนการฟื้นฟูของรัฐบาล โดยในแต่ละมื้อจะประกอบอาหารแจกจ่ายมากถึง 2,800 – 3,000 กล่องต่อมื้อ และจะดำเนินการแจกจ่ายจนกว่าภารกิจการฟื้นฟูจะแล้วเสร็จ โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ร.ท. ธวัช เขื่อนขันติ์ รักษาราชการพลาธิการ มทบ.37 เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดกำลังพลและรถครัวสนาม เพื่อทำหน้าที่ประกอบอาหารสำหรับแจกจ่าย โดยมีจิตอาสาร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันทีมงานได้ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามแผนงานฟื้นฟูของรัฐบาล

ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์

การจัดตั้งโรงครัวครั้งนี้นอกจากจะช่วยให้ผู้ประสบภัยได้รับอาหารอย่างเพียงพอแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ของ อ.แม่สาย ซึ่งถูกน้ำท่วมและเกิดความเสียหายอย่างหนัก

แผนฟื้นฟูของรัฐบาล


การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ โดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานจากส่วนกลางที่เน้นให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ทั้งด้านที่อยู่อาศัย อาหาร และการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย

การดำเนินงานของ ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและครบถ้วน โดยมีแผนที่จะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และพื้นที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

การปฏิบัติภารกิจนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าพื้นที่ต่าง ๆ จะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ พร้อมทั้งส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วมในครั้งนี้

สรุป

ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 ตั้งโรงครัวประกอบอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยแจกจ่ายอาหาร 2,800 – 3,000 กล่องต่อมื้อให้กับกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟู ตามแผนของรัฐบาลในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เชียงรายจัดกิจกรรม เดิน-วิ่ง-ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ

เชียงราย เตรียมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง-ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติ” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือและเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานกิจกรรมครั้งนี้

เตรียมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง-ปั่น เฉลิมพระเกียรติ วันที่ 2 พ.ย. 2567

กิจกรรมครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นที่สวนตุงและโคม อำเภอเมืองเชียงราย และมีจุดปล่อยตัวและเข้าเส้นชัยบริเวณลานรำวงย้อนยุค สวนตุงและโคม โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 05:00 น. เป็นต้นไป การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาพ และการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ผ่านกิจกรรมการออกกำลังกายที่ง่ายต่อการปฏิบัติ เช่น การเดิน การวิ่ง และการปั่นจักรยาน นอกจากนี้ ยังเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพและมีความรู้ในการป้องกันโรคต่างๆ อย่างถูกต้อง

ผู้ร่วมกิจกรรมคึกคัก ยอดผู้สมัครกว่า 10,499 คน

กิจกรรมครั้งนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมแล้วจำนวน 10,499 คน และมีประชาชนที่ได้รับเสื้อวิ่งจำนวน 6,150 คน โดยผู้ที่ได้รับสิทธิ์สามารถติดต่อรับเสื้อได้ตามจุดบริการที่กำหนด ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลชุมชน ในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 รวมถึงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย แห่งที่ 1 (ดาวน์ทาวน์) ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2567 และที่สวนตุงและโคม เทศบาลนครเชียงราย ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ก่อนเวลาเริ่มกิจกรรม

สำหรับประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนรับเสื้อโครงการ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ด้วยการสวมใส่เสื้อเฉลิมพระเกียรติ หรือเสื้อสีเหลืองในรูปแบบใดก็ได้ตามความเหมาะสม เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและสร้างความตระหนักถึงการป้องกันโรคอัมพาตในครั้งนี้

 
เป้าหมายเพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันอัมพาต

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในที่ประชุมว่า การจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง-ปั่น ครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาพและการออกกำลังกายเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัมพาต ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่พบมากในผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชน และแสดงถึงความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการดำเนินงานโครงการเฉลิมพระเกียรติที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

รายละเอียดเส้นทางและการอำนวยความสะดวก

ในการประชุมครั้งนี้ ยังมีการรายงานเส้นทางการจัดกิจกรรมและการเตรียมความพร้อมด้านการอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมงาน ทั้งการดูแลความปลอดภัย การจัดการจราจร และการตั้งจุดบริการต่างๆ ตลอดเส้นทาง เพื่อให้กิจกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน

โครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10” ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีทั่วประเทศ โดยในปีนี้ จังหวัดเชียงรายได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ และกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเร่งสูบน้ำท่วมขังชุมชนทวีรัตน์ หลังท่วมยาวกว่า 1 เดือน

 

อบจ.เชียงราย เร่งสูบน้ำช่วยชุมชนทวีรัตน์ หลังน้ำท่วมขังนานกว่า 1 เดือน

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและบ้านเรือนประชาชนในชุมชนทวีรัตน์ อำเภอเมืองเชียงราย หลังเกิดเหตุน้ำท่วมขังยาวนานกว่า 1 เดือน ส่งผลกระทบกับชาวบ้านประมาณ 40 หลังคาเรือน ซึ่งมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ถึง 20 หลังคาเรือน คิดเป็นพื้นที่กว่า 3 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำท่วมขังประมาณ 1 เมตร

นายดำรงค์ศักดิ์ได้มอบหมายให้กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ประสานงานกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 15 จังหวัดเชียงราย เพื่อนำเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกลจำนวน 2 เครื่องเข้าดำเนินการสูบน้ำออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน คาดว่าจะสามารถสูบน้ำให้เสร็จสิ้นได้ภายใน 2 วัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และคืนสภาพพื้นที่ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

น้ำท่วมขังในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลตำบลแม่ยาว

ชุมชนทวีรัตน์ ตั้งอยู่บริเวณหลังหมู่บ้านธนารักษ์ กองทัพบก ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างเขตเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลตำบลแม่ยาว โดยมีบ้านเรือนจำนวน 26 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังอย่างหนักกว่า 14 หลังคาเรือน ลึกตั้งแต่ 30 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร สาเหตุหลักมาจากพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นหนองน้ำเก่า และถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัย จึงมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ทำให้มีน้ำท่วมขังบ่อยครั้งเมื่อฝนตกหนัก

เทศบาลนครเชียงรายได้พยายามแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็กดำเนินการมาแล้ว 2 สัปดาห์ แต่ไม่สามารถสูบน้ำได้หมดเนื่องจากปริมาณน้ำมีจำนวนมาก จึงต้องขอความช่วยเหลือจาก ปภ. เขต 15 เชียงราย ในการนำเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกลเข้ามาเพิ่มเติม พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อทำทางลัดเข้าสู่พื้นที่น้ำท่วม เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าพื้นที่

เร่งปรับเส้นทาง และเตรียมฟื้นฟูหลังน้ำลด

ในการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อบจ.เชียงราย เทศบาลนครเชียงราย เทศบาลตำบลแม่ยาว กำนันตำบลแม่ยาว ผู้นำชุมชน และฝ่ายปกครองจังหวัด ได้มีการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและการเตรียมฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้จัดเตรียมหินคลุกและทำการปรับเส้นทางลัดเข้าสู่พื้นที่น้ำท่วม เพื่อให้เครื่องสูบสามารถเข้าทำงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

ในบ่ายวันเดียวกัน กองป้องกันฯ อบจ.เชียงราย และ ปภ. เขต 15 เชียงราย ได้ดำเนินการวางหินคลุกและปรับเส้นทางเสร็จสิ้น พร้อมทั้งเตรียมเริ่มปฏิบัติการสูบน้ำในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค. 2567) คาดว่าจะสามารถสูบน้ำให้แห้งได้ภายใน 2 วัน

ฟื้นฟูพื้นที่และทำความสะอาดหลังน้ำลด

หลังจากดำเนินการสูบน้ำให้แห้งแล้ว หน่วยงานต่าง ๆ เช่น อบจ.เชียงราย เทศบาลนครเชียงราย เทศบาลตำบลแม่ยาว จะนำเครื่องจักรเข้ามากำจัดโคลนและทำความสะอาดพื้นที่ พร้อมทั้งทางสำนักงานปกครองจังหวัดและมณฑลทหารบกที่ 37 จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ อส. และทหาร เข้าช่วยเหลือชาวบ้านในการล้างทำความสะอาดบ้านเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับเข้าพื้นที่พักอาศัยได้โดยเร็ว

เร่งประสานแก้ไขข้อพิพาทและอาณาเขตการปกครอง

นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาในด้านการจัดการอาณาเขตปกครองระหว่างเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลตำบลแม่ยาว เนื่องจากพื้นที่ทวีรัตน์บางส่วนอยู่ในเขตของทั้งสองเทศบาล ซึ่งอาจส่งผลต่อการประสานงานในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยจะมีการประสานงานเพื่อจัดทำแผนงานแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในอนาคต

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในชุมชนทวีรัตน์ พร้อมฟื้นฟูพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

จับร้านขายยาผิดกฎหมาย ยึดของกลางกว่า 15,000 ชิ้น

จับร้านขายยาผิดกฎหมายเชียงราย ยึดของกลาง 15,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ห้องประชุมกาสะลองคำ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย ทันตแพทย์ฉลองชัย สกลวสันต์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสถานประกอบการจำหน่ายยา เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์เสริมความงามผิดกฎหมาย โดยตรวจยึดของกลางได้กว่า 15,000 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

ตรวจยึดยาและผลิตภัณฑ์ความงามผิดกฎหมาย

นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายและสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่ามีสถานที่จำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ผิดกฎหมาย บริเวณถนนเวียงบูรพา หรือบายพาสฝั่งตะวันออก ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในร้านพบยาควบคุมและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จำนวนมาก

ยาอันตรายและผลิตภัณฑ์เสริมความงามผิดกฎหมาย

ของกลางที่ยึดได้ในครั้งนี้ประกอบด้วยยาอันตรายที่ต้องมีการควบคุมตามกฎหมาย เช่น โบท็อกซ์ ยาชาไลโดเคน กลูต้าไธโอนสำหรับฉีด คอลลาเจนชนิดฉีด โซเดียมไฮยาลูโรเนตชนิดฉีด วิตามินชนิดฉีด ฟิลเลอร์ เส้นไหมร้อยหน้า และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดที่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย. และเครื่องมือแพทย์สำหรับใช้ในคลินิกความงามที่ต้องได้รับการควบคุมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

นายแพทย์วัชรพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาและผลิตภัณฑ์ที่ตรวจยึดได้บางรายการเป็นของที่ต้องใช้ในคลินิกเฉพาะทางเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปได้ การลักลอบจำหน่ายเช่นนี้จึงถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการเลือกซื้อยาและผลิตภัณฑ์ความงาม ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เบาะแสจากประชาชนสู่การจับกุม

ด้าน พล.ต.ต.มานพ เสนากุล เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากได้รับเบาะแสจากประชาชนที่สังเกตเห็นความผิดปกติของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ทั้งในรูปแบบการจำหน่ายหน้าร้านและการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมหลักฐานจนแน่ชัด ก่อนที่จะยื่นขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงราย เพื่อเข้าตรวจค้นและยึดของกลางทั้งหมด

จากการตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการได้เช่าสถานที่ดังกล่าวตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 และมีการเคลื่อนย้ายสถานที่เก็บสินค้าบ่อยครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ โดยสินค้าบางรายการนำเข้ามาจากต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย ก่อนนำมาจัดจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด พร้อมกับทำโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลการจับกุมไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น หมอกระเป๋า หรือผู้รับซื้อเพื่อนำไปขายต่อ

โทษหนัก จำคุก 5 ปี

สำหรับโทษของการจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงความผิดอื่นๆ ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ที่ระบุโทษปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือจำคุกสูงสุด 1 ปี ซึ่งในกรณีนี้ผู้ต้องหาจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกข้อหาและมีการขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป

นายแพทย์วัชรพงษ์กล่าวปิดท้ายว่า ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อยาและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ควรตรวจสอบแหล่งที่มาว่าได้รับการรับรองจาก อย. และเลือกใช้บริการจากสถานประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งขอให้ผู้ประกอบการที่ยังจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายอยู่ยุติการกระทำดังกล่าวทันที เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เลื่อนจัดงาน ชา-กาแฟ เชียงราย 2024 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้จัดงาน

ทีเส็บเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ หลังน้ำลด พร้อมดันงานอีเวนต์ปลายปี ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ (TCEB) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ซึ่งประกอบด้วยการจัดประชุม งานแสดงสินค้า และอีเวนต์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย ได้ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนผ่านการจัดงานขนาดใหญ่หลายงานทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการจัด เทศกาลประจำจังหวัด ต่าง ๆ ที่ได้รับความสนใจจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริม ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของรัฐบาลไทย โดยการนำเสนอวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ่านการจัดงานต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ไมซ์ดันรายได้ท่องเที่ยวพุ่ง 3 เท่า

นายจิรุตถ์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่านักท่องเที่ยวปกติถึง 3 เท่าครึ่ง ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยที่ผ่านมา ทีเส็บ ได้ร่วมมือกับ หอการค้าไทย และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในการส่งเสริมการจัดงานในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อลดความหนาแน่นของการจัดงานในเมืองใหญ่ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เช่น การจัดงานเทศกาลประจำจังหวัด หรือการจัดนิทรรศการเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจของท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

“ขอนแก่นปลาร้าเฟสติวัล” จัดปลายปี เน้นอัตลักษณ์ท้องถิ่น

ในเดือนธันวาคมนี้ ทีเส็บเตรียมสนับสนุนการจัดงาน ขอนแก่นปลาร้าเฟสติวัล ซึ่งเป็นการนำเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่น และวัฒนธรรมการทำปลาร้าในจังหวัดขอนแก่น โดยเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้และส่งเสริมภาพลักษณ์ของขอนแก่นในฐานะเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวจะเป็นต้นแบบของการจัดงานในรูปแบบ “ระเบิดจากภายใน” (Inside-Out) ซึ่งเป็นการผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริม Soft Power ผ่านวัฒนธรรมท้องถิ่น

 
ฟื้นฟูพื้นที่จัดงานหลังน้ำลดในเชียงใหม่-เชียงราย

นายจิรุตถ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ ทีเส็บอยู่ระหว่างการวางแผนฟื้นฟูพื้นที่จัดงานในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยเฉพาะ เชียงใหม่ และ เชียงราย หลังจากระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดลง เช่น โรงแรมและสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ที่ต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่ (Big Cleaning Day) เนื่องจากได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทั้งนี้ ทีเส็บจะเร่งฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้พร้อมสำหรับการจัดงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการจัดงานไมซ์และอีเวนต์มากที่สุด

“ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (ต.ค.-ธ.ค.) เป็นช่วงเวลาสำคัญของการจัดงานไมซ์และอีเวนต์ในประเทศไทย เราจึงต้องเร่งฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับงานต่าง ๆ เช่น งาน ชา-กาแฟ ของจังหวัดเชียงราย ที่แม้สถานที่จัดงานจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วม แต่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้จัดงาน เราอาจต้องมีการเลื่อนการจัดงานไปอีกเล็กน้อย” นายจิรุตถ์ กล่าว

เตรียมบิดงานอีเวนต์ระดับโลกเข้าประเทศในปี 68

สำหรับปี 2568 ทีเส็บเตรียมดำเนินการเสนอแผนการจัดงานประชุมและอีเวนต์ระดับโลกในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาจัดงานในไทยมากขึ้น ผ่านการเพิ่มสิทธิประโยชน์ และการสนับสนุนการจัดงานขนาดใหญ่ พร้อมทั้งฟื้นฟูภาพลักษณ์ของจังหวัดต่าง ๆ เช่น เชียงใหม่ และ เชียงราย ที่มีศักยภาพในการจัดงานระดับนานาชาติ และสามารถดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง

บทสรุป: “ไมซ์” กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหลังน้ำลด

การฟื้นฟูและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์จะเป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี 2567 นี้ โดยเฉพาะการจัดงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เช่น เชียงใหม่ และเชียงราย ที่ทีเส็บกำลังเร่งฟื้นฟูเพื่อให้กลับมาพร้อมรับการจัดงานและดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ทั้งนี้ การฟื้นฟูและดึงดูดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งสนับสนุนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการจัดงานประชุมและนิทรรศการในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : World Tea & Coffee Expo 2024

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News