Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายช่วยน้ำท่วม 500 ล้าน พร้อมมาตรการรัฐเสริมทัพอีก 7 พันล้าน

เชียงรายมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและหน่วยงานรัฐร่วมเสริมทัพเยียวยากว่า 7 พันล้านบาท

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทยและรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายได้ดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากหน่วยงานราชการและเงินบริจาค รวมมูลค่ากว่า 504 ล้านบาท โดยเป็นการช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กันยายน และ 8 ตุลาคม 2567 รวมถึงการสนับสนุนให้ผู้ประสบภัยกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ครอบคลุม 28,659 ครัวเรือน รวมมูลค่ากว่า 257 ล้านบาท

มาตรการช่วยเหลือจากหน่วยงานการเงินและธนาคาร

หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังและธนาคารต่างๆ ได้มอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม โดยธนาคารกรุงไทยได้จัดสินเชื่อกู้ซ่อมบ้านและกู้ฟื้นฟูกิจการ มูลค่ารวมกว่า 33.4 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารออมสินได้จัดสินเชื่อฉุกเฉินและโครงการพักหนี้อัตโนมัติ รวมมูลค่า 5,343.95 ล้านบาท ครอบคลุมจำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือทั้งสิ้น 13,444 ราย

สำหรับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ขยายเวลาชำระหนี้แก่เกษตรกร รวมถึงจัดสินเชื่อฉุกเฉินและค่าลงทุนในการซ่อมแซมบ้านและทรัพย์สิน มูลค่า 4.39 ล้านบาท ส่วนธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ลดเงินงวด 50% และลดดอกเบี้ยเหลือ 2% เป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับผู้ประสบภัย 182 ราย มูลค่า 342.16 ล้านบาท

ความร่วมมือเพิ่มเติมจากธนาคารอื่นๆ

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้จัดมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและขยายระยะเวลาออกไปในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 6 เดือน มูลค่ารวม 11.39 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ได้ให้ลูกหนี้พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน สำหรับผู้ได้รับผลกระทบ 245 ราย รวมเป็นเงิน 510.2 ล้านบาท นอกจากนี้ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้จัดโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ รวมวงเงินค้ำประกัน 172 ล้านบาท สำหรับ 266 ราย

มาตรการยกเว้นค่าเช่าจากกรมธนารักษ์

กรมธนารักษ์ยังได้ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายประเภท เช่น ที่อยู่อาศัย อาคาร และการใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม โดยมีการยกเว้นค่าเช่าให้ผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติเกิน 3 วัน รวมเป็นเงินช่วยเหลือจากกรมธนารักษ์หลายสิบล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 288 ราย

การดูแลสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัย

คปภ. ได้จัดการดูแลสิทธิประโยชน์ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบ โดยรวมถึงการจัดการความเสี่ยงและการให้สินไหมทดแทนแก่ประชาชนรวม 2,657 ราย มูลค่า 373.81 ล้านบาท รวมจำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการรวมทั้งสิ้น 18,172 ราย ทั่วจังหวัดเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเร่งฟื้นฟูแม่สาย เตรียมส่งคืนพื้นที่ 28 ต.ค. นี้

ผู้ว่าฯ เชียงรายตรวจติดตามการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เตรียมส่งคืนพื้นที่ 28 ตุลาคมนี้

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยในอำเภอแม่สาย ผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผน คาดว่าจะสามารถส่งคืนพื้นที่ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้

การลงพื้นที่ตรวจสอบของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายสิทธิศักดิ์ อินใจคำ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยในเขตอำเภอแม่สาย โดยเฉพาะบริเวณบ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย ตำบลเวียงพางคำ และชุมชนสำคัญอื่น ๆ ในพื้นที่

ความคืบหน้าในการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย

ผลการฟื้นฟูพื้นที่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการล้างถนนและทำความสะอาดพื้นที่เพื่อให้การสัญจรกลับมาปกติแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการฟื้นฟูบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในบริเวณตลาดสายลมจอย ซึ่งมีจำนวนบ้านพักอาศัยทั้งหมด 66 หลังคาเรือน ที่ถูกฟื้นฟูโดยความร่วมมือระหว่างหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ และภาคเอกชน

กิจกรรม Big Cleaning Day เพื่อความสะอาดและปลอดภัย

ในวันนี้ ทางคณะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายยังได้จัดกิจกรรม Big Cleaning Day เพื่อทำความสะอาดถนนและพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

ส่งคืนพื้นที่ภายในวันที่ 28 ตุลาคม

การฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัยในอำเภอแม่สายมีความคืบหน้าไปมาก และคาดว่าจะสามารถส่งคืนพื้นที่ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการฟื้นฟูในระยะต่อไปได้ภายในวันที่ 28 ตุลาคมนี้

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ช่วยเหลือหลังน้ำท่วมเชียงรายฟื้นฟูพื้นที่สำเร็จเกือบ 100%

การตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมในเชียงราย

วันที่เกิดเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่เชียงราย

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567, ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3/บก.ควบคุมบริหารสถานการณ์ (จังหวัดเชียงราย) ได้ดำเนินการตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบอุทกภัยในชุมชนไม้ลุงขน ซอยอีก้อ อ.แม่สาย โดยมี พล.ต. บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้อำนวยการ ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37/ผบ.ศบภ.มทบ.37 เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

สถานการณ์การฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย

สำหรับแนวทางการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยนั้น เน้นไปที่การทำความสะอาดถนนและอาคารบ้านเรือนของประชาชนเป็นหลัก โดยมีการแบ่งการดำเนินงานออกเป็นหลายพื้นที่สำคัญที่ได้รับผลกระทบ

พื้นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย

ในเขตเทศบาลนครเชียงราย ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 82 ครัวเรือน ซึ่งจนถึงปัจจุบันดำเนินการฟื้นฟูไปแล้ว 72 ครัวเรือน คิดเป็น 87.8% และยังคงดำเนินการต่อไปจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์

พื้นที่นอกเขตเทศบาลนครเชียงราย

สำหรับพื้นที่นอกเขตเทศบาลนครเชียงราย มีประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 1,285 ครัวเรือน โดยการฟื้นฟูได้ดำเนินการแล้วเสร็จครบทุกครัวเรือน ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชม

ความคืบหน้าการฟื้นฟูในอำเภอแม่สาย

ในเขตพื้นที่อำเภอแม่สายได้แบ่งการทำงานออกเป็น 7 โซน ปัจจุบันมีพื้นที่ 4 โซนที่ดำเนินการล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนแล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ แต่ยังคงเหลืออีก 3 โซนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยรวมแล้วการฟื้นฟูพื้นที่ในอำเภอแม่สายสำเร็จแล้วกว่า 97% มีบ้านเรือนที่ฟื้นฟูแล้วจำนวน 796 ครัวเรือน จากจำนวนครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 819 ครัวเรือน

การดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ Quick Win

ถึงแม้ว่าการดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยตามแผนปฏิบัติการ (Quick Win) จะคืบหน้าไปแล้วเกือบ 100% แต่เจ้าหน้าที่จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ยังคงปฏิบัติภารกิจบรรเทาความเดือดร้อนและทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

การให้ความช่วยเหลือจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เชียงราย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เร่งดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

การล้างทำความสะอาดพื้นที่และบ้านเรือน

ภารกิจหลักของเจ้าหน้าที่ ปภ. คือการล้างทำความสะอาดพื้นที่และบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งปฏิบัติการนี้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและใกล้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์

ความสำคัญของการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด

การฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ชาวบ้านกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยการทำความสะอาดบ้านเรือน ถนน และสิ่งสาธารณูปโภคถือเป็นขั้นตอนแรกที่จำเป็นต้องทำทันทีหลังน้ำลด

แนวทางการทำงานในอนาคต

จากการตรวจเยี่ยมพื้นที่ของ พล.ต. บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ได้มีการวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

การมีส่วนร่วมของชุมชน

ชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยยังคงได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและเอกชนในการฟื้นฟูพื้นที่บ้านเรือนของตนเอง ทั้งนี้การมีส่วนร่วมของชุมชนถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สรุป

การฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายได้ดำเนินการไปอย่างราบรื่นและใกล้เสร็จสิ้นแล้ว การทำงานของเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นว่า ชาวบ้านจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ในเร็ววัน อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานจะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติอย่างสมบูรณ์

FAQs

  1. สถานการณ์น้ำท่วมในเชียงรายรุนแรงแค่ไหน?
    น้ำท่วมในเชียงรายส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่โดยเฉพาะในอำเภอแม่สายและเขตเทศบาลนครเชียงราย ประชาชนหลายครัวเรือนต้องรับการช่วยเหลือในการฟื้นฟูบ้านเรือน

  2. ใครเป็นผู้ดูแลการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย?
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานทหารร่วมกันดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย

  3. การฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัยเสร็จสิ้นหรือยัง?
    การฟื้นฟูใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วกว่า 97% ในหลายพื้นที่ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในไม่ช้า

  4. ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลืออะไรบ้าง?
    ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือในด้านการทำความสะอาดบ้านเรือนและถนน รวมถึงการจัดหาเครื่องใช้จำเป็น

  5. เจ้าหน้าที่จะทำงานต่อไปอีกนานแค่ไหน?
    เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติหน้าที่จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติและบ้านเรือนของประชาชนฟื้นฟูเสร็จสมบูรณ์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ตั้งโรงครัวจิตอาสา ช่วยผู้ประสบภัย น้ำท่วมที่แม่สาย จ.เชียงราย

ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 ตั้งโรงครัวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่แม่สาย จ.เชียงราย

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 (ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3) ร่วมกับกองบัญชาการควบคุมบริหารสถานการณ์ จ.เชียงราย ภายใต้การนำของ พล.ต. บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) และผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.37 ได้จัดตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โรงครัวนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตามแผนการฟื้นฟูของรัฐบาล โดยในแต่ละมื้อจะประกอบอาหารแจกจ่ายมากถึง 2,800 – 3,000 กล่องต่อมื้อ และจะดำเนินการแจกจ่ายจนกว่าภารกิจการฟื้นฟูจะแล้วเสร็จ โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ร.ท. ธวัช เขื่อนขันติ์ รักษาราชการพลาธิการ มทบ.37 เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดกำลังพลและรถครัวสนาม เพื่อทำหน้าที่ประกอบอาหารสำหรับแจกจ่าย โดยมีจิตอาสาร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันทีมงานได้ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามแผนงานฟื้นฟูของรัฐบาล

ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์

การจัดตั้งโรงครัวครั้งนี้นอกจากจะช่วยให้ผู้ประสบภัยได้รับอาหารอย่างเพียงพอแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ของ อ.แม่สาย ซึ่งถูกน้ำท่วมและเกิดความเสียหายอย่างหนัก

แผนฟื้นฟูของรัฐบาล


การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ โดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานจากส่วนกลางที่เน้นให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ทั้งด้านที่อยู่อาศัย อาหาร และการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย

การดำเนินงานของ ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและครบถ้วน โดยมีแผนที่จะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และพื้นที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

การปฏิบัติภารกิจนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าพื้นที่ต่าง ๆ จะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ พร้อมทั้งส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วมในครั้งนี้

สรุป

ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 ตั้งโรงครัวประกอบอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยแจกจ่ายอาหาร 2,800 – 3,000 กล่องต่อมื้อให้กับกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟู ตามแผนของรัฐบาลในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ชาวป่าแดงร่วมมือเทศบาล ล้างถนนคืนความสะอาดชุมชน

 

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เวลา 06.00 น. ที่ชุมชนป่าแดง อ.เมือง จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงรายนำโดย นางนัยนา อินทจักร์ รักษาการหัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลนครเชียงราย พร้อมทีมงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รับมอบหมายจาก นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ให้ลงพื้นที่ร่วมกับประชาชนชุมชนป่าแดง เพื่อทำความสะอาดถนนและพื้นที่สาธารณะที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

น้ำท่วมทิ้งคราบโคลนและสิ่งปนเปื้อน สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชน

จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งล่าสุด น้ำที่ไหลผ่านชุมชนป่าแดงได้พัดพาเอา ดิน โคลน และเศษซากต่าง ๆ มาทิ้งไว้บนถนน ทำให้เกิดคราบสกปรกจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ การลงพื้นที่ในครั้งนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การ ล้างทำความสะอาดถนน ขจัดคราบดินโคลน และกำจัดสิ่งปนเปื้อน เพื่อคืนความสะอาดและความปลอดภัยให้กับประชาชนในชุมชน

การทำความสะอาดร่วมกัน สร้างความสามัคคีในชุมชน

กิจกรรมทำความสะอาดครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การฟื้นฟูสภาพแวดล้อม แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคีและความร่วมมือระหว่าง เจ้าหน้าที่เทศบาลและประชาชนในพื้นที่ โดยมีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ มาร่วมกันทำความสะอาดอย่างขยันขันแข็ง ตั้งแต่การกวาดถนน ฉีดน้ำล้างพื้น และขนย้ายเศษซากที่ปนเปื้อนไปทิ้งในจุดทิ้งขยะที่เตรียมไว้

“การร่วมแรงร่วมใจกันทำความสะอาดในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ถนนในชุมชนกลับมาสะอาดอีกครั้ง แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนบ้านและเจ้าหน้าที่อีกด้วย” นางนัยนา อินทจักร์ กล่าวพร้อมรอยยิ้ม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมกันดูแลพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้ชุมชนกลับมาเป็นสถานที่ที่น่าอยู่อีกครั้ง

กิจกรรมทำความสะอาด ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต

การทำความสะอาดครั้งนี้ยังมีเป้าหมายในการ ลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรค โดยเฉพาะโรคที่อาจมากับน้ำและสิ่งสกปรก เช่น โรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนัง รวมถึงการป้องกันสัตว์มีพิษต่าง ๆ ที่อาจซ่อนตัวในเศษซากดินโคลน ทั้งนี้ ทางเทศบาลได้จัดเตรียม น้ำยาฆ่าเชื้อและน้ำยาดับกลิ่น เพื่อล้างถนนและพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุขและปลอดภัย

เทศบาลนครเชียงรายยืนยัน พร้อมดูแลชุมชนอย่างต่อเนื่อง

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้ออกมายืนยันว่า ทางเทศบาลจะไม่หยุดเพียงแค่การทำความสะอาดถนนในครั้งนี้ แต่ยังมีแผนที่จะฟื้นฟูพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้การสนับสนุนอุปกรณ์ทำความสะอาดและความช่วยเหลือต่าง ๆ แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

“ความปลอดภัยและสุขอนามัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจึงพร้อมให้การสนับสนุนและอยู่เคียงข้างพี่น้องชาวเชียงรายทุกคนจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ” นายวันชัยกล่าวเสริม พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจกันในครั้งนี้

บทสรุป: คืนความสะอาด สร้างความสามัคคี ชุมชนป่าแดงน่าอยู่

การล้างถนนและทำความสะอาดพื้นที่ในครั้งนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้ชุมชนป่าแดงกลับมาสะอาด แต่ยังส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความร่วมมือกันในการดูแลพื้นที่สาธารณะ และสร้างความสามัคคีให้กับชุมชนอีกด้วย ทั้งนี้ทางเทศบาลนครเชียงรายยังคงมีแผนการฟื้นฟูชุมชนและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชาวบ้านสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รองนายกฯ สั่งเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงรายด่วน

 

วันที่ 8 ตุลาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) แถลงข่าวหลังประชุมคณะกรรมการประเมินสถานการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มว่า ในที่ประชุมได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์และวางแผนการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยการประชุมร่วมกันทั้งจากส่วนกลางและศูนย์บัญชาการส่วนหน้าในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีการแจ้งประเด็นสำคัญ 5 ข้อเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต

สาเหตุน้ำท่วมหนักเชียงใหม่และแม่สาย

นายภูมิธรรม เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเชียงดาวและอำเภอแม่ริมในวันที่ 3 และ 4 ตุลาคม โดยปริมาณน้ำฝนที่ตกครั้งนี้สูงเป็นประวัติการณ์ และมีความรุนแรงมากกว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา ทั้งยังเกิดเหตุการณ์ดินโคลนถล่มในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ทำให้สถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และส่งผลกระทบในวงกว้าง นอกจากนี้น้ำจากอำเภอเชียงดาวที่ไหลมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลานานถึง 30 ชั่วโมง อำเภอแม่แตง 16 ชั่วโมง และอำเภอแม่ริม 6 ชั่วโมง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงสะสมและเกิดน้ำล้นตลิ่ง

จำเป็นต้องสร้างเขื่อนป้องกันเมืองและแก้ปัญหาลำน้ำปิง

การประชุมครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่าจำเป็นต้องสร้าง เขื่อนขนาดเล็ก เพื่อป้องกันพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยและจังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ นอกจากนี้ยังพบว่าแม่น้ำปิงมีความตื้นเขินและคดเคี้ยว ส่งผลต่อการระบายน้ำ ทำให้กรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงกรมเจ้าท่าและกรมปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องร่วมมือกันในการศึกษาเส้นทางน้ำและปรับปรุงพื้นที่ลุ่มน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในอนาคต

ฟื้นฟูป่าต้นน้ำและจัดการพื้นที่ลุ่มน้ำปิง

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่นายภูมิธรรมกล่าวถึงคือ ปริมาณฝนที่ตกติดต่อกันถึง 5 วันในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A และ 1B ส่งผลให้ป่าต้นน้ำไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ดีเหมือนในอดีต เนื่องจากมีการบุกรุกและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ผิดกฎหมายมากถึง 5% ทำให้การกักเก็บน้ำลดลง จึงมีคำสั่งให้กรมอุทยานแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทยดำเนินการฟื้นฟูป่าต้นน้ำในพื้นที่อย่างจริงจัง

สร้างแผนแก้ไขปัญหาระยะยาวและระยะสั้น

จากสถานการณ์ดังกล่าว นายภูมิธรรมได้มอบหมายให้ที่ประชุมพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาแผนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวและเฉพาะหน้า โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นที่ปรึกษา เพื่อจัดทำแผนและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ภายใน 3 เดือน เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยพิบัติในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว โดยตั้งเป้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยในอำเภอแม่สายที่ได้รับความเสียหายจำนวน 753 หลังคาเรือน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ซึ่งขณะนี้สามารถฟื้นฟูได้แล้ว 418 หลัง หรือคิดเป็น 56%

ยืนยัน “น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ” เหตุการณ์แบบปี 54 จะไม่เกิดขึ้น

นายภูมิธรรมยืนยันว่า สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนปี 2554 โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนภูมิพลยังคงสามารถรองรับได้ และมีการบริหารจัดการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และไม่แชร์ข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความตื่นตระหนกในสังคม

เร่งฟื้นฟูอาชีพและเกษตรกรรมในพื้นที่ประสบภัย

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการเสนอแผนการฟื้นฟูอาชีพและเกษตรกรรมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยประสานงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อพิจารณางบประมาณในการซ่อมแซมฟื้นฟูพื้นที่การเกษตร รวมถึงการจัดการผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหาย โดยมีการแบ่งแผนเป็นระยะยาวและเฉพาะหน้าเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม

บทสรุป: วางแผนระยะยาว รับมือภัยพิบัติอย่างยั่งยืน

จากการประชุมในครั้งนี้ นายภูมิธรรมได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการวางแผนการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติอย่างมีระบบและยั่งยืน โดยต้องประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการจัดการลำน้ำปิง การสร้างเขื่อนป้องกันเมือง และการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ภาคเหนือ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าภัยพิบัติครั้งนี้จะถูกแก้ไขและฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

อนุทินลงพื้นที่เชียงราย-เชียงใหม่ ชง ครม. ค่าล้างโคลนเพิ่ม 1 หมื่นบาท

 

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะติดตาม สถานการณ์น้ำ การให้ความช่วยเหลือและการฟื้นฟู ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์ในพื้นที่

โดยจุดแรก รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมา ที่สะพานข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 1 เพื่อดูสถานการณ์แม่น้ำสาย การสูบน้ำออกจากชุมชน และการเสริมบิ๊กแบ็ค และฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ การช่วยเหลือและฟื้นฟูในแต่ละจุด จากหน่วยงานกองการช่าง และกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. โดยนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและ เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
 
รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า จากที่ได้ฟังการรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ คาดว่าจะสามารถเคลียร์พื้นที่ได้ภายในไม่เกินสิ้นเดือนนี้ แต่จะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีจุดที่หนักหน่อยก็คือที่ตลาดสายลมจอย ที่น้ำทะลักเช้าไปมากจนสร้างความเสียหาย ซึ่งมีความเห็นใจผู้ประกอบการ เพราะว่าทราบมาว่าสินค้าได้รับความเสียหาย ซึ่งจะต้องพิจารณาต่อไปว่าจะหาวิธีช่วยเหลืออย่างไร
 
“ในเรื่องของการเยียวยา ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย ในวันอังคารนี้ ก็มีการเสนอให้ ครม. พิจารณาปรับเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งเป็นไปตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ว่าจะให้การเยียวยาในระดับสูงสุดก็คือ 9,000 บาทต่อครัวเรือน และก็ยังมีเงินที่ตอนนี้ทางกรมป้องกันสาธารณภัยได้ตั้งเรื่องและได้รับความเห็นชอบจากกรมบัญชีกลางแล้วคือ ค่าล้างโคลนบ้านละ 10,000 บาท ต่อหลัง ซึ่งเป็นการที่เราพยายามจะหาความช่วยเหลือมาให้ประชาชนให้มากที่สุด
 
จากนั้น คณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามการฟื้นฟูบ้านเรือน ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย ที่บ้านเหมืองแดง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สาย พร้อมให้กำลังใจผู้ประสบภัย แลดูการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการดูดโคลนจากท่อระบายน้ำ
และให้กำลังใจ กำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. ที่มาช่วยปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือน โดยได้ทักทาย อส. ที่มาจาก จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มาทั้งหมด 60 นาย ที่มาปฎิบัติการเป็นวันที่ 8 วัน แล้ว และจะอยู่จนเสร็จภารกิจ และทักทายให้กำลังใจ อส. ที่มาจากจังหวัดแพร่ ซึ่งมาช่วยในภารกิจนี้ทั้งหมด 33 นาย มาตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน และจะอยู่จนเสร็จภารกิจ เช่นเดียวกัน
 
ซึ่งชุมชนบ้านเมืองแดง ซอย 8 แห่งนี้ยังมีน้ำขังอยู่ ประมาณ 20 เซนติเมตร และ ให้กำลังใจ อส. ที่มาจากจังหวัดต่างๆ
จากนั้น ได้เดินทางมาที่วัดปิยะพร มอบเสื้อ จำนวน 1200 ตัว และอุปกรณ์เครื่องนอนเครื่องใช้ ให้ อส. ที่มาช่วยเหลือฟื้นฟูจาก 6 จังหวัด รวม 300 นาย พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับกำลังพล อส. ด้วย และเดินทางไปดูสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
 
สำหรับ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ส่วนหน้า) จังหวัดเชียงราย (มท.4) ได้ลงพื้นที่ชุมชนไม้ลุงขน เพื่อมอบถุงยังชีพ แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทหาร จากหน่วยในกองทัพภาคที่ 3 ทั้ง มทบ.37 ,มทบ.34, มทบ.32, มทบ.33, ร17/3, ร.17/4, รวม 530 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่เหล่านี้ รับผิดชอบดูแลพื้นที่โซนชุมชนไม้ลุงขน พร้อมกันนี้ได้มอบอาหารแห้งและเครื่องดื่มชูกำลังให้แก่ จนท.ทหาร ด้วย
 
รับมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค จาก คุณเยาวเรศ ชินวัตร และสมาคมฮงสุน ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย
 
จากนั้นได้เดินทางร่วมกับ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยวาการกลาโหม ได้เดินทางต่อไปยังศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ต.กึ้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อประสานการช่วยเหลือประชาชน นักท่องเที่ยว และช้างจำนวน 126 เชือก
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

น้ำป่าท่วมเวียงป่าเป้า เชียงราย ชาวบ้านอพยพ-โรงเรียนเสียหายหนัก

 

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 ทางเพจขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ได้เผยแพร่ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ โดยเฉพาะหมู่บ้านห้วยหินลาดใน หมู่ 7 ตำบลบ้านโป่ง และหมู่บ้านห้วยทรายขาว หมู่ 7 ตำบลบ้านโป่ง ที่ประสบภัยน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้ทำให้บ้านเรือนในหลายจุดได้รับความเสียหายหนักจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ประชาชนหลายครอบครัวต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปพักอาศัยในศูนย์อพยพชั่วคราวของ อบต.บ้านโป่ง เพื่อความปลอดภัย

จากรายงานพบว่า บ้านเรือนของประชาชนในหมู่บ้านห้วยทรายขาวได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้โครงสร้างบ้านเรือนพังทลาย บางหลังถูกกระแสน้ำพัดจนไม่เหลือร่องรอย เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครได้เร่งเข้าช่วยเหลืออพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่จัดตั้งขึ้น ณ อบต.บ้านโป่ง ซึ่งมีการดูแลและจัดหาน้ำดื่ม อาหาร รวมถึงที่นอนให้ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

ไม่เพียงแค่บ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย แต่ยังมีโรงเรียนห้วยหินลาดใน ซึ่งเป็นสถานศึกษาแห่งเดียวในชุมชนได้รับความเสียหายอย่างหนัก อาคารเรียนถูกน้ำป่าพัดพังไปเกือบทั้งหมด ทำให้นักเรียนกว่า 30 คนที่ต้องย้ายสถานที่เรียนชั่วคราว และยังต้องรอความช่วยเหลือในการฟื้นฟูโรงเรียน ซึ่งเป็นแหล่งการศึกษาและศูนย์รวมจิตใจของชุมชน การสูญเสียครั้งนี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อการเรียนการสอนของเด็ก ๆ แต่ยังสร้างความสูญเสียทางจิตใจให้กับครอบครัวและชุมชนที่มีโรงเรียนเป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนาอีกด้วย

สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอเวียงป่าเป้า ยังส่งผลกระทบในวงกว้าง ครอบคลุมพื้นที่ใน 4 ตำบลหลัก ได้แก่ ตำบลป่างิ้ว ตำบลเวียงกาหลง ตำบลบ้านโป่ง และตำบลเวียง โดยเฉพาะตำบลบ้านโป่งและตำบลเวียงที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากมีการรับน้ำมาจากแม่น้ำลาว ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านพื้นที่ ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำในหลายจุดมีน้ำท่วมขัง และบางจุดระดับน้ำยังคงสูง ทำให้การสัญจรในหลายเส้นทางถูกตัดขาด ประชาชนในหลายหมู่บ้านไม่สามารถออกมานอกพื้นที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

สำหรับการฟื้นฟูพื้นที่หลังจากน้ำลด ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเริ่มจากการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ที่น้ำเริ่มลดลง เพื่อวางแผนซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพานที่ถูกน้ำพัดขาด รวมถึงบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ทางหน่วยงานยังได้จัดเครื่องสูบน้ำเข้ามาช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ และติดตั้งเครื่องฉีดล้างทำความสะอาดถนนและบ้านเรือนที่ถูกโคลนและเศษดินจากน้ำป่าท่วมสูง

จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้หลายครอบครัวในอำเภอเวียงป่าเป้าต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งด้านการอยู่อาศัยและความปลอดภัยในชีวิต เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานท้องถิ่นและอาสาสมัครได้ร่วมกันทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน นายสมเกียรติได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนที่มีจิตศรัทธาให้เข้ามาสนับสนุนการฟื้นฟูในครั้งนี้ เพื่อช่วยกันฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ทางอบต.บ้านโป่ง ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น เช่น เครื่องนอน ยารักษาโรค และเสื้อผ้า เพื่อช่วยเหลือประชาชนในศูนย์อพยพ หากท่านใดต้องการให้การสนับสนุนสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 053-781989 หรือผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก “อบต.บ้านโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า” โดยตรง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่ง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ลงพื้นที่แม่สายติดตามน้ำท่วม พร้อมเร่งฟื้นฟูพื้นที่

 

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน และคณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย โดยได้เดินทางไปยังโรงเรียนชุมชนไม้ลุงขนมิตรภาพที่ 169 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบภัย เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านว่ารัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาเป็นปกติในเร็ววัน

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายในช่วงที่ผ่านมานั้น เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ยางิ” ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำหลายสายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนในหลายอำเภอ รวมถึงพื้นที่อำเภอแม่สายที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์น้ำได้คลี่คลายลงแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำต่าง ๆ ลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง

ในระหว่างการลงพื้นที่ นายอัครา พรหมเผ่า ได้ติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด และได้สั่งการให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหาย เพื่อวางแผนฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน โดยเน้นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเร่งแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด โดยได้เน้นย้ำให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่สำคัญในระยะสั้นก่อน เช่น การระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ยังมีน้ำท่วมขัง การฟื้นฟูถนนเส้นทางคมนาคมที่ถูกน้ำท่วม รวมถึงการจัดหาน้ำสะอาดให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ระบบน้ำประปาได้รับความเสียหาย

ด้านกรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 2 และสำนักเครื่องจักรกล ได้จัดส่งเครื่องจักรกลหนัก เช่น รถแบคโฮ เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ และเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ลงพื้นที่ทันทีหลังน้ำลด เพื่อเร่งดำเนินการขุดลอกลำคลอง และบ่อดักตะกอนที่ถูกตะกอนดินทรายอุดตันจากกระแสน้ำหลาก พร้อมกันนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมที่ยังไม่สามารถระบายน้ำออกได้เต็มที่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดล้างทำความสะอาดถนนเส้นทางหลักและถนนในชุมชนที่ถูกโคลนและเศษดินจากน้ำท่วมพัดมากองทับถม เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด

นอกจากนี้ นายอัครา พรหมเผ่า ได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการขุดลอกคลองสาย RMC1 (เหมืองแดง) และบ่อดักตะกอนในพื้นที่แม่สายที่มีการสะสมของตะกอนสูง เพื่อคืนประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองสายนี้ให้สามารถรองรับน้ำได้มากขึ้นและลดความเสี่ยงของน้ำท่วมในอนาคต ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยประสานงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอัคราได้กล่าวกับประชาชนผู้ประสบภัยว่า รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการฟื้นฟูทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นจะเร่งฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและช่วยเหลือประชาชนให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ในขณะที่ในระยะยาว จะมีการวางแผนป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซ้อน เช่น การขุดลอกคลองและการสร้างระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นคงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้เสริมว่า กรมชลประทานจะเร่งดำเนินการตามคำสั่งการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะการขุดลอกคลองและการบำรุงรักษาระบบระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่เสี่ยง และจะดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายให้เกษตรกรสามารถกลับมาปลูกพืชผลได้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งจะติดตามและรายงานความคืบหน้าให้กับผู้บริหารและประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การดำเนินการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดตามประเมินผลทุกระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังเน้นย้ำว่า การทำงานในครั้งนี้จะต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของทุกหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมชลประทาน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลนครเชียงราย เร่งฟื้นฟูน้ำท่วมช่วยเหลือประชาชนกลับสู่สภาพปกติ

 

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครเชียงรายได้เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการยกและขนย้ายสิ่งของหนักที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หลังจากที่ระดับน้ำกกล้นตลิ่งได้เริ่มลดลงในแต่ละชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งเป็นผลมาจากฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ก่อให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทั้งในชุมชนเมืองและพื้นที่ใกล้แม่น้ำกก

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้มอบหมายให้นายประพันธ์ ช่างแก้ว หัวหน้าฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครเชียงราย เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ โดยการเคลื่อนย้ายสิ่งของที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่มีน้ำท่วมสูงเป็นเวลาหลายวัน

การเข้าช่วยเหลือในครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่การยกและขนย้ายสิ่งของหนักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฟื้นฟูบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม โดยทีมเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังทำความสะอาดลานบ้าน ถนน และทางเดินเท้าภายในชุมชน เพื่อทำให้สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด

นอกจากการเคลื่อนย้ายสิ่งของและการฟื้นฟูพื้นที่แล้ว ทีมงานยังได้ตรวจสอบและประเมินความเสียหายของทรัพย์สินต่างๆ เพื่อให้สามารถเข้าดำเนินการซ่อมแซมและฟื้นฟูได้อย่างเหมาะสมต่อไป นายกเทศมนตรีนครเชียงรายได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือในการทำงานอย่างเต็มที่

ในขณะนี้ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครเชียงรายยังคงดำเนินการต่อเนื่องในการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่ยังคงมีความเสี่ยงจากน้ำท่วม โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำกก ซึ่งแม้ว่าน้ำจะเริ่มลดลงแล้ว แต่บางจุดยังมีน้ำขังอยู่ ทำให้การฟื้นฟูต้องดำเนินการไปพร้อมกับการเฝ้าระวังระดับน้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

การฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในครั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ เนื่องจากน้ำท่วมในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ประชาชนที่ได้รับความเสียหายได้รับการช่วยเหลือทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มอาสาสมัครที่เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News