Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เสริมศักยภาพเกษตรกรเชียงราย

พิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ จ.เชียงราย ส่งเสริมเกษตรกรอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ไตรมาสที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ พุทธมณฑล 750 ปี ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย

โครงการนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และจังหวัดเชียงราย มีเป้าหมายในการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่แก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร พร้อมส่งเสริมความยั่งยืนในภาคการเกษตร โดยมีการบูรณาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ หน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมการเกษตร และส่วนราชการต่าง ๆ

กิจกรรมสำคัญในโครงการ

ในงานนี้ มีการให้บริการด้านการเกษตรหลากหลาย เช่น

  • การวิเคราะห์ดิน: ตรวจสอบสภาพดินเพื่อวางแผนการเพาะปลูก
  • การวินิจฉัยโรคพืชและโรคสัตว์: เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรค
  • แจกจ่ายวัสดุเกษตร: เช่น เมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว ปุ๋ยชีวภาพ และพันธุ์ปลาน้ำจืด
  • การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร: เช่น การฝึกอบรมการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน

นอกจากนี้ ยังมีการจัดบูธให้คำปรึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ และกิจกรรมฝึกอบรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะของเกษตรกร

ความสำคัญของอำเภอแม่ลาวในภาคการเกษตร

อำเภอแม่ลาวประกอบด้วย 5 ตำบล 63 หมู่บ้าน มีครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรจำนวน 4,630 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรรวม 40,644 ไร่ พืชเศรษฐกิจหลักในพื้นที่ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด ลำไย และยางพารา ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของเกษตรกร

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรยังเผชิญปัญหาคุณภาพการผลิตและการตลาด โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่จึงเป็นแนวทางสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร

เป้าหมายของโครงการ

  • ลดต้นทุนการผลิต
  • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
  • ยกระดับการตลาดของสินค้าเกษตร
  • ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการเกษตรให้แก่เกษตรกร

นายเสน่ห์ แสงคำ เกษตรจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การดำเนินงานครั้งนี้เป็นการรวมพลังความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อช่วยเกษตรกรได้อย่างครอบคลุม

นายรุ่งโรจน์ ตันวุฒิ นายอำเภอแม่ลาว กล่าวเสริมว่า การจัดกิจกรรมในรูปแบบคลินิกเคลื่อนที่นี้ช่วยให้เกษตรกรได้รับบริการใกล้บ้าน ลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงเทคโนโลยี

ประโยชน์ของโครงการต่อเกษตรกร

เกษตรกรได้รับบริการที่หลากหลาย ทั้งการวิเคราะห์ดิน การแก้ไขปัญหาโรคพืชและโรคสัตว์ การเพิ่มความรู้และทักษะใหม่ ๆ รวมถึงการรับวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเกษตร

โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่นี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาด้านการเกษตร ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในระยะยาว

การดำเนินโครงการเช่นนี้ ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาด้านการเกษตร แต่ยังสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานรัฐและเกษตรกร เสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรมไทยอย่างเป็นรูปธรรม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
ECONOMY

ตลาดโกโก้โลกโตแรง ไทยรุกหนักพัฒนาเพิ่มโอกาสส่งออก

โกโก้ทั่วโลกเติบโต ไทยเร่งพัฒนาส่งออกเสริมอุตสาหกรรมแปรรูป

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 มีรายงานข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ถึงสถานการณ์ตลาดโกโก้และช็อกโกแลตทั่วโลก พบว่าตลาดโกโก้ในปี 2566 มีมูลค่ากว่า 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็น 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2571 ขณะที่ตลาดช็อกโกแลตจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.4% ระหว่างปี 2565-2573 ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาโกโก้ในตลาดโลกในช่วงปี 2566-2567 มีปัจจัยจากภัยแล้งที่เกิดจากเอลนีโญ ทำให้ผลผลิตลดลง ส่งผลให้ราคาตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น โดยในเดือนตุลาคม 2567 ราคาโกโก้เฉลี่ยอยู่ที่ 6.6 เหรียญสหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นถึง 83.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ตลาดโลกและประเทศผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่

ตลาดโกโก้ทั่วโลกมีผู้ผลิตสำคัญในแอฟริกาที่ครองสัดส่วน 75% ของผลผลิต โดย 5 ประเทศผู้ผลิตหลัก ได้แก่

  1. โกตดิวัวร์ (37.9%)
  2. กานา (18.8%)
  3. อินโดนีเซีย (11.3%)
  4. เอกวาดอร์ (5.7%)
  5. แคเมอรูน (5.1%)

การส่งออกโกโก้ระดับโลก

ในปี 2566 โกตดิวัวร์เป็นประเทศส่งออกเมล็ดโกโก้รายใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่า 3,329 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 33.7% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด รองลงมาคือ เอกวาดอร์ กานา แคเมอรูน และเบลเยียม ส่วนผู้บริโภคหรือประเทศนำเข้าหลัก ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย เยอรมนี เบลเยียม และสหรัฐอเมริกา

สถานการณ์โกโก้ในประเทศไทย

ไทยเริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมโกโก้อย่างจริงจังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2566 ไทยมีผลผลิตเมล็ดโกโก้รวม 3,360 ตัน เพิ่มขึ้น 167.6% จากปี 2565 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ไทยมีมูลค่าการส่งออกโกโก้และผลิตภัณฑ์แปรรูปกว่า 74 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.4% จากปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เมียนมา มาเลเซีย และอินเดีย

ความท้าทายและโอกาสในตลาดโกโก้ไทย

ถึงแม้ไทยยังอยู่ในอันดับที่ 68 ของผู้ส่งออกโกโก้โลก แต่แนวโน้มการเติบโตในตลาดนี้ยังมีโอกาสมหาศาล โดยเฉพาะการแปรรูปเพิ่มมูลค่า เช่น การผลิตช็อกโกแลต Single Origin ซึ่งเป็นตัวอย่างจากมาเลเซียที่ส่งเสริมให้ SME สร้างผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม

ข้อเสนอแนะ

เพื่อเสริมสร้างศักยภาพไทยในตลาดโกโก้ ภาครัฐควรสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งในด้านนโยบายและการลงทุน พร้อมผลักดันให้มีการแปรรูปสินค้าโกโก้ เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับอุตสาหกรรมโกโก้ไทยให้ก้าวสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงพาณิชย์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News