Categories
SOCIETY & POLITICS

ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทาน ส่งเสริมความมั่นคงอาหารในภาคเหนือ

ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทาน “เพื่อนช่วยเพื่อน” พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง: เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทาน “เพื่อนช่วยเพื่อน” พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่ภาคเหนือ

ที่มาและวัตถุประสงค์ของศูนย์ฯ

ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชแห่งนี้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2560 ณ กองพันซ่อมบำรุงที่ 23 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จังหวัดพิษณุโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตและแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทานให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ และทหารกองประจำการที่ปลดประจำการ เพื่อสร้างแหล่งอาหารที่ยั่งยืน

ปัจจุบัน ศูนย์ฯ มีพื้นที่ดำเนินงานรวม 201.25 ไร่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ แปลงผลิตเมล็ดพันธุ์พืช, อาคารบรรจุเมล็ดพันธุ์พืช, และ โรงเรียนทหารพันธุ์ดี

ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2567

1. แปลงผลิตเมล็ดพันธุ์พืช

ในปีงบประมาณที่ผ่านมา แปลงผลิตฯ สามารถเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ได้ถึง 149.9 กิโลกรัม จากพืช 15 ชนิด นอกจากนี้ยังได้ปลูกพริกชี้ฟ้าแดง, พริกชี้ฟ้าเขียว และผักชีลาว สำหรับทำผักแปรรูป (ผักดอง) เพื่อใช้ในงานกาชาดประจำปี 2567

2. อาคารบรรจุเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทาน

อาคารนี้จัดเก็บเมล็ดพันธุ์พืช 22 ชนิด น้ำหนักรวมกว่า 591.12 กิโลกรัม ซึ่งสามารถบรรจุซองเพื่อพระราชทานได้ถึง 302,756 ซอง เมล็ดพันธุ์เหล่านี้ได้ถูกพระราชทานไปแล้วใน 3 โอกาสสำคัญ รวมกว่า 50.03 กิโลกรัม

3. โรงเรียนทหารพันธุ์ดี

โรงเรียนทหารพันธุ์ดีเป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกผักแบบอินทรีย์ โดยแบ่งออกเป็น 4 ฐาน ได้แก่ ฐานการเตรียมดิน, ฐานการเพาะชำกล้า, ฐานการบำรุงดูแลรักษาพืช และฐานการคัดแยกเมล็ดพันธุ์ มีผู้เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานกว่า 2,867 คน

ความสำคัญของศูนย์ฯ ในชุมชน

ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและขยายผลสู่ชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศ โดยมี มูลนิธิชัยพัฒนา และ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริเชียงราย ให้คำปรึกษาและสนับสนุน

งานสำคัญในอนาคต

ในปีนี้ ศูนย์ฯ ได้เตรียมผลผลิตเพื่อใช้ในงานกาชาดประจำปี 2567 ณ สวนลุมพินี และสนับสนุนงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” เพื่อขยายผลโครงการและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการเกษตรแบบยั่งยืน

พระมหากรุณาธิคุณ

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทอดพระเนตรการดำเนินงานของศูนย์ฯ นับเป็นครั้งที่ 4 ที่พระองค์เสด็จมาเยี่ยมชมงานของศูนย์ฯ ซึ่งแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่

บทสรุป

ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทาน “เพื่อนช่วยเพื่อน” ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง แต่ยังเป็นศูนย์กลางแห่งความร่วมมือในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารในพื้นที่ภาคเหนือและทั่วประเทศ ศูนย์ฯ แห่งนี้สะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มั่นคงและยั่งยืน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

กองทัพบกหนุนเพาะเลี้ยง ‘ผำ’ พืชโปรตีนสูง ตอบโจทย์เศรษฐกิจพอเพียง

ทหารพันธุ์ดีค่ายสุรศักดิ์มนตรี ผลิต “ผำ” โปรตีนสูง ตอบโจทย์เศรษฐกิจพอเพียง

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 พลตรีวิชาญ ศรีภัทรางกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้เปิดเผยถึงโครงการทหารพันธุ์ดีค่ายสุรศักดิ์มนตรี จังหวัดลำปาง ซึ่งดำเนินการผลิต “ผำ” หรือที่รู้จักในชื่อไข่น้ำ พืชโปรตีนสูง เพื่อเป็นแหล่งอาหารคุณภาพและสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียงในระดับชุมชน โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ และกองทัพภาคที่ 3 โดยมีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเป็นองค์ประธานในการริเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2559

เป้าหมายโครงการเพื่อชุมชนเข้มแข็ง

โครงการทหารพันธุ์ดี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการทหารและทหารกองประจำการที่สนใจด้านการเกษตร ได้เรียนรู้กระบวนการผลิตอาหารที่ปลอดภัย รวมถึงการปลูกผัก การปศุสัตว์ และการประมง นอกจากจะเป็นแหล่งอาหารสำรองในกรณีเกิดภัยพิบัติแล้ว ยังส่งเสริมการผลิตเมล็ดพันธุ์สะสมไว้พระราชทานแก่ราษฎรทั่วไป และช่วยลดปัญหาหนี้สินของกำลังพลในระยะยาว

ในปีนี้ ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ได้เพิ่มความหลากหลายด้วยการเพาะเลี้ยง “ผำ” พืชน้ำโปรตีนสูงที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ซึ่งพบได้ยากในพืชชนิดอื่น “ผำ” มีการเจริญเติบโตเร็วและเพาะเลี้ยงง่ายในระบบปิดด้วยปุ๋ยน้ำไฮโดรโปนิกส์ โครงการนี้ยังส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อเพิ่มความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

“ผำ” พืชโปรตีนสูง เพื่อความยั่งยืน

“ผำ” หรือไข่น้ำ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Wolffia ถูกนำมาใช้เป็นแหล่งโปรตีนทดแทนในอาหารเนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเพาะเลี้ยง “ผำ” ในระบบปิดช่วยให้ได้ผลผลิตที่สะอาดและปลอดภัย นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ เช่น สมูทตี้ผำ ผำอบแห้ง หรือผำในซอสปรุงรส ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด

กองทัพพร้อมช่วยเหลือประชาชน

พลตรีวิชาญ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมในการสนับสนุนประชาชนในทุกด้าน โดยเฉพาะการสร้างแหล่งอาหารและเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วยการสนับสนุนยุทโธปกรณ์ กำลังพล และความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ

สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยง “ผำ” สามารถติดต่อโครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 095-4511343

โครงการนี้ไม่เพียงตอบโจทย์การพึ่งพาตนเอง แต่ยังเสริมสร้างความยั่งยืนและความมั่นคงในชุมชนอย่างแท้จริง นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News