Categories
SOCIETY & POLITICS

เซ็นทรัลพัฒนาสานต่อแคมเปญ “To Our Heroes” มอบเสื้อขอบคุณทหารกล้า 1,000 ตัว

เซ็นทรัลพัฒนาเดินหน้า “To Our Heroes” ส่งกำลังใจ 1,000 ตัวถึงแนวหน้า ย้ำบทบาท “Centre of Life” และ Brand Purpose ‘Imagining better futures for all’

เชียงราย, 15 สิงหาคม 2568 – การสื่อสารเชิงสังคมของภาคเอกชนที่มีฐานธุรกิจขนาดใหญ่ ย่อมถูกตั้งคำถามสองประเด็นพร้อมกันเสมอ คือ “ทำได้จริงแค่ไหน” และ “ส่งผลกระทบอะไรที่จับต้องได้” กรณีแคมเปญ “To Our Heroes” ของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) จึงน่าสนใจ เพราะมีองค์ประกอบที่ค่อนข้างครบทั้ง 1) ฐานสื่อสารบนโซเชียลที่เปิดพื้นที่ให้ประชาชนร่วม “เขียนคำขอบคุณ” ถึงทหารแนวหน้า 2) การส่งต่อ “เสื้อสกรีนข้อความกำลังใจ” จำนวน 1,000 ตัว ให้กองทัพบกเพื่อกระจายสู่พื้นที่ปฏิบัติการ และ 3) การยืนยันวิสัยทัศน์องค์กรด้านสังคมภายใต้ Brand Purpose “Imagining better futures for all” ที่เคยประกาศไว้บนหน้าองค์กรและรายงานผู้ลงทุนของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่ใช่กิจกรรมเฉพาะกิจ แต่เป็นส่วนหนึ่งของกรอบกลยุทธ์ระยะยาวของ CPN เอง ทั้งหมดนี้มีหลักฐานอ้างอิงบนเว็บไซต์ทางการและสื่อมวลชนสายนัยสำคัญหลายสำนัก โดยระบุรายละเอียดบุคคลที่เกี่ยวข้อง สถานที่รับมอบ และจำนวนเสื้อที่ส่งมอบไว้อย่างชัดเจน

จาก “พื้นที่กลางของผู้คน” สู่ภารกิจส่งกำลังใจแนวหน้า

ท่ามกลางบรรยากาศสังคมที่ยกย่องผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง เซ็นทรัลพัฒนา ในฐานะผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้า “เซ็นทรัล” ทั่วประเทศ เดินหน้าบทบาท “Centre of Life – ศูนย์กลางการใช้ชีวิต” ด้วยการขยับบทบาทของศูนย์การค้าให้เป็นทั้ง พื้นที่รับฟัง และ พื้นที่ส่งต่อ พลังใจของคนไทย ผ่านแคมเปญโซเชียล “To Our Heroes” ที่เปิดเชิญชวนประชาชนร่วมเขียนข้อความขอบคุณถึง “ฮีโร่ของชาติ” ก่อนยกระดับจากออนไลน์สู่การลงมือทำจริง โดยจัดทำเสื้อสกรีนข้อความกำลังใจจำนวน 1,000 ตัว และนำไปมอบที่ กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อกระจายถึงกำลังพลแนวหน้าในโซนปฏิบัติการตามภารกิจของกองทัพบกไทย, มี พลโท อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก เป็นผู้แทนรับมอบ

ในการส่งมอบดังกล่าว ฝ่ายบริหาร CPN นำโดย คุณรุจิเรศ นีรปัทมะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานรัฐกิจสัมพันธ์และสรรหาที่ดิน และ คุณพรวดี โรจน์รุ่งสัตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ การตลาดและสื่อสารองค์กร ร่วมเป็นผู้แทนมอบเสื้อ “To Our Heroes” โดยแคมเปญระบุชัดว่าเป็นการ “อาสาเป็นสื่อกลางของคนไทย” เพื่อส่งคำขอบคุณจากหัวใจของประชาชนถึงทหารที่ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า—แนวทางสื่อสารที่สะท้อนปรัชญา “ศูนย์การค้าเป็นพื้นที่ของผู้คน” ตาม วิสัยทัศน์และพันธกิจของ CPN ซึ่งย้ำการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตและการเชื่อมโยงผู้คนกับชุมชนเมืองที่ตนดำเนินธุรกิจ

จากโซเชียล…สู่ของจริง

บนแพลตฟอร์มของบริษัท แคมเปญ “To Our Heroes” ระบุว่ามี “เสียงตอบรับล้นหลาม” จากผู้ใช้งานโซเชียลที่ร่วมเขียนข้อความขอบคุณ ก่อนจะต่อยอดสู่การผลิต “เสื้อสกรีนข้อความ” เพื่อส่งมอบให้กองทัพบกจำนวน 1,000 ตัว โดยมีการระบุสถานที่รับมอบที่ กองบัญชาการกองทัพบก อย่างชัดเจน ซึ่งตรงกับรายงานบนสื่อมวลชนกระแสหลักที่เผยแพร่ในวันและช่วงเวลาใกล้เคียงกัน (15 ส.ค. 2568) ยืนยันจำนวนและบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน

นอกเหนือจากกิจกรรม “ของขวัญจากหัวใจ” ครั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนายังเคยขับเคลื่อนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ด้านสุขภาพและชุมชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การเปิดพื้นที่ศูนย์การค้าทั่วประเทศเป็น ศูนย์กลางรับบริจาคโลหิต ภายใต้ความร่วมมือกับสภากาชาดไทยและหน่วยงานสาธารณสุข ซึ่งในปี 2568 มีการจัดกิจกรรมหลายจุดในภาคต่าง ๆ ต่อเนื่องจากเป้าหมายของเครือเซ็นทรัลที่ตั้งไว้ทั้งปี สะท้อนบทบาท “พื้นที่กลาง” ที่เป็นมากกว่าศูนย์การค้า

มุมโครงสร้างองค์กร “Brand Purpose” ไม่ใช่คำสวยหรู

สิ่งที่ทำให้กรณีนี้มีน้ำหนักเชิงยุทธศาสตร์ คือมันสอดคล้องกับกรอบ Brand Purpose – “Imagining better futures for all” ที่ CPN ประกาศใช้อย่างเป็นทางการและใช้สื่อสารทั้งในหน้าองค์กร รายงาน One Report รวมถึงข่าวประชาสัมพันธ์ด้านความยั่งยืนในปีล่าสุด แสดงให้เห็นว่าการลงทุนด้าน “พื้นที่เพื่อผู้คน” และ “สังคม” อยู่ในเส้นเลือดของธุรกิจ ไม่ใช่แค่กิจกรรมเฉพาะช่วงเวลา

ขณะเดียวกัน แนวคิด “Centre of Life” ของบริษัทก็ทำให้เห็นรูปธรรมว่า “ศูนย์การค้า” ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคนทุกวัย และพร้อมเปิดพื้นที่สำหรับกิจกรรมสังคม—ตั้งแต่แคมเปญโซเชียลไปจนถึงกิจกรรมภาคสนาม อันเป็นบทบาท “Place & Experience Maker” ที่ CPN กล่าวถึงตลอดมา

ภาพกว้างเชิงเศรษฐกิจและโครงสร้างเครือข่าย

เมื่อพิจารณา “กำลัง” ที่ทำให้แคมเปญลักษณะนี้ไปได้ไกล เราจะพบว่า CPN มีเครือข่ายโครงการขนาดใหญ่ครอบคลุมหลายจังหวัดทั่วประเทศ ครอบคลุม ทำให้การสื่อสาร “จากใจคนไทย” สามารถขยายผลได้รวดเร็ว และครอบคลุมพื้นที่กว้าง ด้านทิศทางการเติบโต บริษัทประกาศผลการดำเนินงานและแผนลงทุนต่อเนื่องในปี 2568–2569 พร้อมพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสระดับแลนด์มาร์ก เช่น Central Park ที่จะเปิดเฟสสำคัญปลายปี 2568 ตอกย้ำศักยภาพเครือข่าย “พื้นที่” ที่พร้อมเชื่อมโยงกิจกรรมสังคมในวงกว้าง ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลัก

บทวิเคราะห์ผลกระทบ “Soft Power” ของพื้นที่เอกชน เมื่อขยับเป็น “สื่อกลางสังคม”

  1. ผลต่อขวัญกำลังใจแนวหน้า—เสื้อ 1,000 ตัวไม่ใช่เพียงวัสดุ แต่คือสัญลักษณ์ของ “การมองเห็น” ซึ่งมีผลต่อกำลังใจของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง การส่งมอบในนาม “ประชาชนผ่านสื่อกลาง” ทำให้สัญลักษณ์นี้ทรงพลังยิ่งขึ้น เพราะไม่ยึดโยงกับผลประโยชน์เชิงธุรกิจโดยตรง
  2. ผลต่อทุนทางสังคมของแบรนด์—การทำงานภายใต้ Brand Purpose ที่มีอยู่จริงในเชิงเอกสารและกิจกรรมต่อเนื่อง สร้าง “ความน่าเชื่อถือ” ว่าการช่วยเหลือสังคมคือส่วนหนึ่งของโมเดลธุรกิจ ไม่ใช่กิจกรรมเชิงภาพลักษณ์ชั่วครั้งคราว
  3. ผลต่อระบบนิเวศชุมชนเมือง—เครือข่ายศูนย์การค้าที่กระจายทั่วประเทศทำให้แบรนด์สามารถ “เปิดพื้นที่” เพื่อประโยชน์สาธารณะได้หลากหลาย ตั้งแต่การบริจาคโลหิต การอบรมความปลอดภัย ไปจนถึงกิจกรรมสร้างสรรค์ของเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งหลายกรณีมีการทำงานร่วมกับภาคสาธารณสุขและภาคประชาสังคมอย่างต่อเนื่อง

เสียงสะท้อนและข้อควรจับตา

แม้แคมเปญ “To Our Heroes” จะได้รับการตอบรับที่ดีบนโลกออนไลน์และสื่อมวลชน แต่ในมุมวิเคราะห์เชิงนโยบายสาธารณะ ยังมีประเด็นที่ควรจับตาเพื่อให้กิจกรรมภาคเอกชนส่งผลต่อสังคมได้สูงสุด ได้แก่

  • การขยายผลในระดับพื้นที่ การต่อยอด “เสื้อกำลังใจ” ไปสู่กิจกรรมจิตอาสา เช่น ร่วมกับเครือข่ายสาธารณสุขในจังหวัดชายแดน หรือร่วมกับหน่วยงานด้านสุขภาพจิตเพื่อดูแลครอบครัวของผู้ปฏิบัติหน้าที่ จะทำให้การส่งกำลังใจมี “ปลายทางที่เป็นระบบ” มากขึ้น
  • การวัดผลที่โปร่งใส การเผยแพร่ตัวชี้วัดเชิงสังคม เช่น จำนวนข้อความที่ถูกส่งต่อสู่พื้นที่จริง จำนวนกำลังพลที่ได้รับเสื้อ หรือกิจกรรมต่อยอดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จะทำให้แคมเปญเป็นกรณีศึกษาที่วัดผลได้ชัดเจนมากขึ้น
  • การสื่อสารแบบไม่แบ่งฝั่ง ด้วยบริบทสังคมที่อ่อนไหว การสื่อสารควรเน้น “ความเป็นมนุษย์” และ “ความปลอดภัยในการทำงาน” มากกว่าการเมือง เพื่อรักษาบทบาทพื้นที่กลางของแบรนด์เอกชนที่ตั้งใจทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

อินโฟบ็อกซ์จุดเด่นของ “To Our Heroes”

  • สารหลัก: ส่งกำลังใจจากคนไทยทั่วประเทศถึงทหารแนวหน้า ผ่านข้อความขอบคุณบนโซเชียลและเสื้อสกรีนข้อความ
  • รูปแบบส่งมอบ: เสื้อ “To Our Heroes” 1,000 ตัว มอบที่ กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อกระจายสู่พื้นที่ปฏิบัติการ
  • ผู้แทนองค์กร: คุณรุจิเรศ นีรปัทมะ และคุณพรวดี โรจน์รุ่งสัตย์ (ฝ่ายบริหาร CPN)
  • ผู้รับมอบ: พลโท อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก
  • กรอบกลยุทธ์: สอดคล้อง Brand Purpose “Imagining better futures for all” และแนวคิด “Centre of Life” ของ CPN
  • การทำงานต่อเนื่อง: เปิดพื้นที่ศูนย์การค้าร่วมจัด บริจาคโลหิต กับเครือข่ายสาธารณสุขและสภากาชาดไทยในหลายจังหวัด

เมื่อ “พื้นที่ของผู้คน” กลายเป็น “สื่อกลางของสังคม”

แคมเปญ “To Our Heroes” เป็นตัวอย่างของการที่ “พื้นที่เอกชน” ขยับสู่บทบาท “สื่อกลางของสังคม” ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีเสียง ผ่านการเขียนข้อความขอบคุณ หรือการลงมือจัดทำของที่ระลึกเพื่อส่งต่อถึงแนวหน้า ขณะเดียวกันการยึดโยงกับ Brand Purpose และ Centre of Life ทำให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ลอยตัว หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของ “แผนที่ทางความคิด” ขององค์กรที่วางไว้อย่างเป็นระบบและยาวนาน

ในทางปฏิบัติ แคมเปญนี้ยังช่วยย้ำว่าศูนย์การค้าในยุคใหม่ไม่ใช่เพียง “สถานที่จับจ่าย” แต่เป็น “สถาปัตยกรรมทางสังคม” ที่รวบรวมพลังของผู้คน เชื่อมต่อภาคส่วนต่าง ๆ และพร้อมจะกลายร่างเป็นศูนย์กลางของความช่วยเหลือในยามจำเป็น เมื่อมีระบบการดำเนินงานและเครือข่ายครอบคลุมเพียงพอ—ซึ่ง CPN แสดงให้เห็นผ่านจำนวนโครงการที่กระจายอยู่ในหลายจังหวัดและการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ด้านสังคมและสุขภาพตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) — บทความแคมเปญ “เซ็นทรัลพัฒนา ขอเป็นตัวแทนคนไทย ส่งกำลังใจถึงแนวหน้า มอบเสื้อ ‘To Our Heroes’”
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สภาเยาวชนเชียงรายเร่งพัฒนาเด็ก-เยาวชน ขับเคลื่อน 100 โครงการปี 68

สภาเยาวชน อบจ.เชียงราย ประชุมครั้งแรกปี 2568 รุกแผนพัฒนาเด็กและเยาวชน เชิงรุก กว่า 100 โครงการ

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วย นายฐิติวัชร ไลศิริพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และ นายอดิศักดิ์ เทพวงค์ ประธานสภาเยาวชน อบจ.เชียงราย จัดการประชุมสภาเยาวชน อบจ.เชียงราย ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 โดยมีการสรุปผลการดำเนินงานปี 2567 และพิจารณาแผนงานในปีงบประมาณ 2568 เพื่อขับเคลื่อนงานพัฒนาเด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงรายอย่างเต็มรูปแบบ

สรุปผลการดำเนินงานปี 2567 และเป้าหมายปี 2568

การประชุมครั้งนี้เน้นไปที่การรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากตัวแทนเยาวชนในพื้นที่ 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย โดยมุ่งหวังให้เกิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเชิงรุก และกำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการทำงานเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม ทั้งนี้มีการ พิจารณาแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งเหรัญญิกสภาเยาวชน แทนตำแหน่งที่ว่างลง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญในการประชุม: พัฒนาเด็กและเยาวชนเชียงราย

การประชุมได้กำหนดหัวข้อและประเด็นสำคัญที่เยาวชนจะขับเคลื่อนในปีงบประมาณ 2568 ดังนี้:

  1. การสร้างการมีส่วนร่วมและพัฒนาศักยภาพเยาวชน
  2. จัดทำแผนงานและปฏิทินกิจกรรมกว่า 100 โครงการ
  3. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสังคม (Social Impact Tourism)
  4. รับมือวิกฤตฝุ่นพิษ PM 2.5
    • มีการเสนอแนวทางในการจัดทำเครื่องฟอกอากาศ DIY สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและสถานศึกษา
  5. การแก้ปัญหาสังคมของเยาวชนในพื้นที่
    • ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า สิ่งเสพติด การพนันออนไลน์ การใช้ความรุนแรง และการรวมกลุ่มเด็กแว้น

แผนฟื้นฟูพื้นที่หลังอุทกภัยและการพัฒนาท้องถิ่น

ในที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงบทบาทของเยาวชนในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่ผ่านมา รวมถึงการวางแผนโครงการเพื่อสร้างความยั่งยืนและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในชุมชนอย่างต่อเนื่อง

ส่งเสริมเยาวชนให้มีส่วนร่วมในทุกมิติ

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้กล่าวชื่นชมเยาวชนเชียงรายที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการพัฒนาสังคมและท้องถิ่น พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างสรรค์กิจกรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนเพื่อให้เกิดผลในเชิงบวกต่อสังคมในระยะยาว

นายอดิศักดิ์ เทพวงค์ ประธานสภาเยาวชน อบจ.เชียงราย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความคิดเห็นและสะท้อนปัญหาที่พบเจอในพื้นที่ เพื่อที่จะร่วมกันหาทางแก้ไขและพัฒนาชุมชนไปพร้อมกัน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์อะไร?
    มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงราย รวมถึงการวางแผนกิจกรรมเพื่อสังคม

  2. หัวข้อสำคัญในการประชุมคืออะไร?
    การจัดทำแผนงานปี 2568 การฟื้นฟูพื้นที่หลังอุทกภัย และการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5

  3. สภาเยาวชน อบจ.เชียงรายจะทำอะไรเพื่อช่วยฟื้นฟูพื้นที่?
    มีแผนการจัดทำเครื่องฟอกอากาศ DIY และการมีส่วนร่วมในการพัฒนา Social Impact Tourism

  4. การประชุมครั้งนี้สำคัญอย่างไรต่อเยาวชนในพื้นที่?
    เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความคิดเห็นและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน

  5. เป้าหมายหลักของการจัดประชุมสภาเยาวชนคืออะไร?
    เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนและพัฒนาท้องถิ่นในจังหวัดเชียงรายอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE